“พีช พชร” ขำๆ ยังมีชีวิต ไม่ได้หายไปไหน อุบตอบเรื่องแฟนให้ไปสืบกันเอง ขัดใจหน้าเด็กไม่ตรงละคร

“พีช พชร” เผยขำๆ ยังมีชีวิตอยู่ ลั่นที่ผ่านมาก็ไม่ได้หายไปไหน ยังถ่ายซีรีส์ตลอด ทุ่มธุรกิจ เรียนต่อป.โทก็หนัก ยอมรับเขินคนชมหล่อรวยโปรไฟล์ดี ไม่บอกตอนนี้มีคนรู้ใจหรือยัง ให้ตามหากันเอาเอง โอดมีปัญหามาตลอดคือความหน้าเด็ก มีคนมาถามเคล็ดลับ แต่ตนก็ตอบไม่ได้ แอบขัดใจหน้าเด็กไม่สมกับละคร

ทำแฟนๆ ได้หายคิดถึงกันบ้าง หลังจากที่ได้เห็นพระเอกหนุ่ม “พีช พชร จิราธิวัฒน์” ในซีรีส์เรื่อง ทิชา โดยเจ้าตัวเผยว่าที่ผ่านมาไม่ได้หายไปไหน ยังมีงานแสดงตลอด แค่ยังไม่ได้ออนแอร์เท่านั้น รวมทั้งตนทุ่มทำธุรกิจไปด้วย

“จริงๆ ก็มีถ่ายมาเรื่อยๆ นะ แต่แค่อาจจะยังไม่ได้ฉายแค่นั้นเอง อย่างทิชาพอมันมีเวลาเยอะ มันก็มีเวลาเตรียมตัวละครเยอะ ก็ไว้ผมยาวเพื่อเล่นเรื่องนี้ พอเสร็จก็ตัด เว้นช่วงมันก็ดีกับตัวเราเอง มีเวลาเตรียมตัว พอทำงานมันก็สนุกขึ้น ไม่อย่างนั้นมันก็จะเหมือนนักกีฬาที่ต้องเพอร์ฟอร์มตลอด มันก็จะไม่มีเวลาพัก เพราะนักแสดงมันใช้จิตใจเยอะเหมือนกัน พอใช้เยอะๆ มันก็เหนื่อย ก็ต้องมีช่วงพักเบรกบ้าง

ตอนนี้ก็ไม่เชิงว่าทำงาน 6 เดือน พัก 6 เดือนเหมือนแต่ก่อน เพราะที่ผ่านมาก็แทบจะไม่ได้พักเลยเหมือนกัน ถ่ายตลอด แค่ยังไม่ได้ฉายแค่นั้นเอง ก็ยังคงอยู่นะครับ ยังมีชีวิตอยู่ครับ (หัวเราะ) ธุรกิจก็ยังทำอยู่นะ มันสามารถทำด้วยกันได้ ไม่ใช่ว่าเป็นนักแสดงแล้วจะทำธุรกิจไม่ได้ แค่จัดตารางไม่ให้ชนกัน เอาจริงๆ ผมก็ไม่เคยบาลานซ์ชีวิตกับงานอะไรขนาดนั้น มันโชคดีที่ว่างานแสดงจะมีตาราง ถ้าตารางมาแบบนี้ งานอื่นก็จะหลบมานิดนึง ประชุมก็ไปช่วงว่างหน่อย ช่วงนี้การทำแบรนด์ก็จะหนัก เพราะปลายปีแล้ว ก็ต้องเตรียมวางแผนของปีหน้า แต่ตอนนี้ผมว่าพาร์ตไปเรียนต่อนี่แหละหนักที่สุด เพราะปริญญาโทด้วย ก็จะถึงช่วงที่เราต้องทำวิจัย 1 ปี ก็จะหนักนิดนึง”

เผยจากนี้ยังไม่มีงานต่อ เพราะยังไม่เจอบทที่โดนใจ
“การแสดงจริงๆ ก็มีเสนอมาเรื่อยๆ ครับ แต่พออ่านบทแล้วยังไม่ได้รู้สึกว่าควรจะเล่นหรือเป็นบทของเรา ก็เลยยังไม่ได้มีโปรเจกต์อะไรที่ทำต่อ จริงๆ เราไม่มีสิทธิเลือกหรอกว่าบทแบบไหนจะมาหาเรา เราไม่ได้เป็นโปรดิวเซอร์เอง ไม่ได้เป็นคนเขียนเอง ก็คงจะไม่ได้มีบทที่เราอยากได้มาขนาดนั้น แต่หมายถึงว่าเราอ่านแล้วเราชอบเรื่องไหน มันสนุกกับการอ่านขนาดไหน ถ้าอ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามีตัวเองเล่นมันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

