“บอย ปกรณ์” ลั่นเป็นพระเอกซีรีส์วายที่แก่ที่สุด หลังตัดสินใจประเดิมเล่นซีรีส์วายครั้งแรกเรื่อง “คมเดือน” มองเป็นการท้าทายความสามารถทางการแสดง ไม่มีกำแพงเรื่องการแสดงของตัวเองแม้จะรู้สึกใหม่แต่ต้องก้าวทันยุค เลิฟซีนผู้ชายด้วยกันไม่ใช่อุปสรรค รับมีแอบกังวลนิดหน่อยตอนบอก “เฟย์ พรปวีณ์”
เริ่มได้เห็นผลงานการแสดงหลังออกมารับงานอิสระไม่สังกัดค่ายไหน ล่าสุด “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์”ก็เปิดตัวเล่นซีรีส์วายครั้งแรก เรื่อง “คมเดือน” ซีรีส์วายแนวการเมือง ที่ บอย รับบทชายอายุ 40 ปี ประกบคู่นักแสดงรุ่นน้องที่อายุห่างกัน 17 ปีอย่าง “เบน บัญญพนต์ ลิขิตอำนวยพร” กับค่าย MONO โดย บอย บอกว่ามองเป็นเรื่องของความท้าทายในการแสดง แม้จะรู้สึกใหม่แต่เลิฟซีนผู้ชายด้วยกันไม่ใช่อุปสรรค
“สำหรับคมเดือนก็เป็นซีรีส์วายเรื่องแรกของผมเลย รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ไม่ได้ตื่นเต้นแบบนี้มานานมากๆ แล้วเหมือนกัน เหมือนกับเรามาอยู่ในวงการตรงนี้ เป็นนักแสดงมานานหลายปี แต่พอเรากระโดดเข้ามาเล่นซีรีส์วายก็เหมือนเราเข้ามาเริ่มต้นใหม่เหมือนกัน เป็นน้องใหม่ในวงการตรงนี้ คงน่าจะมีอะไรให้เราเรียนรู้อีกเยอะ ก็เป็นอะไรที่เรารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ แล้วก็รู้สึกว่าเวลาที่เราได้เจออะไรที่ท้าทายมันจะเติมไฟให้เรา ให้เรารู้สึกอยากสนุกกับการทำงาน อยากลุกจากเตียงขึ้นมาเพื่อไปกองถ่าย
มันเป็นประสบการณ์ใหม่ แต่ถ้าถามว่ามันก็ไม่ได้ใหม่ทั้งหมดเลย มันก็คือการแสดงนั่นแหละ ถ้าถามผมมันก็เหมือนเป็นบทบาทใหม่ หลักๆ แล้วการแสดงคือการที่เราต้องสวมบทบาทไปเป็นตัวละครนั้นๆ เท่านั้นเอง แต่ว่ามันแค่อาจจะเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้บ้าง”
ตัดสินใจนานในการรับเล่นเพราะบทสนุก ท้าทายความสามารถ
“ก็ไม่ได้นานมากขนาดนั้น คือเริ่มต้นพี่หมู อาซาว่า (พลพัฒน์ อัศวะประภา) โทร.มาก่อน คุยกันว่าพี่หมูจะมาเป็นผู้จัดละครแล้ว อยากให้ผมมาเล่นละครกับพี่หมู พี่หมูก็บอกตรงๆ เลยว่าเป็นบอยเลิฟ เป็นซีรีส์วาย พี่หมูก็เล่าคอนเซปต์คร่าวๆ ให้ฟังแล้วนัดแนะมาคุยกัน สำหรับผมฟังครั้งแรกก็รู้สึกสนใจเลย เริ่มต้นเลยสำหรับผมงานทุกๆ ชิ้นที่เกี่ยวกับการแสดงอย่างแรกก็คือสนุก
