“เจมส์ จิรายุ” ควง “โฟม” เข้าพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย สินสอดไม่มี งานไม่ต้องจัดยังได้เพราะตั้งใจจะเก็บเงินไว้สำหรับลูกในอนาคต เผยเจ้าสาวขออย่างเดียว คือแหวนเพชร พร้อมเล่าเส้นทางความรักตลอด 10 ปี บอกเคยจะเลิกกันเพราะโดนแฟนคลับแอนตี้ แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิก ลั่นหากจะเลิกต้องเลิกเพราะเราไม่รักกันไม่ใช่เพราะคนอื่น
ถือเป็นอีกหนึ่งโมเม้นต์สำคัญในชีวิต ของ พระเอกหนุ่ม “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” และ แฟนสาว “โฟม เบ็ญจมาส กิตติพิทักษ์กุล” คู่รักที่ใช้ชีวิตสุดเรียบง่าย ซึ่งทั้งคู่ คบหาดูใจกันมานาน 10 ปี
วันนี้ (19 ธค.) ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจมส์-โฟม เข้าพิธีแต่งงานอย่างอบอุ่น ในบรรยากาศสุดเรียบง่าย และเป็นกันเอง ท่ามกลางความยินดีของ ครอบครัว ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ เพื่อนสนิททั้งใน และนอกวงการ โดยมี พิธีสวมแหวนแต่งงาน ตามประเพณีไทย ณ ร้าน The Reise (เดอะ ไรซ์)
ชุดแต่งงานของโฟมในช่วงเช้ามีความพิเศษ ที่โฟมตั้งใจ ติดล็อคเก็ต ที่มีรูปคุณแม่กับโฟม ซึ่งเป็นความตั้งใจพิเศษของเจ้าสาว ที่อยากให้คุณแม่ได้ร่วมอยู่ในวันแห่งความสุขนี้ จากนั้นในช่วงบ่าย เจมส์ ได้ ควง โฟม พูดคุยกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรก เล่าถึงเส้นทางความรักตลอด 10 ปี จนมีวันนี้
เจมส์ : “ผมกับโฟมตั้งใจไว้ว่าอยากแต่งงานแบบบรรยากาศในสวนอยากจะใช้เวลากับทุกคน ก็เลยมีจำนวนคนไม่เยอะมาก แต่จริงๆก็อยากขอโทษด้วยถ้าไม่ได้เชิญใคร อยากใช้เวลากับผู้คนจริงๆก็เลยกลายเป็นบรรยากาศแบบนั้นออกมา”
โฟม : “ความรู้สึกโฟมก็โล่งดีค่ะ ก็เขินกับทุกคน แล้วพอมันผ่านไปด้วยดีก็รู้สึกโอเค โล่ง ทุกคนแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ เราใช้เวลาคุยกันมานานแต่ว่าเตรียมงานจริงๆไม่นาน เราไม่ได้เยอะด้านพิธีด้วยจำนวน ด้วยการจัดงาน เป็นสบายๆ โฟมชอบธีมนี้ ธีมในสวน
ไม่เคยมีงานแต่งในฝันไว้เลย ก็แค่อยากจะให้ดูอบอุ่น ได้เจอทุกได้เจอทุกคน ได้พูดคุย ไม่ได้อยากได้งานใหญ่โตในโรงแรมเลย เราชอบบรรยากาศต้นไม้ รู้สึกอบอุ่น ชอบความมีสีสันของดอกไม้”
เจมส์ : “เขาชอบอะไรผมชอบหมดครับ (ถามว่าชอบอะไรที่สุด?) ชอบเขาที่สุดอยู่แล้ว งาน เงินเราไม่สนใจหรอกครับ การจัดงานยังไงไม่สนใจหรอกครับ ชุดสวยครับ แต่เจ้าสาวสวยกว่า เราก็ชงหวานเจี๊ยบ“
รู้สึกแปลกเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการ
