“ณวัฒน์” เผย “กันต์” ปล่อยโป๊ะเอง ที่พูดมามีแต่เท็จกับเท็จ เข้าข่ายนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แอบผิดหวังในสิ่งที่ “มิน” พูด ไม่เชื่อว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรในบริษัท ส่วน “แซม” เซฟตัวเอง แต่ลอยหน้าลอยตาว่าไม่ผิด หาสาเหตุไม่เจอ ปิดฉากชีวิตการเมืองไปได้เลย ชี้ถ้าคิดจะเยียวยาผู้เสียหาย ควรให้นำสินค้าไปตั้งหน้าบริษัท และจ่ายคืนเงินตามจำนวนจริงเหมือนกรณี “แม่ตั๊ก” ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ทำ ชี้เป้า โรลส์-รอยซ์ในประเทศไทยมีไม่กี่คัน ให้สังเกตกันดีๆ
นอกจากพิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”เจ้าพ่อรายการโหนกระแสจะเป็นคนแรกๆ ที่ออกมาเปิดโปงขบวนการธุรกิจเครือข่าย บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จนเกิดการขุดคุ้ยบรรดาบอส ทั้งคนในวงการ และหลากหลายวงการ จนสนั่นไปทั้งประเทศ อีกหนึ่งบอสที่ออกมาเกาะติดเรื่องนี้ไม่ปล่อย คือ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล”แห่งมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่แนล และมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ระหว่างการเก็บตัวของเหล่าสาวงามมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 ที่พัทยา โดยเผยว่ายังมีคนดังในวงการโทร.มาปรึกษาพูดคุยอยู่ทุกวันเกี่ยวกับประเด็นนี้
“มีคนโทร.หาผมทุกวันครับ ก็คนในวงการด้วยแหละ แลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยกันอยู่ตลอดเวลาครับ ผมว่ามันแบ่งเป็นหลายส่วน ส่วนที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมก็คือแม่ข่ายที่อยู่กับตัวบริษัท ซึ่งเป็นบอสสวย บอสโน่น บอสนี่ คนเหล่านี้จะเป็นคนที่ติดตัวบริษัท ซึ่งบริษัทจะรับเงินจากคนเหล่านี้แค่นั้น
ทีนี้รูปแบบของบริษัทผมไม่รู้ว่าเขารับเงินเป็นแบบไหน ผมว่าทางตำรวจคงจะตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินอย่างหนักมาก เพราะว่าตัวทางดิไอคอนผมว่าเขาก็มั่นใจ เพราะว่าเครือข่ายแบบมีดาวน์ไลน์ ส่วนมากจะออกบิลให้กับคนไม่กี่คนแล้วเราควบคุมกันได้ แต่ในวันที่คุณไปขายต่อ คุณก็ไปรับจากดาวน์ไลน์ของคุณ ทีนี้ผมตั้งข้อสังเกตว่าคนที่ไปฟ้อง ส่วนมากไม่น่าจะเปิดบิลทางธุรกิจโดยตรงกับบริษัทหรือเปล่า แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะถ้าทางกฎหมายมันเป็นแบบนั้น ก็สามารถจะใช้ลักษณะมาจัดการได้ถึงแม้ว่าเปเปอร์มันจะไม่ออกเป็นแบบนั้น
