รู้จักกันเกินกว่า 20 ปี สำหรับความสัมพันธ์ของ 2 เพื่อนซี้ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล“ และ “น้ำฝน กุลณัฐ กุลปรียาวัฒน์” ที่ควงกันมาออกรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องOne31 กับเรื่องราวตั้งแต่เดย์วันที่รู้จักกัน จนมาถึงตอนนี้ที่จะเข้าเลข 5 ในอีกไม่กี่ปี พร้อมความลับที่มาพูดที่นี่ครั้งแรก
สนิทกันเพราะ?
ธัญญ่า : ตอนนั้นไปถ่ายหนังที่ต่างประเทศ เรื่อง ยุกยิกหัวใจหยิกกัน และเขามีปัญหาเรื่องความรัก เขาก็เลยมาหาเราที่ห้องทุกคืนเลย มาปรึกษา เพราะคนที่คบกับฝนนั้น เพื่อนของเราก็คบด้วย มันก็เลยมีประเด็น มันก็เป็นจุดกำเนิดที่ทำให้เราสนิทกัน แล้วถ่ายที่นั่นเกือบเดือน
น้ำฝน : จะเล่า แต่ก็อึดอัดนะ ก็เป็นคนในวงการบันเทิงนี่แหละ เรามีปัญหาหัวใจ และธัญญ่าก็รู้จักกับคู่กรณี และคู่กรณีก็ต้องการจะเคลียร์ ซึ่งฝนก็แสดงความจริงใจว่า เราก็ไม่รู้นะว่าความจริงมันคืออะไร แต่มันก็ไม่ถึงกับมือที่สามหรอกนะ แต่จะเป็นเชิงว่าคบซ้อน
แต่พี่ญ่าเป็นคนที่สนิทด้วยยาก เพราะเป็นคน Introvert ?
ธัญญ่า : เราเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เพื่อนไปเที่ยวกัน เราก็ไม่ไป ทำงาน เรียน กลับบ้าน ชีวิตมีอยู่แค่นี้ แต่พอมาวันนึง อายุ 26 แล้ว ไปปาร์ตี้ ไปเที่ยว เฮ้ย มันสนุกจังเลย ส่วนฝนเขาบอกว่าเบื่อแล้ว พูดมึงกูว่า กูใจแตกก่อนมึงมาแล้ว 8 ปี เขาบอกว่าเขาเหนื่อย ก่อนหน้านี้เราไม่ใช่คนดื่ม แต่พอตอนนั้น เราก็สงสัยว่ามันอร่อยตรงไหน เราก็เลยบอกว่าลองซิ ลองเมา พอดื่มแรก โอ้โห ทำไมมันสนุกอย่างนี้ เหมือนเป็นการเบิกเนตร (หัวเราะ) มันเหมือนเป็นการเปิดโลก
น้ำฝน : คือญ่า ถ้านั่งปกติแบบที่เรากำลังนั่งสัมภาษณ์ เหมือนว่าเขาไม่มีอะไร แต่มีอยู่เหตุการณ์นึง เขาบอกไปเข้าห้องน้ำ พอกลับมา ก็เป็นอีกคนไปเลย เราก็ตกใจ เพื่อนเราเป็นอะไรเนี่ย ถึงขั้นจะถกกระโปรงขึ้นก็มี (หัวเราะ) และอย่าใช้คำว่าปัสสาวะได้ทุกที่ แต่เราแค่คิดว่า ทุกที่สามารถปัสสาวะได้ อันนี้เป็นทั้งคู่
ธัญญ่า : ก็คือมีปาร์ตี้หนึ่ง ที่ริมทะเล เราเดินไปที่ริมชายหาด แล้วก็นั่งปัสสาวะเลย ตอนนั้นใส่กระโปรงนะ แต่เราก็จะมีเพื่อนๆ คอยดูแล เทคแคร์อยู่
พี่เป็กเคยเห็นพฤติกรรมแบบนี้ไหม ?
ธัญญ่า : ก็เคยเห็นนะ เพราะว่าพี่เป็ก ถ้าเห็นว่าเราเมา เขาจะรีบขึ้นนอน เพราะเขาจะเห็นว่าเราแปลงร่าง เขากลัวว่าเรื่องราวในอดีตที่เราเคยโมโหเขา มันจะกลับมาหมดเลย อยู่กับเพื่อนเราสนุก แต่อยู่กับเขา เราจะโกรธ อันนี้หมายถึงเวลาเราแปลงร่าง
น้ำฝน : จำได้ไหมตอนที่ขึ้นไปเกาะฝากระโปรงรถ (กระซิบที่หู)
ธัญญ่า : จริงหรอ (หน้าเหวอ) จำไม่ได้
น้ำฝน : เหตุการณ์ตอนนั้นคือ พี่เป็กกำลังจะขับรถออกไป แล้วแกก็จะเข้าห้าม แล้วแกก็กระโดดไปเกาะที่กระโปรงรถ จำได้ว่าตอนนั้นโทรไป เล็บงอก เขางอก แปลงร่างเป็นอีกคนแล้ว เอาเป็นว่า ล็อตหลังๆ ที่เกิดขึ้น ดูเบาไปเลย
ความสูงสุดของธัญญ่า รุนแรง แค่ไหน?
