xs
xsm
sm
md
lg

รู้ให้รอบ ขั้นตอนการทำ ICSI เพื่อให้ว่าที่พ่อแม่มือใหม่มั่นใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำหรับคู่สมรสที่มีความพร้อมในการสร้างครอบครัว และต้องการมีบุตรเพื่อมาเติมเต็มชีวิตที่สมบูรณ์ แต่ประสบปัญหาเรื่องการมีบุตรยาก การทำ ICSI เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ด้วยเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทำ ICSI ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน เพื่อประเมินสภาพร่างกายและวางแผนการขั้นตอนการทำ ICSI ที่เหมาะสมที่สุด บทความนี้ชวนมารู้ให้รอบ เกี่ยวกับขั้นตอนการทำ ICSI เพื่อให้ว่าที่พ่อแม่มือใหม่มั่นใจกับนวัตกรรมนี้

ICSI คืออะไร ?
ICSI ย่อมาจาก Intracytoplasmic Sperm Injection เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ชนิดหนึ่ง ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีขั้นตอนพิเศษ คือ การนำสเปิร์มเพียงตัวเดียวฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง ทำให้มีโอกาสในการปฏิสนธิสูงขึ้น เหมาะสำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพของสเปิร์ม เช่น จำนวนสเปิร์มน้อย สเปิร์มเคลื่อนไหวช้า หรือมีรูปร่างผิดปกติ

ขั้นตอนการทำ ICSI หลัก ๆ ที่สำคัญ
• การกระตุ้นรังไข่ : แพทย์จะให้ยา เพื่อกระตุ้นให้รังไข่สร้างไข่หลายฟอง
• การเก็บไข่ : ใช้เข็มดูดขนาดเล็ก ดูดไข่ออกมาจากรังไข่ภายใต้การตรวจอัลตราซาวนด์
• การเก็บสเปิร์ม : สามีจะให้ตัวอย่างสเปิร์ม เพื่อนำมาเตรียมในห้องปฏิบัติการ
• การปฏิสนธิ : นักวิทยาศาสตร์จะเลือกสเปิร์มที่มีคุณภาพดีที่สุดเพียงตัวเดียว ฉีดเข้าไปในไข่แต่ละฟอง
• การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน : ไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว จะถูกนำไปเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 3-5 วัน
• การส่งตัวอ่อนกลับเข้าสู่มดลูก : ตัวอ่อนที่พัฒนาสมบูรณ์จะถูกส่งกลับเข้าสู่มดลูกของภรรยาโดยใช้ท่อขนาดเล็ก
• การตรวจวัดระดับฮอร์โมน : หลังจากการส่งตัวอ่อนแล้ว จะมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์

ข้อดีของการทำ ICSI
• อัตราการตั้งครรภ์สูง : เหมาะสำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพของสเปิร์ม
• เลือกเพศได้ : สามารถตรวจสอบเพศของตัวอ่อนก่อนการส่งกลับเข้าสู่มดลูก (ขึ้นอยู่กับกฎหมายและนโยบายของแต่ละสถานพยาบาล)
• ตรวจสอบความผิดปกติทางพันธุกรรม : สามารถตรวจสอบความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนการส่งกลับเข้าสู่มดลูกได้
• มีประสิทธิภาพสูง : เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า ทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ มีความแม่นยำมากขึ้น
ข้อควรระวังการทำ ICSI
• ค่าใช้จ่ายสูง : การทำ ICSI มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
• ผลข้างเคียงจากยา : ยาที่ใช้ในการกระตุ้นรังไข่ อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือมีไข่หลายฟอง
• ไม่รับประกันความสำเร็จ : แม้ว่าจะมีโอกาสสำเร็จสูง แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ 100%
• ความเครียด : กระบวนการทำ ICSI อาจก่อให้เกิดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ

วิธีการเลือกสถานพยาบาลเพื่อให้ขั้นตอนการทำ ICSI ประสบความสำเร็จ
• ประสบการณ์ของแพทย์ : เลือกสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางในด้านขั้นตอนการทำ ICSI โดยเฉพาะ
• อุปกรณ์และเทคโนโลยี : สถานพยาบาลควรมีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
• อัตราความสำเร็จ : สอบถามอัตราความสำเร็จของการทำ ICSI จากสถานพยาบาล
• ค่าใช้จ่าย : เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของแต่ละสถานพยาบาล
• ความสะดวกสบาย : เลือกสถานพยาบาลที่เดินทางสะดวกและมีบริการที่ครบครัน

จะเห็นได้ว่านอกจากแพทย์ผู้ชำนาญการและขั้นตอนการทำ ICSI ที่รัดกุม การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจของว่าที่คุณพ่อคุณแม่ ก่อนทำ ICSI ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ และควรปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับคำแนะนำในการรับมือกับความเครียด หรือการเข้าร่วมกลุ่มสนทนาของผู้ที่กำลังทำ ICSI จะช่วยให้คุณได้รับกำลังใจและข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ความหวังในการมีบุตรของคุณประสบความสำเร็จอย่างดงาม พร้อมเติมเต็มชีวิตครอบครัวของคุณให้สมบูรณ์แบบ



กำลังโหลดความคิดเห็น