“อ๊อฟ ศุภณัฐ - แม่จอย” เคลียร์ ไม่ได้เป็นแม่ทีมระดับบอส THE iCON GROUP แค่ชื่อเหมือนกัน

“อ๊อฟ ศุภณัฐ” เคลียร์ไม่ได้เป็นแม่ทีม และไม่ได้เป็นบอส THE iCON GROUP รับแม่เข้าไปทำและชักชวนตนไปทำด้วย ตนไม่สนใจแต่ก็ช่วยเป็นขาให้กับแม่ไป วอนประชาชนอย่าเข้าใจผิด ตนและแม่ไม่ใช่บอสอ๊อฟ+บอสจอย อย่างที่คาดเดากัน เพียงแค่ชื่อเหมือนกัน

มีภาพว่อนไปทั่วโซเชียล จากกรณีคดี THE iCON GROUP ว่า “อ๊อฟ ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ”เป็นทีมบอส โดยพบภาพเจ้าตัวกับ ตัวอักษร FOUNDER และยังมีภาพผัง THE iCON GROUP ที่รายการโหนกระแสทำขึ้นมา แล้วมีชื่อ อ๊อฟ+จอย เป็นทีมบอส

วันที่ 15 ต.ค. อ๊อฟ ศุภณัฐ และ คุณแม่จอย ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงกรณีที่ใครต่อใครเข้าใจผิด

“วันนี้ผมเอาหลักฐานเป็นการรูดบัตรเครดิตของผมและคุณแม่ที่จ่ายเงินเข้าบริษัททั้งหมด ผมเข้าสู่ธุรกิจนี้ จากคุณแม่ ที่ได้รับแอดมา เป็นช่วงโควิด เป็นช่วงว่างงาน แม่ผมก็เป็นผู้สูงอายุท่านหนึ่งที่อยากจะมีอาชีพทำ และช่วยเหลือผม ในช่วงโควิดศิลปิน-ดารา ก็ไม่มีงานทำ คุณแม่เขาก็อยากจะช่วย ในตอนนั้นผมก็รู้สึกซาบซึ้งมาก แต่ก็ยังไม่ทราบว่าแม่จะทำอะไร จนคุณแม่เดินทางไปเรียน

ตอนแรกที่เข้าไปการตลาดเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่หลังๆ เป็นอีกแบบหนึ่ง ตอนนั้นด้วยความที่คุณแม่อยากเป็นนักเรียนดีเด่น เป็นนักธุรกิจโตเร็วก็ต้องลงทุนเยอะ ก็คงถูกชักชวนจากแม่ทีมที่เดินเข้าไปว่าให้เปิดให้เยอะที่สุด ก็โดนไป 2.5 แสน ต้องเข้าไปประชุม ไปเรียนรู้คนที่สำเร็จ แต่ผมไม่เคยเข้าไปเลย“

ตนและแม่สูญเงินไปหลักล้าน
“ที่ผ่านมาผมไม่ทราบอะไรเลย เพิ่งมารู้ตอนเป็นข่าว ผมเองก็เพิ่งจะมารู้รายละเอียดจากข่าว เพิ่งจะรู้ว่าดีลเลอร์ คือ 2.5 แสน ตอนนั้นแม่หาลูกค้าไม่ได้ ผมก็เลยเห็นใจแม่ เป็นลูกทีมให้แม่ ผมแค่รูดโอนให้ไป ก็คิดว่าประมาณ 2 คน 5 แสน แต่เมื่อคืนผมลองมาตรวจดูอีกที เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมถ่ายละคร เวลาแม่จะจ่ายเงินเข้าบริษัท ผมเป็นคนจ่ายทั้งหมด ก็จะรูดระยะไกล มีอะไรก็โอนให้ รวมแล้วทั้งหมดของคุณแม่ 7 แสนกว่าบาท ของผม 307,000 บาท ก็ตกใจเหมือนกัน นี่คือการทยอยจ่าย ทยอยโอนไปเรื่อยๆ”

สำหรับตนและแม่ขายสินค้าไม่ได้เลย จึงเอามากินเองและแจกจ่าย
“สินค้าขายไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าสินค้าดีไหม ผมว่าดีนะ และผมติดใจมาก ผมกับแม่นั่งดื่มกาแฟกันทุกวัน นี่คือข้อดี ข้อไม่ดีและเป็นปัญหากับสังคมคือมันเป็นการตลาดที่ฮาร์ดคอร์มากเกินไป (เป็นธุรกิจไม่เน้นขายสินค้า เน้นชักชวนคน?) ผมไม่ทราบเลย มันก็จริงอย่างที่ทุกคนทราบกัน เขาเน้นสอนให้คนไปชักชวนคนอีกทีในปริมาณที่เยอะ แล้วการตลาดเขาดี ดีจนเกินไป ทำให้ทุกบ้านมีหมดเลย ทีนี้ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อแถมการขายปลีกก็มีราคาที่สูงกว่าการซื้อแบบดีลเลอร์ ทำให้ทุกคนทุกบ้านจะต้องมีสินค้านี้ แล้วก็เอาไปกองไว้ที่บ้าน ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องกินเอง แจกเอง หมดอายุแล้วก็ต้องกินเองเหมือนผมและคุณแม่ผม”