ผมคาดว่าน่าจะโดนอยู่หลายเรื่อง อันนี้เป็นความคิดเห็นของผมนะ เขายังไม่ได้ผิดหรือถูก แต่ที่แน่ๆ น่าจะโดนเรื่องนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อย่างที่ดาราพูด เท่าที่ผมฟังมันเป็นข้อเท็จเยอะหมายความว่าถ้าวันนี้ยังยืนยันว่าอย่างนี้ แสดงว่าแต่ก่อนนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ เช่นกันต์ (กันต์ กันตถาวร) บอกว่าไม่เคยเกี่ยวข้อง มันก็มีคลิปว่านี่ห้องทำงานส่วนตัวของผม แล้วก็บอกว่าเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ พิธีกร
แต่ก็มีคลิปบอกว่าผมไม่ได้เป็นเพียงพิธีกร ผมมาเป็นผู้บริหาร ทีนี้ถ้าเขาไม่รับว่าเขาเป็นผู้บริหาร ถ้าตำรวจจะเชื่ออย่างนั้น แสดงว่านี่คือข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทุกคนเชื่อ และก่อให้เกิดความสูญเสีย ก็ถ้าเขายังยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นผู้บริหารนะ แต่ถ้าเขายอมรับว่าเป็นผู้บริหาร คลิปนั้นถูกต้อง ก็จะกลายมาเป็นว่าให้การเท็จตอนที่แถลงข่าว มันโดนทั้งเท็จซ้าย เท็จขวา มันต้องเลือกสักเท็จนึง“
บอกคนแพ็ก-สินค้าและการเติบโตของบริษัท ไม่สอดคล้องกัน เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบให้ละเอียดแบบลงลึก แล้วจะเจอข้อเท็จจริงแน่นอน
“แล้วป.ป.ง. เอง ผมว่างานนี้ตั้งใจทำงาน เพราะน่าจะเป็นเรื่องของเส้นทางการเงิน อันนี้ก็มีคนพูดเยอะว่าเข้าข่ายไหม ว่าฟอกเงิน ว่าเป็นลูกโซ่ อันนี้ก็จะต้องไปสืบ เพราะมันมีข้อสมมติฐานที่น่าสนใจเยอะ ขายได้ประมาณ 5,000 ล้าน แต่โกดังสินค้ามีสินค้าไม่กี่ชิ้น น้อยมาก คนแพ็กสินค้ามีไม่กี่คน ที่บริษัทผมคนแพ็กสินค้ามีประมาณ 50 คนทุกวัน ขายของไม่กี่บาทเองครับ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นผมว่ามันไม่สอดคล้อง และสินค้าคงคลัง 400% มันไม่สอดคล้องเลย ธรรมดาบริษัทจะมีแค่ประมาณ 5-10% มันไม่สอดคล้องกับการเติบโต ไม่ให้มันโดดจากความเป็นจริง ผมอยากรู้ว่าพนักงานประจำออฟฟิศเขาที่แจ้งประกันสังคมมีทั้งหมดกี่คน มันจะเป็นตัวยืนยันเลยว่าธุรกิจ 5,000 ล้าน ถ้าคุณมีไม่ถึง 500 คนขึ้นไป มันผิดปกติ
