“เสนาเพชร พุฒิพงศ์” หวนกำกับหนัง “ENDPRESSO ปณิธานหวานน้อย” ในรอบ 7 ปี ตีแผ่แง่มุมความรักที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่ความละเมียดละไมของความรักเปลี่ยนไป สมัยก่อนรักต้องมาก่อนชีวิตคู่มาทีหลัง แต่ปัจจุบันชีวิตคู่มาก่อน พร้อมเล่าการทำงานกับลูก เน้นให้โอกาส ไม่เน้นสร้างชื่อเสียง
กลับมารับงานกำกับภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 7 ปี สำหรับผู้กำกับมือทองหนังรัก “เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร”ที่โด่งดังจากการกำกับภาพยนตร์เรื่อง “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” ที่กลับมาทำงานร่วมกับลูกชาย “นีโน่ รัฐบาล พรหมสาขา ณ สกลนคร” โปรดิวเซอร์ ในเรื่อง ENDPRESSO ปณิธานหวานน้อย ที่เข้าฉายไปแล้วเรียบร้อย เพชร ในฐานะผู้กำกับได้เล่าถึงการทำงานกับลูกชาย คนเจนใหม่ รวมถึงแง่มุมความรักที่แตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย
“ENDPRESSO ปณิธานหวานน้อย เป็นหนังโรแมนติกที่ให้ความรู้บางอย่างกับคนในยุคนี้ การที่เราจะมีความรักควรจะใช้อะไรเป็นตัวตั้ง เป็นการเล่าเรื่องความรักที่อินฟอร์มกับมนุษย์บางอย่างว่าเราควรจะใช้ความรักแบบไหน ใช้กับใคร และเมื่อไหร่ เป็นเรื่องราวชีวิตจริงของผู้คนในสมัยนี้ที่ไม่ได้มองว่าความรักสำคัญ เพราะเขามุ่งมั่นอยากจะเป็นเวิร์กกิ้งวูแมน อยากมีเงิน อยากจะมั่นคง ความรักเลยเป็นเรื่องรองๆ เป็นการวิ่งหนีความรักเพื่อไปทำงาน
การทำงานเรื่องนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่าง 2 เจน คือเจนของลูกและเจนของพ่อ เรื่องนี้ผมกำกับ ก็เอาประสบการณ์ของคนที่เคยทำตัวละครมาทำให้ตัวละครมีชีวิตขึ้นมา แต่การเล่าเรื่อง การเขียนบทจะเป็นทีมลูกชาย พ่อมีหน้าที่ทำตัวละครให้เป็นมนุษย์ ให้กลมผ่านการเล่าเรื่องจากบท ส่วนบทภาพยนตร์เป็นทีมของลูกชาย”
ยุคสมัยเปลี่ยนมุมมองความรักเปลี่ยน ความละเมียดละไมกับความรักก็เปลี่ยน สมัยก่อนรักต้องมาก่อนชีวิตคู่มาทีหลัง แต่ปัจจุบันชีวิตคู่มาก่อน
“เป็นกระแสของหนังไทยช่วงเวลานี้ที่จะเป็นหนังผี หนังบู๊ แต่เราถนัดหนังโรแมนติกคอมเมดี้ไง ก็อยากจะทำโดยการเล่าเรื่องในอีกแบบ ใช้ภาษาพูดน้อยหน่อย คนสมัยนี้การไม่พูดคือพูดเยอะแล้ว การผสมการสื่อสารของคนในยุคนี้ไว การเล่าเรื่องก็ต้องไว
ผมว่าความรักก็อยู่และมีความสำคัญกับคนทุกยุคสมัยแหละ เพียงแต่เราจะใช้มันยังไงกับตอนนี้ที่เป็นอยู่มากกว่า สมัยก่อนรักต้องมาก่อนชีวิตคู่มาทีหลัง แต่ปัจจุบันชีวิตคู่มาก่อน รักค่อยตามมา ทดลองเรียนรู้ อยู่ด้วยกัน ไปด้วยกันไม่ได้ก็เลิกกันไป มันไม่มีช่องว่างความหวงหา คิดถึง พรรณนาถึงด้วยการสื่อสารที่ง่ายขึ้นและหน้าที่การงานมันจะเป็นตัวแปรที่ทำให้อะไรๆ ในแต่ละยุคสมัยมันเปลี่ยนไป พอคนให้ความสำคัญน้อยลงกลายเป็นความรักยุคนี้ไม่ค่อยเซนซิทีฟ มันไม่ถูกการละเอียดอ่อน ละมุน พิถีพิถันมา
เมื่อก่อนทำยังไงให้รักกันก่อน แล้วถึงอยู่ด้วยกัน แต่เดี๋ยวนี้อยู่ด้วยกันก่อน แล้วค่อยเรียนรู้ค่อยมารักกัน ความละเอียดในตัวตนของคนแต่ละคนมันเลยถูกค้นหาไม่พอ หรือไม่เจอ แล้วก็เลย มันเลยถูกหลงลืมความสำคัญไป คนสมัยนี้มองว่าทำงานให้ดีก่อน ความรักยังไม่สำคัญหรอก แต่ลึกๆ แล้ววันนึงถ้าเขาไม่มีใคร ขาดอะไรบางอย่าง เขาต้องการคนที่รักเขา และคอยเอาใจใส่เขาตั้งแต่ต้นจนปลาย ใครคนนั้นหายไป หนังเรื่องนี้ก็จะเล่าแบบนั้น”
ยึดมั่น ความเสมอต้นเสมอปลาย คือสิ่งสำคัญในความรักทุกยุคทุกสมัย
“ความเสมอต้นเสมอปลาย ในเรื่องก็จะมีผู้ชายคนนึงที่ยังเป็นคนเดิมมาตลอด สำหรับผมคนรักกัน ถ้าเราปฎิบัติกันเหมือนเดิมตั้งแต่ต้น จนคบกัน ฉันเป็นคนเดิมมาตลอด มันจะทำให้ความรักอยู่ได้นาน แต่ถ้ามีใคนคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไป มันจะทำให้เข้ากันไม่ได้ เลิกกันดีกว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนได้ ต่อให้จะสมัยไหนก็ตาม
