กลายเป็นที่พูดถึงกันสนั่นอีกครั้งสำหรับการใช้ชีวิตไอดอลในแวดวงเค-ป็อป ที่ค่อนข้างเข้มงวด เพราะล่าสุด “เคจี” ไอดอลสาวจากวงนานาชาติ VCHA ก็ออกมาโพสต์ร่ายยาวขอฉีกสัญญากับต้นสังกัด JYP Entertainment เพราะรับไม่ได้กับการดูแลศิลปินของทีมงาน
เคจี ได้โพสต์อินสตาแกรมน่ายยาวความในใจ พร้อมเผยสาเหตุของการตัดสินใจครั้งนี้ โดยระบุว่าบรรยากาศการทำงาน ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ แต่ยืนยันเรื่องนร้ไม่เกี่ยวกับ เจ.วาย พัค ผู้บริหารค่าย
“เมื่อวานนี้ฉันได้ยื่นฟ้องเนื่องจากฉันตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญา กับJYP Entertainment และออกจาก VCHA หลังจากประสบเหตุการณ์ที่ถูกล่วงละเมิดและปฏิบัติอย่างไม่ดีจากพนักงานบางคน ฉันรู้สึกว่ามัน ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพจิตของฉันและฉันขอโทษถ้าการลาออกของฉันทำให้คุณผิดหวัง ฉันไม่สนับสนุนสภาพการทำงานและการใช้ชีวิตที่ทำให้สมาชิกพยายามไปสู่จุดฆ่าตัวตายฉันไม่สนับสนุนสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการกินผิดปกติและ
ทำให้สมาชิกทำร้ายตัวเอง
ฉันตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อเดือน พ.ค. และยังคงรอการปลดจากสัญญาฉัน ฉันยังคงเป็นห่วงสาวๆที่ยังอยู่กับ VCHA เพื่อนๆของฉันที่ฉันรักและ ห่วงใยพวกเขาจากใจจริง ฉันยังตระหนักอีกด้วยว่าหากยังอยู่กับ JYP ฉันคงไม่สามารถเป็นศิลปินในแบบที่ฉันอยากจะเป็นได้ ฉันชอบแต่งเพลงและการเป็นโปรดิวเซอร์มาก แต่ฉันมีหนี้ที่สะสมไว้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ได้รับค่าตอบแทนน้อยมากจากงานที่ทั้งหนักและมีแต่ข้อจำกัดในการใช้ชีวิตส่วนตัว
แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแต่ก็มีช่วงเวลาที่สวยงามเช่นกัน ฉันอยากจะขอบคุณ เจ.วาย พัค ผู้บริหารบริษัทและพนักงานที่เชื่อมั่นในตัวฉันและการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยม ฉันไม่โทษใครสำหรับการถูกปฏิบัติเช่นนี้ แต่รู้สึกว่านี่เป็นปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในอุตสาหกรรม K-Pop
ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่ฉันสร้างขึ้นและโอกาสอันเหลือเชื่อที่ได้แสดงต่อหน้าผู้ชมทั่วโลก ขอบคุณ V-lights สำหรับความรักและการสนับสนุนและฉันขอให้คุณยังคงสนับสนุน VCHA ต่อไปแม้ว่าฉันจะไม่อยู่แล้วก็ตาม ฉันรักวัฒนธรรมเกาหลีและเพลง K-Pop ในอนาคตฉันจะทำเพลงแนวนี้ต่อไป แต่ไม่ใช่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฉันหวังว่าการลาออกของฉันจะช่วยกระตุ้นให้ระบบ K-Pop เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นโดยหวังว่าจะปกป้องไอดอลและเด็กฝึกหัดที่ยังต้องอยู่ในกำมือของบริษัทนี้”
ซึ่ง VCHA เพิ่งประกาศเตรียมคัมแบ็กในปี 2025 การประกาศฉีกสัญญาครั้งนี้ของไอดอลสาวชาวต่างชาติ จึงทำเอาแฟนเพลง เค-ป็อป ต่างช็อคไปตามๆกัน พร้อมกับพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ซึ่งเสียงแตกออกเป็น 2 ฝั่งทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุนความคิดเห็นของ เคจี
