“ลิลลี่ เหงียน” นำหลักฐานเข้าแจ้งความ หลังโดนสแกมเมอร์หลอกจะซื้อพลอยราคา 40 ล้าน อ้างชื่อเป็นไฮโซนามสกุลดัง สุดท้ายยอมเฉลยว่ามีลูกหนี้ทั้งที่หนีไปต่างประเทศ และมีสามีเป็นนักการเมืองจ้างให้หลอก แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ ขอให้คนที่ถูกอ้างชื่อออกมาชี้แจงความจริงด้วย บอกขอโอกาสให้ตนบ้าง ตอนนี้ไม่รู้ว่าสู้อยู่กับใครแลัว
มีเรื่องให้ขึ้นโรงพักขึ้นศาลได้ตลอดจริงๆ สำหรับสาว “ลิลลี่ เหงียน” ที่ล่าสุดวันนี้ได้หอบหลักฐานชุดใหญ่ไปแจ้งความที่สน.ห้วยขวาง จากที่เจ้าตัวนั้นเชื่อว่าโดนสแกมเมอร์หลอกจะมาขอซื้อพลอยในราคา 40 ล้าน มีการอ้างชื่อว่าเป็นไฮโซตระกูลดัง อีกทั้งยังบอกว่าลูกหนี้ของตนทั้งที่หนีไปต่างประเทศและที่มีสามีเป็นนักการเมืองจ้างให้ทำการหลอกซื้อขายด้วย
“เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีมิจฉาชีพคนนึงอ้างชื่อนามสกุลดัง ที่หนูออกมาก็อยากปกป้องสิทธิของคุณแป้ง ล่ำซำด้วย เพราะเป็นเอฟซีคุณแป้ง และอ้างชื่อลูกหนี้หนูที่มีกระแสอยู่ตอนนี้ หนูก็อยากจะออกมาปกป้องความปลอดภัยของลูกหนี้หนูด้วย เพราะมิจฉาชีพคนนี้เดิมทีเขามาขอซื้อพลอยในราคา 40 ล้าน ซึ่งหนูตั้งเป้าขายที่ 50 ล้านบาท ทีนี้เขาบอกว่าเขาเตรียมเงินไว้แล้ว เขาพร้อมที่จะโอนให้เลย แต่เขาขอในราคา 40 ล้าน ซึ่งลี่ก็โอเค
ลี่ก็บอกเขาว่าถ้าคุณไม่ได้อยู่ในเมืองไทยก็ให้ทนายมาคุยไหม และให้ทนายมาดูพลอย เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหา ตอนนี้พร้อมโอนเงินให้ เดี๋ยวจะโอนเงินให้ก่อน ลี่ก็ถามว่าโอนเงินในรูปแบบไหน ถ้าเงินเข้ามาในบัญชี 40 ล้าน ลี่ต้องเสียภาษี 35% เลยนะ เขาก็บอกว่าเรื่องภาษีไม่มีปัญหา เดี๋ยวเขาจะจ่ายค่าภาษีให้ด้วย ตรงนี้ทำให้ลี่เริ่มเอะใจว่ามันดีเกินไปถ้าเป็นเมื่อก่อนลี่ก็คงทำแล้ว แต่ตอนนี้มันเป็นชิ้นสุดท้ายที่ลี่มี ลี่ก็เลยให้ผู้ใหญ่ฝั่งลี่พูดคุยกับเขาเกี่ยวกับรายละเอียดการซื้อขาย ซึ่งผู้ใหญ่เขาก็บอกว่าถ้าคุณจะซื้อจริงๆ ก็ขออนุญาตบันทึกเสียงเอาไว้”
บอกเริ่มมีการใช้ถ้อยคำที่เคยโดนมาก่อน จนเริ่มสงสัย
“ทีนี้ฝั่งนั้นเขาก็โมโหว่าลี่กับผู้ใหญ่ไปดูถูกเขา เขาจะแจ้งความดำเนินคดีให้หนักกว่าลูกหนี้ของลี่ เขาก็อ้างชื่อลูกหนี้ของลี่ที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ ลี่ก็ไม่เข้าใจ ก็ขอโทษไป สุดท้ายเขาก็พูดจาไม่ดี พูดไม่ต่างจากลูกหนี้ของหนู ว่าหนูอีต่างด้าวบ้างแหละ กะxรี่บ้างแหละ เป็นพลเมืองชั้นต่ำ คือพยายามพูดอะไรแบบนี้ ลี่ก็บอกว่าถ้าพี่อยากฟ้องก็ฟ้องได้ หลักฐานมันชัดเจน หนูแค่ปกป้องสิทธิความปลอดภัยของตัวเอง พอพูดแบบนี้เขาก็บอกว่าเธอจะต้องเป็นข่าวดังแน่ๆ ฉันจะไม่ให้เธอยืนอยู่ในสังคมนี้