อย่างบริษัทผมก็ไม่ได้ใหญ่โต ของผมก็มีประมาณ 100 คน ผมว่ามันก็เป็นสัดส่วนที่เหมาะสมกับการเติบโตเพียงเท่านี้ แต่ถ้าสมมติว่าดิไอคอนมีพนักงานประจำแค่ 30 คนล่ะ แล้วทำงานกันได้ 5,000 ล้าน มันยิ่งไปกันใหญ่ ก็อยากจะให้จี้ลงไปที่บริษัทที่ผลิตสินค้าให้ทั้งหมดว่าผลิตที่ไหน ผลิตปีนี้ เดือนนี้เท่าไหร่ ต้องขยี้ให้หมด ออกมาแล้วจะเจอแน่นอนครับ ล้านเปอร์เซ็นต์“
จวก “แซม” ลอยหน้าลอยตาว่าไม่ผิด หาสาเหตุไม่เจอ ปิดฉากชีวิตการเมืองไปได้เลย
“ก็เห็นคุณหนุ่ม (กรรชัย กำเนิดพลอย) กับคุณกัน จอมพลังว่าจะไปร้องกัน เห็นเขาโพสต์กันอยู่ เขาก็ถามว่าจะไปด้วยไหม ก็บอกว่าไม่สะดวก อยู่พัทยา (หัวเราะ) เอาเป็นว่าเคสนี้มันไม่ได้เป็นแค่เคสของโหนกระแสเคสเดียว มันเป็นเคสอย่างอื่นด้วย มันผสมปนเปกันหมด
แม้กระทั่งคุณอี้ แทนคุณ ผมก็รู้ว่าเขาเล่นหนักในกรณีที่มีพี่แซม (ยุรนันท์ ภมรมนตรี) เราก็ต้องเข้าใจว่ามันเป็นการเมืองด้วย แต่ผมก็ต้องบอกตรงๆ ว่าพี่แซมก็พลาด เพราะคนเราเคยทำงานการเมืองมา เราอย่าคิดถึงประโยชน์ส่วนตนก่อน เราต้องคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและความเดือดร้อนของคน แต่ถ้าพี่แซมยังมาลอยหน้าลอยตาเหมือนฉันก็ไม่ได้ผิด บริษัทดิไอคอนก็ไม่ได้ผิด ไม่รู้จะผิดตรงไหน คุณมีวิญญาณนักการเมืองเหลือสัก 0.01% ไหม คุณเห็นไหมครับว่าเขาฆ่าตัวตาย ไม่มีกิน ออกจากงาน ชีวิตล่มจม เดือดร้อนเพราะใคร ก็กลุ่มของคุณ แล้วคุณยังมาลอยหน้าลอยตาหาสาเหตุกันไม่เจอ ผมว่าเพี้ยนแล้ว ก็ปิดฉากชีวิตการเมืองไปได้เลยแบบนี้
ก็อยากให้ทนายรวมตัวกันไปเยอะๆ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 61 ทางสคบ.ก็ได้พยายามเอาผิดอยู่ไปทุกๆ หน่วยงาน แต่ทุกๆ หน่วยงานก็นิ่งเฉย ได้รับเรื่องแต่เงียบกริบ ก็ไปหมดแหละครับ ทั้งกระทรวง ทั้งอย. ทั้งกระทรวงการคลัง และเคยมีวินิจฉัยออกมาแล้วด้วยว่าเข้าข่าย แต่จากวันนั้นหลักแค่เป็น 10 ล้าน 100 ล้าน ปล่อยให้มันระบาดมาจนถึง 5,000 ล้านต่อปี ผมว่าความที่รัฐบาลเฉยเมย ณ วันนั้นที่รู้สึกว่ามันยังไม่ใหญ่ มันก็กลายเป็นแบบวันนี้ได้และตัวเขาสืบประวัติได้มาจากเจเนส ซึ่งก็คือธุรกิจนึงที่เป็นลักษณะนี้แล้วก็ปิดไปแล้ว หนักมาก ผมก็รู้จักบริษัทนี้ หลังจากเจเนสก็ไปทำบูม ก็เห็นตีกันอยู่ไม่ใช่เหรอ คือมันมีประวัติให้เราได้ดูอยู่ แล้วยังปล่อยมาเป็นแบบนี้ วันนี้ก็อย่าปล่อยให้มันจบง่ายนะ ต้องเอาคืนมาให้หมด ถ้าเขาผิดจริงก็ยึดให้หมด แต่ถ้าเขาไม่ผิด ก็ให้เขาไปให้หมด ก็แล้วแต่เขา”