บางคนโต้แย้งว่าการกระทำของ เคจี นั้นสมเหตุสมผลและเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ พวกเขาเชื่อว่าแม้แต่เด็กฝึกหัดชาวเกาหลีเอง โดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ควรเริ่มออกมาเรียกร้องให้มีการปราบปรามการละเมิดเชิงระบบในอุตสาหกรรมเค-ป๊อป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อไป
ส่วนอีกฟากหนึ่ง ได้แสดงความเห็นว่า ความเข้มงวดในชีวิตไอดอล เช่น การถูกเฝ้าติดตามตลอดเวลา การนอนหลับไม่เพียงพอ และการรักษาน้ำหนักอย่างเคร่งครัด ถือเป็นลักษณะโดยธรรมชาติของการทำงานสายอาชีพนี้ พวกเขาแนะนำว่าเด็กฝึกหัดชาวตะวันตกควรต้องพยายามเพื่อปรับตัวให้เข้ากับบรรทัดฐานเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งปัญหานี้มักจะเกิดกับวง เค-ป็อป ที่อยู่ในตะวันตก หรือกลุ่มที่มีเด็กฝึกหัดชาวตะวันตกเนื่องจากความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ขณะเดียวกันบางคนมองว่าเรื่องนี้เป็นการต่อสู้กันทางวัฒนธรรม โดยเน้นย้ำว่าวัฒนธรรมเกาหลีมักให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบร่วมกัน ขณะที่วัฒนธรรมตะวันตกให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคลเป็นอันดับแรก
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางคนโต้แย้งว่าปัญหานี้อยู่ที่เกาหลีเอง เนื่องจากแรงกดดันจากสาธารณชนและความคาดหวังของแฟนๆ ทำให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นอันตราย เช่น การเหยียดรูปร่างและการนิยมความสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เองก็มองว่าแรงกดดันด้านภาพลักษณ์ของรูปร่างหน้าตามีอยู่ทั่วไปแม้แต่ในประเทศตะวันตก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหานี้ข้ามพรมแดนไปแล้ว ความคิดเห็นจำนวนมากจึงต่างมองว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นมานาน และเด็กฝึกหัดชาวเกาหลีในอดีตต่างก็ยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้โดยไม่คัดค้าน
อย่างไรก็ตามบางส่วนก็เรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อป้องกันไม่ให้ศิลปินต้องทนทุกข์ทรมานในสิ่งที่เรียกว่า ศิลปะ หรือ การต้องเพียรพยายามให้มากขึ้นไปอีก
ตัวอย่างความคิดเห็นบางส่วน
“นี่ดูเหมือนจะเป็นสาเหตุว่าทำไมกลุ่ม K-pop ถึงไม่ค่อยมีสมาชิกที่เป็นชาวตะวันตก”
“เกาหลี จีน และญี่ปุ่น หรือเอเชียโดยทั่วไป มีความรู้สึกคล้ายๆ กัน แต่ชาวตะวันตกไม่สามารถทนกับเรื่องแบบนี้ได้”
“คนนอกเกาหลีคงไม่เข้าใจเรื่องนี้”
“ระบบ K-pop เป็นสิ่งที่ชาวตะวันตกไม่เข้าใจ เพราะทัศนคติของพวกเขาต่างกันมาก”
“ดูเหมือนชาวตะวันตกไม่น่าจะทนกับเรื่องนี้ได้... สำหรับเรา การแสดงต่อหน้ากลุ่มไอดอลรุ่นพี่ถือเป็นการสนับสนุนและให้กำลังใจ แต่พวกเขามองว่ามันเป็นแค่การทำงาน”
“ไอดอลเหล่านี้ไม่รู้เหรอว่าจะต้องเจอกับอะไรเมื่อพวกเขาตัดสินใจลองทำแบบนี้?”
“มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวของ ฮงจินคยอง ที่ยอมแพ้ในการทำธุรกิจในอเมริกา ฮ่าๆ”
“ทัศนคติของชาวตะวันตกไม่สามารถเข้าใจระบบไอดอลเกาหลีได้”
“ทำไมพวกเขาถึงพยายามนำระบบเค-ป๊อปมาใช้กับชาวตะวันตก ใครๆก็บอกแล้วว่าพวกเขารับไม่ได้หรอก”
“บางทีพวกเขาควรหยุดพยายามก่อตั้งวงศิลปินท้องถิ่นในต่างประเทศ แล้วมุ่งความสนใจไปที่การสร้างวงศิลปินแค่ในญี่ปุ่นและจีนแล้วปล่อยให้พวกเขาโปรโมตที่นั่น”