ย้อนวีรกรรม “อั้ม อธิชาติ” ใช่ย่อย! “นัท มีเรีย” พูดเอง เคยจับได้แอบมีกิ๊ก

ข่าวลือเป็นจริง หลังจากปล่อยให้คลุมเครือมานาน ล่าสุด “นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้” ออกมายอมรับแล้วว่าได้เลิกรากับสามี “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” จบสถานะสามีภรรยาที่อยู่กินกันมา 10 ปี เหลือเพียงความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่าสาเหตุที่ทำให้เตียงหักเกิดจากอะไร กลายเป็นข่าวช็อกวงการส่งท้ายปี

แน่นอนว่าการเลิกรากัน คงมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไปต่อกันไปได้ และหากย้อนกลับไปฟังเรื่องราวความรักของนัทและอั้ม ก็เป็นอีกหนึ่งคู่ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยนัทเคยเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องone31 ว่าอั้มเคยมีกิ๊ก ถ้ามี 2 ครั้งให้อภัยได้ แต่ถ้ามีอีกครั้งที่ 3 คือจบ!

“ตอนที่จีบกันใหม่ๆ คุณอั้มเขาไม่ได้อยู่ในสายตาเราเลยนะ แต่เขาจะชวนเราไปทำบุญ เป็นสายบุญ ชอบฝากขนมมาให้เรา แฝงมาบ่อย ๆ แรก ๆ เราก็แอบคิดว่าเขาเป็นเกย์มั้ย เพราะมันก็มีข่าวเมาธ์มาเยอะมาก

แต่เราก็ค่อย ๆ คุย คุยกัน 7-8 เดือน ช่วงนั้นก็ดูความประพฤติ เช็กทุกอย่าง ถึงขั้นเอาดวงไปให้อาจารย์เช็กว่าเขาเป็นเกย์มั้ย อาจารย์ก็บอกว่าไม่ได้เป็นแน่นอน แล้วอาจารย์ก็บอกว่า คนนี้คบได้ แล้วเขาจะดูแลเราเหมือนลูกเลย

แล้วเราก็คบไปเรื่อยๆ พอมั่นใจแล้วว่าเขาไม่ใช่เกย์ มันก็พิสูจน์ได้ค่ะ อีกทั้งความดีของเขาทำให้เราใจอ่อน เขาเป็นคนดี คนใจเย็น ดูแลทุกคนได้ คือนัทเป็นคนโผงผาง โวยวาย แต่คุณอั้มเขาจะเอาอยู่ เป็นคนที่ทำให้เราเย็นลง เขาจะดูโตกว่า แต่ด้วยวัยของเขาที่ดูห่างกับเรา 6 ปี แต่เรารู้สึกว่า เขาเหมือนรุ่นเดียวกับเรา เหมือนพี่ เหมือนเพื่อน”

ส่วนมากจะทะเลาะกันเรื่องหยุมหยิม
“เรื่องมันหยุมหยิมทั่วไปเลย เราคิดอีกอย่าง เขาคิดอีกอย่าง คือเขาเป็นคนใจดี คนง่าย ๆ ชอบดูแลคนเยอะ ๆ เวลาเถียงกันเราจะชนะด้วยโทนเสียง แต่บางเรื่องถ้าวัดด้วยเหตุผล เราก็จะเงียบไปสักพักหนึ่ง แล้วเราก็ตีเนียนทำตลก ถ้าใครผิด คนนั้นง้อเลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นนัทค่ะ”

ไม่ธรรมดา เคยจับได้อั้มมีกิ๊ก
“จริง เคย ผู้ชายมีอยู่แล้ว แต่ไม่บอกนะว่าก่อนแต่งหรือหลังแต่ง ก็คือตกลงกันว่า ห้ามมีอีก จบ ถ้ามีครั้งแรกคือคนเรามันมีผิดพลาดกันได้ ครั้งที่ 2 ก็ให้อภัย แต่ถ้ามีอีกครั้งที่ 3 คือจบ แต่สำหรับดิฉันครั้งนี้คือไม่ให้แล้ว ก็คือหมดโควต้าแล้ว แต่คือไม่อยากลงรายละเอียดลึก เพราะถือว่ามันคืออดีตแล้ว

สิ่งที่ทำให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้ นัทว่ามันอยู่ที่จิตใต้สำนึกของฝ่ายที่ทำผิดมากกว่า คือตัวเองทำผิด แล้วอีกฝ่ายให้อภัยแล้ว ตัวเองมองเห็นคุณค่ากับสิ่งที่เขาเลือก หรือว่า ณ เวลานี้เขาอยู่กับเราแล้วเขาอยากจะปรับปรุงตัวเองให้มันดี เขาก็ต้องปรับปรุงไปเรื่อย ๆ แล้วก็ใช้เวลาให้มันอยู่บนพื้นฐานของความจริงจัง จริงใจ และให้เกียรติเราแบบเสมอต้นเสมอปลาย คนเป็นสามีภรรยามันจะรู้ค่ะว่า อันนี้มันยังเหมือนเดิมนะ มันจะไม่เปลี่ยนไปแล้ว แล้วกลับกลายเป็นว่า สิ่งเหล่านั้นมันทำให้เราแน่นแฟ้นขึ้น มันเหมือนมันได้ผ่านอะไรมาด้วยกัน”