xs
xsm
sm
md
lg

“โจ๊ก โซลคูล” ภูมิใจ “น้องยี่หวา” เดบิวต์เป็นศิลปิน ลบภาพจำและก้าวผ่าน คำว่าลูกสาวโจ๊ก-โจ๊กใส่วิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โจ๊ก โซลคูล” ชื่นใจ “น้องยี่หวา” เดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ป ลบภาพจำลูกสาวโจ๊ก-โจ๊กใส่วิก มามีแฟนคลับเป็นของตัวเอง สอนลูกให้มีมายด์เซ็ตที่ดี ก้าวผ่านคำพูดไร้สาระ รับห่วงเคยไม่อยากให้เข้าวงการ เพราะตัวเองเคยเกเรมาก่อน ภูมิใจเกินร้อย ร้องไห้ในงานเดบิวต์ รับเห่อหนักกันทั้งบ้าน ไถฟีดแชร์ทั้งวัน

ทำเอาคนเป็นพ่อ อย่าง “โจ๊ก โซลคูล” หรือ “โจ๊ก กรภพ จันทร์เจริญ” ชื่นใจและภูมิใจหนักมาก เมื่อลูกสาวคนโต “น้องยี่หวา” ในวัย 13 ปี ได้เดบิวต์เป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปสมใจ กับวง Sugar 'N Spice จากค่าย LIT Entertainment ซึ่งงานนี้ในวันเดบิวต์เปิดตัว ที่มีช่วงให้เด็กๆ ได้พูดความรู้สึกถึงพ่อแม่ ก็ทำเอาพ่อโจ๊กถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ตามลูกสาวที่พูดอยู่บนเวทีไปตามระเบียบ ล่าสุดมีโอกาสได้สัมภาษณ์ โจ๊ก โซลคูล ที่มาร่วมโปรโมตละคร หนึ่งในร้อย เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงความสำเร็จของลูกสาว ว่าเป็นอะไรที่ที่ชื่นใจและภูมิใจมาก เรียกว่าเป็นความสุขของบ้านเลยก็ว่าได้

ชื่นใจมากครับ แล้วก็เป็นความสุขของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าตายาย อย่างแม่ผมลูกแก่แล้ว ก็ดูหลาน วันๆ ได้ไถฟีดเชียร์หลาน แชร์หลาน ไม่พูดถึงลูกแล้ว มันเปลี่ยนเจนฯ เป็น Sugar 'N Spice (เขารู้สึกว่าเป็นร่างสองของเราไหม?) ไม่ คือถ้าเกิดเป็นลูกชาย หรือต่อให้เป็นลูกสาวแล้วร้องเพลงในทิศทางเดียวกัน ก็อาจจะจะเป็นร่างสอง แต่อันนี้มันแค่เรียกว่านักร้องเหมือนกัน แต่ว่าด้วยแนวทางมันเหมือนคนละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการร้อง การเต้น ซึ่งเราไม่เต้นอยู่แล้ว และวิธีการร้องก็คนละศาสตร์

และไม่ได้สอนตั้งแต่แรก เพราะผมร้องแบบนั้นไม่ได้ พรสวรรค์เขามันมาเอง แล้วที่ตัวตนเขาเป็นอย่างนั้น เพราะเขาเลือกเอง เขาเลือกจากเรฟเฟอร์เร้นซ์ที่เขาเสพของเด็กรุ่นใหม่ ก็ไปทาง R&B นะ ที่ผมเข้าใจ แล้วก็เรียนร้องเพลงเพิ่มเติมอีก ซึ่งผมก็ไปขัดเมียว่าเรียนทำไม เพราะเราไม่เรียน พอลูกเก่งกว่าเยอะ เราก็เออต้องเรียนเหมือนกันเนอะ ถามว่าตอนนี้พ่อกับลูกใครร้องเพลงเก่งกว่ากัน ก็ให้คนดูตอบ (หัวเราะ)”

มีความรู้สึก 2 มิติ ทั้งชื่นชม และท้าทายไปกับลูก
“มี 2 มิติครับ อันแรกก็คือชื่นชมมาก ดีใจมาก รู้สึกใจฟูมาก แล้วมิติที่สองคือรู้สึกท้าทายไปกับเขา เพราะว่ามันไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าพอได้เป็นศิลปินปุ๊บแล้วดังเลย มันไม่ใช่ จะต้องแข่งขันกับวงเยอะแยะ กับยุคที่ T-Pop กำลังแข็งแรง มีวงขึ้นมาเต็มไปหมด แล้วเขาเพิ่งเริ่มอีก ทีนี้ก็ต้องดูกันไปยาวๆ เลยว่า ลูกเราจะไปถึงตรงไหน อันนี้ก็เป็นอีกความกดดัน ความท้าทายที่ต้องเอาใจเชียร์ไปด้วย”