ซึ่งแน่นอนบทมันสนุกมันเป็นซีรีส์การเมืองมีความเข้มข้นเชือดเฉือน รู้สึกว่ามีหลายๆ อย่างที่มันโอเค อย่างเช่น บทสนุก ตัวเรื่องเป็นซีรีส์วายก็จริง ซึ่งตอนแรกผมก็กังวลว่าเล่นซีรีส์วายต้องมีฉากเลิฟซีนคนดูเขาจะชอบไหม แต่เรื่องนี้เป็นซีรีส์วายที่ผมไม่ต้องลดอายุตัวเองเลย ในเรื่องผมก็เล่นเป็นตัวละครอายุ 40 เท่ากับอายุจริง น้องเขาก็เท่ากับอายุจริงๆ เหมือนกัน มันจะเป็นเรื่องความรักต่างวัย ก็เลยรู้สึกว่าก็ดีนะ ถ้าอย่างนี้ผมก็หมดคำถามแล้ว ที่เหลือแค่ขอบทพี่หมูไปอ่านสักนิดนึง เพื่อเมกชัวร์ พอได้อ่านบทก็ตอบตกลง เรื่องนี้มันมีความเป็นดรามาเชือดเฉือน บวกกับความโรแมนติก เขาก็บอกว่าเขาอยากได้ประสบการณ์การทำงานของผมด้วย เหมือนกับว่ามันต้องเป็นคนที่ผ่านเรื่องราว อะไรต่างๆ ในการใช้ชีวิตมาพอสมควร ให้มันสมวัย ซึ่งก็เป็นบทที่ท้าทาย”
แม้จะรู้สึกใหม่แต่เลิฟซีนผู้ชายด้วยกันไม่ใช่อุปสรรค
“ผมว่าความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยระหว่างละครที่เป็นชาย-หญิงกับชาย-ชาย คือถ้าในแง่ของคนทำงานผมพูดจริงๆ เล่นละครชาย-หญิง เราเป็นผู้ชายคนหนึ่งต้องมารักกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือว่าเพิ่งรู้จักกัน แต่เรารักกันในละคร กับซีรีส์ชาย-ชายก็เหมือนกัน แค่เป็นคนละเพศ เพราะฉะนั้นการทำงานของนักแสดงคือการสวมวิญญาณเป็นตัวละครเท่านั้นเอง ผมว่าก็ไม่มีปัญหาในการที่จะเล่นละครแล้วอินกับการที่ผมจะรักคนที่เป็นผู้ชาย มันคือการสวมวิญญาณเป็นตัวละครมากกว่า
ที่เราทำงานด้วยกันมีครั้งเดียวคือไพล็อต ที่ทุกคนได้เห็น กับภาพนิ่ง แต่ว่าหลังจากนี้มีการคุยกันเยอะ ว่าเดี๋ยวจะต้องไป เวิร์กช้อปค่อนข้างเยอะ เพราะผมก็รีเควส เวิร์กช้อปค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เพราะอย่างที่บอกมันก็ใหม่สำหรับผม แต่เรื่องที่ผมเล่นวายไม่ใช่อุปสรรค
ก็แค่โฟกัสในจุดที่ว่าเราก็ต้องทำของเราให้เต็มที่ และตื่นเต้นกับเนื้องานตรงนี้ ผมว่าโลกเราทุกวันนี้โดยเฉพาะอาชีพนักแสดงมันมีการเปลี่ยนเทรนด์ของมันไปเรื่อยๆ การเป็นนักแสดงที่ดีก็ต้องหมุนตัวแล้วปรับตามเทรนด์ให้ได้
ถ้าสำหรับผม ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่มันยาก หรือเป็นอะไรที่ต้องคิดเยอะขนาดนั้น แค่เราได้ก้าวลงไปในจุดที่เป็นความท้าทายของเรา ได้พิสูจน์การทำงาน ทักษะสกิลการแสดงของเราแค่นี้ก็โอเคแล้ว อีกอย่างหนึ่งคือผมต้องให้เครดิตตัวน้องเบน บัญญพนต์ด้วย ผมรู้สึกว่าพอได้เจอตัวน้องเบนครั้งแรก วันถ่ายทริลเลอร์ น้องเขาเป็นเด็กน่ารักและค่อนข้างเปิดมาก เขาไม่มีกำแพงกับผมเลย
