“แม่นกน้อย” ลบคำสบประมาท “พ่อหลอด” เล่นละครไม่ได้ เข้าสังคมดาราไม่ได้ โค้งสุดท้ายฝากตำนานให้ลูกหลานได้ จดจำ ฟื้นวงเสียงอีสาน ไม่คิดจบชีวิตตัวเองอีกแล้ว ลั่น “ฝน ธนสุนทร” มีรูปถ่ายคู่ 2 บอสดิไอคอน ไม่กระทบวง
ก่อนหน้านี้วงหมอลำชื่อดังอย่าง หมอลำเสียงอีสาน ของ “แม่นกน้อย อุไรพร” เกือบไปต่อไม่ไหว เพราะต้องเผชิญมรสุมหลายอย่าง ทั้งโควิด และสามีจากไป ล่าสุดได้เจอแม่นกน้อยในงานบวงสรวงละครเรื่อง เทียนซ่อนแสง ณ ลานหน้าตึก อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ที่แม่นกน้อยได้ร่วมแสดงด้วย แม่นกน้อยเปิดใจตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเดินได้เหมือนเดิมแล้ว การที่มารับงานแสดงในครั้งนี้ถือเป็นงานที่ท้าทาย และลบคำสบประมาทจากสามี “พ่อหลอด เสียงอีสาน” ที่เคยพูดไว้ด้วย
“ที่มารับงานละครเพราะว่าตอนนี้วงหมอลำเสียงอีสานก็เดินได้แล้ว แม่ก็อยากมีอีกโมเมนต์นึงในกองละคร ซึ่งก่อนหน้านั้นมันเป็นเรื่องท้าทายสำหรับแม่มาก ก่อนที่แม่จะได้รับงานละคร ตอนที่สามียังไม่ตาย ท่านบอกว่าคุณไปแสดงละครไม่ได้หรอก ทีมละครดาราอีโก้สูง คุณจะไปเข้าสังคมแบบนั้นได้อย่างไร แม่ก็บอกว่าอยากลองค่ะ แต่พอได้เข้ามารับงานละคร ได้ถ่ายละคร ผู้กำกับน่ารัก ทีมงานน่ารัก ดาราทุกคนไม่มีอีโก้อะไรเลย ดูแลเทคแคร์แม่ดีมาก
ซึ่งวันนั้นตอนที่พ่อพูด แม่ก็บอกพ่อไปว่าแม่อยากลอง มันเป็นงานที่ท้าทายสำหรับแม่ ซึ่งพอได้เข้ามาจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อพูดเลยค่ะ ทุกคนน่ารัก เบื้องหน้า เบื้องหลังต่างๆ เราได้เห็นการทำงานแล้ว แม่ก็คือหนึ่งในครอบครัวเสียงอีสาน หนึ่งในผู้ดูแล ผู้บริหารและรับผิดชอบ เราเห็นแล้วว่าค่าใช้จ่ายทุกอย่าง กองทัพเดินด้วยท้อง และทุ่มเทกับการทำงาน ไม่สร้างผลงาน ปาฏิหาริย์ไม่เกิด เราได้เข้ามาเห็นแล้ว แม่เองต้องมากองก่อนคนอื่น เพราะเราไม่อยากให้คนอื่นคอยและเสียเวลาเพราะเรา”
บอกบรรยากาศภายในกองต่างจากที่เคยได้ยินมามาก
“ตอนที่เป็นหมอลำกับการแสดงมันก็ต่าง แต่ตรงนี้เราก็ได้ผ่อนคลายนะ ไม่กดดันเลย ได้นั่งมองลูกๆ ในการทำงาน และได้ชื่นชมยินดีกับดาราทุกคน บทที่ได้รับในเรื่องนี้ก็เป็นบทย่าศรีนวล เป็นคนที่เก็บความลับของทุกคน มีทั้งแสดงที่เป็นภาษากายสื่อออกมาทางแววตา ทุ่มเทมาก บอกได้เลยว่างานละครไม่ง่ายค่ะ ก็เครียด เพราะเราทุ่มเทเต็มที่แล้ว สิ่งที่กลัวคือผู้กำกับจะโหดไหม แต่พอได้ร่วมงานกันแล้วก็ผ่อนคลายมากค่ะ
เรื่องนี้ต้องสู้ชีวิตมากค่ะ เก็บความลับของทุกคนไว้ในอกของย่าคนนี้ ชีวิตจริงก็สู้ชีวิตนะ ในละครก็มาสู้ชีวิตอีก แต่ในละครเป็นในมุมสนุกค่ะ เราได้ผ่อนคลาย ได้รับความเอื้ออาทรจากลูกๆ ในกองละคร และผู้กำกับเบื้องหน้า เบื้องหลัง ดูแลแม่ดีมาก”
เคยคิดจะยุบวงเพราะช่วงโควิด แถมสามีก็ป่วย
“ตอนนี้สถานการณ์ของวงก็กลับมาเดินได้หลังจากที่พ่อจากไป ไฟไหม้ มันมีมากมายกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาหาแม่ แต่ตอนนี้หมอลำเสียงอีสานกลับมาเดินได้ และใช้คำว่าทุกคนยิ้มเต็มที่ แฟนเพลงเอฟซีก็กลับมาพยุงเกื้อกันไป ดีใจมากค่ะ ที่ก่อนหน้านี้อยากจะยุบวง เพราะตั้งแต่โควิด อันนี้หนัก และสามีก็ป่วยยาวมาก และท่านก็จากเราไป แล้วก็ไฟไหม้อีก แม่มองว่ายังจะไปได้ต่อเหรอชีวิตผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ไปต่อได้ค่ะ
ตอนนั้นในหัวอกของผู้หญิงคนนึง สามีตายจาก ไฟไหม้ และอะไรถาโถมมามากมายในครอบครัว ลูกๆ ของเสียงอีสาน 300-400 ชีวิต ซึ่งทุกคนรอว่าแม่ต้องเดินต่อให้ได้ แม่คือความหวังของครอบครัว ความหวังของหมู่บ้าน เราก็กลับมาทบทวนตัวเองว่าถอยไม่ได้ ท้อได้ แต่ต้องเดินให้ได้ แต่ก็มีอุปสรรคหลายอย่างมากค่ะ การทำวงหมอลำตอนนี้คือการแข่งขันสูง การลงทุนมหาศาล และต้องเก่งเรื่องหลังบ้าน เรื่องสื่อออนไลน์โซเชียล”
เผยสามีเอาทุกอย่างคืนไปจริงๆ จนคิดจะฆ่าตัวตาย
“แม่คิดมาต่อยอดบวกตอนที่สามียังไม่ตายจาก พ่อบอกว่ายังจะทำวงต่อไหม ถ้าคุณจะทำต่อ คุณต้องสร้างเอาใหม่นะ ไม่ให้อะไรเลยนะ แม่ก็คิดไม่ออกนะว่าที่ท่านพูดหมายความว่ายังไง แต่ทำบุญให้สามีวันที่ 20 เม.ย. ครบรอบ 1 ปี วันที่ 22 เม.ย. ไฟไหม้ทั้งสตูฯ ทั้งเครื่องเสียงทุกสิ่ง เราก็กลืนก้อนน้ำตากลับลงไปในท้อง เข้มแข็ง บอกกับตัวเองว่าฉันร้องไห้ไม่ได้แล้ว ที่พ่อพูดเป็นเรื่องจริง คือท่านเอาของท่านไปหมด ให้เราเริ่มนับหนึ่งใหม่ สิ่งที่เหลือคือป้ายบ้านเลขที่ 555 เท่านั้น
พ่อเคยบอกว่าอันนี้ท่านสร้างมา ท่านขอ ไม่ให้ ก่อนหน้านั้นพ่อก็ขอแล้วว่าไม่อยากให้ทำวงต่อ แม่ยุบวงเถอะ เราพอแล้ว เราเหนื่อย แต่แม่ก็ยังดื้อทำต่อ เพราะในครอบครัวเราทุกคนฝากความหวัง เราแบกความหวังของทุกคนไว้ ถามว่าแม่เคยคิดสั้นไหม เคยนะ ในช่วงโควิด 3 ปี พ่อก็ป่วยหนัก และแม่ก็ประกาศขายบ้านตอง 5 เราขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วย คิดว่าไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นฆ่าตัวตาย ก็พยายามจะออกจากลูปนั้นให้ได้ ก็ได้ลูกๆ ครอบครัวเสียงอีสาน และตอนนั้นสามีก็ป่วยด้วย เราก็ตั้งปณิธานไว้ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ต้องดูแลท่านให้ถึงที่สุดจนวินาทีสุดท้าย ก็เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่คิดแบบนั้นค่ะ
โค้งนี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ อันนี้คิดในสถิติอายุนะคะ ตอนนี้ 67-68 อยู่ได้อีก 3 ปีก็ถือว่าหรูมากเลยถ้าไม่ตาย (หัวเราะ) ก็เป็นโค้งสุดท้ายที่จะสร้างตำนานฝากไว้ให้ลูกหลานได้จำ ตอนนี้ฝน ธนสุนทรก็กลับมาอยู่ด้วย เดินสายด้วย มีปอยฝ้าย และมีลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่นก็กลับมา”
เผยเหตุวุ่นวายในงานคอนเสิร์ตที่หมอชิต สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี
“ที่หมอชิตต่างคนต่างความคิดต่างมุมมอง ทุกคนที่มาดูหมอลำเสียงอีสานก็คาดหวังอยากให้จัดสคริปต์แบบนี้ อยากให้มีเพลงอินดี้ อยากให้มีเต้ย อยากให้มีหมอลำ อยากให้มีโชว์ใหญ่ต่างๆ กลายเป็นว่าเรามาปรับหน้างานค่ะ สคริปต์รวนไปหมดเลย ก็ออกมาขอโทษแล้วว่าเราจะทำให้ดีที่สุด ก็ขอโทษแฟนเพลงไปแล้วค่ะ คือพอเราปรับสคริปต์มันก็รวนหมดเลย เพราะเรามาปรับหน้างาน ปฏิกิริยาแฟนเพลงก็เยอะมาก ไม่อยากใช้คำว่าทัวร์เลย ไม่มีที่จอดเลย (หัวเราะ) แต่แฟนเพลงเอฟซีของเราก็น่ารักนะ พอแม่ออกมาชี้แจงและขอโทษทุกคนก็เข้าใจ
สคริปต์ตอนแรกมาแก้หน้างาน เราจะดูว่าตอนนี้ 3 ทุ่ม แฟนเพลงด้านหน้าเวทีสนุกไหม แววตางงไหม พร้อมที่จะไปต่อไหม (หัวเราะ) มันเป็นแบบนี้ทุกวันค่ะ อย่างเมื่อคืนที่ผ่านมาแม่เองยังงงเลย เพราะเราเล่นต่อพี่ฝน ธนสุนทร แล้วก็มาเป็นโชว์ของแม่ จากนั้นก็จะมีน้องออกไปร้องเพลงอินดี้ ก็มีบางกลุ่มที่อยากได้แบบนั้น แต่กลุ่มใหญ่ๆ ก็อยากสนุก ถามว่ากลัวแฟนเพลงรุ่นดั้งเดิมจะรับไม่ได้กับการปรับวงให้มีความทันสมัยขึ้นไหม แม่ว่าปัญหานี้ก็ไม่ใช่ปัญหาที่หนักหนาสาหัส เพราะทุกวันนี้หมอลำเสียงอีสานก็คือเราใช้คำว่าหมอลำก้าวล้ำตลอดกาล ไม่ใช่ร่วมสมัยด้วย แต่ก้าวล้ำ จึงต้องปรับอยู่ตลอดเพื่อที่จะรับแฟนเพลงเอฟซีวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ให้ได้”
บอกได้ “อาจารย์เอ จักรพรรดิ” มาคอยดูเรื่องสื่อออนไลน์ให้
“สำหรับพาร์ตของแม่เองก็ยังมีโชว์ที่ยิ่งใหญ่อลังการของหมอลำ ยังต้องมีอยู่แล้วค่ะ เพราะเป็นลายเซ็น เป็นเอกลักษณ์ของสามีที่เคยทำไว้ด้วย ถึงจะเปลี่ยนอย่างอื่นแต่ช่วงของแม่นกน้อยก็ยังต้องมีหมอลำ มีโชว์ใหญ่ โชว์วัฒนธรรม โชว์ผ้าหมี่ ผ้าไหมต่างๆ ถามว่าทำวงในวันนี้เหนื่อยกว่าตอนที่พ่ออยู่ไหม เหนื่อยค่ะ แต่อยากบอกแฟนเพลงว่าเสียงอีสานแม่นกน้อยอุไรพร ตอนนี้ก็ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมบริหาร เพื่อให้แฟนเพลงเอฟซีคนรุ่นใหม่ได้ดูและเข้าใจ ซึ่งก็ไปกันได้ดีค่ะ ไม่มีอะไรติดขัดเลย
ตอนนี้ก็เป็นอาจารย์เอ จักรพรรดิที่เข้ามาร่วมบริหาร ก็อาจจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่นำสื่อต่างๆ เข้ามาช่วย จากที่สื่อของเสียงอีสาน สื่อออนไลน์หลังบ้านเราจะอ่อน แต่ตอนนี้ทุกอย่างปรับเข้าที่แล้วค่ะ การทำงานง่ายมากค่ะ แต่ตรงนี้แม่ไม่ได้เข้าไปดูแล เพราะว่าท่านมีทีมของท่านที่แข็งแรงมากค่ะ เพราะอาจารย์เอก็คือแฟนเพลงเอฟซีคนหนึ่งของหมอลำเสียงอีสาน ท่านดูอยู่แล้วเรื่องสตอรี่ของวง อันนี้ท่านก็ยังคงหลงเหลือไว้เพื่ออนุรักษ์ค่ะ ถามว่าจะมีฉีกไปทางอื่นไหม จริงๆ แล้วการต่อสู้ต้องมีสายป่าน กองทัพเดินด้วยท้อง สายป่านก็คือเม็ดเงินแหละ ยังไงก็แล้วแต่ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้วย แม่ก็ประคับประคองเป็นที่ปรึกษาให้
ก็อยากฝากแฟนเพลงเอฟซีหมอลำเสียงอีสาน ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น อยากขอบคุณที่เป็นห่วง ซัปพอร์ตความรู้สึกของแม่มาโดยตลอดค่ะ แม่สัญญาว่าตราบที่หมอลำเสียงอีสานยังมีแม่นกน้อย อุไรพรคอยประคับประคองลูกๆ ไป สร้างผลงานสู่สายตาของประชาชนให้ทุกคนได้รับความสุขมากมายจากใจของแม่นกน้อยค่ะ”
เผยได้กอดให้กำลังใจ “ฝน ธนสุนทร” หลังมีรูปถ่ายคู่ “บอสพอล-บอสกันต์”
“สำหรับพี่ฝน ธนสุนทรก็ดีค่ะ ในการร่วมสร้างหมอลำเสียงอีสาน กำลังหัดรำให้เป็นนางเอก เป็นครูพี่เลี้ยงด้วย ดูแลน้องๆ จากประสบการณ์ที่มีของพี่ฝนค่ะ ก็ทำได้ดีมากค่ะ ที่มีภาพพี่ฝนที่มีภาพกับดิไอคอน แม่ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลย แต่ก็ดูพี่ฝนมีความสุขดีนะคะ ไม่ได้มาปรึกษาอะไรค่ะ
ถามว่าแม่กังวลว่าจะมีการเชื่อมโยงไหม ไม่ได้กังวลเลยค่ะ เพราะส่วนตัวของแม่ก็ไม่ได้มีเรื่องราวอะไร ไม่ได้มีอะไรปกปิดอยู่แล้ว เราเป็นคนของประชาชน คนสาธารณะ สื่อต่างๆ มากมายก็รู้ว่าสตอรี่ชีวิตของแม่นกน้อยกับลูกๆ เคลื่อนไหวยังไง และกับพี่ฝนก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย ไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย ก็มีกอดให้รู้ว่านี่คือความห่วงใยจากแม่นะแค่นั้นค่ะ ก็ไม่ได้กลัวว่าจะมีผลกระทบกับวงนะคะ แม่มั่นใจในตัวพี่ฝนค่ะ”