โฟม : “มันก็แปลกๆ แปลกตรงที่จะใช้คำนำหน้าสามีภรรยา ยังไม่ชินแต่ก็เรียกได้ค่ะ ปกติเราจะเรียกกันพ่อกับแม่ เพราะว่ามีน้องหมาก็เลยเรียกแทนตัวเองเป็นแม่เป็นพ่อแบบนี้ไปเลย ชินแล้ว“
เจมส์ : ”พิธีการตอนเช้ามีแค่สวมแหวน แล้วก็ไหว้ผู้ใหญ่ นอกจากนั้นก็คือถ่ายรูปเล่นแค่นั้นเลย“
โฟม : “จริงๆผู้ชายต้องไหว้ตอบ คือเราก็หวังว่าผู้ชายจะไหว้ให้เรา แต่มันก็ไม่มี หรือไหว้ตอนนี้ไหม(เจมส์หัวเราะ พร้อมยกมือไหว้)“
เล่าบรรยากาศขอแต่งงานถูก ”โฟม“ วิ่งหนีตอนคุกเข่าขอแต่งงาน
โฟม : ”คือมันเขิน เหมือนเราบอกเขาว่าไม่ต้องคุกเข่า หยุด หยุด หยุด“
เจมส์ : “คือเขาแจ้งให้ผมทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าเกิดขอแต่งงาน อย่าคุกเข่านะ อย่าทำ คือไม่ใช่ว่าไม่ชอบแต่เขาเขินมาก อย่าทำแบบนั้น แต่เราคิดว่ามันควรจะมีซักซีนหนึ่งในลักษณะแบบนั้น คุกเข่าขอแต่งงาน แต่ว่าพอคุกเข่าปุ๊บเขาก็เดินหนีจริงๆเขาก็บอกว่าอย่าๆ ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้ลุกเดี๋ยวนี้“
โฟม : ”คือเราเขิน แล้วเราก็ไม่ได้คาดหวัง ไม่คิดว่ามันจะเป็นวันนั้นด้วย ก็เลยบอกว่าอย่าทำแบบนี้ คือไม่มีเซนต์เลยวันนั้น เพราะว่ามันเลยวันสำคัญที่เราคิดมาหมดแล้ว แล้วก็ไม่คิดว่าจะเป็นตรงนั้น ถ้าเกิดมันมีวันนึงจะขอ อาจจะเป็นที่บ้าน คือเราก็รู้สึกว่ามันก็ดีใจ กับอีกอันคือสักที”
เล่าตอนเจอกันครั้งแรก ”เจมส์จิ“ เป็นคนเข้ามาจีบ ”โฟม“ คอยตามเตาะ ลีลาการจีบแพรวพราว
โฟม : “เขาก็จีบเรา ตอนเริ่มแรกเหมือนทำงานด้วยกัน เจอกันครั้งแรกไม่ค่อยได้คุยมากเท่าไหร่ เพราะว่าเราทำงานเบื้องหลังโฆษณา ในยุคนั้นเขาก็จะเป็นเหมือนลูกสาว ในยุคนั้นจะมีข่าวว่านางเป็นรึเปล่า เราก็มองว่าเป็นลูกสาวมาตลอด จนอีกครั้งนึงเจอ เพื่อนก็บอกว่าไม่ใช่แล้วไม่ใช่ลูกสาวแน่นอน หลังจากนั้นก็DM เขาก็ DMมาหา มาคุยด้วย สวัสดีครับทำอะไรอยู่ขอไลน์ ตอนนั้นก็ไม่แน่ใจว่าจีบไหม เพราะว่าเขาก็ดังมาก จำไม่ได้ว่าคุยอะไรแต่ก็จำได้ว่าเป็นเรื่องคุยกันประจำวัน เหมือนเขามาเต๊าะ เขาก็มีความแพรวพราว แต่ว่าก็มีความคีฟลุกซ์ มีความติดทรง ตอนนั้นก็คิดว่าเขา DM ทักหลายคนรึเปล่า”
เจมส์ : “ตอนนั้นผมเห็นเขาน่ารักดีแล้วผมเป็นคนที่ชอบคนที่ลักษณะบุคลิกแบบนี้ ชอบคนแอคทีฟ ขยัน รู้สึกเขาน่ารักดี ก็พยายามค้นหาว่าเราจะคุยกับเขาได้ทางไหน“
10 ปีจับมือสู้ผ่านกระแสแฟนคลับแอนตี้ บอกเคยจะเลิกกันแล้ว แต่ ”เจมส์“ ไม่ยอมเลิก บอกหากจะเลิกต้องเลิกเพราะเราไม่รักกันไม่ใช่คนอื่น
