xs
xsm
sm
md
lg

“บี น้ำทิพย์” สร้างครอบครัวแล้ว แต่จะไม่มีลูก ไม่จัดงานแต่ง เพราะเสียดายเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บี น้ำทิพย์” รักแฮปปี้ สร้างครอบครัวแล้วกับ “ไฮโซฟลุค” ยันไม่จัดงานแต่งเพราะเสียดายเงิน เก็บเอาไว้เที่ยวฮันนีมูนดีกว่า ไม่คิดมีลูกเพราะไม่อินกับเด็ก ขออยู่ชิลๆ สองคนไปจนแก่ เผยกลับมารับละครช่อง 3 ในรอบหลายปี ช่องวันไม่ติด โดดเล่นข้ามช่องได้

เตรียมมีผลงานให้แฟนๆ ได้ติดตามกันแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” ที่ล่าสุดขอโดดข้ามจากช่องวัน มาเล่นที่ช่อง 3 ในซีรีส์ The Idol Game เกมส์ไอดอล ล้มตัวแม่ โดยวันนี้ (12 พ.ย. 67) ในงานเปิดตัวซีรีส์ดังกล่าว บีก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า ทางต้นสังกัดช่องวันนั้นเปิดกว้างมาก อนุญาตให้ไปร่วมงานได้กับทุกค่ายและทุกช่อง ก่อนจะอัปเดตรักหวานกับแฟนหนุ่ม “ไฮโซฟลุค ชลัคร ชีวเกษมสุข” ว่าตอนนี้ใช้คำว่าครอบครัวเดียวกันแล้ว พร้อมยืนยันว่าจะไม่จัดงานแต่ง อาจจะแค่นัดกินข้าวกับเพื่อนสนิท

“ในรอบกี่ปีจำไม่ได้เลย แต่ไปๆ มาๆ กับช่อง 3 อยู่แล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็จะมีเรื่องหนึ่งที่ติดต่อมา แต่ไม่มีโอกาสได้ไปเล่นเพราะติดอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีค่ะ พออ่านเรื่องย่อแล้วก็รู้สึกว่าโปรเจกต์นี้มันไม่ธรรมดา นักแสดงแต่ละท่านที่เราเห็นก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ยิ่งมาถ่ายทีเซอร์ มาร่วมเข้าฉากกันวันหนึ่ง ก็โปรดักชั่นอลังการมาก ถ่ายสวย ถ่ายเป็นหนังเลย เรื่องราวเข้มข้นมากๆ”

ต้นสังกัดช่องวันไม่ติด อนุญาตให้เล่นข้ามช่องได้
“จริงๆ เล่นได้ทุกช่องเลยค่ะ ไปได้ทุกค่ายเลย ติดต่อมาได้ค่ะ เราเลือกรับจากบทที่น่าสนใจ ถ้ามีอะไรที่เรารู้สึกว่า เราเหมาะสม หรือว่าท้าทายให้เราเล่น ก็จะพิจารณาก่อน แล้วก็มีการคุยก่อนว่า มันจะเป็นยังไง รายละเอียดเป็นยังไง สำหรับบีเปิดกว้างค่ะ ไปได้ทุกช่อง แต่ก็ยังอยู่ช่องวันนะ เหมือนทางช่องให้โอกาสให้เราได้เติบโต เวลาเราไปเล่นช่องอื่นก็จะเจอทีมงานใหม่ นักแสดงใหม่ ซึ่งเขาอนุญาตทุกคนค่ะ จริงๆ บีก็เล่นช่อง 3 มานานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่อยู่แกรมมี่ จนเป็นเอ็กแซ็กท์ช่องวัน ก็ค่อนข้างอิสระ”

“บีว่าสมัยนี้ถ้าเราอยู่ช่องใดช่องหนึ่ง แล้วผู้ใหญ่ใจดีเปิดกว้างให้นักแสดงในช่องลองไปสัมผัสค่ายอื่น ทีมงานอื่น มันจะทำให้นักแสดงคนนั้นได้โตมากขึ้น ได้เรียนรู้วิธีการทำงานกับคนอื่นบ้าง มีการแอคทีฟในการทำงาน รู้ว่าข้างนอกจริงๆ แล้วเขาเป็นยังไง ในบ้านเราเป็นยังไง เพราะฉะนั้นช่องก็ค่อนข้างใจกว้างค่ะ”

