“น้ำตาล ชลิตา” เผย “โอปอล สุชาตา” เต็มที่ที่สุดแล้ว บอกอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ และต้องชมว่าตั้งสติดีมาก การโยกตัวเคลื่อนย้ายบ่อยๆ ก็เป็นเหตุให้หักได้ บอกอย่าโยงเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เผยมีหลายจุดที่ “แอน จักรพงษ์” ยังต้องปรับปรุงในเรื่ององค์ประกอบต่างๆ แต่เพิ่งเป็นปีแรกที่ได้ทำคนเดียวจริงๆ ยังต้องให้เวลาในการปรับกันก่อน
เป็นทั้งรุ่นพี่นางงามและยังเป็นกูรูนางงามด้วย สำหรับสาว “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ซึ่งกับประเด็นที่ “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” มิสยูนิวิร์สไทยแลนด์ 2024 ไปอวดโฉมชุดประจำชาติ “สยามมานุสตรี” ในรอบ Preliminary Competition และ National Costume บนเวทีประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2024 ที่ประเทศเม็กซิโก แล้วเกิดชฎาหลุดร่วงกลางเวที พระแสงของ้าวหัก สาวน้ำตาลก็ชมว่าตั้งสติได้ดี และอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
“เมื่อวานหนูมีบินไปพิษณุโลก หนูก็เลยยังไม่ได้ดูแบบเต็มๆ เพราะที่เห็นน้องแค่ตอนชุดราตรี ตอนที่น้องได้โพสต์ เพราะหนูต้องรีบขึ้นเครื่อง ต้องขับรถด้วย ดูเยอะไม่ได้ เห็นแต่คลิปของน้องกับประเทศอื่นที่เดินปังๆ ก็เห็นนิดหน่อย แต่ยังไม่ได้ดูภาพรวม เพราะเมื่อวานนี้ก็ค่อนข้างดึก แต่หนูทันดูชุดประจำชาติด้วย เพราะตอนนั้นแต่งหน้าอยู่ กรี๊ดลั่นบ้านเลย เราก็แอบเฟลนิดหน่อยในเรื่องของการเตรียมตัว เราก็เตรียมตัวไปกันพอสมควร พอไปถึงโน่นเราก็ไม่อยากให้เกิดอะไรผิดพลาด แต่เมื่อมันเกิดแล้ว แต่น้องก็ยังคุมสติได้อยู่ เราก็ต้องให้กำลังใจน้อง
เรื่องแก้ไขสถานการณ์ มันนับเป็นคะแนนไม่ได้หรอกค่ะ แค่เราดูที่บ้านยังตกใจเลย แต่ว่าน้องอยู่ตรงนั้น ก็ถือว่าน้องควบคุมสติตัวเองได้ดีที่ยังไปต่อได้ การแสดงของน้องบนเวทีก็ตามสไตล์ที่เขาได้ฝึกซ้อมมา มันก็ต้องมีการฝึกซ้อมมาว่าจะพรีเซนต์ชุดแบบไหน ยังไงบ้าง ในความคิดหนูอาจจะเป็นเรื่องของการขนส่ง บางทีพอมันย้ายบ่อยๆ อาจทำให้หักได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดอะไรแบบนี้เราก็ไม่รู้ในอนาคตหรอกว่าจะเกิดยังไงบ้าง เราก็บอกไม่ได้เหมือนกัน”
บอกอย่าไปโยงเรื่องประวัติศาสตร์ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
“คือครั้งนี้เขาประกวดไม่เหมือนตอนปีของตาล ตอนปีตาลจะประกวดรอบชุดว่ายน้ำ ชุดราตรี แล้วค่อยชุดประจำชาติ แต่ของน้องชุดประจำชาติก่อน คิดว่าน่าจะมีการเตรียมตัวมากพอสมควรนะ เพราะมันเป็นโชว์แรก แต่เราก็ไม่รู้ไงว่าเรื่องการหักอาจจะเกิดแอ็กซิเดนต์ก่อนหน้านี้แล้ว น้องอาจจะรีเช็กแล้วก็ได้ แต่พอไปถึงตรงนั้น พอมีแรงเหวี่ยงต่างๆ อาจจะหักโดยที่เราไม่คาดคิดก็ได้ แต่คิดว่าถ้าโชว์แรกมันจะมีการเตรียมตัวอยู่แล้ว มีเวลาพอสมควร แต่ตอนปีตาลแทบจะไม่มีเวลาเลย