ด้วยหลายๆ อย่างมันทำให้คนเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น ทำเพื่อตัวเองไว้ก่อน ทำให้คนอื่นไม่สำคัญ คนในตอนนี้จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาก่อน แต่คนแบบนี้จะมีโมเมนต์นึงที่เหงามาก เหมือนมีคนรักเขานะ แต่วันนี้เขาต้องอยู่คนเดียว ด้วยระบบและอะไรหลายๆอย่างมันผลักให้คนเป็นแบบนั้น ถูดผลักดันให้โกยไว้ก่อน ไม่ใช่มนุษย์สมัยแบบรุ่นผม รุ่นพ่อแม่ผม ที่เขาจะมีความละเอียดอ่อน ความปราณีตกับความรักมากๆ มันก็เป็นเรื่องของยุคสมัยจริงๆ ที่สมัยนี้เขาก็จะมองข้ามเรื่องพวกนี้ไป”
ซีเรียสกับคำหยาบ
“เราซีเรียสมากกับเรื่องนี้ แต่บางอย่างถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ต้องใช้ เราชอบความสะอาดในบทที่ดูแล้วมันหายากในสมัยนี้ มันเป็นการให้เกียรติกัน เราก็อยากจะคงคาแรกเตอร์ของเราไว้ การเป็นผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิง เป็นสิ่งที่ผมมองว่าสำคัญที่สุดในชีวิตสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราส่งต่อให้กับลูกของเรา”
การทำงานกับลูก เน้นให้โอกาส ไม่เน้นสร้างชื่อเสียง
“ถ้าเราอยากให้โอกาสเราก็ต้องปล่อยเขา ให้เขาตัดสินใจ ก็มีที่คิดไม่ตรงกันบ้าง แต่สุดท้ายถ้าลูกต้องการก็ลองดู ผมไม่อีโก้ มันไม่มีใครเก่งไปตลอดหรอก ทุกคนมีสิทธิ์เก่งเท่ากันหมด อยู่ที่วิธีคิดของเรา ในบางมุมเราอาจจะเอาต์ในปัจจุบัน แต่เราเชื่อลึกๆ ว่าเราไม่เอาต์ในความรู้สึกถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งเล่นๆ มันจะนำพาไปยังจุดที่ใหญ่ขึ้นได้
การทำงานถ้าเราไปคาดหวังเยอะ สิ่งที่ทำมันจะไปโฟกัสด้วยการคาดหวังมันกลายเป็นความกดดัน ทำให้เราสมาธิไม่ดี สำหรับผม เราเริ่มจากทำงานให้มันดีก่อน แล้วเราจะค่อยๆ เห็นทิศทางที่จะไป เราตั้งต้นด้วยใจอยากทำของดีให้คนดูก่อน แต่คนดูจะชอบอรรถรสแบบไหน เลือกกินอะไรก็อยู่ที่เขาแล้วว่าเขาจะชอบอะไร เหมือนกับสมัยตอนผมทำเรื่องสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก แรกๆ ก็ถูกมองข้าม โดนดูถูก หนังกระโปรงบานขาสั้นอีกแล้ว แต่เราก็ทำให้ละเอียดที่สุดในการเล่าเรื่อง มันก็ก้าวไปได้ คนประเทศนี้สนใจ คนประเทศนั้นชอบ ก็เป็นผลพลอยได้บนความตั้งใจที่ดี กับเรื่อง ENDPRESSO ปณิธานหวานน้อย เราก็ตั้งใจทำใจทำมันให้ดีที่สุดทุกขั้นตอน”
ในฐานะคนทำละคร เล่าสถานการณ์ละครกำลังปรับเปลี่ยนทิศทางกันอยู่ แย้มยังเป็นแกงหม้อเดิม หน้าตาอาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย
“จริงๆ แล้วดีเลยนะที่ช่วงนี้คนไทยหันกลับมาดูหนังไทย ด้วยปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มในการชม คนดูก็ฉลาดขึ้น คนทำก็ต้องทำของดีขึ้น ผู้กำกับฯ คนเบื้องหลังก็ต้องทำของดี เราทำของดีไปก่อนแล้วค่อยดูว่าแพลตฟอร์มไหนมันตรงกับงานของเรา ก็เป็นการช่วยกันทำรายได้ ละครไทยก็เหมือนกันไม่ตายหรอก ทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ก็กำลังปรับรูปแบบการนำเสนอกันอยู่ จะไม่ใช่ละครจ๋าเสียทีเดียว อีกหน่อยละครจ๋าจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นซีรีส์แทน เรื่องมันจะถูกจบเร็วขึ้น ตัวแปรของเรื่องก็จะน้อยหน่อย ไม่ได้มาปมเยอะมากมาย ก็จะง่ายขึ้นกับคนทำงาน เราก็ต้องปรับตัวให้ทัน ก็แกงหม้อเดิมนี่แหละ เพียงแต่ปรับแต่งหน่อยให้มันดูฟิวชั่น หน้าตาอาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย แล้วตลาดซีรีส์มีช่องทางให้ไปได้หลากหลาย เข้าถึงคนได้ง่ายและเร็วกว่า เอาคนอยู่หมัด ก็กำลังจัดสรรกันอยู่ ช่องกำลังปรับกันอยู่”