เชื่อไม่ใช่แค่แบรนด์นี้ที่ไม่มีสินค้าจริง
“ถามว่ามีแบรนด์อื่นร้อนๆ หนาวๆ ไหม ผมก็ได้ไปดูบางแบรนด์ บางแบรนด์ก็ขยับเพิ่งมาจดทะเบียนเองครับ หมายถึงว่าขายกันมาตั้งนาน เพราะมันต้องมีกฎหมายจดทะเบียนเรื่องการขายออนไลน์ การขายแบบเครือข่าย มันเป็นกฎหมายคนละฉบับ ผมก็ไปส่องดูครับ ไอ้ร้อนหนาวเป็นสิ่งที่ดี ผมเชื่อว่าไม่ได้มีแบรนด์นี้แบรนด์เดียวที่เข้าข่ายไม่ได้ขายสินค้าจริง แต่หาสมาชิก โดยการที่เงินสมาชิกข้างล่างเอามาดันผลประโยชน์ให้กับสมาชิกที่อยู่ข้างบนจนถึงตัวเจ้าของ ถ้าสำหรับผมคือมันต้องมีคนเสียเงิน ถึงจะมีคนได้เงิน มันไม่ได้ขายของแล้วได้เงิน คุณเสียมา 250,000 บอสทุกคนได้หมด มันต้องมีคนเสีย ถึงจะมีคนได้ แต่แบบนี้มันเป็นอันตรายต่อสังคม
ซึ่งบางประเทศการทำธุรกิจแบบนี้ทำไม่ได้นะ เป็นการผิดกฎหมายอย่างรุนแรง แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยังอ่อนแอ ยังปล่อยให้ทำ ผมว่าจริงๆ แล้วระบบเครือข่ายถ้าเป็นไปได้เลิกก็ได้นะ เพราะมันไม่ได้ยึดโยงอยู่กับการขายสินค้า มันยึดโยงอยู่กับการหาสมาชิก และถ้าการหาสมาชิกเราประกาศตรงๆ ว่ารับสมัครสมาชิกร่วมขายของ ใครสนใจลงทุน 2,500 จะได้เป็นผู้ใช้ ลงทุน 45,000 จะได้เป็นผู้เริ่มขาย ลงทุน 250,000 จะเป็นผู้ขายที่มีฝีมือ บอกเขาไป ผมว่ามันยังไม่ผิด แต่ธุระอะไรที่ดิไอคอนเป็นเครือข่าย มีสินค้าเป็นองค์ประกอบ มีดาวน์ไลน์เป็นเมนหลัก แล้วอยู่ๆ มารับสมัครสอนออนไลน์ มันใช่เหรอครับ
อันนี้สำหรับผมมันเข้าข่ายหลอกลวง แต่จะหลอกลวงไม่หลอกลวงขึ้นอยู่กับกฎหมาย แต่ความคิดผมคือคุณขายของ คุณโฆษณาของ ถ้าคุณไม่อยากโฆษณาของ คุณโฆษณาหาคน แต่คุณบอกว่าลงเรียนสอนออนไลน์อันดับ 1 มีทุกราคา วันนี้พิเศษเพียง 98 บาท จับมือสอน พอเขาเข้ามาปั๊บ คุณก็พูดเป็นน้ำจิ้ม แล้วก็บอกสเต็ปต่อไปคือต้องจ่ายเพิ่ม ทีนี้ยิ่งมีบอสเป็นดารามันก็เหมือนการสะกดจิต วิชานี้มันก็จะทำให้คนมึนงง และในที่สุดคนที่ไม่มีเงินก็ไปกู้
มีรายนึงไม่มีเงิน กลับบ้านไปขายรถ เอาบ้านเข้าจำนอง จนปัจจุบันไม่มีบ้านอยู่ ไม่ได้เกิดเคสแรกนะ เจ้าลัทธิต่างๆ นานาในประเทศไทย จะเปลี่ยนชีวิต จะเข็นไปในทิศไหนมีหมด มันรวยกันมหาศาลเป็นพันล้าน เพราะฉะนั้นต้องคิดให้ดีว่า เขาจะทำธุรกิจ ต่อให้เป็นเรื่องของเครือข่าย แต่เขาดึงโยงคนให้เข้ามาเรียนออฟไลน์ มันเป็นการสับขาหลอก พอมีคำว่าหลอกผมว่ามันก็เข้าข่ายที่จะหลอกลวง ไม่ได้บอกวัตถุประสงค์ที่แท้จริงตั้งแต่ต้น เป็นการโฆษณาเกินจริง โฆษณาแบบหลอกลวง”
