xs
xsm
sm
md
lg

“วิว กุลวุฒิ” พรีเซ็นเตอร์เกิน 10 ขึ้นค่าตัว ไม่รู้อนาคตมีอีกไหม ขอกอบโกยให้เยอะที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“วิว กุลวุฒิ” แฮปปี้พรีเซ็นเตอร์รุมเกิน 10 ตัว รับขึ้นค่าตัวหลังโอลิมปิก มองงานในวงการบันเทิงแค่อาชีพเสริม กอบโกยให้มากที่สุด เพราะไม่รู้อนาคตจะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม ยันไม่ทิ้งอาชีพนักกีฬา รักแฮปปี้ แฟนสาวโหยหาแต่ก็เข้าใจ

เป็นนักกีฬาหนุ่มที่ฮอตสุดๆ ในตอนนี้เลยทีเดียว สำหรับ “วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” แชมป์โลกแบดมินตันประเภทชายเดี่ยวคนปัจจุบัน ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าตั้งแต่กลับมาจากแข่งโอลิมปิกก็มีงานในวงการบันเทิงเข้ามาเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นงานพรีเซ็นเตอร์ที่ตอนนี้น่าจะมีมากกว่า 10 ตัวแล้ว แต่ถึงอย่างไรตนก็ต้องแบ่งเวลาในการซ้อมและออกงานให้ดีในเวลาเดียวกัน เพื่อไม่ให้เสียทั้งสองอย่าง

“ช่วงนี้ก็ต้องแบ่งเวลาครับ ถ้าช่วงไหนมีแข่ง มีซ้อม เราก็ต้องจัดเวลา เพราะตอนนี้ก็มีงานเข้ามาค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เราก็อยากเอาดีทางด้านกีฬาด้วย รวมถึงด้านงานในวงการบันเทิงด้วย ก็เลยต้องจัดแจงเวลาของเราให้ดีครับ จริงๆ งานในวงการตอนนี้ส่วนมากก็จะเป็นพวกพรีเซ็นเตอร์ครับ ที่บางทีต้องไปถ่ายงาน เราก็ต้องจัดเวลาจากตารางซ้อมเอาช่วงว่างไปถ่ายงาน ถามว่าเป็นช่วงขาขึ้นไหม ผมก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม ก็เลยรู้สึกว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ดี เราก็เลยอยากที่จะกอบโกยให้ได้มากที่สุด

พรีเซ็นเตอร์ตอนนี้ไม่ได้นับเลยครับว่ามีกี่ตัว แต่คิดว่าน่าจะหลัก 10 เพราะเข้ามาเรื่อยๆ ถามว่ายังเขินตอนไปถ่ายทำหรือตอนรีวิวไหม ก็มีบ้างครับ เพราะเราไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่แรก เป็นนักกีฬามาโดยตลอด แต่พอโตขึ้นแล้วได้มาทำอะไรใหม่ๆ ผมมองว่าเป็นเรื่องที่สนุกเหมือนกัน มีความตื่นเต้น แต่ก็มีความกังวลด้วย เพราะจริงๆ แล้วเป็นคนที่ถ้าต้องพูดบางทีก็จำบทไม่ได้เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะไปบรีฟหน้างานเลย เพราะถ้าบรีฟก่อนงานบางทีผมจะลืม เพราะเป็นคนที่ความจำไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (หัวเราะ)”

บอกยังเน้นการเป็นนักกีฬาเป็นหลัก
“นอกจากพรีเซ็นเตอร์ที่เกี่ยวกับกีฬา ก็มีสินค้าอย่างอื่นด้วยครับ และเราก็ได้เรียนรู้ว่าสปอนเซอร์อย่างนี้เราควรที่จะทำตัวแบบไหน ดูงานแบบไหน ถามว่ามีสินค้าแปลกๆ ที่โดดจากตัวเองไหม ผมว่าไม่น่ามี ส่วนใหญ่จะเป็นเชิงพักผ่อน หรือเชิงอำนวยความสะดวกกับเรามากกว่า ส่วนใหญ่เวลาจะรับงานผมจะดูว่าต้องใช้เวลามากแค่ไหน เพราะจริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากให้มากระทบเรื่องกีฬาของผมด้วย ก็พยายามที่จะดูว่าถ้างานนี้ต้องใช้เวลาที่จะต้องไปออกงานเยอะๆ ผมก็อาจจะยังก่อน เพราะตอนนี้ผมยังเป็นนักกีฬาอยู่ แต่ก็จะมีผู้จัดการที่คอยดูให้อยู่ครับ ทุกงานต้องผ่านผู้จัดการที่จะคอยดูว่าเป็นยังไง รวมถึงโค้ชเป้ที่จะคอยคุยกับผู้จัดการว่าถ้ามีงานช่วงเวลานี้ไม่มีแข่งก็สามารถไปได้นะ

แต่ก็มีกังวลบ้างครับว่าจะมีผลกระทบกัน เพราะบางงานก็กะทันหัน บางทีอาจจะตรงกับการฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน ก็เลยมีกังวลบ้างครับ เพราะจริงๆ แล้วทุกงานก็สำคัญ รวมถึงกีฬาของเราก็เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน ถามว่าโค้ชมีขอบ้างไหม จริงๆ โค้ชกับผู้จัดการจะเป็นคนที่คุยและคำนวณเรื่องเวลากัน แล้วถึงจะมาบอกผมอีกที”