แต่สำหรับเรื่องทิชามันมีคุณค่าความสำคัญของมันอยู่ สิ่งที่เรื่องต้องการจะเล่ามันมีประโยชน์กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่ พูดถึงชนชั้นที่แตกต่างกัน พูดถึงการปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไม่เท่าเทียมกัน ไม่ได้มองคนอื่นเป็นคน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ต้องพูดถึงในวงกว้าง มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเยอะ และเป็นสิ่งที่เราก็รู้ว่าในประเทศเราเองก็มีการค้ามนุษย์เกิดขึ้น แต่เราเองก็เหมือนปิดตาข้างนึงว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น อย่างน้อยตอนอ่านแค่รู้สึกว่าเราอาจจะไม่ได้มีพลังที่จะแก้ปัญหาได้หรอก แต่เราช่วยเป็นจุดเริ่มต้นอะไรบางอย่างได้แหละ อย่างน้อยเราพูดถึงประเด็นๆ นี้ได้ ก็มาช่วยกันพูดหน่อย ผมเชื่อว่าถ้าคนมาช่วยกันพูด มันจะเกิดเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องขยับ ไม่งั้นถ้าไม่มีใครพูดถึง เรื่องมันก็จะเงียบผ่านไป”

ไม่บอกมีคนรู้ใจหรือไม่ ให้สืบกันเอาเอง
“หล่อ รวย เก่ง โปรไฟล์ดีเหรอ (หัวเราะ) เขินนะ ใครพูดอะไรก็เขินหมดแหละ แต่รับก็ได้ (หัวเราะ) อะไรที่ดีก็เอาไว้ก่อน ความรักก็ไม่รู้ครับ ก็แล้วแต่จะไปหากันเอง ก็ไม่เคยคิดว่าพออายุเท่านี้ต้องแบบนี้ๆ นะ เพราะพอมันผ่านอะไรมาประมาณนึงมันก็เรียนรู้โลก มันไม่สามารถวางได้ว่าอายุเท่านี้จะมีครอบครัว จะแต่งงาน มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงมั้ง คือถ้ามันถึงเวลาก็คงโอเคแหละ เพราะเราก็อยู่ในวัยที่สามารถทำได้ รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา 20 กว่าๆ เขาก็แต่งงานกันแล้ว ซึ่งเราก็อยู่ในวัยสามารถทำได้แหละ แต่มันยังไม่ถึงจุดที่คิดว่าจำเป็นหรือเปล่า และเราเองก็ยังมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ และยังไม่ได้พร้อมขนาดนั้น

ผมว่าตอนนี้คนเรามันลำบากขึ้น ผมเชื่อว่าทุกคนคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เห็นพี่สาวเขามีครอบครัวเราก็ตื่นเต้นนะ ยังไม่ค่อยชิน เวลาเห็นก็ยังรู้สึกแปลกๆ โอเคเขาก้าวไปอีกสเต็ปของชีวิต มานั่งนึกก็นึกได้อย่างเดียวว่าเราก็แก่แล้วเนอะ พี่เรามีลูกแล้ว ศักดิ์มันเปลี่ยน เรามีหลานแล้ว แต่ถามว่าผมมีภาพตัวเองมีครอบครัวไหม ผมว่าทุกคนก็ต้องมีแหละ มนุษย์ทุกคนไม่เคยคิดอะไรที่เป็นมุมบวกหรอก ผมเองก็มีเหมือนกัน แต่แค่ยังไม่ใช่จังหวะของเราเท่านั้นเอง”

เผยปัญหาของการหน้าเด็ก คือขัดใจเวลาที่ดูตัวเองแล้วเหมือนจะไม่แมชต์กับอายุในเรื่อง
“ทำไมหน้าไม่แก่ขึ้น ผมก็งงเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้ไปพบหมอพบแพทย์ขนาดนั้นเลยนะ ไม่ได้ชอบจะไปโรงพยาบาลด้วย พอคนถามผมก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่ามันยังไง ผมก็ยังใช้สบู่ทาตัวล้างหน้าอยู่ ไม่เคยทาครีมกันแดดเลย หรือเพราะเราเป็นคนเอเชียไหม ผมก็ตอบไม่ได้จริงๆ แต่ถามว่าหน้าเด็กแล้วดูไม่มีความน่าเชื่อถือหรือเปล่า ผมว่าสุดท้ายความน่าเชื่อถือมันไม่ได้อยู่ที่หน้า แต่มันอยู่ที่วุฒิภาวะของเราเองมากกว่า แต่ก็จะติดตัวเองบางทีที่พอดูแล้วมันเหมือนจะไม่ตรงกับอายุตัวเองในเรื่อง ก็จะรู้สึกนิดนึงว่ามันไม่น่าจะอายุเท่านี้มั้งหน้าตา ยิ่งถ้าโกนหนวดนี่จบเลย (หัวเราะ)”