xs
xsm
sm
md
lg

เกร็ดน่าสนใจ ‘วัยหนุ่ม 2544’ หนังเดือดแห่งปี 2567

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา



เข้าโรงฉายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับภาพยนตร์สุดเดือดแห่งปี “วัยหนุ่ม 2544” ซึ่งกำกับโดย พุฒิพงษ์ นาคทอง คนทำหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งจาก 4Kings ทั้งสองภาค

และอันที่จริง ถึงจะประเดิมด้วยผลงานสุดเดือดอย่าง 4Kings แต่ความจริงแล้ว วัยหนุ่ม 2544 คือโปรเจกต์ในฝันของพุฒิพงษ์ที่อยากจะทำหนังเกี่ยวกับคุกขึ้นมา ซึ่งโปรเจกต์หนังเรื่องวัยหนุ่ม 2544 นั้นถูกเขียนบทขึ้นมาก่อน 4Kings โดยใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า ‘บ้านเมตตา’ ก่อนจะมาลงตัวที่ชื่อ “วัยหนุ่ม 2544”

ภาพยนตร์เรื่องนี้พาคนดูไปสัมผัสรับรู้กับโลกหลังกำแพงเรือนจำ ซึ่งภายในนั้น มีเหตุการณ์และเรื่องราวที่คนข้างนอกยากจะรับรู้ (และคงไม่มีใครอยากจะเข้าไปรับรู้แน่ๆ จริงไหม?) อย่างไรก็ดี เรามีเกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาฝากกัน


1. เป้ อารักษ์ และ พุฒิพงษ์ นาคทอง ร่วมงานกันครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง รัก/สาม/เศร้า ซึ่งในตอนนั้นผู้กำกับพุฒิทำหน้าที่เป็น Reporter ในกองถ่าย

2. เผือกเป็นตัวละครที่มีประสบการณ์เคยเป็นมวยล้มมาตลอดว่า ซึ่งณัฏฐ์ กิจจริตเผยว่า “มันมีหลายเฉดที่ผมที่ผมชอบในการเป็นเผือกเพราะมันแบบมันอั้นดีอะ มันแบบเหมือนโดนปลดอาวุธตลอดเวลา จะต่อยตีก็ไม่ได้ร่างกายเราโดนมาแล้ว เผือกไม่มีอาวุธเป็นคำพูด ไม่มีอาวุธเป็นร่างกาย มันแบบทนๆๆ”

3. วัยหนุ่ม 2544 ถ่ายทำในช่วงหน้าร้อนปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่ร้อนที่สุด

4. หลังจากถ่ายทำภายนตร์เรื่องนี้เสร็จณัฏฐ์ กิจจริต เผยว่าเขากลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตระวังมากขึ้น

5. ณัฏฐ์ กิจจริตและเป้ อารักษ์ ตัดสินใจเล่นภาพยนตร์เรื่องวัยหนุ่ม 2544 ตั้งแต่รู้เรื่องโปรเจกต์


6. เหตุผลที่ จ๋าย อิชณน์กร ตัดสินใจเล่นวัยหนุ่ม 2544 เพราะเรื่องราวของวัยหนุ่ม 2544 เป็นโลกที่เขาไม่เคยสัมผัส

“มันเป็นโลกที่เราไม่เคยได้สัมผัส แล้วก็มีโอกาสน้อยที่จะได้สัมผัส หรือแม้แต่ได้รับรู้นะฮะ ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ดีโดยเฉพาะในฐานะนักแสดงแล้ว ที่เราจะได้ลงไปค้นคว้า ค้นหา หรือแม้แต่ลงไปรู้สึกในแบบที่ตัวละครรู้สึก” จ๋าย อิชณน์กร บอกเล่าถึงประสบการณ์ในการแสดงหนังเรื่องนี้

7. เดิมทีแล้วผู้กำกับบอกว่าจะไม่มีการลบรอบสักของจ๋าย อิชณน์กรออก

“เมคอัปรอยสักกับทำแผลเป็นใช้เวลานานครับ นานจนเจ็บปวดใจ เพราะว่าผู้กำกับเนี่ยเขาบอกผมว่า เรื่องนี้จะไม่มีลบรอยสักอะไรทั้งนั้น แล้วเขาก็ลบรอยสักผม แล้วก็เติมลายสักผมแล้วก็ทำแผลเป็นผมด้วย เฮ้อ..! (ตอบแบบติดตลก)”


8. หนึ่งในฉากสำคัญของเรื่องคือฉากชิงตัว ซึ่งเป็นทั้งจุดเปลี่ยนของเรื่อง และจุดเปลี่ยนของหลาย ๆ ตัวละคร

9. สิ่งที่ยากที่สุดในการรับบทบังกัสของจ๋าย อิชณน์กร คือการต้องเล่นเป็นตัวละครรอง คอยซัพพอร์ตตัวละครหลักให้ไปสู่จุดจบให้ได้ดีที่สุด

10. สิ่งที่ จ๋าย อิชณน์กร ได้จากการเล่นหนังเรื่องนี้คือมันทำให้เขาเข้าใจ เห็นใจ และรู้สึกรับผิดชอบต่อฐานแฟนเพลงบางกลุ่มมากขึ้น