เคยเจอ “บอสพอล” ตัวจริง ไม่ตรงปกอย่างแรง
“บอสพอลบอกว่าเสียใจ เสียใจทำไมรวยจะตาย ไม่ต้องเสียใจหรอกครับ เก็บให้ทันแล้วกัน ผมก็เคยเจอเขา รวยจะตาย คนอะไรนาฬิกาเยอะขนาดนั้น เขาก็เคยชวนผมไปที่ออฟฟิศเขา ไปขายโฆษณา เขาสนใจมิสแกรนด์ ผมก็เคยไป ผมเจอเขาตัวๆ เลย ตอนแรกคุณพอลออกมาผมจำไม่ได้นะ เพราะในภาพกับตัวจริงนี่โอ้โห ต่างกันเยอะเลย ผมจำไม่ได้ ในจินตนาการของผมคือพอลจะต้องสูง หน้าเป๊ะ แต่ตัวจริงอู้หู (ก้มหน้ามองต่ำ) ไม่ได้บูลลี่นะ
แต่สรุปเขาไม่ซื้อหรอก เขาก็หลอกผมไปนั่ง แล้วก็เอาคอลลาเจนตัวใหม่สีชมพูๆ มาให้ผมกิน พอจะกินมีตากล้องบริษัทเข้ามาหลังห้อง สแนปช็อต หูย เงินสปอนเซอร์ก็อยากได้นะ ก็คิดทำไงดีว้า ก็กิน เขาก็สแนปช็อตไป คุยกันจนเสร็จครึ่งชม. พอจะกลับเขาบอกขอถ่ายรูปหน่อย ทีนี้เป็นเรื่องเป็นราวเลยมีไฟ มีตากล้อง ก็ถ่ายเรียบร้อย ผ่านไปไม่ถึง 15 นาทีโพสต์แล้วเฟซบุ๊ก
ผมรู้เพราะว่ารองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ใหญ่สถานีนึง เป็นสมาชิกใหญ่ในนั้นด้วย โทร.มาหาผม เพราะผมกับเขามีเบอร์ส่วนตัวกัน เขาบอกว่าดีใจจังเลยคุณณวัฒน์จะมาร่วมงานกับบอสพอล ผมก็ตกใจอะไรเหรอครับ เขาบอกเห็นพอลโพสต์อยู่ ผมก็เลยเข้าไปดู ตายแล้ว โปรเจกต์ใหม่เร็วๆ นี้กับคุณณวัฒน์ อะไร เสียหาย ก็ไม่เป็นไรหรอก มันผ่านไปนานแล้ว ประมาณ 3-4 ปีแล้ว ช่างมันเถอะ
ผมว่าเขาก็ทำประจำแหละ เพราะเขาเป็นคนมีเงินไง และเขาเป็นคนมีภาพ พูดง่ายๆ ตามประสาชาวบ้าน ด้านได้อายอด คุณจะขอเราสักคำก็ไม่ขอ มายัดเยียดให้เราถ่าย แล้วขอสักคำว่าเอาไปใช้ก็ไม่พูด คนแบบนี้เอาแต่ได้ จบ ผมเข้าใจ ถามว่าทำไมเมื่อวานเขาถึงรีบเข้าไปกองปราบ ถ้าไม่รีบก็โดนหมายจับสิครับ ดูแม่ตั๊ก กรกนก เป็นตัวอย่าง เขาฉายหนังตัวอย่างไปแล้ว อันนี้รอบจริงแล้ว”
บอกพีดีปทุมธานีคือผู้จัดการ “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” และตนเป็นคนแนะนำว่าให้ไปยุติกับดิไอคอน
