xs
xsm
sm
md
lg

“หน่อย บุษกร” เครียดทวงเงิน พ้อไม่มีงาน ไม่มีเงินให้ใครยืมแล้ว หนุนลูกทำตามฝัน ไม่ใช้อภิสิทธิ์พ่อ-แม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หน่อย บุษกร” ปลื้ม “น้องคุน-น้องจุน” เริ่มมีงานในวงการบันเทิง หาเงินเองได้แล้ว บอกเปิดบัญชีให้คุมการเงินกันเอง ส่วน “เคน ธีรเดช” ปลื้มหนัก พร้อมสนับสนุนลูกๆ ให้ทำตามฝันตัวเอง พร้อมเผยตอนนี้ได้เงินคืนจากรุ่นพี่ในวงการที่เคยยืมแล้ว จะไม่มีครั้งที่ 2 ไม่ได้คุยกันอีก โอดตอนนี้ตนก็แทบจะไม่มีงาน ยอมรับว่าเข็ด เสียเพื่อน ไม่มีเงินให้ใครยืมแล้ว

ตอนนี้กลายเป็นยุคของลูกๆ ดาราออกมารันวงการบันเทิงกันแล้ว อย่างสองหนุ่ม “น้องคุน-น้องจุน” ทายาทของพระเอก-นางเอกชื่อดัง “เคน ธีรเดช - หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์” ตอนนี้ก็มีงานเดินแบบมากขึ้น แว่วว่าจะมีงานแสดงเข้ามาแล้วด้วย ซึ่งคุณแม่หน่อยก็ดูจะปลื้มอยู่ไม่น้อย เผยว่าพร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่ก็ให้ลูกๆ สู้ด้วยตัวเอง ไม่ให้ใช้ชื่อเสียงของพ่อแม่นำร่องเด็ดขาด

“น้องคุนเขิน แต่น้องจุนเหมือนเขาก็ชอบนะ เขาบอกสนุกดี ถ้าได้เงินเขาก็ทำ คงคอนเซ็ปต์เงินมางานไป ก็ดีเขาก็ได้ทำงาน ก็มีคนติดต่อให้เขาเล่นหนัง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ายังไง พ่อแม่ไม่เกร็งที่ลูกเริ่มเข้าวงการบันเทิง เอาจริงๆ ก็รู้สึกเหมือนกันว่า เอ๊ะ..เขาจะยังไง ตอนเด็กๆ เราก็เป็นห่วง ตอนนี้เหมือนเขาโตแล้วมีความรับผิดชอบแล้ว 14 กับ 16 แล้ว ก็ถามว่าอยากทำหรือเปล่า ถ้าอยากทำก็ไปทำ แต่ถ้าไม่อยากทำก็ไม่บังคับ เขาก็ไปแคสด้วยนะ ก็บอกลูกต้องไปแคสนะไม่ใช่ไปแล้วได้เล่นเลย เขาก็โอเคก็ไป

ถามว่าเร็วไปไหม ก็อยู่ที่ว่าถ้าบทมันเยอะ มันหนักหรืออะไรที่เกินตัวเขามาก อันนี้ก็อาจจะคิดว่าเร็วไป อาจจะยังไม่ถูกกับบทบาทกับเวลา พอดูแล้วบทที่ใกล้เคียงกับวัยเขา และเรื่องราวก็เหมือนเราดูให้ว่าเป็นเรื่องแบบนี้โอเค ก็อยู่ที่ลูกก็ต้องไปลองแคสลองเล่นดู ถ้าเล่นได้ก็ได้เล่น”

ไม่มีอภิสิทธิ์ว่าเป็นลูก “พ่อเคน-แม่หน่อย” แล้วต้องได้งาน
“เราก็พยายามบอกเขานะว่ามันไม่เกี่ยวนะ เขาไม่ได้เลือกที่เป็นลูกของพ่อแม่ แต่เขาเคยเห็นว่าเราเดินแบบ มันก็อาจจะเป็นเหมือนช่องทางให้เขาเห็น แล้วคาแรกเตอร์อาจจะเหมาะกับตัวละครตัวนี้ในหนังเรื่องนี้เขาเลยเรียกไป อีกอย่างคือตัวลูกๆ เองก็ไม่เคยรู้สึกว่าพ่อแม่เป็นดารา (หัวเราะ) เขาคิดว่าเราเป็นคุณแม่ท่านหนึ่งอะไรแบบนี้ แม่บ้านอยู่ในครัวทำกับข้าว เป็นติ๊กต๊อกเกอร์ท่านหนึ่ง คอยถ่ายทำเขา ไม่รู้สิคิดว่าเขาไม่ได้รู้สึก

เราก็แนะนำเขาแหละ คือเขาก็เคยเห็นเราทำงานตั้งแต่เด็ก เพราะเคยพาไปกอง ก็จะบอกว่ามันไม่ได้ง่าย ไม่ได้สวยหรู มันไม่ได้สบาย มันมีความต้องอดทนนะ มันเหนื่อยนะ มันต้องเจออะไรบ้างก็บอกเขาไว้หมด แต่คนโตเหมือนชอบเบื้องหลังมากกว่า เขาชอบที่ไปทำหนังสั้นอะไรแบบนี้ ทำหนังสั้นส่งประกวด แม่เป็นผู้จัดการไหมเหรอ ไม่เชิงเป็นผู้จัดการหรอกเพราะว่าไม่ได้หักเงิน (หัวเราะ) เขาก็ทวงอยู่เนี่ยว่าแม่โอนเงินหรือยัง ตัวเล็กเมื่อคืนยังทวงอยู่เลยเนี่ยแม่ตัดผม แม่ต้องโอนเงินมาได้แล้ว ก็คือไม่ได้เป็นผู้จัดการโดยตรง แค่ถ้าเขาได้งาน เขาได้เงิน เขาก็รับไปได้เงินไป”

บอก “เคน” ปลื้มมาก ลูกๆ หาเงินได้เองแล้ว
“พี่เคนบอกว่าถ้าเขาอยากทำก็ปล่อยเขาไปเถอะ เขาโตแล้ว แล้วก็เป็นเด็กผู้ชายก็ให้เขาไปเรียนรู้ ตอนที่ลูกทำงานได้เงินด้วยตัวเองก้อนแรก เขาก็ดีใจสิ ไม่เกี่ยวกับเราไง ก็เมื่อไหร่ที่เขาเปิดบัญชีได้ก็จะมีบัญชีเป็นของตัวเอง ตอนนี้เราก็เลยให้เขารับผิดชอบนะ มีบัญชีเป็นของเป็นของตัวเองก็บริหารเงินเองนะ สมมติได้มาเท่านี้ใช้เท่านี้ก็ต้องดูเองว่าได้มารับไปจะขาดทุนจะอะไร ให้เขารู้ว่าเงินมันมีค่านะลูก ทำงานได้เงินมาก็ต้องเก็บนะ ก็ให้เขาดูแลตัวเอง

คนเล็กจะมีแววมากกว่าสำหรับความคิดเรานะ คือไม่ได้มีแววแบบนั้น แต่มีความชอบ เขาชอบมากกว่า แต่พี่คุนเขาชอบเบื้องหลัง อยากเป็นเบื้องหลัง เวลาเดินแบบเขาต้องแอดติจูด มีแต่คนบอกว่าคนเล็กนิสัยเหมือนเรา แต่หน้าพ่อ คนโตหน้าเหมือนเรา แต่นิสัยพ่อ คนโตอินโทรเวิร์ตสุดๆ คือพ่อเลย อยู่บ้านก็นั่งมองนกอยู่ๆ ก็วิ่งไปหยิบกล้องส่องทางไกลมาส่องนก มีวันนึงเรากลับบ้าน เอ้า..น้องคุนทำอะไรใต้ต้นไม้ บอกคุนจะนั่งสมาธิ ส่วนคนเล็กอยู่โซเชียลทั้งวัน ยิงๆ ใส่เกม พอไอแพดเด้งเตือนก็หันไปตอบไลน์ ส่งคลิปแชร์ให้เพื่อน นี่จุนมี 2 มือ 3 เครื่องเลยนะ (เหมือนเราเลยไหม?) (หัวเราะ)

วันนึงตลกมากเราไม่อยู่บ้าน เขาก็พาไปเที่ยวกัน 3 คน เขาบอกว่าตึกแดงไปซื้อกางเกง หิวก็ไปกินแถวเอกมัย เขาบอกว่าแม่ แม่ทำได้ยังไง แค่เราไปแค่นี้เราเหนื่อยมาก แม่ออกจากบ้านทุกวันแม่ไม่เหนื่อยเหรอ (หัวเราะ) แม่เป็นเอ็กซ์โทรเวิร์ตค่ะลูก แม่เก็บแต้ม แม่ชอบสังคม ตัวเล็กก็เหมือนเราแหละ ถ้าเพื่อนชวนไปดูหนังหรือกินข้าวตามห้างตัวเล็กจะขอไป แต่พี่คุนถ้าเพื่อนเกิน 4 คน ไม่ไป รู้สึกว่าวุ่นวาย พอมีคนที่ 5 ก็ไม่ไปแล้ว บอกวุ่นวายมันตกลงกันไม่ได้สักทีนึง ติดพ่อ ก็เลยรู้สึกว่าพ่อคนนึง แม่คนนึง