สำหรับผม ผมคิดว่าผมใหม่สำหรับซีรีส์วาย พอผมเจอน้อง ผมก็พูดคุยกับน้องเลยเพราะผมอยากทำความรู้จักน้อง อยากเรียนรู้ อยากละลายพฤติกรรม เพราะวันนั้นต้องถ่ายทริลเลอร์กันเลย รู้สึกว่าเขาเป็นเด็กที่เปิดมากๆ รับฟังเราถามเราโน่นนี่ และเราก็ถามเขาด้วย เรียนรู้ซึ่งกันและกันและอีกอย่างหนึ่งรู้สึกว่าเขามีอินเนอร์ในเรื่องของการแสดง เขามีพื้นฐานมาค่อนข้างแน่น เรื่องสายตา อารมณ์เขาส่งมาได้ดี”
ไม่มีกำแพงเรื่องการแสดงของตัวเอง รู้สึกสบายใจและตื่นเต้น รอที่จะได้ทำงาน
“ไม่มีนะครับ ความจริงแล้วยิ่งบทที่มันยิ่ง ดาร์กมากๆ ถ้าใครเคยอ่านบทสัมภาษณ์ผม เขาจะมีถามว่าผมอยากเล่นอะไรบ้าง ผมก็บอกว่าผมอยากเล่นแนวน้ำพุ ติดยา มันก็เป็นบทไกลตัว ยิ่งไกลตัวแล้วมันรู้สึกว่ามันน่าสนใจ
กับเลิฟซีนเรื่องนี้ความจริงแล้วก็มีคุยบ้าง ทางพี่หมูก็บอกว่าเลิฟซีนก็จะเน้นให้ภาพดูสวยคลาสสิก ก็เหมือนละครชาย-หญิง เลิฟซีนก็เหมือนละครทั่วไป ผมเชื่อว่าพี่หมูเขาทำออกมาไม่ให้ดูภาพน่าเกลียดอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของตัวผมเองในเรื่องอินเนอร์ ในเรื่องการเล่นเลิฟซีน ผมเชื่อว่าผมสามารถทำมาได้แน่ๆแค่ขออาศัยเวลาการเรียนรู้ รู้จักกับน้อง ทำเวิร์กช้อปกับน้อง ถึงวันนั้นพอเราสวมวิญญาณอินกับตัวละคร พอมันเกิดเป็นความรักระหว่างตัวละคร ตรงนั้นก็เป็นเรื่องธรรมชาติของตัวละครแล้ว
นักแสดงที่ดีควรจะต้องรับได้ทุกบทบาท คืออาจจะมีภาพจำบ้างอะไรบ้างก็เป็นเรื่องปกติที่คุณอาจจะจำ แต่พอเราไปเล่นเรื่องใหม่แล้วทำหน้าที่ของเราได้เต็มที่เดี๋ยวคุณก็ไปจำอันใหม่ต่อเอง เอาจริงๆ เรื่องนี้ตั้งแต่ผมรับเล่นจนถึงตอนนี้ ผมยังไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเลย ยิ่งถ่ายทริลเลอร์ มาได้รู้จักทีม ได้รู้จักน้องเบน ผมรู้สึกสบายใจและตื่นเต้น รอที่จะได้ทำงานด้วยกัน”
แอบกังวลนิดหน่อยตอนบอก “เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์” ว่าจะรับเล่นซีรีส์วาย