11. เดิมทีแล้วตัวละครกอล์ฟของเบนจามินจะมีรอยสักคำว่าไอลดา แต่จากการพูดคุยกับผู้กำกับทำให้ท้ายที่สุดรอยสักไอลดาก็ถูกปัดตกไปและเปลี่ยนไปพูดถึงไอลดาในบทแทน

12. อีกหนึ่งในที่มาของรอยสัก Made In Thailand ของกอล์ฟ มาจากที่ เบนจามิน ต้องการสะท้อนเรื่องของลูกครึ่งในประเทศไทย

“จริง ๆ เมืองไทยอะถ้าดูดี ๆ จะมีลูกครึ่งเยอะฮะ มันจะมีลูกครึ่งเยอะที่เกิดมาแล้วมีปัญหาในครอบครัวเยอะนะบ้านเรา จริง ๆ แล้วตัวเด็กก็คือเป็นลูกครึ่งก็จริง หน้าฝรั่งก็จริง แต่ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เราก็อยากเน้นเรื่องพวกนี้ เราก็เลยอยากสัก Made in Thailand ครับ”


13. ทรงผมสกินเฮดของเผือกคือสิ่งที่อยู่ในบทมาตั้งแต่แรก และนั่นทำให้ ณัฏฐ์ กิจจริต ไม่มีปัญหากับการที่จะต้องตัดผม

14. เอมเผยว่าการจัดสกินเฮดเองก็มีผลต่อการรับบทเป็นฟลุ๊คเช่นกัน

“เป็นไปได้ครับ เพราะว่าเขาก็หวงผมเขานะ เพราะฟลุ๊คเขาหวงผมเขา แต่ผมไม่ได้ห่วงผมขนาดนั้น ก็เลยอาจจะมีความง่ายขึ้นในแง่ของ Physical ที่เปลี่ยนไป”

15. เป้ อารักษ์ ต้องมีการถ่ายฉากอาบน้ำกลางแดน ซึ่งทำให้จนถึงทุกวันนี้เขายังคงมีรอบไหม้เป็นรูปรอยสักติดตัวอยู่

16. บทเบียร์คือการพลิกคาแรกเตอร์ครั้งสำคัญของเป้ อารักษ์ สู่การรับบทเป็นตัวร้าย


17. เพื่อรับบทบอย ท็อป-ทศพล ต้องฟิตหุ่นและลดน้ำหนักภายในระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งเขาน้ำหนักลดลงไปถึง 10 กิโลด้วยกัน

18. บทบาทของบอยนั้นมีความแรงมาก ๆ ถึงขั้นที่ผู้กำกับพุฒิเตือนกับท็อป-ทศพลว่า อาจจะโดนเกลียดได้เลย

“คือผมไม่รู้ว่าพี่พุฒิมองเห็นอะไรในตัวว่าแบบ จากตุ้มเม้งที่เล่นแบบนั้น จะเปลี่ยนเทิร์นมาเป็นบอยที่ฉีกจักรวาลขนาดนี้ มันคนละเส้นนิสัยกันอะครับ

“เรื่องนั้นผมใช้คำว่าถูกกระทำแล้วกัน เรื่องนี้คือกระทำเขาจนแบบว่าพี่พุฒิบอกว่า ‘ท็อปครับ ท็อปอาจจะถูกเกลียดได้นะครับเรื่องนี้’ ผมเลยบอกว่า ‘ได้พี่ถ้าเกิดว่าเขาเกลียดมากจริง ๆ ผมก็จะดีใจกับพี่พุฒิด้วยว่า เออบทบอยมันไปถึงตามที่พี่พุฒิอยากให้เป็นแล้วครับ”


19. ตัวละครกร เป็นตัวละครที่ไม่มีบท

“คือว่าบทไม่มี แต่มีคิวให้คุณ ใช่ครับ..มันเป็นอะไรที่บ้ามาก ๆ ครับ” ต้น อรุณพงค์ เล่าอย่างได้ฟีล

21. เพราะไม่มีบททำให้ต้น อรุณพงค์ มาดีไซน์และตีความตัวละครในวันถ่ายทำ

22. กรเป็นตัวละครที่อยู่ในคุกตั้งแต่แรก

23. เดิมทีแล้วก่อนจะมาเป็นนักแสดงต้น อรุณพงค์เคยเป็นช่างสักมาก่อน

24. เพราะมีรอยสักตามตัวเยอะอยู่แล้วตัวละครกรของต้น อรุณพงค์จึงไม่ได้มีการสักเพิ่มเติมจากของเดิม

25. วัยหนุ่ม 2544 คือภาพยนตร์เรื่องแรกที่ต้น อรุณพงค์ต้องเล่นฉากแอ็กชัน

26. เดิมทีแล้ว ต้น อรุณพงค์ เคยไปแคสต์ 4Kings 2 มาก่อน

27. ด้วยความที่ภาพลักษณ์กลมกลืนกับทีมนักแสดง Extra ทำให้ในที่แรกเป้ อารักษ์ และท็อป ทศพล กลัวต้น อรุณพงค์จนไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น