เชื่อลูกสาวยังไม่ได้แบกความกดดันเรื่องความสำเร็จ แต่แบกความกดดันเรื่องการเรียนไปด้วย เป็นศิลปินไปด้วย
“ผมว่าน่าจะยังไม่ได้แบกมุมแบบพ่อ น่าจะแบกเรื่องของการซ้อม เหนื่อยการเรียน เป็นศิลปินด้วย เป็นนักเรียนด้วย อันนี้แบก แต่เรื่องการประสบความสำเร็จ ผมว่าพ่อนี่แหละแบก เด็กไม่ได้คิดหรอกว่าฉันจะดังแค่ไหน แต่คนเป็นพ่อเราผ่านมาแล้ว เราจะมองว่ามันยาก ตอนนี้คนรู้จักว่าชื่อ ยี่หวา เป็นนักร้อง แต่มันไม่ได้แปลว่าประสบความสำเร็จ การประสบความสำเร็จมีหลายเลเวลมาก”

ก้าวผ่านคำว่าลูกสาว “โจ๊ก โซลคูล” มา เป็น “ยี่หวา” Sugar 'N Spice ได้เต็มตัวแล้ว
“ณ ตอนนี้ไม่ แต่ตอนแรก ตอนยังไม่ได้เดบิวต์ก็จะโดน แล้วเขาก็จะฝึกฝนผ่านมาได้แล้ว จะโดนแบบโจ๊กใส่วิก เงาพ่อมันมาบัง ลูกโจ๊กๆ ไม่ใช่ยี่หวา มันคือลูกโจ๊ก เขาอยู่อย่างนี้มาตลอด ถามว่าเราสร้างความมั่นใจให้เขายังไง เราต้องไม่ทำเป็นเรื่องใหญ่ เราต้องหัวเราะไปกับมัน ว่าเรื่องนี้มันตลก เด็กก็เป็นอย่างนั้น ยี่หวาเลยมีมายด์เซ็ตที่แบบว่า อันนี้เรื่องเล็ก ถ้าเราแบบเฮ้ยมาพูดแบบนี้กับลูกเราได้ยังไง เดี๋ยวต้องไปบล็อก ไปอะไร ลูกก็จะจำ ว่าอันนี้ไม่ดี อันนี้ต้องโกรธ เราก็ทำเป็นตลก อันนี้ไร้สาระ เขาก็เลยไม่มีอาการกับเรื่องพวกนี้

ถามว่าตอนที่ทุกคนมีภาพจำว่าเป็นลูก โจ๊ก โซลคูล ไม่ใช่ ยี่หวา แล้วมันมีผลกับความมั่นใจของเขาไหม อันนี้ก็ไม่รู้ แต่มันข้ามไปแล้ว ตอนนี้เป็น ยี่หวา แล้ว อันนี้คุยกันขำๆ เนาะ ตอนเด็กเราก็ไม่คิดว่าลูกเราหน้าตาดีเลยนะ แต่ว่าตอนนี้เขาเริ่มคล้ายแม่ขึ้นเรื่อยๆ (หัวเราะ) เป็นเรื่องดีนะ มันเริ่มมีออร่ามา เราก็รู้สึกว่าหน้าตามันไปทางน่ารักได้ด้วย ก็ดีใจไปกับลูก (หัวเราะ) ว่าได้แม่มาเหมือนกัน แต่ได้พ่อก็ไม่ผิด ตอนเราทำเราก็ตั้งใจทำ (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่คิดว่าจากลูก โจ๊ก โซลคูล วันหนึ่งเขาจะมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง ซึ่งก็จะแซงพ่อในไม่นานนี้ เวลาไปไหนคนเริ่มรักเขา เราก็รู้สึกว่าเออ มาถึงจุดนี้ได้ อันนี้คือด่านที่ 1 ก่อน ที่มีคนยอมรับในตัวเขา ส่วนความสำเร็จก็เป็นด่านที่ 2 ต่อไป”