“เฟย์ไม่ว่าอะไรนะ คือผมกับเฟย์ค่อนข้างที่จะให้เกียรติกันในเรื่องของการทำงานมากกว่า ถามว่าผมต้องขออนุญาตไหม ไม่ต้องขอแค่เล่าให้เขาฟัง เขาก็ฟังแล้วก็มีความตื่นเต้นตาม แต่เขาก็เข้าใจ จริงๆ ก็กังวลนิดหน่อยว่าพอเล่าให้เขาฟังแล้วเขาจะเป็นยังไงนะ ปรากฏว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็ดีครับ เพราะผมกับเฟย์เราสองคนค่อนข้างให้เกียรติกันเรื่องงาน หมายถึงว่าถ้าผมรับทำงานอะไรเขาก็จะมั่นใจว่าเราก็คิดดีแล้ว
และอีกอย่างหนึ่ง ความจริงแล้วการที่ผมรับเล่นเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่ามันเป็นหนึ่งในซีรีส์วายที่แปลกใหม่ในเรื่องการเมือง และผมน่าจะเป็นนักแสดงซีรีส์วายที่อายุเยอะที่สุดด้วย แล้วมันก็เป็นเรื่องความรักต่างวัยน่าจะมีแก๊ปอะไรให้เล่นเยอะในเรื่อง ผมมองว่าเป็นโอกาสที่ดีและเป็นอะไรที่สร้างความแตกต่าง ผมไม่ได้กังวลเลย ถ้าคนมองเราและยังจำภาพเราเล่นซีรีส์วาย สำหรับผมๆ รู้สึกว่ามันประสบความสำเร็จ เพราะทำให้คนเชื่อได้ ก็จะทำให้เต็มที่”
ถ้ามีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกลับไปเป็นหญิง-ชายเหมือนเดิม
“ผมก็มีซีรีส์เรื่อง 4 เสือแดนสยาม อย่างผมเล่น 4 เสือพระ-นาง ก็เหมือนกันนางเอกเป็นใครก็ไม่รู้ ในชีวิตจริงไม่ใช่คู่รักของผมแต่ผมต้องรักเขา ซีรีส์วายก็เหมือนกัน ผมใช้ตรรกะเดียวกันว่าเขาก็คือคนหนึ่งที่ผมร่วมงาน แล้วผมต้องรักเขาในตอนที่กลายเป็นตัวละคร แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ต้องขึ้นอยู่กับเคมีของสองคนด้วย อันนี้ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองแต่ผมรู้สึกว่าผมเจอน้องมา 2 วันแล้วผมรู้สึกว่าเคมีของเราค่อนข้างไปกับน้องได้ดี รู้สึกว่าคุยกันถูกคอ คุยกันภาษาเดียวกันนั่งอยู่ด้วยกันผมไม่ได้รู้สึกว่าตะขิดตะขวงอึดอัด
เรื่องคู่จิ้นผมไม่ได้คาดหวังถึงตรงนั้น แต่ก็อาจจะให้รอติดตามผลงาน พอมันออกมาก็อยากให้ชื่นชอบในผลงาน ก็ฝากเนื้อฝากตัวครับกับชาวสาววาย”
ปีใหม่แพลนไปเที่ยวฮ่องกงแบบครอบครัวร่วมกับครอบครัวของเฟย์ด้วย
“ปีใหม่มีแพลนไปเที่ยวประเทศฮ่องกง ไปกับที่บ้านครับ น้องเฟย์ไปด้วย ปกติก็จะไปเที่ยวกันบ่อยๆ รอบนี้ก็พาคุณแม่ไปและน้องวันใหม่ไปก็เลยไปทั้งครอบครัวเลย เพราะว่ามีเวลาลงล็อกวันกันไม่เยอะ แล้ววันที่ไปก็ไม่ได้เป็นช่วงปีใหม่แต่เป็นก่อนปีใหม่ เพราะปีใหม่เดี๋ยวคนเยอะ ก็เลยไปก่อนปีใหม่ แล้ววันมันได้เท่านี้ก็เลยไปประเทศใกล้ๆ ทริปนี้ประมาณ 3-4 วัน ไปกับครอบครัว เฟย์เขาก็ค่อนข้างเข้ากับที่บ้านผมได้อยู่แล้ว เขาก็มากินข้าวที่บ้านผม”