ยอมรับมีการขึ้นค่าตัว ตอนนี้ถือว่างานในวงการเป็นรายได้เสริม
ถามว่าขึ้นค่าตัวไหม (หัวเราะ) ก็ต้องบอกว่าหลังจากโอลิมปิกมาก็ประมาณนึงครับ ค่าพรีเซ็นเตอร์น่าจะมากกว่าค่าเหรียญที่ได้ไหม ก็ไม่น่าจะขนาดนั้นหรอกครับ (หัวเราะ) ส่วนเข้าวงการเต็มตัวหรือไม่ก็เอาไว้เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน เพราะ ณ ตอนนี้ผมยังไม่ได้นึกถึงการเข้าวงการบันเทิงมากสักเท่าไหร่ เพราะช่วงนี้ผมเป็นนักกีฬา ผมก็มองว่าช่วงนี้มันเป็นระยะเวลาค่อนข้างสั้น เลยอยากที่จะทำผลงานของอาชีพนักกีฬาให้ดีที่สุดก่อน

สำหรับงานในวงการผมมองว่าเป็นเรื่องที่เราได้เจออะไรใหม่ๆ ในชีวิตครับ เพราะเราไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย การที่ได้เข้ามาในวงการบันเทิง ได้ถ่ายงาน ผมรู้สึกว่าก็เป็นอีกมิตินึงที่เราได้เรียนรู้ ถามว่าสิ่งที่ช็อกตอนที่เข้ามาทำงานตรงนี้คืออะไร ผมว่าคือตอนที่ต้องจำบทพูดนี่แหละครับ (หัวเราะ) เพราะผมจำบทพูดไม่ได้จริงๆ ตื่นเต้นด้วย แต่ถ้าเป็นภาพนิ่งจะถนัดมากกว่า อย่างเซ็ตล่าสุดที่ไปถ่ายมาก็โอเคครับ เพราะเราเองก็แทบจะไม่เคยเห็นลุคตัวเองแบบนี้มาก่อน เพราะเราเป็นนักกีฬาการจะมาแต่งหน้าหรือทำผมแบบนี้ก็อาจจะดูไม่เหมาะสม

แต่พอเราได้มาทำงานตรงนี้ ก็เลยได้เจออีกมิตินึงขอเรา ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน ก็ชอบครับ แต่จริงๆ แล้วเราเป็นนักกีฬา ก็ควรจะนึกถึงภาพการเป็นนักกีฬามากกว่า ก็ได้เช็คฟีดแบ็กจากแฟนๆ บ้างครับ ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะ แต่สุดท้ายเราก็ต้องบอกกับตัวเองว่าเรายังเป็นนักกีฬาอยู่ เรายังไม่ใช่คนในวงการบันเทิง ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นรายได้เสริมครับ”

เตรียมกลับมาฟิตซ้อมเพื่อแข่งเก็บคะแนนต่อ
ตอนนี้ผมก็เตรียมไปลีกที่อินโดนีเซีย แล้วก็จะมีอีก 3 รายการที่จะเก็บคะแนนเพื่อไปรายการเวิลด์ทัวร์ไฟนอล ก็จะมีเกาหลี ญี่ปุ่น จีน เป็น 3 รายการสุดท้ายที่ของ BWF (การแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก) ที่จะเก็บคะแนนไปเวิลด์ทัวร์ไฟนอล จะเริ่มช่วงต้นเดือนหน้า ก็ต้องลองดูว่าเราจะเก็บคะแนนได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็คือจบที่ 3 รายการนี้ ถามว่ากดดันไหม ก็พยายามทำให้เต็มที่ครับ แต่ผมยังไม่ได้มองถึงรอบลึกมาก เพราะต้องยอมรับก่อนว่าเราก็มีงานค่อนข้างเยอะ บางทีอาจจะมีบ้างที่พอถ่ายงาน และเวลาไปฝึกซ้อมก็อาจจะทำให้สุขภาพร่างกายเราอ่อนล้า อาจจะทำให้ฝึกซ้อมได้ไม่ดีมาก ก็เลยคิดว่าการไปแข่งครั้งนี้ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ของเราครับ

ช่วงแข่งนี้ถ้ามีงานที่สำคัญจริงๆ ก็ต้องทำครับ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าอาจจะต้องกลับมาทางด้านกีฬามากขึ้นครับ ก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยทุกคนนะครับที่คอยเป็นกำลังใจเชียร์ ยังไงก็ฝากติดตามผลงานของผม รวมถึงนักกีฬาไทยทุกชนิดกีฬาเลยครับ”

บอกโชคดีที่แฟนสาวเข้าใจ แต่ก็ต้องพยายามหาเวลาเจอกันบ้าง
“กับแฟนก็ดีครับ วันเกิดที่ผ่านมาคือนานๆ เราเจอกันที เพราะส่วนใหญ่ผมก็ไปแข่งหรือไม่ก็ฝึกซ้อม ต้องเก็บตัวเป็นระยะเวลานาน ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ดีมากๆ และเข้าใจเรา ของขวัญวันเกิดส่วนใหญ่ผมก็จะซื้อพวกสร้อยคอให้มากกว่า (ยิ้มเขิน) เพราะเขาเป็นคนที่ชอบเครื่องประดับ ผมก็มองว่าเป็นอะไรที่เหมาะสมกับผู้หญิง การเติมเต็มให้กันผมก็จะอาศัยช่วงเวลาที่ไม่ได้แข่งหรือไม่มีซ้อมก็ไปหาเขาบ้าง เพราะช่วงเวลาที่เราต้องซ้อมหนักๆ ก็ต้องยอมรับว่าเขาก็มีโหยหาบ้าง เราก็ต้องพยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน













กำลังโหลดความคิดเห็น