“แพท” ละทางโลก บวชรอบ 2 ที่อินเดีย 2 สัปดาห์ บวชครั้งนี้ไม่ง่าย เตรียมตัวอย่างหนัก 3 เดือน ต้องซ้อมสวดมนต์ที่วัดทุกสัปดาห์ มีการสอบในการเข้าพิธีอุปสมบทอย่างเข้มข้นมาก เผยตั้งใจไปศึกษาธรรมะ และรับพลังบุญ บวชแล้วเข้าใจชีวิตมากขึ้น
หลังจากเมื่อปี 2564 เคยบวชทดแทนคุณบิดา-มารดา มาแล้วหนึ่งครั้ง ล่าสุด “แพท ภฤศ บุญทองนุ่ม” หรือชื่อเดิม “แพท วรยศ บุญทองนุ่ม” นักร้องนำวงพาวเวอร์แพท ก็ได้ละทางโลกอีกครั้ง โดยวันที่ 7 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เข้าพิธีปลงผมนาคที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ท่ามกลางความรู้สึกปลาบปลื้มใจ มีคุณพ่อ-คุณแม่ และครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าในวันสำคัญของแพท ก่อนจะบินไปอุปสมบทที่ประเทศอินเดีย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ มีฉายาทางธรรมว่า “กันตสีโล”แปลว่า ผู้มีธรรมที่น่ารัก พร้อมเผยเหตุผลที่บวชครั้งที่สอง
“จุดเริ่มต้นมาจากที่ผมเองก็บวชอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ อยู่แล้ว แล้วก็มีความคุ้นเคย พอมีเวลาเราก็จะเข้ามากราบพระอาจารย์ ท่านเจ้าคุณพระธรรมวชิรปาโมกข์ รวมถึงท่านเจ้าอาวาส สมเด็จพระธีรญาณมุนี ท่านก็ให้ความเมตตาในการชักชวนผม ให้มาบวชอุปสมบทหมู่ในครั้งนี้ ซึ่งทางวัดเทพศิรินทร์ ได้มีการจัดอุปสมบทหมู่ที่ประเทศอินเดียมาทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งปีนี้เป็นปีที่พิเศษ ผมได้มีโอกาสบวชในครั้งนี้ด้วย
เป็นการไปอินเดียครั้งแรกในชีวิต รวมถึงการอุปสมบทที่อินเดียครั้งแรกในชีวิตเช่นกัน ทั้งหมด 69 รูป รวมคณะเดินทางน่าจะเป็นร้อยชีวิต แล้วจะมี 1 วัน ที่ต้องไปจำวัดที่ประเทศเนปาลด้วย แล้วก็จะเดินทางไปยังสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาต่าง ๆ เรียกว่าเดินทางตามรอยของพระศาสดาของศาสนาพุทธเรา ก็ไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระพุทธประวัติ ไปปฏิบัติธรรมรับพลัง และไปถือศีลภาวนาด้วยก็เป็นการเปิดประสบการณ์ และเป็นการแสวงบุญในรูปแบบที่รุ่นพี่เขาบอกว่า น่าจะได้รับพลังไปเต็ม ๆ เลยครับ
ฉายาทางธรรม กันตสีโร แปลว่าผู้มีธรรมที่น่ารัก ครั้งนี้จะบวชประมาณ 2 สัปดาห์เหมือนเดิมครับ เพราะเรามีภาระหน้าที่ มีงานที่จ่อคิวอยู่ มีจองมาแล้วด้วยตอนนี้”
เตรียมตัวก่อนบวช 3 เดือน ต้องซ้อมสวดมนต์ที่วัด สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
“มีการซ้อมสวดมนต์ แล้วก็ทำความเข้าใจในเรื่องของการบวชครั้งนี้ ก็เตรียมตัวกันมากว่า 3 เดือน ซึ่งก็ต้องแบ่งเวลาในการจัดการตารางชีวิตของตัวเอง ตอนแรกจะเป็นทุกวันอาทิตย์ ถัดมาก็เป็นวันเสาร์ ซึ่งก็จะต้องเดินทางมาที่นี่(วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร)ในช่วงบ่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมสวดมนต์ ฝึกซ้อมคำขอบวชต่าง ๆ ซ้อมพิธีการ เรียนพระวินัย ซ้อมห่มผ้า รวมถึงเกร็ดความรู้ในการเดินทางไปประเทศอินเดีย