โฟม : ”10 ปีที่ผ่านมาก็เติม แต่เต็มบ้างไม่เต็มบ้าง แรกๆอาจจะไม่ชินแต่ว่าหลังๆมามันก็ชิน ก็ช่างมันเถอะ ก็ละในสิ่งที่ไม่จรรโลงใจไป ตอนนั้นก็เสียใจ เคยเสียใจจนอยากเลิก เขาก็จะไม่ยอมเลิก”
เจมส์ : “คือมันมีช่วงหนึ่งที่เขาเจอข่าวลบมากๆคือเขาไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงแล้วการดีลกับคอมเม้นต์และกระแสต่างๆมันหนัก คือไม่ใช่แค่ตัวเขาคนรอบข้าง ครอบครัว มันเป็นช่วงที่หนักมากๆ สำหรับเขา ที่เขาเคยเล่า คือนอนร้องห่มร้องไห้หลายวันมากๆ จนเราคุยกัน เขาบอกว่าหรือว่าเราจะเลิกกันดี ขอจบความสัมพันธ์นี้ คือเขาเข้าใจในหน้าที่การงานและกระแสที่เกิดขึ้น แต่เขารู้สึกว่า ในเมื่อมันหนักเกินไป แต่ว่าผมก็บอกเขา“
โฟม : ”เขาก็บอกว่าที่เรามีปัญหาเป็นเพราะคนอื่นเราจะไม่เลิกกันเพราะคนอื่น ถ้าเราจะเลิกกันต้องเลิกกันเพราะเราไม่รักกัน…หล่อเฉยเลย (โฟมเลยไม่ปล่อยมือเจมส์?) ก็อยากปล่อยมือบ้างไม่ปล่อยมือบ้าง พอโดนก็อยากจะปล่อย แต่พอเขาบอกก็คือไปต่อก็ได้“
เจมส์ : ”เขาเป็นคนช๊อตที่สุดในโลกที่โบ๊ะบ๊ะตลอดเวลา“
โฟม : ”ที่อยู่กันมาได้เพราะเจมส์เป็นคนที่ใจเย็นมากเลยทำให้เรื่องต่างๆมันเบาลง เขาแก้ปัญหาบ้าง ทิ้งปัญหาบ้างมาตลอด บางอย่างรู้ว่าแก้ไม่ได้เขาก็พยายามที่จะแก้ให้เรา เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี แง่บวกมากๆ ไม่เคยคิดลบกับใครเลย เวลาที่เรารู้สึกไม่ดี พอคุยกันแล้วรู้สึกสบายใจ รู้สึกว่าเขาใส่ใจเราทุกอย่างจริงๆ เขาดีมาตลอด เจมส์เป็นคนที่เริ่มจาก 0 ไป 100 ก่อนแล้วก็ติดลบ แล้วก็เพิ่มไปตลอดคะแนนเขาไม่ลงเลย ใครถามเขาก็บอกว่าผมพลาดครับ เราก็ได้ยินมาตลอด“
เจมส์ : ”ผมค่อนข้างพูดติดตลก คือผมว่าในเรื่องของความรักความสัมพันธ์ด้วยระยะเวลามันก็มีประมาณนึงเหมือนทุกๆคู่ คบกันไปทะเลาะกันไปจะเลิก แล้วก็คบกันใหม่ เขาจะเป็นคนที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง เขาเป็นคนที่ไม่ได้หวานแล้วก็เป็นคนที่ชอบช็อตๆแบบนี้ แล้วผมว่าปฏิกิริยาแบบนี้มันก็ทำให้เรามีแรงผลักดันในการทำนู่นทำนี่ต่อไป อยากทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ผมรู้นะว่าสิ่งที่เขาพูดเขามีเจตนาดีตลอด แต่ว่าเขาเป็นคนที่ช็อต เขาก็เหมือนกับเป็นสีสันที่มาเติมให้เราเต็มได้จากคนที่คิดเยอะ พอเขามาเติมผมก็คิดว่ามันกลมกล่อมดี”
บอกชีวิตตน ”โฟม“ จัดการทุกอย่างให้ทั้งหมด
เจมส์ : “เขาทำได้หมด อาหาร ขนม ผมไปต่างประเทศเขาจัดของให้หมด คือผมไม่ต้องยุ่งคือผมไปเซอร์ไพรซ์หน้างานว่าผมมีอะไรอยู่ในนั้น เขาก็จะคอยดูแลให้ได้ทุกอย่าง ลิสต์รายการมาให้ เขาเป็นคนที่ละเอียด เขาดูแลให้ทุกอย่าง“
