อัยการ สั่งฟ้อง เชน ธนา – ภรรยา และ บริษัท อมาโด้ ฉ้อโกง ด้าน ภรรยา ป่วยกะทันหันเข้ารพ. เจ้าตัวเผยยื่นเงินสด 1 ล้านประกันตัว เผยผลกระทบบริษัทเสียหายมาก เพราะลดการออกทีวี และหันมาไลฟ์สดแทนเพราะต้องรับผิดชลูกน้อง 100 คน
“เชน ธนา” ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ เดินทางมาที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 (พระนครใต้) เพื่อฟังคำสั่งฟ้อง ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงบริษัทไทยยินตัน ความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท โดยคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ยื่นคำร้องพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องในคดีที่มีการกล่าวหาบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด โดย นายธนาตรัยฉัตร ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ, นายธนาตรัยฉัตร และ น.ส.กาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ ผู้ต้องหาที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงบริษัทไทยยินตัน ความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท
หลังจากที่ เชน ธนา ได้ไปฟังคำสั่งของอัยการ เชนก็ได้มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า วันนี้ตนก็ใช้สิทธิ์ของประชาชนคนไทยมาตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา และพยายามตั้งคำถามว่า ข้อหาฉ้อโกง ตนและบริษัท ฉ้อโกงในรายละเอียดเรื่องอะไร จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ทราบในรายละเอียด
ที่ผ่านมาได้พยายามขอความเป็นธรรมมาที่สำนักอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีศาลแขวง 4 ต่ออัยการสูงสุด สำนักงานอัยการสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ขอให้มีการสอบสวนตนเพิ่มเติม เพราะมีความมั่นใจว่า ไม่ได้มีเจตนาจะฉ้อโกง สินค้าก็ไม่ได้ขาย แม้จะยอมขายขาดทุน ก็ไม่เคยทำ ซึ่งมันเป็นเพียงการบริหารตามขั้นตอนของบริษัทเมื่อสินค้าหมดอายุ ก็จะตีราคาตามอายุต่ำกว่ากึ่งหนึ่ง แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงการคาดเดา เพราะตนยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อให้ไปชี้แจงหรือสอบถามเพิ่มเติมเลย
วันนี้ยินดีที่จะเดินทางมาตามขั้นตอน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปร้องต่ออัยการสูงสุด ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา แม้แต่การให้สืบสวนเพิ่มเติม แต่ความเข้าใจของตน ไม่ว่าจะมีอัยการสูงสุด กองอัยการหรืออัยการฝ่าย หรืออัยการเจ้าของคดี ก็น่าจะมีการเรียกสอบตนเพิ่มบ้าง จนกระทั่งวันนี้ที่ได้รับการสั่งฟ้อง ตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาล
เผยยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี วันนี้เรามาในฐานะบริษัท จึงมองว่าเป็นเรื่องของสินค้าไม่ตรงกับสัญญา ตามที่ก่อนหน้านี้ตอนปี พ.ศ.2564 ที่มีปัญหาเรื่องต้นทุนการซื้อคืน ก็ได้ชำระหนี้ไปส่วนใหญ่แล้ว ดังนั้น วันนี้ทางคู่กรณีจะมีเพียงผู้ค้าปกติ ไม่มีผู้เสียหาย เรื่องที่เกิดขึ้นมันส่งผลกระทบต่อบริษัทและการขายสินค้า ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ แต่ก็เข้าใจทุกอย่าง ให้มันเป็นไปตามขั้นตอน ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการลดการออกหน้าจอทีวี
ในโซเชียลก็ไปฝึกไลฟ์ เพราะว่าตนมีพนักงานที่ร่วมรับผิดชอบกว่า 100 ชีวิต ซึ่งก็เข้าใจทางฝั่งของคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย ตนก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน ในฐานะเจ้าของบริษัทก็ต้องประคองธุรกิจให้อยู่รอด
ส่วนภรรยาวันนี้ป่วยไม่ได้เดินทางมาด้วย ทางครอบครัวก็มีภาวะวิตกตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งก็ได้รับบทเรียนในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการบริหาร ก็ต้องประคองร่างกายมาโดยตลอด จะเห็นได้จากเสียงที่ยังไม่ปกติ ภรรยามีความเครียดมาก ประกอบกับภูมิของร่างกายตก เมื่อเช้าอาเจียนไป คล้ายกับอาหารเป็นพิษ จึงจำเป็นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ยืนยันไม่มีเจตนาหลบหนี ต้องการจะมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 ล้านบาทประกันตัว
