"เอ็ม อภิดิศร์" ฟ้องกลับดาราสาวกล่าวหาวางยาขืนใจ หลังศาลยกฟ้องชี้หลักฐานส่อ "สมยอม" ด้าน "ทนายตั้ม" โดนด้วย

เป็นข่าวดังเมื่อสองปีที่แล้วสำหรับ "เอ็ม" อภิดิศร์ (อินทุลักษณ์) นักธุรกิจ ซีอีโอ บริษัท Aphi Enterprise หลังเจ้าตัวตกเป็นจำเลยกรณีดาราสาวอักษรย่อ "น." แจ้งความอ้างว่าถูกเจ้าตัววางยาข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่รู้ตัวภายในพลูวิลล่าแห่งหนึ่ง ในซอยนาคนิวาส 8 เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 9 ส.ค. 2565

อย่างไรก็ตามหลังเป็นคดีมานานเกือบ 2 ปี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาศาลก็ได้ตัดสินคดีนี้ออกมาแล้วโดยให้ยกฟ้องจำเลยเนื่องจากประจักษ์พยานหลักฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลิปวิดีโอในที่เกิดเหตุที่บ่งชี้ให้เห็นว่าฝ่ายหญิงไม่ได้หลับหมดสติจากการโดนวางยาหลังดื่มโซจูและถูกจำเลยข่มขืนโดยไม่รู้ตัวกระทั่งผ่านไปเกือบ 1 วันตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

จากผลการตัดสินดังกล่าวที่ออกมาล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่าในตอนนี้ทางด้านของฝ่ายชายได้ยื่นฟ้องกลับไปยังฝ่ายหญิงแล้วในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากอีกฝ่ายมีการไปออกรายการทีวีใส่ความตัวเองโดยเรียกค่าเสียหายฝ่ายหญิงเป็นจำนวนหลายล้านบาท

นอกจากนี้ทางผู้เสียหายยังเตรียมที่จะยื่นเรื่องฟ้องไปยัง "ทนายตั้ม" หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่ตอนแรกจะเข้ามาทำคดีให้ฝ่ายหญิงแต่ได้ถอนตัวไปหลังเจ้าตัวมีการไปพูดในรายการทีวีทำนองว่าทางผู้เสียหายมีการถ่ายคลิปอนาจารไว้ ทั้งที่คลิปดังกล่าวซึ่งเจ้าตัวได้มีโอกาสเห็นแล้วเป็นคลิปที่ทางผู้เสียหายนำมาใช้เป็นหลักฐานสู้คดีความจนศาลเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการสมยอมกันมากกว่า

ทั้งนี้แหล่งข่าวเผยว่าเหตุที่เจ้าตัวต้องฟ้องร้องคู่กรณีก็เพราะต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองและครอบครัวจากเรื่องที่ไม่เป็นความจริง และคดีที่เกิดขึ้นก็ทำให้ตนเองเสียโอกาสในการทำธุรกิจหลาย ๆ อย่าง

อนึ่งเมื่อย้อนกลับไปถึงช่วงที่เกิดเหตุการณ์ใหม่ ๆ ทาง "เอ็ม อภิดิศร์" ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายอุปดิศร์ ปาจรียางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตั้งแต่ในสมัยของนายกรัฐมนตรี นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (2519) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตนถูกแบล็กเมล์ พร้อมระบุด้วยว่ามีหลักฐานยันบริสุทธิ์ และข่าวที่ออกไปทำให้วงศ์ตระกูลของตนเสียหายมาก

โดยตาของตนเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจริงแต่ก็ตั้งเมื่อ 40-50 ปีแล้ว และอีกฝ่ายก็เสียไปถึง 10 ปีแล้ว การนำตาของตนมาเกี่ยวข้องนั้น รู้สึกเสียใจมาก เพราะคดีมีผู้เกี่ยวข้องคือตนเพียงคนเดียว ไม่อยากให้นำครอบครัวมาเกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีเส้นสายกับตำรวจแต่อย่างใด