โฟม : ”ไม่หรอก เขาจัดเสื้อผ้าไม่ดี เราก็ต้องดู“
เรื่องทายาทขอเลื่อนไปก่อน อยากเที่ยวด้วยกันก่อน
โฟม : ”แพลนมาตลอด หมายถึงพูดเรื่องวางแผนชีวิตมาตลอด แต่พอมาตอนนี้เราก็ยังอยากเที่ยวอยู่ก็เลยยังไม่แน่ใจว่า.. อยากมีเร็วๆแหละ แต่ยังไม่มั่นใจว่ามันเร็วได้แค่ไหน เพราะว่าเรายังอยากเที่ยวอยู่ เอาจริงๆตั้งแต่คบเจมส์มาเที่ยวน้อย หมายถึงว่าไปเที่ยวด้วยกันน้อย”
เจมส์ : “คือเราคุยกันเรื่องมีลูกก่อนที่จะคุยกันเรื่องการแต่งงาน หมายถึงว่าแพลนว่าจะมีกันในช่วงวัยไหน เรื่องการแต่งงานเลยถูกทำตามเรื่องการมีลูก พอการแต่งงานมันถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ จนมาถึงวันนี้ เรื่องการมีลูกก็เลยยังตกลงไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เพราะการแต่งงานมันถูกเลื่อนมาโดยตลอด“
โฟม : ”คือเราไม่เหมือนกันเลย คือเขาคิดแต่เขาไม่ทำ เป็นคนวางแผนเก่งแต่ไม่ค่อยเริ่มจริง แต่โฟมจะทำแบบไม่ค่อยคิด เรื่องลูกจริงๆแพลนอยากจะมีตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็หรือปีนี้ไหม พอมาปีนี้ก็อยากจะเที่ยวอีก มันก็เลยยังไม่มีที่ชัดเจนค่ะ แต่ก็อยากมีไม่ช้ามาก อยากมี 2 คน อยากให้มีพี่มีน้อง ตัวโฟมก็ฝากไข่ไว้แล้ว คือไปตรวจร่างกาย ฮอร์โมนเราไม่ปกติก็ฝากไข่ไว้ก่อน ก็ซ้อมเลี้ยงหมาหลายตัวก็น่าจะพร้อม
เจมส์ : “คือถ้าเกิดเขาพร้อม ผมก็พร้อมให้เขาเสมอ ผมตามใจเขาทุกอย่าง เขาอยากได้อะไรก็ตามนั้นเลย“
มีฉลองอาฟเตอร์ปาร์ตี้เล็กๆต้นปีหน้า
โฟม : ”จะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะเล็กกว่านี้ จำนวนคนจะน้อยกว่านี้ ช่วงเดือนหน้า ส่วนฮันนีมูนคือวางแผนมาตั้งแต่ต้นปีว่าเราจะไปที่นั่นที่นี่แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้จองไม่มีเลยค่ะ คือวางแผนมาตั้งแต่ต้นปีว่าถ้าแต่งงานเราจะไปที่นั่นที่นี่ จนตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเลย“
เจมส์ : ”พอดี ม.ค.- ก.พ. เต็มอยู่ตอนนี้ ขยับตัวยากนิดนึง“
โฟม : ”เรื่องจดทะเบียนก็มีวางไว้ แต่ยังไม่ตกลงแต่ยังไงก็ยังจะเป็นนางสาว ส่วนนามสกุลค่อยว่ากัน”
บอกรักมากๆ พยายามทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น
เจมส์ : “ก็อยากจะบอกเขาว่ารักมากๆ พยายามทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ก็รักครับ ไม่รู้จะพูดอะไร”
โฟม : “จะบอกว่าจะทำตัวน่ารัก แต่เขาก็รักเราที่เราเป็นแบบนี้ เราจะเปลี่ยนตัวเองทำไม ไม่มีเลยค่ะ”