“ผมก็ขอบคุณนะที่สัมภาษณ์ผมที่เอ็มสเฟียร์ ที่ผมบอกว่าให้ยุติการทำงานเป็นอย่างแรก เพราะหลังบ้านพีดีเราเป็นพีดีปทุมธานีนะ เป็นผู้จัดการมิน พีชญา เขาก็ต้องรีบ ผมบอกว่ามีวิธีเดียวที่จะแสดงจุดจบก่อน จบปัญหาที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวคือยุติ แล้วค่อยไปแก้ปัญหาทีหลัง แต่ถ้าคุณยังทองไม่รู้ร้อนมันคืออะไร ก็ยุติกันหมด แล้วคุณก็ต้องวิ่งไปหาตำรวจ เพราะเขากลัวกันว่า 48 ชม. ออกหมายจับ ถามว่าถ้าคุณไม่กลัว คุณไม่ผิด วิ่งไปทำไม อยู่บ้านสิ พรุ่งนี้จะออกหมายจับคุณณวัฒน์ยังอยู่บ้านก็ไม่เห็นมีอะไร (หัวเราะ) จับมาก็จับกลับ ถ้าจับผิดคนล่ะจับแน่ เรื่องใหญ่แน่”
ไม่เชื่อว่า “มิน” จะไม่รู้เรื่องราวอะไรในบริษัทเลย
“ถามว่ารู้สึกยังไงกับ 3 บอสที่แถลงไป โอ้โห แซมเขาแถลงเหรอครับ ผมเห็นเขาเดินไปวิ่งไปพูดไป (หัวเราะ) ผมว่าด้วยความที่พี่แซมเป็นผู้ใหญ่ และเขาผ่านศึกนักการเมืองมาเยอะ เขาจะมีวิธีของเขา ซึ่งไม่มีอะไรหรอกครับที่ได้ข้อมูลจากเขา เขาต้องเพลเซฟสุดตัว ส่วนมินผมค่อนข้างผิดหวังกับสิ่งที่น้องพูดเพราะกับสิ่งที่น้องพูดที่เป็นคลิปมันคนละเรื่องกัน และผมมั่นใจว่าทนายวางมาให้พูดเพียงแค่ว่ารู้เดี๋ยวนี้ ตกใจเดี๋ยวนี้ เลยรีบมาพูดเดี๋ยวนี้ เพราะการขึ้นศาลกฎหมาย การรู้แล้วรีแอ็กทันทีมันจะทุเลา
แต่ผมไม่เชื่อหรอกคนอย่างมิน พีชญาจะไม่รู้เรื่องราวที่มันเกิดขึ้นในบริษัทดิไอคอน แต่พูดได้เป็นฉาก ต้องรู้ และหลักฐานบางส่วนแสดงถึงการรู้ และการพูดบางอย่างแสดงถึงการรับรู้และรับร่วม ก็เลยมีความรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกใจ และไม่ยอมบอกตัวเลขค่าจ้าง คือถ้าเกิดบริสุทธิ์ใจ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว สมมติ 7 ล้านก็โชว์ให้ดูเลย อย่างนี้รอด แต่สัญญาก็ไม่ให้ดู คนถามว่าได้เงินเยอะไหม ก็ไม่บอก มีจะหลุดไปครั้งนึงแต่ทนายก็คว้าไว้ทัน เราก็เลยไม่ได้รู้ข้อมูล ก็เลยไม่เคลียร์ ข้อที่ได้จากมินก็คือยืนยันว่าเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์และพีอาร์ แต่เขาโพสต์ชัดเจนมินไม่ได้เป็นเพียงแค่พรีเซ็นเตอร์ แต่เข้ามาเป็นบอสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม ก็ผิดหวัง”
ยอมรับผิดหวังกับ “กันต์“ เพราะโป๊ะอย่างแรง
