xs
xsm
sm
md
lg

"แอม” แช่ง ทีมงานแม่หยัว ขอให้ได้รับกรรมที่ทำกับแมว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แบน แม่หยัว ทารุณกรรมสัตว์ ไม่ดูโว้ย "แอม เสาวลักษณ์" น้ำตาซึม สงสารแมวดำโดนวางยาสลบ แช่งชักหักกระดูก ทีมงานแม่หยัว ขอให้ได้กรรมที่ทำกับแมว

ยังคงเป็นกระแสสังคมที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากถึงความไม่เหมาะสม กับกรณีฉากวางยาสลบแมว ในละครเรื่อง แม่หยัว ทางช่องวัน 31 ซี่งในเรื่องนี้ก็มีบุคคลหลายๆ กลุ่มออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย อย่างวงการบันเทิงเองก็คือ “บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ที่ออกมาโพสต์ว่า

"ละครทีวีไม่จำเป็นต้องเอาเปรียบและเบียดเบียนชีวิตของแมว ชีวิตใคร ใครก็รัก แล้วแมวได้อะไรจากการมาเป็นส่วนหนึ่งในละคร นอกจากคนทำละครได้ความพึงพอใจ แต่แมวต้องเจ็บปวดทรมาน ไม่สามารถขัดขืนได้ จากการเอาเปรียบของคน”

รวมไปถึงทางด้านนักร้องดีว่ารุ่นใหญ่ “แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร” ที่ถึงขั้นออกมาโพสต์ว่า “เกิดมาทั้งชีวิตยังไม่เคยแบนใครทั้งสิ้น..แต่สำหรับการทารุณสัตว์ครั้งนี้ หัวใจสลายจริงๆ รับไม่ได้เลยค่ะ #แบนแม่หยัวและการทารุณสัตว์” พร้อมทั้งข้อความว่า “ไม่ทราบว่าเอาอะไรมาคิดคะ แมวไม่ใช่นักแสดงสมทบ หรือสตั้นท์ ที่เขาสมัครใจมาทำงานด้วยตัวเอง แมวพูดไม่ได้ ไม่มีทางสู้…นึกไม่ถึงว่าจะทำกันได้ขนาดนี้ ความโกรธเป็นสิ่งไม่ดี…ใช่ค่ะ…แต่ตอนนี้ดูจิตไม่ทันแล้ว มโนกรรมแข่งชักหักกระดูกพุ่งล่วงหน้าออกนอกจิตไปแล้ว นี่เขียนไปยังมือสั่นไป .... น้ำตาซึม หมดคำจะพูด ให้สุภาพกว่านี้แล้วค่ะ 👎🏻👎🏻👎🏻😭😭😭🤬🤬🤬 #แบนแม่หยัว #แบนการทารุณสัตว์ ไม่ดู(โว้ยยย) ค่ะ!! ขอให้..... เจริญเจริญ !!$<%*!!?^¥&; เจริญทางไหนแล้วแต่บาปกรรมใครกรรมมัน ขอให้ได้อย่างที่"อยาก" ก็ละกัน ชีวิตอื่นช่างมัน.... เช็ดดดด...(แปลว่าทำความสะอาด..ละกัน) 🐈‍⬛🐈‍⬛&🐊🐊😢😢”

ทางด้าน “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวไว้ว่า “#ในฐานะที่ฉันก็มีหมาดำ หมาแมวสีดำก็มีชีวิตจิตใจ การที่คุณบอกวางยาสลบแมวเพื่อเข้าฉาก โห…พูดไม่ออก ถ้านอกจากการรักษาไม่ควรเลย แล้วแมวมีเจ้าของคงไม่มีใครยอม (ถ้ายอมก็ยอมใจ) ถ้าเอาแมวจรมาแปลว่าคุณก็ไม่สนว่ามันจะเป็นยังไง แล้วต้องมีผู้เชี่ยวชาญวางยาให้ใช่ไหม !? …ฟื้นแล้วก็ปล่อยไปตามยถากรรมงั้นหรือ !? ผมขอ #ร่วมต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ ครั้งนี้ ถึงละครเรื่องนี้ผมจะไม่ได้ดู แต่ก็ขอแสดงจุดยืน… และเป็นกระบอกเสียง #แบนแม่หยัว ครับ”

รวมถึงฝั่งสัตวแพทย์เองก็ได้ออกเปิดใจถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ “สัตวแพทย์หญิงภสดล อนุรักษ์โอฬาร” หรือ “หมอผึ้ง” เจ้าของช่องยูทูป “หมอหมาหมอแมว” ให้ความเห็นเกี่ยวกับการวางยาสลบสุนัข แมว อย่างปลอดภัยว่าต้องมีการเตรียมตัวในการวางยาสุนัขและแมวอย่างระมัดระวัง โดยส่วนสำคัญอยู่ที่สุขภาพของสัตว์ ในบางตัวต้องมีการตรวจประเมินหัวใจเอกซเรย์ในช่องอก อย่างตัวที่มีความซีเรียสมาก ๆ จะต้องมีการตรวจหัวใจและตรวจอย่างละเอียดด้วยการเอคโค่หัวใจ เพื่อดูการทำงานของหัวใจเนื่องจากหัวใจกับปอดมีผลต่อการวางยามากๆ