คนก็เอาไปโยงประวัติศาสตร์ ก็โยงกันไปเรื่อย มันก็เป็นกำลังใจอย่างหนึ่งให้เราเดินหน้าต่อไปได้ เราไม่เห็นต้องท้อเลย เพราะมันก็เป็นโชว์ๆ หนึ่งเหมือนกันที่ให้ทุกคนได้ออกมาพรีเซนต์ ซึ่งหนูไม่รู้ว่าปีนี้เขามีรางวัลชุดประจำชาติหรือเปล่า ยังไม่รู้ว่ามันมีอะไร ยังไง กฏเกณฑ์แบบไหน ก็ยังไม่ต้องไปซีเรียส แต่ซีเรียสเรื่องที่เขาจัดแพตเทิร์นเวทีดีกว่า มันค่อนข้างที่จะน่าผิดหวังเหมือนกัน เหมือนหลายๆ ประเทศเตรียมตัวเพื่อที่จะมาประกวด มาโชว์ให้ทุกคนได้เห็น ได้พรีเซนต์ประเทศตัวเอง พรีเซนต์ตัวเอง ก็แอบผิดหวังตรงนี้ที่มันไม่ค่อยได้มีอะไรให้นางงามได้โชว์ มันมีแค่ยืนเฉยๆ ความพริ้วไหวของชุดก็ไม่เห็น เราไม่รู้ด้วยว่ากฏเกณฑ์การตัดสินของเขาคือยังไง”
บอกปีนี้เป็นปีแรกที่ “แอน” จัดคนเดียวเต็มๆ คงต้องให้เวลากันบ้าง
“ก็อ่อมอยู่ แอบเสียดาย การจัดประกวดครั้งหนึ่ง พอมันเป็นเวทีมิสยูนิเวิร์ส มันจะมีความคาดหวังและจะมีความยิ่งใหญ่อยู่ในนั้น ซึ่งหลายๆ ปีที่ผ่านมามันค่อนข้างที่จะถดถอยลงเรื่อยๆ แต่เราก็รู้สึกว่าปีนี้แม่แอน (จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์) จัด คนไทยน่าจะรู้ฟีล แต่อาจจะเป็นออแกไนซ์ฝั่งโน้น เราก็ไม่รู้อีก เพราะเราไม่ได้อยู่วงใน หนูสัมภาษณ์อะไรมากก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวโดนกะเทยด่า ก็เลยรู้สึกว่าเราแอบผิดหวังนิดหน่อยเรื่องให้น้องได้เดิน ให้ทุกคนและประเทศอื่นได้เดินด้วย
เรื่องการจัดไฟบนเวที ที่คนก็วิจารณ์เยอะ ก็มันไม่ได้จริงๆ (หัวเราะ) เราก็ไม่รู้จะแก้ยังไง เพราะมันก็คือออแกไนซ์ของเขา เราทำอะไรไม่ได้ เมื่อออกมาแล้วเราก็ต้องโชว์เพอร์ฟอร์แมนซ์ของเราให้เต็มที่แค่นั้น เราก็ไม่รู้ว่าเขาอาจจะเปลี่ยนทีมมั้ง หรือยังไม่เคยทำงานร่วมกัน ด้วยความที่แม่แอนก็จัดปีนี้เต็มตัวปีแรกแบบเดี่ยวๆ เลย ก็อาจจะลองผิดลองถูก เราก็อาจจะต้องใช้เวลานิดนึง”
อยากให้คนไทยร่วมลุ้นมงฯ ด้วยกัน
“จริงๆ ถ้าสมมติเขาเห็นข้อผิดพลาด เขาก็น่าจะแก้ไขได้ทันเวลา ยังมีเวลาที่จัดไฟ เพราะมีทีมงานตรงนั้นที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ถ้าสมมติเขาเห็นข้อผิดพลาดตรงนี้ เขาก็น่าจะแก้ไขได้ คิดว่าอย่างนั้น เราก็ไม่รู้อีกเพราะไม่ได้ไป ตอนแรกอยากไปมาก คุยกับผู้จัดการไว้แล้วว่าจะไม่รับงาน เพื่อไปเชียร์น้อง แต่พอดีมีงานเขาจองไว้ล่วงหน้า 3-4 เดือน แล้วชนพอดีก็เลยไม่ได้ไป ก็เสียดายอยู่
อยากให้ทุกคนตื่นมาส่งกำลังใจให้สายสะพายไทยแลนด์ของเรา เพราะน้องและทีมงานทุกคนก็ตั้งใจมากๆ ก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจและมาหวังมงฯ 3 ไปด้วยกัน ใครจะไปรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอาจจะมีอะไรที่ดีๆ เข้ามาก็ได้ มีใครในดวงใจไหม ที่เขาตัดมาเท่าที่หนูเห็นก็มีซิลี เปรู เวเนซุเอลา โดมินิกัน ไทยแลนด์ค่ะ”