กรี๊ดมาก “เบนซ์ ปุณยาพร” ควงเจ้าบ่าวทายาทรร. ทั้งหล่อรวย ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน สัญญาจะรักดูแลเบนซ์ และครอบครอบครัว เตรียมปั๊มลูกเลย อยากมี 12 คน แต่อายุตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว ยันไม่ทิ้งงานในวงการ แม้เป็นสะใภ้โรงแรมดัง ไม่อยากเบียดเบียน อยากทำงานหาเงินเอง
ลั่นระฆังวิวาห์หวานชื่นไปแล้วเมื่อวานนี้ สำหรับนักแสดงสาว “เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์” กับเจ้าบ่าวสุดหล่อ “แก๊ป วิทนาถ วรรธนะกุล” ทายาทโรงแรมดังในพัทยา โดยมีทั้งพิธีแบบไทยและแบบฝรั่ง เนื่องจากเจ้าบ่าวเป็นคาทอลิก ซึ่งบรรยากาศในงานก็อบอวลไปด้วยความรักและความสุข ของทั้งสองครอบครัวและเพื่อนๆ ที่มาร่วมงาน ก่อนล่าสุดวันนี้ (8 ธ.ค. 67) บ่าวสาวป้ายแดงจะได้จัดงานแถลงข่าวพิธีสมรสพระราชทาน พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่และจุดเริ่มต้นของความรัก ที่ Pattaya Exhibition And Convention Hall (PEACH) โรงแรมรอยัล คลิฟ พัทยา ชลบุรี ซึ่งเป็นธุรกิจของฝ่าย
แก๊ป : “เราเจอกันที่ทำงานครับ ผมเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทเครื่องสำอาง แล้วเบนซ์ก็มาถ่ายโฆษณา เจอกันครั้งแรกที่สตูดิโอ น้องเขาน่ารักมาก เลยชวนเขามาเที่ยวที่พัทยา ชอบเขาที่ความสนุกสนานและความน่ารักครับ ก็ประมาณ 5 ปีที่แล้ว เดี๋ยวจะให้เบนซ์บอกเกี่ยวกับแหวนครับ”
เบนซ์ : “แหวน 5 กะรัต ความหมายก็คืออันนี้แหละค่ะ พี่เขาให้ความสำคัญกับเรา ก็ต้องขอบคุณนะคะ”
แก๊ป : “ขอบคุณเบนซ์เหมือนกันครับ ดีใจที่มีเบนซ์อยู่ในชีวิต รู้สึกว่าพระเจ้าให้พรผม ให้ผมได้เจอคนดีๆ เบนซ์จิตใจดีมาก ไม่ใช่แค่กับผม แต่ใส่ใจคนรอบข้าง คอยเป็นห่วงเป็นใยทั้งครอบครัวผม เพื่อนผม โดยเฉพาะทีมงานผมด้วย เบนซ์น่ารักมากๆ ครับ ตอนจีบเขาก็คือค่อยๆ เนียนๆ ครับ แต่เขาก็ไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่นะครั้งแรก”
เบนซ์ : “ไม่ใช่หรอก ตอนนั้นเราไปทำงาน ก็แบบผู้ชายคนนี้ยังไง แล้วหลังจากนั้นเขาก็ใช้วิธีการหลอกล่อว่ามาโรงแรมสิครับ ตอนแรกไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าของ รู้แค่ว่าทำงานในสายงานนั้น ก็ตกใจว่าไปโรงแรมอะไร ก็งงๆ เขาเลยมาแนะนำตัว ว่าทำธุรกิจนี้อยู่ อยากเชิญครอบครัวเบนซ์มาเที่ยว หลักจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อพี่เขาเลย หายกันไป 3 ปี เพิ่งกลับมาคุยกันใหม่ใน 5 ปี แล้วช่วงนั้นกำลังทำธุรกิจของตัวเอง เขาก็แนะนำว่าให้มาเรียนคอร์สเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ เขาก็หลอกล่อด้วยวิชาการ”
แก๊ป : “ไม่ได้หลอกล่อนะครับ อยากมอบสิ่งดีๆ ให้ มีแต่เจตนาดีๆ ให้ เสียใจมากนะพูดอย่างนี้ (หัวเราะ)”