หนูก็เลยเอาคำพูดนี้ไปโพสต์เลย เพื่อให้รู้ว่าหนูไม่ได้กลัวเขานะ คุณทำผิด อย่ามาทำแบบนี้ พอหนูโพสต์เสร็จหนูก็บอกเขาว่าหนูโพสต์แล้วนะ พี่เป็นข่าวดังแน่นอน แล้วเขาก็ด่าหนูอย่างที่บอกไป ซึ่งการพูดคุยนั้นมันเหมือนลูกหนี้หนูหลายคนก็พูดแบบนี้ ซึ่งหนูก็สงสัย หนูก็เลยพูดกับเขาว่าพี่เป็นเพื่อนกับลูกหนี้หนูหรือเปล่า ทำไมพูดแบบนี้ แล้วบอกว่าหนูโพสต์แล้วนะพี่ เขาก็บอกว่าโนสน โนแคร์ ฉันได้ค่าจ้างมาแล้วหนูก็สงสัยว่าใครจ้างเขามา แต่สิ่งที่มิจฉาชีพคนนี้พูดเนี่ย หนูก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ 100% แต่พฤติกรรมการพูดมันกำลังสื่อให้หนูสงสัยลูกหนี้บางคนที่หนีออกนอกประเทศ หรืออยู่ในประเทศหนูไม่ทราบ เขากำลังปั่นหนูหรือเปล่า
พอหนูจับได้ หนูก็พูดดีๆ กับเขานะ ว่าหนูเข้าใจนะพี่ หนูไม่เป็นไร มันเป็นกรรมของหนู หนูต้องรับกรรมให้ได้ แต่พี่อย่าทำแบบนี้อีกเลย หนูให้อภัย เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้อยากทำ แต่เขาจ้างมา ฉันก็ติดตามเธอนะ เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ฉันไม่มีทางเลือกลี่ก็เลยบอกว่าขอหลักฐานหน่อย หนูก็เลยมาแจ้งความเพราะอยากให้เจ้าหนี้ที่ตำรวจพิจารณาว่าเรื่องนี้มันเป็นข้อจริงเท็จมากน้อยขนาดไหน”
มิจฉาชีพสารภาพว่าถูกลูกหนี้จ้างมาจริง
“คนนี้เขาอ้างชื่อตระกูลดังนะคะ ตระกูลของคุณแป้ง ล่ำซำ เขาบอกว่าเขาชื่ออรพรรณ ล่ำซำ ซึ่งหนูไม่เชื่อ เขาน่าจะกำลังใส่ร้ายตระกูลล่ำซำหรือเปล่า และเขาก็อ้างชื่อลูกหนี้หนูที่มีสามีเป็นนักการเมือง หนูไม่ได้กล่าวหานะคะ แต่เขาพูดแบบนั้นจริงๆ เขาก็พิมพ์มาในแชตว่า จริงๆ ไม่ได้อยากทำ แต่ไม่มีเงิน จึงต้องรับบททำ เขาหลอกให้มาเอาพลอยของหนู น้องหงส์ฟ้า แต่อย่าแคปได้ไหม พี่จะบอกทุกอย่าง สงสารจริงๆ คนที่อยู่เมืองนอกกับคนที่อยู่เมืองไทยเขาร่วมมือกัน จับมือกันมาจ้าง (โชว์หลักฐานแชตไลน์)
หนูไม่รู้จักพี่แป้ง หนูก็ไม่รู้จะทักไปยังไง หนูก็หวังว่าพี่แป้งจะเห็นที่หนูออกมาวันนี้ เพราะเขาทำให้ตระกูลของพี่แป้งไม่ดีเลย เพราะหนูไม่เชื่อว่าตระกูลของพี่แป้งจะใช้ถ้อยคำแบบนี้หรือทำพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งพอลี่บอกเขาว่าขอดูหลักฐานได้ไหม เขาก็ส่งสลิปการว่าจ้างมา ซึ่งมันมีชื่อของนักการเมืองท่านหนึ่งที่เป็นกระแสกับหนู ซึ่งหนูก็ขอแจ้งนักการเมืองท่านนี้และภรรยาของนักการเมืองท่านนี้นะคะ ว่าหนูไม่ได้ปักใจเชื่อ 100% นะมิจฉาชีพคนนี้กำลังจะทำให้ตระกูลของคุณแป้ง ล่ำซำ และตระกูลของนักการเมืองท่านนี้เสื่อมเสีย หนูออกมาเพื่อปกป้องความปลอดภัยของตัวหนู และปกป้องความปลอดภัยของทุกคน”
เผยเบื้องต้นไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นลูกหนี้ที่จ้างมา ขอให้ผู้ถูกแอบอ้างออกมาชี้แจงด้วย
