xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตไม่มีทางลัด! “อนันดา” รับเคยปฏิเสธเงินจำนวนมาก แต่เข้าใจความโลภเป็นธรรมชาติมนุษย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนันดา” รับเคยถูกเสนอเงินจำนวนมาก แต่ไม่ถนัดการขาย เชื่อชีวิตไม่มีทางลัด นอกจากฟลุค ถูกหวย ชัดเจนไม่ขอเอาชื่อเสียงกว่า 20 ปีมาแลกกับเงินก้อนโต เข้าใจความโลภ เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่สำหรับตนถูกสอนแต่ไหนแต่ไรว่าหน้าที่หลักคือนักแสดง เลือกงานพรีเซ็นเตอร์สักชิ้นต้องผ่านการดูคู่กับทนายสองฝ่ายอยู่แล้ว

กลายเป็นประเด็นที่ทุกวงการต้องหันมามองทีเดียว กับเรื่องของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป โดยเฉพาะกรณีคนในวงการบันเทิงจำนวนมากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งล่าสุดได้เจอพระเอกหนุ่ม “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ในงานแถลงข่าว MC GROUP Turn IT Gold, Road to 50 years of Excellence ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เจ้าตัวก็บอกว่าเคยมีธุรกิจที่เสนอเงินจำนวนมากให้เหมือนกัน และเชื่อว่าคนในวงการแทบจะทุกคนก็เคยเจอ แต่สำหรับตนไม่ได้ถนัดเรื่องการไปพูดขายของอยู่แล้ว

เราอยู่มานานมาก มันก็มีธุรกิจหลายแบบติดต่อให้เรามาร่วมทำงานหรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ วิธีการตรวจสอบของผมก็ต้องคุยกันครับ อย่างผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Mc Jeans มันเป็นแบรนด์ที่อยู่มานาน และมันเข้าใจง่าย ผมอาจจะโชคดีตรงที่ว่าหลายๆ แบรนด์ที่ผมได้ร่วมงานด้วยส่วนใหญ่ เขาเข้าใจคาแรกเตอร์ผม ตอนร่วมงานกันมันก็เลยมีความธรรมชาติของมันอยู่

ถามว่าได้ลงลึกถึงการบริหารของแต่ละแบรนด์ไหม คือมันไม่ใช่หน้าที่เรา หน้าที่ผมคือนักแสดง และผมโดนปลูกฝังมาแต่ไหนแต่ไรว่าหน้าที่แรกของเราคือนักแสดงก่อน หลังจากนั้นก็จะรองลงมาหมด และผมก็ไม่ได้เก่งเรื่องอะไรขนาดนั้น มันไม่ใช่หน้าที่ผมเลย คืออะไรที่เป็นไลฟ์สไตล์อาจจะเป็นสไตล์ผมหน่อย ผมทำโรงแรมหรือทำโปรดักชั่นเฮ้าส์ มันก็เป็นความรู้ของผมที่มี แต่ถ้าอยู่ดีๆ ให้ไปบริหารพวกขายตรงแบบนั้นยิ่งไม่ใช่ทางผม มันอึดอัดด้วยซ้ำไป”

บอกแต่ละฝ่ายต้องมีทนายคอยตรวจสอบสัญญาอยู่แล้วปกติ
“สำหรับผมก็คงดูที่สัญญาจ้างปกติพวกพรีเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะถ้าเป็นบริษัทใหญ่ มันมีฝ่ายกฎหมายอยู่ในบริษัทนั้นๆ อยู่แล้ว พวกสัญญาสั้นน่ะน่ากลัว ส่วนใหญ่สัญญาพวกนี้จะมาเป็นปึก เราก็ต้องมีทนายของเราคอยดูอย่างดี และผมก็เชื่อว่าเขาก็มีทนายฝั่งเขาที่จะต้องตรวจสอบสัญญาให้ละเอียด ของผมสุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องเคลียร์คือสโคปงาน แต่ในนั้นๆ ก็จะมีข้อกฎหมายอะไรที่เราทำได้หรือทำไม่ได้ มันตรงไปตรงมาอยู่แล้วครับ แต่พวกที่ต้องแก้ก็เป็นเรื่องปกติ การแก้ไปแก้มา คือเราก็ต้องระวังฝั่งตัวเราด้วย ผมรู้สึกว่าใครที่อยู่ในอาชีพผมแล้วไม่ทำคือคุณไม่ได้เป็นมืออาชีพ

ถามว่าผมรับพรีเซ็นเตอร์แต่ละตัวต้องใช้จริงในชีวิตประจำวันเลยไหม ก็ไม่เสมอไปครับ คือบางทีเขาอาจจะเอาไลฟ์สไตล์ของเรามาพูดถึงความรู้สึกของแบรนด์ อย่างกางเกงยีนส์แน่นอนผมมียีนส์เต็มบ้าน จะเปิดร้าน Mc ได้อยู่แล้วเนี่ย บางอย่างเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์มากกว่า แต่ที่เห็นผมอยู่ด้วยนานๆ ส่วนใหญ่พวกนั้นคือโปรดักส์ที่ผมใช้จริง เพราะการที่เราเป็นพรีเซ็นเตอร์มันมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคแน่นอน”