ทุกอย่างมีการเตรียมพร้อม มีการสอบในการเข้าพิธีอุปสมบท ในการท่องการสวดต่าง ๆ ซึ่งเข้มข้นมาก ๆ พระอาจารย์ที่สอนก็ให้ความใส่ใจกับทางลูกศิษย์อย่างยิ่ง เรียกว่าไม่ง่ายครับกว่าจะได้บวชครั้งนี้ ประมาณ 3 เดือนครับ ในการที่เราจะต้องมาเตรียมพร้อมตรงนี้ และก็มีเรื่องของเอกสารด้วย ต้องไปทำพาสปอร์ต ทำวีซ่าขอเข้าประเทศ เป็นวีซ่าชั่วคราว ทั้งของอินเดียและเนปาล ก็จะมีขั้นตอนหลาย ๆ อย่างที่เป็นรายละเอียดด้วยครับ”
ปลงผมนาคที่วัดเทพศิรินทร์ และไปบวชที่อินเดีย
“เราจะไปทำพิธีบวช เหมือนที่เราเคยบวชครั้งแรกเลยที่ประเทศอินเดีย พระอาจารย์ก็ท่านเดิม แล้วก็จะมีความแตกต่างจากครั้งแรก คือบวชเป็นหมู่คณะ แล้วการทำพิธีต่าง ๆ อาจจะมีขั้นตอนต่าง ๆ ที่เราต้องไปซักซ้อมเหมือนที่ผ่านมา 3 เดือนที่แล้ว แล้วเวลาเดินทางก็จะมีขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมในการที่จะทำอะไรให้เหมือน ๆ กัน”
การบวชครั้งที่ 2 ง่ายขึ้นกว่าครั้งแรก
“ไม่ยากครับ มันง่ายขึ้น เรามีความเข้าใจพิธีการ และพอจะจดจำคำสวด คำขอบวชต่าง ๆ ได้ ซึ่งก็อาจจะมีการทบทวนซักซ้อมเพิ่มเติมให้แม่นยำขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน แต่ก็ไม่นานมากแล้วก็มีผู้ร่วมเข้าบวชหลายท่าน อันนี้ก็น่าจะเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเพื่อนไปด้วย แล้วก็สบาย ๆ กว่าคราวที่แล้วเยอะเลย”
ความแตกต่างระหว่างการบวชครั้งแรกกับครั้งที่สอง
“ครั้งนี้จะสบายกว่าเยอะในเรื่องของจิตใจ เพราะเราทราบหมดแล้ว เราไม่ได้มีความกังวลใด ๆ ทราบหมดแล้วว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร การเป็นพระต้องปฏิบัติอย่างไรบ้างแล้วก็ได้มีการเดินทางไปตามที่ต่าง ๆ ด้วย อันนี้น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้เราได้ความรู้และเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิตของเราเลย
ส่วนสิ่งที่เหมือนกันคือบรรยากาศในการบวช เพราะเราก็บวชที่นี่ในครั้งแรก แล้วทางพระอาจารย์รูปต่าง ๆ ก็คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่มาร่วมบวชในครั้งนี้ ก็เป็นลูกศิษย์ของทางหลวงพ่อสมเด็จอยู่แล้ว ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีครับ (ตอนที่ปลงผมนาค ความรู้สึกเหมือนตอนแรกไหม?) ไม่เหมือนครับ ทุกอย่างก็สบายมากขึ้น เป็นพิธีที่ง่ายมากขึ้นครับ”
ยังจำความรู้สึกของการบวชครั้งแรกได้เป็นอย่างดี
“อันนั้นเป็นความตั้งใจที่เราอยากจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่ ก็จะเป็นในแง่ของการบวชทดแทนพระคุณ ใจเราอาจจะมีความซีเรียสความจริงจัง แต่ครั้งนี้จะสบายๆ เหมือนเราไปรับพลัง เพื่อที่จะกลับมาทำงาน และส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ว่าผมส่งพลังบวกให้กับทุกคน(เป็นวิทยากรตามที่ต่าง ๆ) แต่ผมเองก็ต้องไปชาร์จด้วย เหมือนแบตเตอรี่ ปล่อยออกไปทุกวันมันอาจจะหมดได้ ต้องไปชาร์จเพิ่มครับ”
“สิ่งที่ตั้งใจคือไปรับพลัง ศึกษาธรรมะ และรับพลังบุญ แล้วก็ไปทำบุญ สวดมนต์ ไปศึกษาพระพุทธประวัติ ไปเรียนรู้ว่าบ้านเมืองเขาเป็นอย่างไรครับ”
2 สัปดาห์ที่อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ กับสิ่งที่แพทจะได้เรียนรู้กลับมา