เบนซ์ : “โอ๊ย ไม่ต้องเสียใจๆ ก็ตัดสินใจไปเรียน พอใกล้จบก็มาเจอกันอีกรอบหนึ่ง เขาเลยบอกมาคุยๆ กันไหม ลองศึกษาดูใจไหม เราก็ต้องเปิดใจแล้ว ด้วยอายุของเรา คือตอนแรกไม่เปิดใจเพราะกลัวค่ะ ด้วยความที่หน้าตาเขาดี การศึกษาก็ดี ดีทุกอย่าง พูดตรงๆ เลยว่าสาวเยอะหรือเปล่า กลัวคุยหลายคน แต่พอลองคุยไป มันไม่เหมือนสิ่งที่เราคิดไว้ เขาเรียบร้อยมาก ไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน แต่เล่นกีฬา อ่านหนังสือ เจอกันครั้งแรกถามว่า เบนซ์ทานอะไรครับ เขาต่างจากเรามาก คนละขั้วกันเลย”
แก๊ป : “ก็เลยเข้ากันได้ดีไงครับ”
เบนซ์ : “อยู่กับเขาแล้วเราอุ่นใจ เหมือนเขาเป็นพ่อเป็นเพื่อนที่ดี เป็นพ่อคุณทูนหัว เลยลองเปิดใจกับพี่เขาดู เพราะอยู่แล้วสบายใจและอบอุ่น”
แก๊ป : “ก่อนหน้านี้ผมขี้อายมาก เป็นอินโทรเวิร์ต แต่เขาช่วยผมตรงนั้น”
เบนซ์ : “เรื่องความต่าง จริงๆ เบนซ์เป็นธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่คบกัน เราอยากให้เขาคบในตัวตนของเรา ในที่เราเป็นแบบนี้ ถ้าเขารับเราไม่ได้ มันก็ยากกับการใช้ชีวิตคู่ แล้วเบนซ์ว่าตัวพี่เขาเอง ปรับเพื่อเบนซ์เยอะมากนะ”
แก๊ป : “ก็ไม่ได้เยอะมาก ผมก็เป็นตัวของตัวเอง เบนซ์เขาเป็นคนมีเหตุมีผล เวลาคุยกันเรามก็ใช้เหตุและผลในการคุย เลยจูนกันได้ดี เห็นสนุกสนานบ้าบอแบบนี้ แต่จริงๆ เขามีสาระมากนะครับ" (หัวเราะ)”
เบนซ์ : “เบนซ์ชอบที่พี่เขาพูดตรง ถ้ามีปัญหากันเขาจะพูดเลย ว่าอันนี้พี่ไม่ชอบนะ เลยทำให้เรารู้สึกว่าแบบนี้ดี พอพูดจบเราก็รู้แล้วว่าอ๋อ มันเป็นแบบนี้นะ แล้วก็ปรับตัวเข้าหากัน”
เล่าโมเมนต์ขอแต่งงาน
แก๊ป : “การขอแต่งงานก็เซอร์ไพรส์ระดับหนึ่งครับ ตอนแรกอยากขออีกที่หนึ่ง แต่เป็นสถานที่เก่าแก่มาก ทางนั้นเขาเลยไม่อนุญาตในการถ่ายภาพ เลยต้องเปลี่ยนแผน เลยไปขอที่ปารีสแทน เพราะฝรั่งเศสก็เป็นเมืองที่โรแมนติกมากๆ”
เบนซ์ : “จริงๆ เรามีการคุยกันในเบื้องต้น ว่าถึงเวลาแล้วนะ ที่เราจะใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกัน เขาก็เดินๆ อยู่ในห้างๆ หนึ่ง แล้วบอกว่าเราไปดูแหวนกันดีกว่า ก็นึกว่าจะเป็นเครื่องประดับของเขา แต่เซอร์ไพรส์คือเขาบอกว่าเลือกเลยอยากได้อันไหน หนูก็ถามว่านี่เซอร์ไพรส์ตรงไหน แล้ววันนั้นเรา 5 ปีพอดีเลย เขาก็บอกงั้น 5 ไปเลย”
แก๊ป : “มีศาสดาจารย์ท่านหนึ่งที่ผมนับถือมากๆ เขาบอกว่าถ้าจะแต่งงานกับใคร อย่าเลือกคนที่เราอยู่ด้วยได้ ต้องเลือกคนที่เราขาดเขาไม่ได้ ผมก็รู้สึกว่ากับเบนซ์ผมขาดเขาไม่ได้ครับ ความน่ารักของเขาทำให้ทุกๆ วันของผมมีความสุข เราคอยช่วยกัน คอยเตือนกัน เขามาเจตนาดีๆ ไม่ใช่แค่กับผม แต่เป็นครอบครัวและคนรอบข้างของผมด้วย”