ลูกปรึกษาเรื่องงานตลอด โดยเฉพาะกับแม่ ส่วนพ่อเหมือนเป็นแค่คนขับรถ
“ตลอดเวลา โดยเฉพาะแม่ ส่วนผมเป็นแค่คนขับรถ แม่คือทุกสิ่ง อยากให้มีกล้อง ตัดรายการคือสนุก ตี 5 มากางแปรงเครื่องสำอางแต่งหน้ากัน กลับมาก็ต้องไปล้างคลีนซิ่ง บำรุงหน้าผม บางวันไปทำงานไม่มีช่างให้ ก็ Makeup by mom ทำเหมือนช่างใหญ่เลย มีห้องแต่งตัวซีเรียส เป็นบริษัทบริษัทหนึ่งอะเมียผม ตัดต่อคลิป ก็เมียหมดเลย พนักงานหนึ่งคน ผมเป็นคนขับรถ เขาไม่ให้ขึ้นบัญชีอะไร ไม่มีรายได้ด้วย (อันนี้คือความในใจ?) ใช่ มีให้หน่อยหนึ่ง คนขับรถก็ต้องมีเงินเดือนเปล่า (หัวเราะ)”

สิ่งที่พ่อลูกเหมือนกันมากนอกจากหน้าตา คือความโก๊ะ และความเบลอๆ
“มีมุมที่เหมือนกันที่ไม่ใช่หน้าตา และเหมือนมาก ซึ่งเป็นมุมไม่ดี มุมที่ดีคือการร้องเพลงดีกว่าผม การเต้นซึ่งผมทำไม่ได้ แล้วก็การเรียนที่ท็อปตลอดทุกปี ได้เกียรติบัตรของโรงเรียนทุกปี อันนี้คือตรงข้ามหมดเลย ผมไม่ตั้งใจเรียน แต่สิ่งที่เหมือนคือ ไม่รู้ศิลปินคนอื่นเป็นยังไง แต่ผมไม่ได้เรื่องในชีวิต แต่จะแต่งเพลงได้ คิดอะไรที่คนทั่วไปอาจจะทำไม่ได้ ยี่หวาก็เป็นอย่างนั้น เขาเต้นเก่ง ร้องเพลงเก่ง แต่เขาจะเหวอๆ เขาจะลืมง่าย ไม่เข้าใจอะไรง่ายๆ จะโก๊ะๆ แม่เขาก็จะบอกว่าจะเหมือนพ่อไปไหนเนี่ย อันนี้คือเหมือนเลย แบบเบลอๆ หน้าที่ตัวเองทำได้เต็มร้อย แต่ในชีวิตจริงจะปวกเปียกหน่อย

เคยห่วงไม่อยากให้ลูกเข้าวงการ เพราะตัวเองเคยเกเรมาก่อน แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามันอยู่ที่คน ไม่ใช่เพราะวงการบันเทิง
“มุมที่เข้ามาในวงการบันเทิงแล้วจะเจอ อันนั้นไม่ห่วงเลย ซึ่งต่างจากตอนที่ผมตอน 20 ต้นๆ ที่จะห่วงมาก จินตนาการไว้ว่าจะไม่ให้ลูกเข้าวงการ เพราะตัวเองไม่ดี คือไม่ได้ชั่วช้ามากนะ แต่ค่ายก็เหนื่อย สมมติไปต่างจังหวัด เวลาเลิกงานแทบจะให้ยามมายืนเฝ้าหน้าห้อง ว่ามันจะหนีไปไหน คือเราเกเรพอสมควร แล้วก็อาจจะมีเพื่อนที่มันก็เกเรเหมือนกันด้วย ทีนี้เราก็เลยกลัว มองว่าถ้ามีลูกจะไม่ให้ลูกเข้าวงการบันเทิงเลย น่ากลัวมากวงการบันเทิง แต่ตอนนี้พอเราอยู่ไป วงการบันเทิงมีคนดีเยอะแยะเลย ไม่เหมือนมึงโจ๊ก (หัวเราะ)

โดยเฉพาะรุ่นลูก ไม่เหมือนเลย ค่ายเขามีระเบียบคุมเข้ม แล้วลูกเราโตมาแบบสิ่งแวดล้อมดีมาก เหมือนคนละเจนฯ ซึ่งตรงนี้ก็เลยไม่มีแล้ว ว่าอยู่ในวงการจะเป็นคนดีไม่ดี มันอยู่ที่คน แต่เราก็เน้นเลย ว่าพูดคะขานะ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่นะ โดยเฉพาะเพื่อน เสียสละ ให้อภัยนะ เพราะวงมันเซนซิทีฟเหลือเกิน พูดอะไรนิดหน่อยเอาไปเคืองกัน ไปนินทากัน ดังนั้นใจต้องใหญ่มากนะลูก ต้องทำให้เพื่อนรักเราให้ได้ และวางตัวอย่าตึงเด็ดขาด อันนี้จะเน้นเลย เรื่องอื่นผมเน้นไม่ได้ แต่อันนี้ควรบอก ถ้าไม่บอกมีสิทธิ์ที่เด็กที่เป็นศิลปินตั้งแต่อายุ 14 ปีจะงง ขนาดผมยังงง