น้ำฝน : นางฟ้ากับปีศาจ ไม่ใช่คำว่าหึง แต่ถ้าเขารู้สึกโมโห เราจะไม่ใช้คำว่าหักหลัง บางครั้ง เราก็ต้องโกหก เพื่อให้เพื่อนไปต่อ แต่พอเขาจับได้ เขาโกรธ เขาโทร.มาเลยนะ ไหนมึงบอกว่า…. กูขอโทษ แต่นางก็ร้องไห้นะ เราก็รู้สึกว่า เราไม่น่าหวังดีประสงค์ร้าย จริงๆ เพื่อนก็อยากรู้ความจริง ต่อจากนี้มีอะไรก็พูดความจริง จะรู้ไม่รู้ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ธัญญ่า : พอมารู้ที่หลังมันก็โกรธ แต่มันไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ทำให้เราต้องเลิกคบกัน ส่วนเรื่องที่น้อยใจ ก็คือเพื่อนมาส่งกลับบ้าน แต่เรายังรู้สึกว่าสนุกอยู่ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เพื่อนทิ้ง ร้องไห้อยู่คนเดียว
น้ำฝน : คือเรารู้จักกันมาตั้งนานแล้ว คนนี้คือจะให้อภัยก็คือให้อภัย จบก็คือจบ เรารู้แล้วว่าเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้ ถ้ามีประเด็นอะไร ก็พูดไปเลย ไม่อยากโกหกเพื่อน
ธัญญ่า : มองตาก็รู้ใจ รู้กันทุกเรื่อง อย่างเคยมีปัญหาความรักพร้อมกัน เขาก็มี เราก็มี ต่างคนต่างปรึกษากันในเรื่องของตัวเอง พยามช่วยกันหาทางออก จนฝนพูดว่า เราเป็นผู้ป่วยที่รักษาผู้ป่วยด้วยกันเองเนอะ จะหายกันไหมเนี่ย
สิ่งไหนที่ทำให้ฝนเฟลที่สุด สำหรับเรื่องความรัก?
ธัญญ่า : ถ้าเห็นเขาเฮิร์ตที่สุด ก็คือเรื่องครอบครัว คุณพ่อเสีย คุณแม่เสีย พี่ชายอีก ยังเคยพูดกับฝนเลยว่าถ้าเป็นเรา เราคงรับไม่ได้ เพราะเขาสูญเสียหลายคนมากในครอบครัว
น้ำฝน : เรื่องที่ทำให้ธัญญ่าเฮิร์ต ก็น่าจะเรื่องที่ไปอยู่อเมริกา ที่เอาลียาไป ขอโทษนะคะพี่เป็ก ขอเล่านิดนึง ตอนนั้นเขาไม่ได้สตรองขนาดนี้ ในชีวิตทุกคนก็ต้องเจอมรสุม ประสบการณ์มันจะทำให้เราแข็งแรงขึ้น แต่วิธีของธัญญ่าคือ กลับไปตั้งหลักใหม่ เราก็วิดีโอคอลคุยกัน เห็นเขาทำบุญ สวดมนต์ เพราะวันที่เขาสตรองปุ๊บ เขาก็รับเรื่องราวของพี่เป๊กได้ทุกเรื่อง แต่เราก็ ไม่ชอบยุให้ใครเลิกกัน
ธัญญ่า : ช่วงนั้นที่มีปัญหา เรารู้สึกว่าเราไม่เอาแล้ว แต่ฝนเข้าไปดูรายการหนึ่ง ดาราคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ว่าครั้งหนึ่งเคยชีวิตรุ่งเรือง แต่พอผ่านไป ชีวิตลำบาก นางก็โทร.มาหาเลย บอกว่ามึงดูรายการนี้ยัง ถ้ามึงแก่แล้ว ไม่มีงาน มึงจะอยู่ยังไง ซึ่งเราเอามาคิดนะ โทร.มาแบบว่าอย่าเลิกนะ เราทิฐิสูง ใครโทร.มา เราก็ค้านในใจตลอด โกรธ เลิก แต่นั่นแหละค่ะ สุดท้ายก็อยู่กับมาถึงทุกวันนี้ (หัวเราะ)
แต่สามีของฝนเอง เจ้าระเบียบมาก ถึงขั้นโทร.มาบ่นให้ฟัง?