“ถ้าพี่นักการเมืองโดนกล่าวอ้างแบบนี้ พี่กับภรรยาก็ต้องออกมาชี้แจงนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นประชาชนจะเข้าใจผิด หนูก็เกือบเข้าใจผิดด้วย ถึงหนูจะไม่ได้ชอบใจมากเท่าไหร่ที่เรามีปัญหากัน แต่หนูก็ไม่ใส่ร้ายใคร และไม่อยากให้ใครใส่ร้ายพี่ๆ ด้วย อยากให้พี่ออกมาปกป้องสิทธิและพูดความจริง เพราะตอนนี้ลี่เอาหลักฐานทั้งหมดมาที่สน. เพื่อให้พี่ตำรวจเขาได้สืบค้นความจริงว่ามันเป็นยังไง ซึ่งหลักฐานที่นำมาวันนี้มีเยอะเลยค่ะ
มันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง หนูไม่โกรธนะคะ หนูเข้าใจ ก็ขอโอกาสให้หนูได้เติบโตเถอะค่ะ หนูไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ หนูก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่ต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ หนูเข้าใจว่าพี่ไม่ชอบหนู บางทีหนูออกมาแบบนี้มันอาจจะกระทบจิตใจของพวกพี่ แต่ก็อยากให้พี่เข้าใจหนูด้วยนะคะ อย่าเกลียดหนูเลยพี่ ถ้าให้อภัยหนูได้ก็ให้อภัยหนูเถอะ หนูยอมทุกอย่างแล้วจริงๆ และหนูก็ไม่อยากมีกระแสดรามาอีกแล้ว มันเหนื่อยมาก หนูจะเป็นซึมเศร้า”
วอนให้สแกมเมอร์คนนี้ส่งหลักฐานมาให้เพิ่มเติมด้วย
“ตอนนี้หนูติดต่อสแกมเมอร์ที่โทร.มาไม่ได้เลย หนูอยากให้เขาส่งหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้ แต่เนื่องจากหนูเป็นคนอารมณ์ร้อน ก็เลยเอาหลักฐานทีเขาส่งมาให้อย่างเช่นสลิป การพูดคุยไปโพสต์ เขาก็บอกว่าฉันจะช่วยเธอ ทำไมเธอทำแบบนี้ ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าฉันมาบอกความจริงกับเธอ เธอจะทำอะไรก็แล้วแต่เธอแล้วกัน หนูก็ฝากถึงมิจฉาชีพคนนี้นะคะ ว่าสิ่งที่คุณพูดถ้ามันจริงหรือไม่จริง ลี่ไม่เชื่อคุณนะคะจนกว่าจะเห็นหลักฐานแต่หลักฐานตรงนี้มันก็ชัดเจนอยู่
จริงๆ ก็อยากให้เขาเมตตานะคะ อยากให้เขาส่งหลักฐานมาให้ลี่ ยังไงหนูก็มั่นใจว่าพี่ก็ไม่อยากทำร้ายหนูหรอก และสิ่งที่พี่พูด พี่ก็อยากจะช่วยเหลือหนูจริงๆ แต่ด้วยความที่หนูเป็นคนอารมณ์ร้อน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หนูก็ขอโทษพี่แล้วกันที่ทำให้พี่มิจฉาชีพลำบาก แต่ให้พี่กลับมาเมตตาหนูเหมือนเดิมนะคะถ้ามันคือเรื่องจริง หนูสัญญาว่าหนูจะพยายามปกป้องความปลอดภัยของพี่ให้ได้มากที่สุด และหนูจะไม่เอาผิดกับพี่เลย
ตอนนี้ก็ต้องระวังตัวขึ้นมากๆ ค่ะ หนูก็หวังพี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้านเมือง เมตตาเด็กคนนี้ด้วยนะคะ ช่วยมาทำให้มันกระจ่างด้วยนะคะ หนูไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหน เพราะหนูก็ไม่รู้ว่าหนูสู้กับอะไรอยู่ (หัวเราะ)”