เผยธุรกิจที่พัทยาราบรื่น ไม่มีอาถรรพ์คู่รักทำงานร่วมกัน
“ไม่มีปัญหาเลยค่ะ แฮปปี้ราบรื่นดีค่ะ เพราะเราไม่ได้ทำงานกันแบบเด็กๆ ค่ะ เราใช้เหตุผลในการทำงานมากกว่า เราคุยกันด้วยเหตุผลว่าความเป็นไปได้ของงานมันน่าจะไปในทิศทางไหน เรามีการวางแพลนกันมาก่อน คือเขาเป็นคนที่ทำงานจริงจังอยู่แล้วค่ะ งานก็งาน ส่วนตัวก็ส่วนตัว ไม่ก้าวก่ายกัน”

รักแฮปปี้ ไม่มีเรื่องเครียด
“ก็แฮปปี้ดีค่ะ ยังไม่มีเรื่องอะไรที่รู้สึกเครียด”

ไม่จัดงานแต่ง สวมแหวนไปแล้ว ผู้ใหญ่รับรู้คือจบ
“คิดว่าไม่มีค่ะ พูดได้เลย เพราะว่าในยุคนี้เราต้องอยู่อย่างพอเพียง ใช้ชีวิตสองคนอย่างแฮปปี้มีความสุขมากกว่า เราไม่ต้องการทำอะไรที่ยิ่งใหญ่อลังการ ให้คนต้องมาโฟกัสว่าเราทำอะไร (จบที่การสวมแหวนไปแล้ว?) ใช่ค่ะ ผู้ใหญ่รับรู้ก็คือจบแล้ว ส่วนเรื่องการจดทะเบียนสมรส อันนี้ขอเป็นเรื่องส่วนตัวดีกว่าค่ะ คือจริงๆ เขามีคุยว่า ถ้าจัดก็อยากจัดแบบมีเพื่อนสนิทๆ กินข้าวกัน ไม่ได้จัดใหญ่ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ เอาฤกษ์สะดวกเลยค่ะ”

เสียดายเงิน ไม่คิดจัดงานแต่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ถ้าจัดเราก็คงจัดเล็กๆ แน่นอน เราไม่ฟังเสียงใคร เราฟังเสียงตัวเองดีกว่า อันนี้เป็นความตั้งใจของบีตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เราไม่เคยคิดว่าเราต้องจัดงานยิ่งใหญ่ เสียดายเงินค่ะ เอาเงินไปเที่ยวฮันนีมูนดีกว่า บีคิดว่าความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน เราค่อนข้างใช้ชีวิตเรียบง่ายค่ะ”

ใช้ชีวิตเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
“ก็เปิดแล้วนะตอนนี้ ไม่ได้มีปิดบังอะไร เดินไปไหนมาไหน กินข้าว ไปเที่ยวกับแก๊งเขาแก๊งเราปกติ (เรียกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว?) ก็ได้ค่ะ”

ตกลงกันจะไม่มีลูก เพราะไม่ได้อินกับเด็กขนาดนั้น
“ไม่อยากมีค่ะ เพราะบีไม่ได้อินกับเด็กขนาดนั้น และไม่คิดว่าจะมีอยู่แล้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไน เพราะรู้สึกว่าอยู่อย่างนี้ก็ชิลดี ก็ใช้ชีวิตของเราไปจนแก่เฒ่าดีกว่า จริงๆ ไม่ได้ชอบเด็กนะ แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ หลายคนบอกว่าถ้ามีเด็กมันก็ดี เพิ่มประชากร เพิ่มเศรษฐกิจต่างๆ เราเข้าใจนะ แต่เราคิดว่าอยู่ที่ความสบายใจของเราดีกว่า พ่อแม่คนไหนที่ไหวก็ดีไป แต่สำหรับเรารู้สึกว่าเราไม่พร้อมมีที่จะมี คือถ้าเป็นแม่จริงๆ เราเป็นได้แน่นอน เรารู้อยู่แล้วว่าเราจะเลี้ยงยังไง แต่ว่าเราคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ค่ะ”









กำลังโหลดความคิดเห็น