ไม่เคยเชื่อเรื่องทางลัด ไม่มีใครที่อยู่ดีๆ แล้วจะรวย
“ผมเป็นคนที่พอจะโอเคเรื่องตัวเลข เพราะตอนเด็กเก่งคณิตศาสตร์อยู่ คือทุกคนต้องมีคนรอบตัวที่มาทำธุรกิจแนวนี้ แต่ผมมองแล้วผมไม่เคยเข้าใจตัวเลขมันเลย ผมดีดออกมายังไงมันก็จะรวยยังไงวะ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ผมว่าอะไรอย่างนั้นต้องดูดีๆ ผมแค่ไม่เชื่อเรื่องทางลัด มันไม่มีทางลัดหรอก โอเคมันอาจจะมีโชคดี มีฟลุคได้ เหมือนคนถูกหวยก็ว่ากันไป แต่ผมมองในแง่คณิตศาสตร์คือคนเราทุกคนมันจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้ ไม่งั้นก็รวยกันหมดทุกคนในโลกแล้วสิ (หัวเราะ)

ผมถูกปลูกฝังมาตลอดว่ามันไม่มีช็อตคัต เราต้องทำงาน ไม่ว่ามันจะเป็นจากตัวเราเอง เราก็ต้องครีเอตแวลู่ตรงนั้น อย่างผมอยู่ในวงการมานาน ยอมรับว่าในยุคสมัยนี้ที่เราอยู่ในโลกออนไลน์ซะส่วนใหญ่ ก็จะมีพวกอินฟลูฯ มีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้น มันก็เกิดความฉาบฉวยด้วย เราเสพทุกอย่างเร็วขึ้น ก็รวมถึงการขายของ แต่ผมมาอีกเจนนึง เจนที่ถูกปลูกฝังว่ามึงต้องเก่งก่อน แล้วมึงก็มีแวลู่ ก็มีเด็กรุ่นใหม่หลายๆ คนมาถามผมว่าจะทำงานอย่างพี่ ทำยังไง มีทางลัดยังไงบ้าง พอเราบอกว่าโทษทีน้อง มันไม่มีทางลัดว่ะ มันมีแต่คุณต้องใส่เวลากับมัน พอผมบอกว่ามันไม่มี ส่วนใหญ่ก็หูดับกันหมดทุกคน (หัวเราะ)”

ไม่ขอเสี่ยงเอาชื่อเสียงกว่า 20 ปีมาแลกกับเงินเพราะความโลภ
“วิธีมุมมองของผมในการทำงานมันไม่ได้สวยหรูเท่าไหร่ ก็แค่คุณต้องใช้เวลากับมัน และใช้แวลู่ด้วยตัวคุณเอง ถามว่าเสี่ยงไหมที่ต้องเอาชื่อเสียงที่สะสมมาไปแลกกับเงินจำนวนนึงที่มันอาจจะมากกว่าปกติ (ถอนหายใจ) ก็เข้าใจความโลภเนอะ มันก็ธรรมชาติมนุษย์แหละ แต่ถ้าเอาตรงนั้นมาเสี่ยงกับสิ่งที่ผมทำมา 20 กว่าปีก็ไม่เอาดีกว่า

ถามว่าผมเคยมีประสบการณ์ที่มีคนมาจ้างด้วยการสู้ราคาสูงไหม มันมีอยู่แล้ว แต่ผมไม่ถนัด ผมไม่ใช่เซลล์แมน เชื่อไหมทุกวันนี้อยู่ในวงการมา 20 กว่าปี แค่ขายหนัง ให้พูดกับกล้อง ผมยังไม่รู้จะทำยังไง ตัวเกร็ง เหงื่อแตก ที่เห็นพูดได้มันก็อาจจะเป็นชั่วโมงบินที่มี แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมถนัดอยู่แล้ว ผมขายของไม่ถนัด แต่ผมว่าคนในวงการเคยถูกเสนออย่างนั้นกันอยู่แล้ว แต่ผมอาจจะไม่ได้เยอะเท่าบางคน เพราะบุคลิกผมด้วย ผมว่าหลายคนอาจจะมองว่าอนันดาอาจจะไม่เหมาะกับการขาย (หัวเราะ) ผมไม่มีสกิลนั้นเลยเอาจริงๆ จะให้ผมไปขึ้นเวทีพูดเชิญชวน เขาก็คงไม่น่าจะเชื่อผม (หัวเราะ)

ถามวาเป็นไลฟ์โค้ชได้ไหม โอ้ย อย่าเลย ผมไม่อยากจะไปสอนใครในลักษณะไลฟ์โค้ชหรอก อย่างมาถามผมเรื่องทำหนังไหม กำกับหนัง การแสดง โอเคผมช่วยคุณได้ แต่ถ้าเป็นเชิงไลฟ์โค้ช ใช้ชีวิตให้มันมีคุณค่า คือผมยังไม่มีประสบการณ์พอที่จะเอาชีวิตของตัวเองไปเป็นตัวอย่างให้คนอื่น”











กำลังโหลดความคิดเห็น