“ที่แน่ๆ เลยคือประสบการณ์ในการไปอินเดีย ว่าบ้านเมืองเขาเป็นยังไง ศึกษาในเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้า รวมถึงเดินตามรอยของพระพุทธองค์ ในแง่ของพระพุทธประวัติต่าง ๆ สถานที่ต่าง ๆ ที่มีจารึกไว้ เรียกว่าไปตอกย้ำความเชื่อ ว่าศาสนาพุทธมีจริงนะ พระพุทธเจ้ามีจริงนะ รวมถึงไปนำบุญกลับมาฝากญาติโยมทุกคนด้วย แล้วก็มีญาติสนิทมิตรสหายหลายท่านฝากปัจจัยไปทำบุญที่โน่นด้วย ก็น่าจะได้บรรลุวัตถุประสงค์กันครับ”
เป็นการไปอินเดียครั้งแรก แต่ไม่ตื่นเต้น
“ไม่ตื่นเต้นเลยครับ รู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากกว่า ไม่เรียกว่าตื่นเต้น รู้สึกชิลล์ด้วย เพราะมันเหมือนกับการได้พักสมองด้วย อยู่กับคำสอน อยู่กับบรรยากาศในศาสนาพุทธ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราได้ผ่อนคลายสมองจากการทำงานหนักของเรา เพราะที่ผ่านมาเราทำงานไม่มีวันหยุดเลย แล้วก็ต้องรับผิดชอบงานในหลาย ๆ ส่วน ตอนนี้ก็เหมือนได้พักเบรกชาร์จพลังบ้างครับ”
ตอนบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าจะบวชอีกครั้ง ทั้งสองท่านอวยพรให้สำเร็จตามที่ตั้งใจ
“ท่านบอกว่าก็ดีแล้ว ท่านบอกว่าดี ยินดีด้วย ขอให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ ท่านก็อวยพรให้สำเร็จตามที่ตั้งใจ”
ขอบคุณแฟนคลับที่ร่วมอนุโมทนา
“ก็อนุโมทนา แล้วก็มีฝากปัจจัยต่าง ๆ มีทำบุญด้วยครับ ตรงนี้ก็ขอบคุณทุกคนมาก ที่มาร่วมอนุโมทนาบุญกัน ก็ขอบคุณทุกคนมากที่ร่วมยินดีกับการบวชครั้งที่สองของผมตรงนี้ เชื่อว่าคงจะได้นำบุญกลับมาฝากทุกคนได้อย่างเต็มเปี่ยมแน่นอนครับ”
ไปบวชนาน 2 สัปดาห์ เคลียร์งานล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
“พอเราแพลนเรื่องบวช ก็ได้มีการเคลียร์งานไว้ล่วงหน้าแล้วครับ อย่างบางงานที่ติดต่อมาก่อนหน้านี้แต่ตรงกับช่วงที่บวช ก็มีที่เขารอเราได้ และเลื่อนคิวรอผมกลับมา ซึ่งต้องขอบคุณมาก ๆ ครับ ส่วนงานอื่น ๆ ของบริษัทอย่างผลไม้แปรรูปก็มีคนในครอบครัวดูแลต่อให้ช่วงที่ผมไม่อยู่ มีทีมมาดู มาฟัง(บริษัทของแพท) ขายในออนไลน์TikTokให้และไปออกบูธแทน เพราะงานของผมบางงานสามารถให้คนทำแทนผมได้ครับ เลยไม่มีอะไรต้องห่วง”
ชีวิตหลังสึก ไม่ได้คาดหวังอะไรเป็นพิเศษ อยากรับผิดชอบสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
“ผมไม่ได้คาดหวังครับ มีงานอะไรทำเราก็ทำไป มีโอกาสอะไรเข้ามาก็ทำไป ให้เป็นเรื่องของอนาคตไป รับผิดชอบสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดีก็พอแล้วครับ (หลังสึก 1 วันก็มีงานรอแล้ว?) ใช่ครับ งานจริงๆ ก็มีตลอดอยู่แล้ว เพราะเราทำงานหลายอย่าง”
ทุกครั้งที่แพทบวช สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ มีความเข้าใจชีวิตมากขึ้น
“มันก็ทำให้เรามีความรู้มากขึ้น มีความเข้าใจชีวิตมากขึ้น ทำให้เรามีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น รู้จักคนเยอะขึ้น มีประสบการณ์ในเรื่องของทางธรรมเยอะขึ้น ในการที่จะนำมาปรับใช้ในทางโลกด้วย เรียกว่าเป็นการศึกษาธรรมะที่สามารถเรียนรู้ได้เรื่อย ๆ ตลอดชีวิต คำสอนพระพุทธเจ้าคือสัจจะจริงของโลกอยู่แล้ว”