“แต่สำหรับกันต์ผิดหวังอย่างแรง แต่โป๊ะไปแล้วล่ะ ผมชอบมากตรงที่โป๊ะ ก็คือรายได้ก็ได้มาเป็นเดือน มากน้อยขึ้นอยู่แต่ละเดือนที่เขาจะคำนวณให้จากการขาย โอ้ย อันนี้เรียกว่าเปลี่ยนทนายครับ แต่ทนายเขาก็ตกใจแหละ สงสารเขาเขาคว้ากลับไปแล้วไปตีความเป็นทางอื่น แต่อย่าลืมนะ เวลาสอบเขาไม่ได้เอาทนายเข้าไปสอบด้วย หลักฐานเขาไม่ได้เอาที่ทนายพูด กฎหมายจะยึดโยงอยู่กับคนๆ นั้น ฉะนั้นต่อให้ทนายพูดเป็นฟ้าเป็นดิน สุดท้ายถ้ามันเป็นลมก็เป็นลมอยู่ดีนั่นแหละ”
ทิ้งบอมบ์ ไม่ได้มีแค่แบรนด์นี้แบรนด์เดียวแน่นอนที่เป็นแบบนี้
“บอสเดียวที่รอดคือบอสณวัฒน์เหรอ ไม่หรอก อันนี้ก็เกินไป ผมก็ไม่รอดตอนไปกัมพูชานะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าผมไม่อยากให้สังคมต้องถูกรังแก หลายคนบอกไปยุ่งกับเขาทำไม มันก็วนๆ อยู่ใกล้ๆ ตัวทั้งนั้นแหละ และย้ำว่าไม่ได้มีแบรนด์นี้แบรนด์เดียวนะ ระวังแบรนด์อื่นจะได้เปิดอีก เยอะแยะไป ไม่บอกอักษรย่อด้วย ไม่เอา ก็ดูความร่ำรวยของคนสิ เดี๋ยวก็เห็นเองแหละ โรลส์-รอยซ์ มีไม่กี่คันหรอกในประเทศไทย ก็ไม่ว่ากัน ไม่ได้มีอะไร เพียงแต่ว่าเอาทีละแบรนด์ การทำงานเป็นสิ่งที่ดี แต่การเอาเปรียบคน เก็บเงินจากคนเล็กคนน้อย
เงินก้อนสุดท้ายของเขามาเป็นของเรา มันเป็นบาป ไม่เท่าไหร่ แต่มันเป็นการทำลายสังคมชนิดที่เรียกว่าถาวร ประเทศเรามันพัฒนาไม่ได้ เพราะว่าคนฉลาด ผมไม่ได้พูดว่าใครนะ ขออนุญาตพูดคำว่าคนฉลาดแกมโกง มักเอาเปรียบคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และใช้วาทศิลป์ ภาพลักษณ์รวมถึงอาศัยบารมีคนที่น่าเชื่อถือมาช่วยกระตุ้นให้คนเชื่อง่าย และสุดท้ายความซวยก็อยู่กับคนที่หลงเชื่อครับ”
บอกถ้าจะเยียวยาผู้เสียหายจริง ต้องกล้าให้เอาสินค้าไปคืนแล้วคืนเงินเต็มจำนวน
“ที่เขาจะเยียวยาผู้เสียหาย โอ้ย คำว่าจะเยียวยาเขาก็พูดว่าต้องมีคนตรวจสอบก่อน ถ้าเยียวยาก็ต้องแบบแม่ตั๊กเลย ง่ายๆ ใครมีของก็เอามาคืนในราคาที่ซื้อไป โอเคไหม ดิไอคอนเขาไม่ได้เอาของคนอื่นมาคืนคุณ คุณเปิดศูนย์หน้าบริษัทคุณเลยเดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนคุณก็ได้หน้าบริษัท ผมรู้จัก ใครมีของบริษัทดิไอคอนอยู่ที่บ้าน แล้วเป็นทุกข์ ขายไม่ออก กินไม่ได้ ทำให้ชีวิตต้องตกอัพ ยากจน เงินจม
บอสพอลไม่ต้องมาพิสูจน์อย่างอื่นหรอก ให้เขาขนของมา สมมติคุณขายกาแฟเขา แล้วกาแฟเขาก็แพงนะ หลายร้อยอยู่ สมมติกล่องละ 500 เขามีอยู่พันกล่อง ก็ให้คืนเขาไป 500,000 จบ อันนี้ถือว่าทุเลา แต่พอจี้ไปก็จะบอกว่าเดี๋ยวต้องดูว่าเอกสารมันเป็นยังไง ทุเลาเขา ไม่ได้ทุเลาคนเสียหาย”