น้ำฝน : เขาเป็นคนที่เป๊ะมาก เจ้าระเบียบมาก เราก็โทร.มาบ่นให้เขาฟังบ้างว่า อะไรกันวะ มันก็เป็นการแลกเปลี่ยน เป๊ะในเรื่องอาหาร ไม่กินปู ไม่กินหมู กุ้งปูหอย เขาไม่ได้ห้ามฝน แต่เขาขอว่า อย่าทานต่อหน้าลูก อะไรที่ว่ายน้ำกินได้แต่ปลา อะไรที่อยู่บนบกกินหมูไม่ได้ คือเหมือนคนอิสลามไม่กินหมู แต่แฟนฝนเป็นยิว เขาก็จะเลี้ยงลูกเป็นในเวย์นั้น แต่ถ้าลูกอายุ 18-19 ก็สามารถให้เขาเลือกเองได้ว่าเขาจะทำยังไง แต่ ณ ตอนนี้ เขาชอบพูดว่า ฉันคงทำอะไรไม่ได้ แต่ฉันคงจะไม่แฮปปี้ พอเราฟังปุ๊บ เหมือนจะไม่กดดัน แต่ก็กดดันเนอะ คือยิว จะเกิดเป็นยิว แม่ต้องเป็นยิวเท่านั้น คือถ้าเราต้องเปลี่ยน เราก็กลัวว่าเราจะทำได้ไม่ดีพอ พอเราไม่เปลี่ยน มันก็จะมีดีเทล ส่วนลูกถ้าจะเปลี่ยนศาสนาเอง ก็ตอนอายุ 13 ปี แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันก็ไม่ได้อึดอัด
แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นสาวรักสุขภาพ?
ธัญญ่า : ถึงวัยที่ต้องดูแลสุขภาพ ไม่อยากป่วย ด้วยความที่ฝนมีลูกช้า เขาแต่งตอน 39 เขาตั้งเป้าว่าเขาจะไม่มีลูก เขาก็บอกว่าจะให้มานั่งป้อนนม เป็นยายเพิ้ง และเพื่อนๆ ไปเที่ยวกัน ตัดภาพมาฉันอยากมีลูก
น้ำฝน : คุณสามีก็จะมีวิธีการพูด ฉันไม่เคยจินตนาการ ว่าฉันไม่มีลูก แล้วถ้าไม่มียัง จะเป็นยังไง ฉันก็ไม่แฮปปี้ เราก็คนนึงก็ได้ พอมามีคนที่สอง สามีพูดว่าฉันไม่เคยจินตนาการ ว่าฉันมีลูกคนเดียว ใครก็ได้ ช่วยแก้จินตนาการหน่อย การมีลูกของเรา มันทำให้เราไม่เหงา แม่ของเราเคยพูดว่า อยากให้เรามีลูก ตอนนั้นเราไม่เข้าใจ แต่พอตอนนี้เราเข้าใจแล้ว เรากอดลูก แล้วเราหาย แล้วพอเรามีลูกคนแรก ญาติของเราก็เสียไปเยอะ เราก็คิดว่าแล้วเขาจะอยู่กับใคร งั้นก็เลยต้องมีให้เขาอีกคนนึง ซึ่งมีสองคนพอแล้ว ด้วยอายุก็ไม่ไหวแล้ว
คือคุณน้ำฝน มีโรคอะไรนะที่แพ้ท้องหนักมาก?
น้ำฝน : โรคเรย์ซินโดรม คืออยู่เฉยไม่ได้ พอเรามีลูกปุ๊บ สามเดือนแรกห้ามออกกำลัง มันทำให้เรานอนไม่หลับ เราก็ไปหาหมอ หมอก็วิเคราะห์มาแล้วว่าเราเป็นโรคขาหยุดพักไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือ ก็ต้องทำให้มันเหนื่อย มันก็เลยต้องทำให้เดิน วันละ 1 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่เราท้องอยู่ ประเด็นมันก็ทำให้เราหลับ แล้วมันก็อีกตอนที่เราท้องอยู่ เราก็เหมือนจะเป็นซึมเศร้า เพราะย้อนกลับไป เราไม่อยากมีลูกไง ฉันจะรอดไหม
ธัญญ่า : ในเรื่องของการมีลูกคนที่สอง ก่อนหน้านี้เราก็พยายาม แต่อีกสองปี 50 แล้ว ก็คือพักไปเลย มีลูกคนเดียวพอ
เพื่อนรักตลอด 20 กว่าปี ?
น้ำฝน : ก็ขอบคุณ สำหรับมิตรภาพ ที่มีมาให้ตั้งแต่เด็กๆ เลยว่าเขาจริงใจแต่วันแรก เขาเสมอต้นเสมอปลาย โทรไปยังไงก็เหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องคุยกันทุกวันก็ได้ เพราะมีปัญหา มันก็จะมีเพื่อนคนนึง ที่พร้อมจะช่วยเราเสมอ
ธัญญ่า : สำหรับฝน เขาผ่านอะไรมาเยอะ เรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงที่สตรอง ที่เก่งมาก เขาสามารถยืนหยัดอยู่ได้ เป็นแม่ที่ทุ่มเทให้ลูกมาก ภูมิใจที่เขาเป็นเพื่อน รักนะ