เมื่อถูกถามว่าอยากให้ใครมารับบท "เจมส์ บอนด์" ต่อไป "แดเนียล เครก" ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า "ผมไม่แคร์" ส่วนเมื่อถูกถามถึงจำนวนครั้งที่เขาแสดงบทนี้ เขายอมรับว่า "ผมคงตอบผิดแน่ ต้องนับดูก่อน ให้ตอบตอนนี้ไม่รู้จริง ๆ" ในงานพรีเมียร์ของ Glass Onion ซึ่งได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชม "แดเนียล" เสนอว่าน่าจะนำไปฉายโรง แต่ "เท็ด ซาแรนดอส" ซีอีโอของ Netflix ตอบกลับว่า แนวทางของ Netflix ไม่เน้นการอนุมัติให้หนังฉายยาวในโรงก่อนเผยแพร่ในแพลตฟอร์มของตน ทำให้ "แดเนียล เครก" ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า “โมเดลธุรกิจของคุณมันห่วยแตกแล้ว”
“เซนดายา” และ “ทอม ฮอลแลนด์”
จะกลับมาร่วมงานกันบนจออีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ “คริสโตเฟอร์
โนแลน” สำหรับ Universal Pictures
ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง
แต่อาจไม่ได้เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน
นับว่าเป็นการปรากฏตัวร่วมกันครั้งแรกของทั้งสองนอกเหนือจากภาพยนตร์
“Spider-Man” ทั้งนี้ยังไม่ยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราว แต่มีข่าวว่า
“แอน แฮธาเวย์” จะร่วมแสดงในภาพยนตร์นี้ด้วย
ซึ่งจะนับเป็นการร่วมงานครั้งที่สามของเธอกับโนแลน
รวมถึงการมีนักแสดงหน้าเก่าของโนแลนอย่าง “แม็ต เดมอน”
"โรเซ่" สมาชิก BLACKPINK ปรากฏตัวในรายการ Hot Ones
ซึ่งเป็นรายการสัมภาษณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง
และเป็นที่กล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในรายการทอล์กโชว์ที่ดีที่สุดที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์อยู่
โดยในรายการ โรเซ่ได้พูดคุยถึงหลายเรื่องระหว่างโปรโมทอัลบั้มเดี่ยวของเธอ
"Rosie" ตั้งแต่ต้นกำเนิดชื่อสุนัขของเธอ (พร้อมคำอำลาที่น่าขำขัน)
ไปจนถึงสิ่งที่ทำให้ BLACKPINK โดดเด่น ความร่วมมือกับ "บรูโน่ มาร์ส"
ชีวิตในฐานะศิลปิน K-pop และการแพร่หลายของวัฒนธรรมเกาหลี
ที่สำคัญที่สุดคือเธอได้เผชิญกับรสชาติของซอสเผ็ดในรายการอย่างเต็มที่
ภาพยนตร์ "Orphan" ภาค 3 ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมี
"อิซาเบล เฟอร์แมน" นักแสดงนำจากเรื่อง "The Hunger Games" ที่ปัจจุบันอายุ
27 ปีมารับบทนำต่อ แฟรนไชส์นี้ได้รับความนิยมทั่วโลกและทำรายได้รวมกว่า
125 ล้านดอลลาร์ ภาคแรกเล่าถึงคู่สามีภรรยาที่รับเลี้ยงเด็กหญิงวัย 9
ขวบจากบ้านกำพร้าในยุโรป แต่กลับพบว่าเธอไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่เห็น
ส่วนภาคสอง "Orphan: First Kill" ซึ่งเป็นพรีเควล เล่าเรื่องของ "ลีอีนา"
ที่หนีออกจากสถาบันจิตเวชในเอสโตเนียและแสร้งเป็นลูกสาวที่หายตัวไปของครอบครัวร่ำรวย
ภาคนี้เปิดตัวในปี 2022 และทำรายได้กว่า 45 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก