“ควินซี โจนส์“ หรือที่เรียกกันทั่วไปในวงการเพลงว่า “คิว” ผู้มีอิทธิพลอย่างมากกับวงการเพลงอเมริกัน ที่รังสรรค์เพลงร่วมกับศิลปินระดับโลกทั้ง แฟรงค์ ซินาตรา และ ไมเคิล แจ็คสัน ได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 91 ปี
ตามรายงานระบุว่า ควินซี โจนส์ เสียชีวิตในวัย 91 ปี เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ปิดตำนานของนักดนตรีระดับตำนานที่เคยเป็นทั้ง นักเป่าแตร, หัวหน้าวงดนตรี, ผู้เรียบเรียงดนตรี, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์ และ เป็นผู้ชนะรางวัลแกรมมี่ 27 รางวัล
นอกจากนั้นเขายังขึ้นชื่อเรื่องของการทำงานอย่างหนักในสตูดิโอ และการให้ศิลปินยอมละทิ้งอีโก้เพื่อให้ร่วมงานกันได้ด้วยจุดประสงค์เดียวกันคือสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่มีคุณภาพ
เขาเคยสร้างสรรค์งานบันทึกเสียงโดยนักดนตรีแจ๊สผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ไมล์ส เดวิส โปรดิวซ์งานให้กับ แฟรงค์ ซินาตรา และรวบรวมนักดนตรีซุปเปอร์สตาร์เพื่อบันทึกเสียง We Are the World ซึ่งเป็นเพลงระดมทุนในปี 1985 นับเป็นเพลงฮิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น
กลุ่มเพื่อนของ ควินซี โจนส์ ล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในศตวรรษที่ 20 เขาเคยรับประทานอาหารร่วมกับ ปาโบล ปิกัสโซ พบกับสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ช่วย เนลสัน แมนเดลา เฉลิมฉลองวันเกิดปีที่ 90 และครั้งหนึ่งเคยช่วยกอบกู้เกาะแปซิฟิกใต้ของ มาร์ลอน แบรนโด เพื่อฟื้นตัวจากสภาพทรุดโทรม
ในโลกของดนตรีคนที่ โจนส์ ร่วมงานด้วยส่วนมากจะมีชื่อเสียงเป็นตำนานเข้าไปอยู่ในหอเกียรติยศดนตรีแจ๊สหรืออาร์แอนด์บี เช่น เบซี, กิลเลสพี, ทอมมี ดอร์ซีย์, ไดนาห์ วอชิงตัน, แนท คิง โคล, ซาราห์ วอห์น, อเรธา แฟรงคลิน และเขายังโปรดิวซ์ในแนวอื่นๆ ร่วมกับ พอล ไซมอน, เอมี่ ไวน์เฮาส์, บาร์บรา สไตรแซนด์ และ ดอนนา ซัมเมอร์ ด้วย
เขายังเป็นผู้เรียบเรียงเพลงตำนานของ แฟรงค์ ซินาตรา อย่าง Fly Me to the Moon ซึ่งนักบินอวกาศ บัซซ์ อัลดริน ได้นำเทปคาสเซ็ตไปเปิดระหว่างการลงจอดบนดวงจันทร์ครั้งแรกในปี 1969 หลายปีต่อมา โจนส์ บอกกับนิตยสาร GQ ว่า ซินาตรา "โทรมาหาผม และเขาก็พูดเหมือนกับเด็กน้อยว่า 'เราได้เป็นเพลงแรกบนดวงจันทร์แล้วนะเว้ย!'"
