“วิคตอเรีย เคียร์ เธลวิก” ดีใจเป็นชาวเดนมาร์กคนแรกที่ได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์ส บอกฝันอยากจะเป็นนางงามมาตั้งแต่เด็ก และพยายามทำตามความฝันตัวเองมาตลอด และดีใจที่ได้มาเมืองไทยอีกครั้ง และขอบคุณแฟนนางงามชาวไทยที่ร่วมยินดีกับตน เพราะชาวไทยถือว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนางงามจริงๆ ฝากถึงน้องๆ ที่มีความฝัน ต้องฝันให้ไกล และพยายามไปให้ถึงให้ได้
หลังจากที่มิสยูนิเวิร์ส 2024 “วิคตอเรีย เคียร์ เธลวิก” มาเยือนประเทศไทยครั้งล่าสุดหลังจากที่ได้ตำแหน่ง และได้มาเปิดใจให้สัมภาษณ์ในหลายๆ เรื่องแบบสุด exclusive กับ พ่อเลี้ยงเจ แห่ง mars online เผยว่าดีใจที่เป็นชาวเดนมาร์กคนแรกที่ได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์ส และเตรียมที่จะกลับไปฉลองกับชาวเดนมาร์กทุกคนอีกครั้ง
”ชาวเดนมาร์กตื่นเต้นมากกับการที่ฉันได้ครองมงกุฎ เสียงตอบรับจากที่บ้านก็ล้นหลามมากไม่ว่าจะเป็นทั้งข้อความต่างๆ ที่เข้ามาถึงฉัน ฉันภูมิใจและยินดีมากที่ได้ครองมงกุฎครั้งนี้ เหลือแค่กลับไปฉลองกับชาวเดนมาร์กค่ะ แต่ยังไม่ทราบกำหนดการที่แน่นอน
ซึ่งถ้าจะพูดถึงคนเดนมาร์กก็จะเน้นเรื่องความหลากหลายค่ะ มีทั้งความหลากหลายในเรื่องของชนชาติ และเรื่องที่โดดเด่นมากก็คือเรื่องของการศึกษา ซึ่งน่าภาคภูมิใจมาก และอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องที่เวลามีคนต่างชาติเข้าไป ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือ เขาก็จะได้รับแต่สิ่งดีๆ ฉันเองก็ภูมิใจในตรงนั้นด้วย และเรื่องของอาหารก็มีความหลากหลายด้วยเหมือนกัน เพราะเรามีคนหลายเชื้อชาติ ทำให้อาหารก็มีความหลากหลายไปด้วยค่ะ“
เผยฝันอยากจะเป็นนางงามตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
“ฉันมีความฝันตั้งแต่อายุ 5 ขวบที่อยากจะครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สค่ะ ฉันเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ถ้าตั้งใจอะไรแล้ว ฉันจะพยายามเดินไปถึงจุดนั้นให้สำเร็จให้ได้ ฉันมีบริษัทของตัวเองตั้งแต่อายุ 16 ฉันเป็นทั้งนักเต้น เป็นผู้บริหาร และฉันก็ได้ไปช่วยสถานที่อุปถัมภ์สัตว์เลี้ยงด้วย และยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันอยากจะทำให้สำเร็จ ถึงฉันเป็นส่วนเล็กๆ บนโลกนี้ แต่ถ้าฉันสามารถทำมันให้สำเร็จได้ ฉันก็จะภูมิใจมากที่จะได้สร้างผลงานและมีฟีตแบ็คเกิดขึ้นกับโลกของเราได้
ตั้งแต่อายุ 5 ขวบฉันมีความชอบในเรื่องของนางงามอยู่แล้ว พออายุ 16 ฉันก็ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาและฉันก็ไปศึกษาเรื่องการต่อขนตา และในที่สุดเปิดเป็นสถานเสริมความงามด้วยค่ะ พอมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ฉันก็จะไปพูดคุยกับพวกเขา ถ้าพวกเขามีอะไรอยากจะพูดหรืออยากจะระบาย ฉันก็พร้อมที่จะรับฟัง ฉันว่าฉันเป็นผู้ฟังที่ดี แล้วก็พูดเก่งด้วยในเวลาเดียวกัน (หัวเราะ)
แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับไปทำธุรกิจนี้ต่อหรือจะขยายธุรกิจยังไง แต่ใน 1 ปีที่ฉันครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สนี้ ฉันคิดว่าคงจะมีโอกาสที่จะทำงานหลากหลาย เชื่อว่าจักรวาลคงนำพาโอกาสหลายๆ อย่างมาให้ฉัน ในอนาคตฉันอาจจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย หรือไปใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก ก็สุดแล้วแต่โชคชะตาจะพาไปค่ะ”
บอกชอบอาหารไทยมาก โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเผ็ด
“ฉันกับครอบครัวได้มาประเทศไทยเป็นครั้งที่ 4 แล้วค่ะ มาครั้งแรกตอนอายุ 12 ฉันมาเที่ยวกับครอบครัว ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงสำหรับชาวเดนมาร์กมาก ทั้งในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม ผู้คน อากาศและที่สำคัญเรื่องของอาหารอร่อยมากค่ะ ฉันชอบทานอาหารรสจัด ชอบทานรสเผ็ดๆ ซึ่งอาหารไทยที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือผัดไทและต้มยำกุ้ง แต่ตอนนี้ฉันก็พยายามจะทานอาหารไทยที่ไม่เคยลองทานให้มากขึ้น อยากจะลองให้ได้หลายๆ อย่าง ที่สำคัญขอรสชาติเผ็ดๆ ค่ะ (ยิ้ม)”
ขอบคุณแฟนนางงามชาวไทยที่ให้การซัพพอร์ตมาตลอด
“ฉันก็ขอขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยนะคะ แฟนนางงามชาวไทยถือว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้นางงามเลยก็ว่าได้ ตลอดระยะเวลาที่ฉันอยู่ที่ประเทศไทย ฉันได้รับกำลังใจและคำแสดงความยินดีที่ฉันได้รับตำแหน่งนี้ และฉันก็ต้องขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้ฉันด้วยนะคะ ฉันได้อ่านทุกๆ ข้อความที่มีมาถึงฉัน ฉันรักแฟนคลับชาวไทยมาก เพราะพวกคุณคือแฟนพันธุ์แท้ของนางงามจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม)”
บอกต่อถึงน้องๆ ที่มีความฝัน ต้องมุ่งมั่นและไปให้ถึงจุดหมาย
“ก็อยากจะบอกถึงน้องๆ คนรุ่นใหม่นะคะ ถ้ามีความฝันอะไรก็อยากที่จะให้ไปให้ถึงฝันนั้น เพราะฉันเองก็ฝันอยากจะเป็นนางงามมาตั้งแต่เด็ก และเข้าประกวดตั้งแต่อายุ 17 ปี และถ้าสิ่งนั้นคือความฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณ ก็ต้องมีความพยายามที่จะไปให้ถึงฝันนั้นด้วย และต้องมุ่งมั่นที่จะทำให้ฝันนั้นเกิดขึ้นจริงให้ได้ค่ะ เพราะฉันเองก็ทำอะไรมาหลายอย่าง และฉันก็อยากจะบอกกับทุกคนที่มีความฝันว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ“
