จะว่าไปช่วงนี้จะหยิบจับอะไรก็กลายเป็นประเด็นไปซะทุกเรื่อง สำหรับ “ช่องวัน 31”เพราะก่อนหน้านี้ก็ทั้งปังและเกือบพังในเวลาเดียวกันสำหรับ “แม่หยัว” กับฉากฉีดยาสลบแมวดำ ให้เข้าฉาก จนกลายเป็นกระแสทารุณกรรมสัตว์เกินไปไหม แต่กระแส #แบนแม่หยัว ดูท่าจะไม่เป็นผล เพราะตอนจบเรตติ้ง bkk ปิดไปด้วยตัวเลข 6.2 ส่วนทั่วประเทศฟาดไปที่ 4.7 ถือว่าเป็นละครหลังข่าวของช่วงวันที่ประสบความสำเร็จของปีนี้
และพอซีรีส์ล็อตใหม่ส่งปิดท้ายปี โดยส่ง “การุณยฆาต”ลงจอต่อ “แม่หยัว” และจันทร์-อังคาร ส่ง “ทิชา” ที่นำแสดงโดย “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” แค่เปิดมาอีพีที่ 2 ก็ดรามาซะแล้ว เมื่อพ่อของนักแสดงเด็ก “น้องมากิ”รับบทเป็น “ใบเฟิร์น” ตอนเด็ก ได้โพสต์ภาพและแคปชั่นว่า ฉากนี้อาจดูแสดงสมจริงเป็นพิเศษ เนื่องจาก วันนั้นจู่ๆ มากิไข้ขึ้นเกือบ 40 #ทิชาEP2 แน่นอนอ่านแคปชั่น พร้อมรูปประกอบ รถทัวร์พร้อมใจไปลงที่ช่องวัน31 และทีมงานกองถ่ายกองนี้ทันที ว่าทำไม? ใช้แรงงานเด็ก ทั้งๆ ที่เด็กป่วย จนไข้ขึ้นเกือบๆ 40 องศา โดยโยงไปถึงดรามา #แบนแม่หยัว จนทำให้ช่องวันติดเทรนด์อีกครั้ง
หลังจากโดนขุดกันยกใหญ่ จนกลับมาเป็นกระแสวิจารณ์หนักอีกครั้ง สำหรับการทำงานของทีมงานช่องวัน แต่รถทัวร์ก็อาจจะหน้าแตก! เบรกเอี๊ยดทันที เมื่อแม่ของนักแสดงเด็กคนดังกล่าวมาเมนต์ชี้แจงถึงกรณีลูกสาวไข้สูงกว่า 40 องศา แต่ยังต้องเข้าฉากว่า
“ทุกคนคะ มากิไม่ได้เป็นลมน้า วันนั้นมากิไปถ่ายซีนเดียวค่ะ แล้วตอนถ่ายเหลือคัตสุดท้ายแล้วถึงรู้สึกไม่ค่อยสบาย ก็ถ่ายคัตสุดท้ายเสร็จ คุณพ่อก็รีบพาไปหาหมอ ถึงรู้ว่าไข้สูง ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ”
จากนั้นคุณพ่อที่เป็นคนโพสต์เรื่องราวการป่วยของลูกสาวก่อนหน้านี้ ก็ได้ลบโพสต์ที่เป็นประเด็นทิ้งไป และก็ได้อธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
“ขออนุญาตอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ วันนั้นมากิมีถ่ายอยู่ซีนเดียว ไปถึงกองก็ปกติดีไม่มีปัญหา วันนั้นถ่ายเป็นซีนแรกด้วย ก็ถ่ายทำตามปกติ จนเหลือคัตสุดท้าย มากิเดินมาบอกว่ารู้สึกปวดหัว จับดูตัวอุ่นๆ เลยถามมากิว่าไหวมั้ย? มากิบอกว่าไหวเหลืออีกคัตเดียวเอง #ทิชา
จากนั้นก็ถ่ายคัตที่เหลือจนเสร็จอย่างรวดเร็วและรีบพามากิไป รพ. จึงทราบว่ามากิมีไข้สูง เรื่องทั้งหมดเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า
มากิเป็นนักแสดงเด็กมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ในฐานะนักแสดง บางครั้งมันก็จะมีเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่ต้องเมเนจให้ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความปลอดภัยของลูก ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอ สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ครับ
ส่วนที่ลบโพสต์ไป เพราะไม่อยากให้มีการเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ที่โพสต์ไปทีแรก เพียงอยากเล่าเรื่องราว behind the scene โดยลืมคิดไปว่าอาจสร้างความไม่สบายใจให้หลายๆ คน ต้องขออภัยจริงๆ ที่คิดน้อยไปครับ 🙏🏻”
และแน่นอนเมื่อคำชี้แจงจากปากของคนโพสต์ ก็ทำให้รถทัวร์หักหัวแทบไม่ทัน วิจารณ์สนั่นไปอีกมุมทันที อาทิ
“ก่อนจะโทษกองถ่ายควรโทษพ่อแม่ก่อนค่ะ เพราะถ้าเป็นลูกเรา ป่วยขนาดนี้เรายอมบอกตรงๆ ดีกว่าให้ลูกมาเสี่ยงแบบนี้”
“ก่อนจะดรามา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ กลั่นกรองจากส่วนตื่นที่สุดของสมองหรือยังค่ะ บางอย่างคนโพสต์ แค่อยากได้กระแส จะอวยคนแสดงว่าทุ่มเทก็เขียนเว่อร์ไปเองนะคะ เพราะถ้าจริง พ่อแม่เขาคงไม่หน้าเงินให้ลูกฝืนจนเสี่ยงชีวิตนะ คิดก้อนนน”
“ถ้าเด็กมีไข้เกือบ 40 จริง ผปค.ก็ผิด คนเป็นพ่อแม่ จะทนเห็นลูกป่วยไม่ได้ ถ้าเห็นแก่เงินมากกว่าชีวิตลูกแสดงว่าใจดำอำมหิตมาก ผิดกฎหมายไม่ต่างเจ้าของหมาวางยาหมา เป็นเจ้าของหมา เป็นผปค. ใช่ว่าจะทำไรก็ได้ แต่ทางกองทางช่องคงออกมาแก้ข่าวว่าน้องมีไข้นิดหน่อยไม่ได้ไข้สูง 40 ทีมงาน พูดไปเรื่อย”