สินสอดไม่มีและไม่เรียกร้อง ขอแค่แหวนเพชรที่ถูกใจวงเดียวพอ เก็บเงินไว้ให้ลูกในอนาคต
โฟม : “ไม่มี เราคุยกันว่าเราไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย
ที่บ้านเราก็ไม่ได้ขอ เราคุยกันว่ามันก็ไม่จำเป็นทั้งหมด ที่เขาเก็บมาเอาไปไว้สร้างครอบครัวในอนาคตดีกว่า เพราะเราคุยกันถึงเรื่องลูกเป็นหลัก ถ้ามีลูกก็ต้องใช้เงินเยอะ สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเอาเงินไปให้ลูกอยู่ดี ก็เลยไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลยจริงๆ ส่วนแหวน ก็โอเค คือเราไม่รู้เรื่องราคา แต่ว่าที่ร้านบอกว่าเขาป๋ามากเข้าใจสู้ แค่นี้เราก็จบแล้ว“
เจมส์ : ”พอเขาชูมาผมน้ำตาไหลเลย (ซึ้ง?) เสียดายตังค์ ความจริงคือเขาบอกว่าไม่ต้องจัดงานแต่งงานก็ได้ เขาเป็นห่วงกลัวจะกระทบงานผม เขาขออย่างเดียวไม่เอาอะไรเลย คือ ขอแหวน สินสอดไม่เอา ไม่ต้องมาให้เกียรติอะไรเลย แต่ขอแหวนเพราะเขาชอบ สิ่งที่ผมทำคือพากันไปดู เลือกที่เขาชอบที่สุด แล้วเขาก็บอกว่าโอเคอันนี้แหละ ผมเคยมีประสบการณ์เลือกของขวัญให้เขาแล้ว“
โฟม : ”โอ้ย…ไม่ได้เลย เทสไม่ดี เทสไม่ได้เลย แต่ก็รัก ก็ไม่เป็นไร เรื่องเทสเดี๋ยวโฟมช่วยดู เลือกเอง จบ แค่แหวนวงแรกที่เขาซื้อมาให้ โฟมก็ใส่ไม่ได้แล้ว มันคับไป สวมปุ๊บก็ติดที่ข้อนิ้ว เลยต้องเลือกเอง“
“โฟม” บอกสาวๆไม่ต้องอิจฉาที่ได้ “เจมส์” เป็นสามี แต่หนุ่มๆต้องอิจฉาที่เจมส์ได้ของแรร์ไป จากนี้จะดูแลให้อย่างดี
โฟม : ”ไม่ เขาต้องอิจฉาเจมส์ที่มีแฟนเป็นเรา เขาได้ของดีของแรร์นะ (อยากจะบอกอะไรแฟนๆ?) เดี๋ยวดูแลให้นะคะ คือโฟมอยากจะขอบคุณแฟนคลับเจมส์ เพราะว่ากว่าที่จะถึงวันนี้ เราก็ไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าเราจะมีวันนี้ ในการคบกันเราแทบจะไม่ได้พูดถึงอนาคตอันยาวไกลจนถึงวันแต่งงานเลยด้วยซ้ำ เพราะเราค่อนข้างที่คิดว่ามันไม่รอดหรอกเดี๋ยวก็เลิกกัน แต่พอทุกอย่างมันผ่านไป คนรอบข้างหรือแม้กระทั่งแฟนคลับที่เหมือนจำนวนเยอะขึ้นมากๆที่เขาเริ่มยอมรับในตัวเรา ก็ต้องขอบคุณเขาที่ให้โอกาสเราได้เป็นตัวของตัวเองในแบบที่เขารักเราแบบนี้ ก็ดีใจกับเขาด้วย ก็อยากให้เขาสบายใจในเรื่องของเรา ตอนนี้โฟมสบายใจทุกอย่างรอบตัว เหลือแต่เรื่องนี้แหละ (ชี้ไปที่เจมส์)
เจมส์ : “ในวันนี้ดีใจทุกคนรักและเอ็นดูคู่เรา มันก็สำคัญพอสมควร สิ่งที่เราเคยผ่านมา พอวันนี้มันเหมือนมีกำลังใจดีๆ เป็นนิมิตรหมายที่ดีในการที่เราจะใช้ชีวิตคู่ของเราต่อไปในอนาคต”