เบนซ์ : “ได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกดีค่ะ เพราะเราเองก็อยากมีรักแท้เหมือนกับผู้หญิงทั่วๆ ไปค่ะ แล้วเราก็ได้เจอรักแท้แล้ว การจะมีครอบครัวมันไม่ได้เหมือนละคร ทุกอย่างมันคือการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ค่ะ มันไม่ใช่ละครที่จบแฮปปี้เอนดิ้ง ทุกๆ วันมันจะต้องมีการปรับไปเรื่อยๆ ดีบ้างร้ายบ้าง แต่ก็อยากให้พี่แก๊ปจับมือหนูไว้ทุกๆ วันค่ะ เบนซ์ไม่อยากให้คำมั่นสัญญาอะไรเลย เบนซ์อยากให้ทุกอย่างมันคือการกระทำ ที่ทำไปในทุกๆ วัน แล้วก็อยากให้พี่แก๊ปยิ้มได้ทุกวันที่อยู่กับเบนซ์ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
แก๊ป : “แต่นี้ก็เป็นคำมั่นสัญญาแล้วนะครับ พระท่านได้เทศน์ไว้เมื่อวาน ว่าต้องอยู่ดูแลกัน รักกัน แล้วผมก็ได้ให้คำมั่นสัญญาที่โบสถ์แล้ว ว่าผมจะพยายามดูแลเบนซ์และครอบครัวเบนซ์ และก็จะรักกันมากขึ้นในทุกๆ วัน”
เบนซ์ : “เขาเป็นคนที่พูดคำไหน คำนั้นจริงๆ เขาทำได้จริงๆ เบนซ์เลยรู้สึกว่าคนนี่แหละ ที่เรารู้สึกมั่นใจและมั่นคง เพราะเขามีความเป็นผู้นำจริงๆ เราเป็นคนสบายๆ เล่นๆ มันต้องมีคนหนึ่งมาเบรกเรา”
คุณแม่ฝ่ายชายกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ในพิธีการเมื่อวานนี้
เบนซ์ : “มีคุณแม่พี่แก๊ปค่ะ ที่อวยพรเราตอนรับไหว้ แล้วก็มีญาติของเบนซ์ด้วย เพราะทั้งตระกูลมีเบนซ์คนเดียวที่ได้แต่งงานก่อนทุกคน ก็เป็นโมเมนต์ที่อบอุ่นค่ะ”
แก๊ป : “ผมเองไม่เคยเห็นคุณแม่น้ำตาไหลเลยครับ ท่านซึ้งมาก”
แพลนฮันนีมูนปีหน้า ส่วนแพลนปั๊มลูกเริ่มเลย คิดไว้อยากมี 12 คน
แก๊ป : “ฮันนีมูนอาจจะเป็นปีหน้าครับ กำลังดูอยู่ว่าที่ไหน ส่วนเรื่องมีลูกก็จะพยายามเลยครับ สำหรับผมเริ่มเลยครับ ถามว่าอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว ก็ได้ทั้งคู่เลยครับ”
เบนซ์ : “เบนซ์เริ่มทุกวัน (หัวเราะ) เบนซ์ก็อยากได้ทั้งคู่เลย ยังไงก็ได้ คุยกับพี่แก๊ปว่าถ้ามีลูก หนูขอ 12 คนได้ไหม แต่ด้วยอายุคงไม่ทันแล้วแหละ”
ไม่ทิ้งงานในวงการบันเทิง อยากทำงาน อยากหาเงินด้วยตัวเอง
เบนซ์ : “ส่วนงานในวงการก็ยังทำอยู่ค่ะ ยังไม่หายไปไหน ยังรักวงการบันเทิงอยู่ ยังอยากทำงานอยู่ ตอนนี้อยากให้วงการบันเทิงของไทย ช่วยสนับสนุนกันให้ดีขึ้นกว่านี้หน่อย (หัวเราะ) ช่วงนี้ไม่มีละครให้เล่นเลย อยากทำงาน แต่เงียบกันหมดเลย น่าเหนื่อยใจเหลือเกิน (แต่เราเป็นสะใภ้เจ้าของโรงแรมแล้ว?) เราต้องทำงานอยู่ดีค่ะ เราแยกกันทำงาน เพราะเบนซ์ก็มีธุรกิจของเบนซ์ เราอย่าไปเบียดเบียนเขา เป็นผู้หญิงที่สวย มีความรู้ ฉลาด เราต้องหาเงินด้วยตัวเองค่ะ แต่เตรียมย้ายมาอยู่พัทยาเป็นหลัก เพราะอยากให้เป็นครอบครัวค่ะ”
ยังไม่ได้ดูฤกษ์จดทะเบียนสมรส
เบนซ์ : “ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ เดี๋ยวต้องดูฤกษ์ก่อน ว่าวันไหนยังไง ก็น่าจะใช้นามสกุลพี่แก๊ปค่ะ”
