“ฮาน่า” ไม่ปลื้ม ชาวเน็ตยกคู่ตนเทียบคู่อื่นที่เลิก วอนอย่าเอาเราไปยุ่ง ไม่อยากซ้ำเติมใคร บอกสามีไม่ได้ดีลง่ายๆ เป็นยอดมนุษย์! ไม่ได้สุขสบาย หลายอย่างในชีวิตก็ไม่ได้น่าอิจฉา ส่วนตัวเองทุกวันนี้ยังอิจฉา “หน่อย บุษกร”
เป็นคู่สามีภรรยาตัวอย่าง ที่มักถูกยกไปเปรียบเทียบกับคู่รักดาราที่เลิกราและหย่าร้างเสมอ สำหรับคู่ “ฮาน่า ทัศนาวลัย” กับ “ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์” ยิ่งมีข่าวผัวเมียเลิกเพราะมือที่สาม ก็จะต้องมีการขุดวลีเด็ดที่ฝ่ายชายเคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้ามีเมียเดียวไม่ได้ ก็อย่ามีเลย” พร้อมยกหนุ่มฮิวโก้เป็นสามีแห่งชาติ แต่ดูเหมือนทางฝั่งฮาน่า จะไม่ค่อยปลื้มกับการถูกนำไปเปรียบเทียบแบบนี้ ไม่อยากให้ยกคู่ตนเพื่อไปซ้ำเติมใคร
“หลายคนอยากได้สามีแบบเรา ก็ยินดีค่ะ ใครก็ได้ขอให้เป็นคนดี แต่ไม่ใช่สามีดิฉันแค่นั้นพอ (หัวเราะ) จริงๆ ฮาน่าว่าหลายๆ คู่เขาก็มีคู่ดีๆ หลายคน ไม่ใช่ว่าคู่เราคู่เดียว แต่พอมีข่าวหย่าร้างก็จะมีคู่เราที่เป็นมีมกลับมา จริงๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ เวลาที่ใครๆ เลิกกันแล้วมีมีมคู่เรากลับมา เพราะเราไม่ได้พูดไว้เพื่อสิ่งนี้ ไม่ได้พูดไว้เพื่อเหตุการณ์ใดที่เขารักกันไม่รอด แล้วก็มามีมีมคู่เราขึ้นมา มันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่
คุณฮิวโก้เขาไม่มีความคิดเห็นอะไรเลย มันเป็นสิ่งที่เขาพูดไว้นานแล้ว แต่เรามีความรู้สึกว่ากับคู่คนอื่นเขาอาจจะมีความรู้สึกว่าทำไมต้องมีอะไรแบบนี้ออกมาหรือเปล่า เราไม่ได้อยากที่จะเป็นคู่ที่ไปซ้ำเติมคู่ใคร เพราะไม่มีคู่ไหนหรอกที่รักกันแล้วอยากเลิกกัน ก็อยากอยู่กันให้รอดทุกคู่ แต่อาจจะมีปัจจัยหรือปัญหาต่างๆ ที่ทำให้ไปด้วยกันไม่ได้ เราก็เลยรู้สึกว่าไม่ควรใช้มีมพวกเราที่มีความรักที่ยังราบรื่นกันอยู่ เหมือนซ้ำเติมคู่ใดคู่หนึ่ง จริงๆ ควรจะให้กำลังใจมากกว่าให้เขาเดินหน้าสู้ต่อไป จริงๆ คู่ที่เลิกกันไปก็เป็นเพื่อนๆ เราทั้งนั้น ก็รู้สึกว่าปล่อยคู่เราไปเถอะ ให้เราอยู่ของเราไปเถอะ อย่าเอาเราไปยุ่งกับคู่ใดเลย จริงๆ แล้วทุกคนไม่มีใครอยากเจ็บ อยากเลิกรา ทุกคนอยากคบกันราบรื่นตลอดไปอยู่แล้ว”
บอกคลิปรายการที่บอกว่าทะเลาะกับสามีที่ไม่ยอมรับงานพรีเซ็นเตอร์ เป็นเทปเก่ากว่า 7 ปีแล้ว
“อันนั้นก็ออกไป 7 ปีกว่าแล้วค่ะ แต่ก็ยังกลับมาได้ตลอด เราก็รู้สึกว่าไม่ชอบเลย มันเป็นการที่เอาคำพูดเรามาซ้ำเติมคนอื่น เราก็ไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มหรือดีใจให้คนมายกยอปอปั้นว่าคำพูดนั้นเราเป็นคนดี คบกันราบรื่น เราไม่ได้แฮปปี้ เรารู้สึกว่าไม่ควรเอาเราไปยุ่งกับใครเลย ไม่ว่าใครจะมีปัญหาหรืออะไรก็ตาม เพราะสิ่งนั้นก็พูดไป 7-8 ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาพูด แต่พอออกมาแบบนี้คนก็จะคิดว่าเรามาพูดหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทำไมต้องเอาคู่เราโยงเข้าไป มีคนเข้าใจผิดเยอะมาก ลูกฮาน่าตอนนั้นที่นั่งอยู่ด้วยยังเล็กๆ อยู่เลย แต่ตอนนี้สูง 180 กว่าแล้ว ก็รู้สึกว่าทำไมเนี่ย หรือไม่รู้จะเอาอะไรลงกันแล้วหรือเปล่า