ยันไม่ได้เป็นพ่อข่าย ทีมบอส หรือผู้ก่อตั้ง

“อันนี้ยืนยันได้ว่าผมบริสุทธิ์ใจมากๆ เป็นศูนย์ครับ ผมไม่ทำ ตอนที่คุณแม่ไปศึกษา จะสร้างทีม ตัวผมเองรู้สึกตั้งแต่ตอนนั้นว่าผมไม่ทำแน่ๆ เพราะเรายังไม่เคยศึกษาเรื่องนี้เลย ถ้าผมจะทำต้องมีข้อมูลเยอะกว่านี้เพื่อให้แน่ใจก่อน คุณแม่ก็พยายามคะยั้นคะยอ ผมก็ดื้อไม่ทำและไม่ได้ชวนใครทำ

ตอนนั้นคุณแม่ก็ไปชวนญาติพี่น้องทำ จะมีทางสัตหีบ ระยอง ด้วยความที่ทุกคนก็คิดเหมือนผม เห็นอกเห็นใจคุณแม่ ก็อยากจะช่วยเลยมาเป็นลูกทีมของคุณแม่ ช่วยกันซื้อ กิน แล้วก็เก็บ รวม 8-10 คน ตกคนละ 2.5 แสน แล้วแม่ผมลงดีลเลอร์ 2 รอบ จนคุณแม่เลิกทำ เพราะแกรู้ตัวแล้วว่าขายของไม่ได้ แม่ก็อยู่ในวังวนนี้มา 1 ปี”

แจงภาพตนที่ถูกแชร์ออกไป เป็นภาพที่ว่อนเน็ตอยู่แล้ว งานอื่นๆ ก็เอาไปใช้ คาดแม่ทีมเอารูปไปตัดต่อใช้เองเช่นกัน

“ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเองก็ตกใจ มีเพื่อนส่งมาเล่นๆ กัน สวัสดีบอสอ๊อฟ สวัสดีบอสจอย เป็นยังไงเพื่อน ผมก็ตอบขำๆ ไปว่าเราเป็นผู้เสียหาย เขาก็ตกใจ เพื่อนคิดว่าผมเป็นแม่ข่าย จนผมไปซูมรูปที่เขาส่งมาให้ดู มีบอสอ๊อฟ บอสจอยด้วย ผมงงมาก ผมตกใจมาก เพราะผมชื่ออ๊อฟ และแม่ผมชื่อจอย พอดีมากเลยไง แต่ไม่ใช่ผมครับ

รูปที่แชร์ๆ กันผมก็เพิ่งมาเห็นตอนที่เป็นข่าว ในผมไปถ่ายรายการมา ผมไปถ่ายเกมโชว์มา ผมก็เลยถ่ายตัวเอง ก็เอาลงโซเชียล ก็เป็นภาพที่ว่อนเน็ตอยู่แล้ว รูปนี้งานวัด งานอะไรเอาไปใช้เยอะแยะเต็มไปหมดครับ อันนี้คงจะเป็นแม่ข่ายเอารูปผมไปทำและเอาไปโปรโมตเพื่อชักชวนคน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม ผมยังไม่รู้เลยว่าคำว่า founder มันคืออะไร มันเกี่ยวกับอะไร มันเกี่ยวกับบริษัทนี้ ผมรู้แค่ว่ามีสินค้า เป็นดีลเลอร์ เมื่อวานคนถามผมเยอะมากว่าเป็นผู้ก่อตั้งที่นี่เหรอ คือถ้าผมเป็นผู้ก่อตั้งที่นี่ผมคงรวยเป็นพันล้านแล้วครับ”

อยากยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เพราะคนเข้ามาคอมเมนต์ต่อว่าตนกับแม่เยอะ
“ผมแค่ต้องการมาแสดงตนว่าผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่แม่ข่าย ไม่ได้อยู่ระดับบนนะ เพื่อให้คนที่ไปคอมเมนต์ในเพจ คนที่เห็นข่าวมาต่อว่าผมกับแม่ว่าเราเป็นแม่ข่าย ผมไม่ดี แม่ไม่ดี ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นผู้เสียหาย ส่วนรูปก็คงต้องดูอีกที ถ้ามันยังมีอีกก็คงจะต้องฟ้องร้องกัน แต่ถ้าใครจะสงสัยว่าแม่ผมเอาไปทำหรือเปล่า คือคุณแม่ผมทำอะไรพวกนี้ไม่เป็นอยู่แล้ว ขนาดจะโอนเงิน จะรูดบัตรอะไรเข้าบริษัท ยังอยู่กันคนละที่เลย”