ความสามารถของ ควินซี โจนส์ นับว่ามีความหลากหลายไม่แพ้กัน เขามีตั้งแต่แนวแจ๊สไปจนถึงโซล แอฟริกันไปจนถึงบราซิล ในปี 1991 ผลงาน Back on the Block ของเขาได้รับรางวัลแกรมมี่สาขาอัลบั้มแห่งปี และยังได้รับรางวัลแกรมมี่ในประเภทแร็ป ริธึมแอนด์บลูส์ แจ๊สฟิวชั่น และดนตรีบรรเลงอีกด้วย
ความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของ โจนส์ คือการได้ร่วมงานกับ ไมเคิล แจ็คสัน พวกเขาทำอัลบั้มสำคัญ 3 อัลบั้ม ได้แก่ Off the Wall ในปี 1979, Thriller ในปี 1982 และ Bad ในปี 1987 ซึ่งเปลี่ยนแนวเพลงยอดนิยมของอเมริกาไปตลอดกาล Thriller ขายได้มากถึง 70 ล้านชุด โดย 6 เพลงจาก 9 เพลงในอัลบัมกลายเป็นซิงเกิลฮิตติดอันดับท็อป 10 ของชาร์ตเพลง
ผลงานของ ควินซี โจนส์ กับ ไมเคิล แจ็คสัน ถือเป็นประวัติศาสตร์ แม้ว่าในตอนแรกบริษัทแผ่นเสียงของ ไมเคิล แจ็คสัน จะคิดว่า โจนส์ เป็นแนวแจ๊สเกินกว่าที่จะเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับเขา แต่พวกเขาก็เริ่มต้นทำงานด้วยกันในปี 1979 กับอัลบัม Off the Wall หลังจากที่ ไมเคิล แจ็คสัน แยกตัวจากพี่น้องของเขาในวง Jackson 5 ก่อนจะผสานเพลงแดนซ์และเพลงบัลลาดเข้าด้วยกัน ทำให้อัลบั้มนี้มีเพลง 4 เพลงที่ติดท็อป 10
เพลง Thriller ที่ทั้งคู่ร่วมงานกันในปี 1982 กลายมาเป็นเพลงฮิตของยุค 80 ควินซี โจนส์ และ ไมเคิล แจ็คสัน ต้องการขยายฐานแฟนคลับ พวกเขาจึงเพิ่มองค์ประกอบร็อคเข้าไป โดยให้ เอ็ดดี้ แวน เฮเลน มือกีตาร์ขั้นเทพเล่นโซโลสุดมันส์ในเพลง Beat It ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในเพลงดังที่สุดของ ไมเคิล แจ็คสัน ตลอดกาล
นอกจากนี้ ยังมีวิดีโอสุดตระการตาที่นำเสนอการเต้นอันน่าหลงใหลของ ไมเคิล แจ็คสัน ในช่วงที่ MTV กำลังเข้าสู่กระแสนิยม ทำให้ Thriller ส่งให้เขากลายเป็นศิลปินระดับโลก
เพลงดังอย่าง Beat It, Billie Jean และ เพลง Thriller ทำให้อัลบัม Thriller เป็นอัลบัมที่ขายดีที่สุดตลอดกาล โดยได้รับรางวัลแกรมมี่ 3 รางวัลสำหรับ โจนส์ และ 7 รางวัลสำหรับ ไมเคิล แจ็คสัน
พวกเขาทำผลงานต่อจากนั้นในปี 1987 ด้วยอัลบั้ม Bad ซึ่งมีเพลงฮิตอันดับ 1 ถึงห้าเพลง รวมถึง Smooth Criminal และ Man in the Mirror
ในปี 1985 โจนส์ และ แจ็คสัน รวมถึง ไลโอเนล ริชชี่ นได้ร่วมกันรังสรรค์ We Are the World ซึ่งเป็นอัลบัมที่จัดทำขึ้นเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากความอดอยากในเอธิโอเปีย คณะนักร้องประสานเสียงมีแต่ระดับซูเปอร์สตาร์ประกอบด้วย เรย์ ชาร์ลส์, บ็อบ ดีแลน, ไดอาน่า รอสส์, บรูซ สปริงส์ทีน และ สโม้กกี้ โรบินสัน ซึ่ง ควินซี โจนส์ เป็นผู้กำหนดโทนเสียงของการบันทึกเสียงด้วยการส่งสัญญาณถึงศิลปินระดับตำนานทุกคนว่า "ทิ้งอัตตาของคุณไว้ที่หน้าประตู" เพื่อให้เขาสามารถควบคุมการร้องของศิลปินได้อย่างราบรื่น
ควินซี โจนส์ เปิดค่ายเพลงของตัวเอง Qwest และเปิดนิตยสาร Vibe ที่พูดถึงโลกฮิปฮอป นอกจากนั้นเขายังตั้งมูลนิธิและโครงการด้านมนุษยธรรมอีดมากมาย
เขาเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องจนเกินวัยเกษียณแบบเดิมๆ ถึงขั้นที่ในปี 2018 ควินซี โจนส์ ในวัย 84 ปี ต้องกล่าวกับนิตยสาร GQ ว่า “ชีวิตผมไม่เคยยุ่งขนาดนี้มาก่อน”
ควินซี โจนส์ แต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง ภรรยาคนแรกคือแฟนสมัยมัธยมปลายชื่อ เจอรี คาลด์เวลล์ ซึ่งมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ภรรยาคนที่ 2 คือ อุลลา แอนเดอร์สัน นางแบบชาวสวีเดน ซึ่งเขามีลูกด้วยกัน2 คน รวมทั้งควินซีที่ 3 ซึ่งผันตัวมาเป็นโปรดิวเซอร์เพลงฮิปฮอป
ส่วนภรรยาคนที่ 3 ของเขาคือ เพ็กกี้ ลิปตัน นักแสดงจาก Mod Squad ซึ่งมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนักแสดง ราชิดา โจนส์ นอกจากนั้นเขายังมีสัมพันธ์รักกับนักแสดง นาตาสชา คินสกี โดยไม่ได้แต่งงานกัน และมีลูกด้วยกันอีก 2 คน