ถามว่าน้อยใจไหม ที่คนแซวว่าเราเป็นแม่บ้านตามถ่ายคลิป (หัวเราะ) ใช่ บางคนบอกว่าเราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยง 3 คน ก็เออใช่เนอะ คนโตพ่อเนี่ยซนกว่าอีก พูดก็ไม่ฟัง นางก็ตัวเองเป็นศูนย์กลาง (หัวเราะ) บางทีก็ท้อนะ อะไรก็ได้แล้วแต่ทำกันเลยเดี๋ยวแม่ตามไป แล้วนางก็บอกทำไมแม่ต้องงอนด้วย ก็บอกไม่ได้งอน นี่พูดเรื่องจริง คือไม่รู้จะเอ่ยอะไรแล้วไม่รู้จะความคิดเห็นอะไรแล้ว เพราะก็ไม่มีใครตามอยู่ดี เพราะฉะนั้นไปตกลงกันมาเลยจ้า เราเป็นผู้ตาม”

บอกได้เงินคืนจากคนในวงการที่เคยมายืมแล้ว และจะไม่มีครั้งที่ 2 อีก
“ได้คืนแล้ว หลังจากที่เป็นข่าวก็ได้แล้วค่ะ ต้องบอกว่าเราก็มีลูกเนอะ ลูกเราก็เรียนหนังสือเหมือนกัน โรงเรียนไม่ได้เรียนฟรีก็ต้องเสียเงินอะไรแบบนี้ พอได้เราก็ไปไหว้พระเลยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เราก็ไปขอพระมา กว่าจะได้ก็ปีนึงนะ เกือบปี จากสองอาทิตย์ก็เริ่มเขยิบไปเรื่อยๆ ไม่มีดอกเบี้ยค่ะ เขาคืนมาก็ดีแล้ว (หัวเราะ) ก็ได้คือไล่ๆ กับคนอื่นค่ะ

ก็พูดเลยว่าไม่มีให้แล้วค่ะ คือเมื่อก่อนเราก็ตกใจเนอะ เราก็รู้แล้วแหละว่าสุดท้ายแล้วเราคนทวงเกรงใจไง แล้วเราเป็นคนขี้เกรงใจด้วย เราก็สงสารเขาหรือเขาไม่มีจริงๆ แต่เราก็มานั่งคิดว่าเราจะทำยังไงในวันนี้เราก็ไม่มีเหมือนกันนะ เราก็ไม่ได้มีงานนะไม่ได้ทำงานมากี่ปีแล้ว ก็มานั่งทบทวน ลูกเราก็ต้องเรียนหนังสือเอาเงินก้อนนี้ไปให้ลูกเรายังดีกว่าอีก มันก็ย้อนกลับ มันก็เลยเครียดเอง คิดวนๆ อยู่อย่างนี้ เครียดเลยนะ บางทีเราเครียดโดยไม่รู้ตัว มันก็เป็นช่วงวิตกว่าเอ๊ะ..ยังไง คือเราไม่กล้าทวงเราเกรงใจ เวลาทวงก็..นะคะ ทุกคนก็บอกแหมทวงแบบนี้จะได้ได้ยังไง

พี่เคนก็ได้แต่พยักหน้า พูดไม่ออกเหมือนกัน จะเรียกว่าเข็ดก็ได้ ถ้าให้ยืมก็ให้ไปเลยดีกว่า ให้ไปก้อนนึงเลย ก้อนเล็กๆ ว่ากันไปช่วยไปเลยดีกว่า แต่ไม่ต้องให้ก้อนใหญ่ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีให้แล้วค่ะ พูดเลยค่ะ ถามว่าการให้ยืมเงินเหมือนตัดเพื่อนเลยไหม จริงๆ ถ้าเขาใช้คืนมันก็โอเค แต่ถ้าเผื่อไม่คืนมันก็เสียเพื่อนนะความสัมพันธ์ เสียความรู้สึกนะ ตอนเขามายืมเขาให้เหตุผลว่ายังไงก็อย่าพูดเลย เขาคืนมาแล้ว ช่างเถอะก็จบแล้ว ก็เป็นเหตุผลที่เรารู้สึกว่าเห็นใจ เอาเป็นว่าเป็นเหตุผลที่เรารู้สึกเห็นใจค่ะ ความสัมพันธ์ตอนนี้ ไม่รู้ ไม่ได้คุยกันแล้ว ปกติก็ไม่ได้คุยอยู่แล้วไง ไม่ได้เป็นคนสนิทแค่เป็นรุ่นพี่ท่านหนึ่ง”













กำลังโหลดความคิดเห็น