"คริส บราวน์": เส้นทางความรุนแรงยังไม่สิ้นสุด แฟนคลับยังคงหนุนหลัง

ข้อกล่าวหาโดยบุคคลไม่เปิดเผยชื่อที่ใช้ชื่อว่า เจน โด อ้างว่าแร็ปเปอร์ คริส บราวน์ ได้วางยาและข่มขืนเธอบนเรือยอชต์ของ ฌอน "ดิดดี้" คอมส์ เมื่อเดือนธันวาคม 2020

ข้อกล่าวหานี้ถูกเปิดเผยในสารคดีของช่อง Investigation Discovery เรื่อง Chris Brown: A History of Violence ที่ออกอากาศคืนวันอาทิตย์ในช่องสืบสวนอาชญากรรม

โดยสารคดีนี้เล่าเรื่องราวการใช้ความรุนแรงในชีวิตจริงของบราวน์ เช่น ความรุนแรงระหว่างคู่รัก ข้อกล่าวหาการทำร้ายร่างกาย และข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งถูกเปิดเผยครั้งแรกในปี 2009 เมื่อแร็ปเปอร์ชื่อดังยอมรับสารภาพผิดข้อหาทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาว รีแอนนา

ในสารคดี เจน โด เล่าว่าเธออยู่ในไมอามีในปี 2020 และอยู่ในงานปาร์ตี้บนเรือยอชต์ของดิดดี้ที่เกาะสตาร์ เธอสังเกตเห็นคริส บราวน์และเริ่มสนทนากับเขาเกี่ยวกับอาชีพนักเต้นในลอสแอนเจลิสของเธอ


เจน โดกล่าวว่า บราวน์ยื่นเครื่องดื่มให้เธอสองครั้ง จากนั้นเธอเริ่มรู้สึกง่วง และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนกับบราวน์ “ฉันจำได้ว่าฉันเอนหลังและสงสัยว่า ‘ทำไมฉันลุกไม่ได้’ จากนั้นฉันเห็นว่าเขาอยู่บนตัวฉันและฉันไม่สามารถขยับได้ ฉันบอกว่า ‘ไม่’ และหลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเขาเข้ามาข้างในฉัน” เธอกล่าว อ้างว่าถูกข่มขืน

อาริเอล มิตเชลล์ ทนายความของเจน โด ยืนยันกับ The Hollywood Reporter ว่าเธอยังคงเป็นทนายความให้กับเจน โด หลังจากที่เคยถอนตัวจากคดีนี้ในปี 2022 หลังจากมีการเปิดเผยข้อความที่เจน โด เคยส่งถึงบราวน์ ทั้งที่เธอปฏิเสธว่าไม่มีข้อความเหล่านั้น มิตเชลล์กล่าวว่าข้อความดังกล่าวไม่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของข้อกล่าวหาของเจน โดต่อบราวน์

“ฉันสนับสนุนเธอตั้งแต่ตอนนั้นและตอนนี้ ตอนนั้นไม่ใช่เรื่องของความจริงในข้อกล่าวหา เพียงแต่เธอไม่ได้ส่งมอบหลักฐานทั้งหมดที่เราขอมา” มิตเชลล์กล่าวเมื่อถูกสอบถามเมื่อวันจันทร์

ขณะที่ตัวแทนของดิดดี้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกสอบถามจาก THR


เจน โด ไม่ใช่ผู้เดียวที่กล่าวถึงการถูกทำร้ายจากนักร้อง R&B คนนี้ สารคดีนี้ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 2017 ที่อดีตแฟนสาว คารูเช่ ทราน ได้รับคำสั่งห้ามเข้าใกล้ หลังจากที่เธออ้างว่า บราวน์ “ต่อยฉันที่ท้องสองครั้ง” ข่มขู่เพื่อนๆ และ “ผลักฉันลงบันได”

บราวน์ปฏิเสธการกระทำผิดในเวลานั้น รวมถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทรานในปี 2015 อีกด้วย ผู้เสียหายอีกคน ลิซิแอน กูตีเรซ บอกกับสารคดีว่าในปี 2016 เธออยู่หลังเวทีในคอนเสิร์ตของบราวน์และได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ที่เขาจัดในโรงแรม ก่อนจะเข้าร่วมงาน เธอถูกขอให้ฝากโทรศัพท์ไว้ แต่เธอเก็บไว้ในกระเป๋าแทน เมื่อเธอถ่ายรูปของบราวน์ เขาเข้ามาต่อยเธอที่หน้า “บอดี้การ์ดของเขาแย่งโทรศัพท์ฉันไป และฉันถูกไล่ออกจากงาน ฉันรู้ว่าที่ฉันทำไม่ถูกต้องกับการใช้โทรศัพท์ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะต่อยฉันหน้า คุณแค่ควรจะไล่ฉันออกจากงาน” กูตีเรซกล่าว

เธอได้แจ้งความกับตำรวจลาสเวกัส แต่ทางตำรวจตัดสินใจไม่ตั้งข้อหา ทนายความของบราวน์ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ในสารคดีและกล่าวว่า “เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอ” และ THR ไม่ได้รับการติดต่อจากตัวแทนทางกฎหมายของกูตีเรซ


โปรดิวเซอร์ของสารคดี ได้ติดต่อไปยังบราวน์และตัวแทนของเขาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ถูกกล่าวถึงในสารคดี ทนายความของนักร้องคนนี้กล่าวว่าข้อกล่าวหาในรายการนี้คือ “ความพยายามใส่ร้าย และสร้างเรื่องเท็จ”

คริส บราวน์มีประวัติความรุนแรงกับผู้หญิงหลายคนที่เป็นข่าวดัง เริ่มจากกรณีที่โด่งดังในปี 2009 เมื่อเขาทำร้ายร่างกายริฮานน่า แฟนสาวในขณะนั้น ซึ่งทำให้เธอมีบาดแผลรุนแรงและเกิดการฟ้องร้องทางอาญา ต่อมาปี 2017 แฟนเก่าอย่างคารูเช ทรานได้ออกมาเปิดเผยว่าเขาเคยข่มขู่และใช้กำลังทำร้ายเธอหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการชกท้องและผลักตกบันไดจนเธอต้องยื่นขอคำสั่งคุ้มครองจากศาล นอกจากนี้ยังมีกรณีในปี 2013 ที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บในเหตุทะเลาะกับแฟรงค์ โอเชียน

ในปี 2016 นางแบบชาวบราซิล ลิเซียน กูติเอร์เรซ อ้างว่าโดนคริสชกเข้าที่ใบหน้าระหว่างงานเลี้ยงส่วนตัวที่ลาสเวกัส อีกทั้งในปี 2021 หญิงอีกคนกล่าวว่าเขาตบหน้าเธอแรงจนผมปลอมหลุดระหว่างการทะเลาะในบ้านของเขาเอง แม้ว่าหลายกรณีจะไม่ถึงขั้นฟ้องร้อง แต่พฤติกรรมของคริสก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างต่อเนื่อง