บางทีมันไม่รู้ตัว อยู่ดีๆ มีคนมาเอาใจ อันนี้พูดถึงตัวเองนะ คือตอนอายุ 19-20 ออกเพลงแรกแล้วฮิตเลย แม้กระทั่งเพื่อน ญาติ ก็ปฏิบัติไม่เหมือนเดิม ตอนสมัยเรียนไม่มีใครคบ บูลลี่ เหยียดเรา พอเราเป็น โจ๊ก โซลคูล ปุ๊บ…เพื่อนกู ทุกคนปฏิบัติกับเราดีหมด ทำให้เราเปลี่ยน ทำให้เรารู้สึกพิเศษ อาจจะทำให้ไม่น่ารักโดยไม่ตั้งใจ แต่ว่าลูกดูทรงไม่เหมือนผมในด้านนี้ เหมือนสมองเขาดูโตกว่า เขามีภูมิในการรับมือได้ เพราะเขาอาจจะเรียนรู้ตั้งแต่เด็กด้วย พอเริ่มมีคนเข้ามาขอถ่ายรูป เราก็จะบอกขอบคุณสิลูก เราปูแบบนี้มา เราจะไม่ได้พาลูกหนี แบบต้องรักษาไพรเวต ถ้าทำอย่างนั้นมันจะจำนะ ว่าเวลาเจอคนเราต้องรู้สึกไพรเวต ต้องรู้สึกตึง มีกำแพง แกล้งไม่เห็น แต่ทีนี้ตั้งแต่เด็กเวลามีคนมาชอบ เราก็จะบอกว่าต้องขอบคุณเขานะ ที่เขาเอ็นดูเรา มายเซ็ตเวลาเจอคนเขาก็เลยจะยิ้ม”

ภูมิใจเกินร้อยในตัว “ยี่หวา” ถึงกับร้องไห้ในวันเดบิวต์ ทุกวันนี้อาการหนักทั้งบ้าน ไถฟีดแชร์แต่วงลูกสาวทั้งวัน
“เกินร้อย อย่างตอนที่ผมร้องไห้ในงานที่เป็นข่าว โดม (จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม) เจ้าของค่าย เขานินทาผมกับลูก ว่าพ่อร้องแน่ๆ ซึ่งผมก็ตลกมาก บอกว่าไม่ได้กินหรอก ไม่มีทาง แค่ขึ้นไปโชว์ แล้วก็แบบว่าประทับใจ วันนี้ยี่หวาเป็นศิลปินแล้ว แล้วร้องเหรอ มันไม่มีทางเลย แต่ทีนี้เราไม่ได้ดูสคริปต์ เราไม่รู้ว่ามันจะมีเด็กออกมาพูดทีละคน ว่ารู้สึกยังไง มีอะไรจะบอกพ่อแม่ไหม อันนี้ไม่ได้เตรียมใจ พอเขาบอกว่าขอบคุณที่คอยสนับสนุนและคอยอยู่เคียงข้างหนูมาตลอด แล้วเสียงมันก็เริ่มสั่น มันนำเราก่อน

แล้วก็พูดต่อว่าขอบคุณที่เชื่อมั่นใจตัวหนู จนวันนี้หนูได้มีวงเป็นของตัวเองแล้ว แล้วมันก็ร้องจ๊ากเลย โอ้โห อันนี้ไม่ได้เตรียมไว้ แล้วกล้องเต็มไปหมด แล้วคนก็ดูเรา เราก็แบบเอาแล้ว กูจะร้องแล้ว สักพักคนวิ่งเอากระดาษทิชชู่มาให้ ก็ไม่รอดหรอกค่ะ ไม่ไหวจริงๆ อันนั้นก็เป็นนาทีที่รู้ตัวว่าเราภูมิใจมาก

ส่วนคุณภรรยาเขาภูมิใจทุกวันแหละ ทุกวันนี้ก็หนัก ก็ไถฟีดกันหมด พวกแม่ พวกย่า พวกยาย แล้วค่ายก็ลงถี่เหลือเกิน เขาก็แชร์อยู่นั่นน่ะ เปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กผมเลยก็ได้ ถ้าจะขนาดนั้นแล้ว มันไม่มีโซลคูลอะไรแล้ว มีแต่เด็กผู้หญิงเต้นเต็มฟีดไปหมด (หัวเราะ) แต่มันก็ดีต่อลูก คนบอกตามมาจากพ่อจ้า อะไรแบบนี้”













กำลังโหลดความคิดเห็น