คนแซวว่าเรามาก่อนกาล (หัวเราะ) อาจจะเป็นบุคลิกมากกว่า เพราะฮาน่าเชื่อว่านิสัย บุคลิกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเอาเรามาเทียบกับใครมันเป็นไปไม่ได้ เพราะต่างคนต่างวาระ ต่างเหตุการณ์ สภาพทางสังคมก็ต่างกัน เพราะฉะนั้นมันเทียบกันไม่ได้ค่ะ แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมนะคะ ฮาน่าว่าจริงๆ แล้วทุกคนก็อยากอยู่ให้มันได้แหละ ไม่มีใครอยากเลิกรา ไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหาหรือชีวิตการงานมีปัญหาหรอก บางทีก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรืออะไรก็ตามแต่ ฮาน่าก็รู้สึกว่าขอดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ทุกคู่ดีกว่า (หัวเราะ)"
บอกชีวิตตนไม่ได้น่าอิจฉา เพราะสามีกับลูกก็ยอดมนุษย์ทั้งนั้น
“อันนี้รับคำชมมากกว่าค่ะ ถ้าสมมติใครที่อวยพรเรา เราก็รับคำอวยพรให้เราได้อยู่กับคู่ที่ดี ลูกที่ดีต่อไปเรื่อยๆ แต่หลายๆ คนก็น่าอิจฉาเหมือนกัน พี่หน่อย (บุษกร วงศ์พัวพันธ์) ก็น่าอิจฉา พี่เคน (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ก็เลี้ยงลูก ดูลูกแทน ภรรยาไปเที่ยวไหนก็ได้ เราก็ดูๆ ว่ามีหลายคนนะในวงการหรือแม้แต่นอกวงการที่มีความรักที่ราบรื่น จริงๆ อยู่กับการทำตัวแหละ เราทำตัวกันและกันเป็นยังไง สามีเราเป็นแบบนี้ เราเป็นแบบนี้เข้ากันได้ไหม แต่หลายอย่างที่ไม่น่าอิจฉาก็มีนะคะ เราก็ต้องดีลกับสามีเราให้ได้นะ เพราะสามีเราก็ไม่ได้ดีลง่ายๆ (หัวเราะ) เพราะสามีเราก็ยอดมนุษย์เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้มีอะไรง่ายที่ได้มา เราก็ดีลกับชีวิตกับอารมณ์ของสามีเราเหมือนกัน
พอมีลูก ลูกก็ยอดมนุษย์เหมือนพ่ออีก (หัวเราะ) แล้วลูกเราสามคน ที่เห็นทุกอย่างมันสุขสบาย จริงๆ ก็ไม่ได้สุขสบายขนาดนั้น ทุกวันนี้งานบ้านก็ต้องทำ เพราะสามีไม่ชอบเห็นมีแม่บ้านอยู่ในบ้าน มาแค่จันทร์ - พุธ - ศุกร์ ที่เหลือก็อีนี่ค่ะ เป็นอีแจ๋ว ไม่ได้สุขสบายมากหรอก แต่เราก็มีความสุขที่เราได้ทำแบบนี้ เราก็เป็นมนุษย์เมีย มนุษย์แม่ด้วย ทำงานด้วย เคล็ดลับ มันยากนะ มันอยู่ที่การประพฤติของแต่ละคน ถ้าอีกคนนึงเจ้าชู้ ต่อให้เราปฏิบัติตนยังไงมันก็ยาก แต่โชคดีที่เราได้คนดี และเขาก็มาได้เราที่ดีลกับเขาได้ เข้าใจเขา เรามีความเป็นผู้ชายสูง ก็เลยกลายเป็นอยู่กันได้”