ในทุกเคสต้องมีการเตรียมตัวป้องกันผลกระทบหลังจากการวางยาที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งข้อระวังในการวางยาสลบสุนัขและแมว อย่างเช่นสุนัข แมวที่มีโรคแทรกซ้อน อย่างเช่นโรคหัวใจหรือเรื่องของปอด เรื่องของโรคไต โรคตับที่มีผลต่อการขับยาในเคสเหล่านี้ ส่วนลักษณะการคย้อนหรืออาเจียน เกิดจากยาซึมหรือยาสลบก็จะมีผลข้างเคียงอยู่แล้ว และจะพบได้บ่อยมากในหลายกลุ่มของตัวยา และการอาเจียนนี่คือตัวสำคัญในการเตรียมงดน้ำงดอาหาร หากไม่งดน้ำหรืออาหารจะมีอาการเกิดขึ้น 80 ถึง 90% หากไม่มีการเตรียมตัวก็อาจจะมีการไหลย้อนไปลงที่ปอดได้ และเป็นสิ่งที่เรากังวลที่สุดในการวางยาสลบ เพราะหากเกิดอาการดังขึ้นทางการแพทย์จะเรียกว่าเป็นภาวะปอดติดเชื้อ ปอดอักเสบซึ่งเป็นภาวะที่รักษาได้ยาก

การนำสัตว์เข้ามาฉากในโฆษณาหรือภาพยนตร์ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มสัตว์ที่ถูกฝึกมาแล้ว แต่ถ้าพูดแบบคนไม่มีความรู้ทางด้านโปรดักชั่น การจะใช้ภาพบางฉากเช่นสัตว์นอนตายก็จะน่าใช้เอฟเฟกต์เข้ามาใช้น่าจะเหมาะกว่า ซึ่งถ้าเกิดทำเทคนิคได้ดีคนดูก็จะรับได้ มันยังดีกว่าจะทำให้มีข้อสงสัยว่าจะทำให้สัตว์เกิดอันตรายหรือได้รับบาดเจ็บ แต่คนทั่วไปก็อยากจะให้มองว่าสัตว์เลี้ยงเช่นหมาแมวก็จะเป็นเหมือนคนๆ หนึ่ง อะไรก็ตามที่สิ่งนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของสัตว์ หรือแม้จะทำให้ทำให้สัตว์ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างถ่ายคนดูก็จะรับไม่ได้ เรามองว่าหากใช้ตัวเองเป็นมาตรฐานว่าถ้ามองว่าเราเป็นคน ถ้าเราถูกกระทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเกิดอันตราย เราก็จะรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งนั้นเช่นกัน”

รวมถึงทางด้านทนายความอย่าง “ทนายพจน์” หรือ “นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร” ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่มีกระแสนี้ออกไป มีคนรักหมา แมว รวมถึงชาวเน็ตได้มีประเด็นและกระแสความเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของแมวตัวสีดำที่มีการเข้าฉากดังกล่าว แม้หลังมีการออกอากาศไม่นาน แต่มีกระแสเรียกร้องไปยังแพทยสภาให้มีการเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าว รวมถึงผู้กำกับของซีรีส์ดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงว่าการกระทำดังกล่าวได้มีแพทย์ดูแลขั้นตอนการวางยา ซึ่งสุขภาพของน้องแมวยังแข็งแรงดีในปัจจุบัน

ตนมองว่าประเด็นนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจะมีแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในขั้นตอนของการวางยาสลบแมวตามที่มีการออกมาชี้แจง หรือเรียกร้องของคนรักสุนัขและแมวผ่านโลกโซเชียลเป็นจำนวนมากหรือไม่ แต่มีความสูงเสี่ยงที่จะเกิดประเด็นเกี่ยวกับการเข้า พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ โดยมีประเด็นว่าการกระทำดังกล่าวหากมีผู้ไม่มีความรู้อยู่ในนั้นเป็นผู้ลงมือกระทำถึงชัดเจนว่าแมวยินยอมให้มีการดำเนินการเช่นนั้นอาจเข้าข่ายผิดข้อหาในเรื่องนั้นด้วย

การวางยาสลบในฉากละครดังกล่าว ในข้อกฎหมายอาจจะทำให้เกิดการสำลักได้ เพราะอาจจะไม่ได้อดอาหารมาก่อน และเศษอาหารที่เกิดการสำลักอาจจะไปอุดหลอดลมและจะเป็นสาเหตุของการทำให้เสียชีวิตได้ น่าจะเข้ากับ พ.ร.บ.ป้องกันคุ้มครองสัตว์ปี 2557 มาตรา 20 ว่าไว้คือ ว่าห้ามทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร ใครทำผิดในมาตรานี้จะเข้าข่ายความผิดตามมาตร 31 ลงโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท

ส่วนกรณีที่มีบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในนั้น ประการแรกคือแมวไม่ยินยอมด้วย ประการที่สองหากผู้มีความรู้อยู่ด้วย ได้มีกระบวนการในการให้อดอาหารก่อนที่จะมีการวางยาสลบหรือไม่ เพื่อป้องกันที่จะให้ไม่เกิดการสำลักไปอุดหลอดลม ซึ่งต้องทำด้วยความยินยอม และหากทำโดยไม่มีผู้มีความชำนาญจะเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ เพื่อเป็นการให้สัตว์เข้าฉากเพื่อประโยชน์อันใดจะเห็นเจตนา เราจะวางยาสลบคนโดยวิสัญญีแพทย์ยังต้องมีการยินยอม แต่แมวเขาไม่ได้ยินยอมด้วย และถ้าทำโดยคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญจะผิดในฐานทารุณกรรมสัตว์"



















กำลังโหลดความคิดเห็น