“แซม ยุรนันท์” เล่าละเอียด จุดเริ่มต้น รู้จัก “บอสพอล” ลั่นให้ตำแหน่ง แต่ไม่ได้ให้อำนาจ ไม่ได้เป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์และหุ้นส่วน แต่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ไม่มีสิทธิ์กำหนดทิศทางบริษัท ช็อกเพิ่งรู้มีคนฆ่าตัวตาย เห็นแต่ด้านประสบความสำเร็จ ยันได้เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย แต่ไม่ใช่ยอดปิดดีลเลอร์ เคยตกใจดิไอคอนมีกรรมการคนเดียว ไม่มีหุ้นส่วน ตอนแรกมองเป็นข้อเสีย แต่ตอนนี้มองเป็นข้อดีแล้ว อุบตอบรายได้ ยันไม่ถึง 10 ล้าน มีแพลนไม่ไปต่อ เหตุเสนอแล้วไม่ผ่านจนเฟล ลั่น “มิน พีชญา” ก็ตกใจโดนด่ายันตระกูล
กลายเป็นประเด็นใหญ่โต กรณีมีผู้เสียหายร้อง ถูกบริษัท THE iCON GROUP หลอกลวงทำธุรกิจเครือข่าย สุดท้ายไม่เป็นไปตามที่หวัง สิ้นเนื้อประดาตัว บางรายถึงขั้นฆ่าตัวตาย โดย “แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี” หรือ บอสแซม หนึ่งในคนดังนั่งแท่นผู้บริหาร ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ได้ออกมาเปิดใจเต็มๆ อีกครั้ง ยืนยันว่า “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง THE iCON GROUP ให้ตำแหน่ง แต่ไม่ได้ให้อำนาจตัดสินใจ หรือกำหนดทิศทางบริษัท เพราะถึงบริษัทใหญ่ มีรายได้เป็นพันล้านต่อปี แต่กรรมการบริษัทมีแค่คนเดียว!
“จริงๆ ไม่ได้จะมาชี้แจงหรือแถลงอะไร วันนี้คนถามเยอะ ก็เลยตอบกันไม่ไหวเหมือนกันนะ ทั้งวันเลย ถ้าไม่ตอบเลยก็เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ จะตอบในนามอะไรก็ไม่สามารถตอบแทนดิไอคอนได้ เพราะไม่สามารถพูดอะไรแทนได้ขนาดนั้น
ในฐานะที่เราเข้ามาอยู่ได้ไม่ถึงปี เจตนาที่เข้ามาอยู่ตั้งแต่แรก กับคุณพอล เราเรียนหลักสูตรเดอะเนชั่นด้วยกัน หลักสูตรว้าว เราเป็นประธานรุ่น คุณพอลอยู่กลุ่มเดียวกับเรา เราทำกิจกรรมด้วยกันบ่อย รู้จักกันที่นั่น ต่างคนต่างทำหลักสูตรนี้จะไปเยี่ยมเยียนธุรกิจของแต่ละคนเพราะเป็นหลักสูตรพูดเรื่องสินทรัพย์ เรามีโอกาสรู้จักกันตรงนั้นจริงๆ จังๆ แล้วไปเยี่ยมธุรกิจดิไอคอน ก็เกิดความว้าว เพราะเป็นธุรกิจขายของออนไลน์ ที่มีระบบชัดเจน ได้เชิญไปงานที่มีการโปรโมตคนประสบความสำเร็จต่างๆ คนเข้ามาในงานก็มีความหวัง เขารู้สึกว่าจะได้มีโอกาสดีๆ ในชีวิตต่อไป เราเห็นแล้วก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ในเวลาเดียวกัน พอลเข้าไปเยี่ยมเยียนธุรกิจเรา ที่ทำรพ.ทำคลินิก เขาก็โอ้ ทำไมเขาถึงไม่รู้เลย และมีคนจำนวนมากที่ไม่รู้เช่นกัน ว่าเราเรียนจบด้านเอนไทร์เอจจิ้งมานะ ตั้งแต่ปีแรกที่มาเปิดที่เมืองไทย และทำมา 20 ปีแล้ว และทำธุรกิจเกี่ยวกับคลินิก รพ. มาเกือบ 20 ปีในประเทศไทยและต่างประเทศ เขาบอกว่าโห ผมก็ไม่รู้เรื่องราวของพี่เช่นกัน
หลังจากนั้นก็มีโอกาสพูดคุยว่าจริงๆ ดิไอคอนมีความคิดจะผลิตสินค้าออกสู่ตลาดโลก เพราะเขาก็มีตัวแทนขายในประเทศไทยจำนวนมาก น่าจะหลายหมื่นคน เวลาเดียวกันเขามีตัวแทนในระดับนานาชาติอีกหลายประเทศเลย เป็นการดีมากเลยถ้าเราจะเอาองค์ความรู้พี่แซมมาช่วยพัฒนาให้สินค้ามีฐานระดับสากล ระหว่างที่เรียนด้านนี้มา เรามีอีเมลเอกสารต่างๆ ที่ส่งมาตามประเทศต่างๆ ว่าตอนนี้เทรนด์ของโลกเป็นเรื่องอะไรกันแล้วเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ วิตามินตัวไหนดี สินค้าตัวไหนดี ตัวไหนต้านแก่ ตัวไหนต้านโรค มันก็มีเรื่องราวตรงนี้พอสมควร เราก็เห็นว่ามันแมตซ์กันได้ดีนะ ก็ถามว่าเราจะสามารถทำงานแบบไหนได้บ้าง เขาบอกว่าเรามาช่วยดูเรื่องสินค้าดีกว่า ให้สินค้าเติบโตในระดับนานาชาติได้ยังไง”
ลั่นให้ตำแหน่งเป็นการให้เกียรติกันมากกว่า ไม่ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจ
“เขาก็ชวนเข้าไปอยู่ เรื่องตำแหน่งเป็นการให้เกียรติมากกว่า เพราะเข้าไปแล้วจะบอกว่าพี่แซมเข้ามาทำไม มันก็เหมือนเราเป็นผู้ใหญ่ในบริษัท งั้นพี่แซมก็อยู่ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ก็มีตำแหน่งให้เหมือนคนมีตำแหน่ง แต่ถามว่าให้หน้าที่มา แต่ไม่ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจมาด้วย เพราะมันเป็นระบบบริษัท แรกๆ เราก็ไม่ชินนะ เพราะไม่เคยเป็นลูกจ้างใคร เราอยู่ในเซฟโซนของเรา อยู่ในคลินิก หรือรพ. ของเรา ถึงแม้เป็นแค่หุ้นนึง แต่ก็เป็นผู้บริหารที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เยสหรือโนอะไรได้ แต่อันนี้ไปทำแล้วก็มีความสนุกในการได้แชร์ประสบการณ์ว่าสินค้าตัวนี้ดี ครีมตัวนี้สารสกัดจากประเทศนี้ก็ดี ไอ้นี่ช่วยเรื่องอะไรบ้าง มันก็ได้สินค้าอย่างที่เราอยากได้
ฉะนั้นสิ่งที่ได้รับมอบหมายคือดูแลเรื่องสินค้า เวลามีการประชุม ถ้าวาระไหนเกี่ยวกับเรื่องสินค้า เราก็เข้าไปรับฟังด้วย แต่ทั้งหมดทั้งปวง เป็นที่ปรึกษามากกว่า คนที่จะเคาะเยสหรือโนมีคนเดียว ส่วนหน้าที่ประจำทุกวันอาทิตย์ผ่านมาหลายเดือนแล้ว จะมีคลาสสินค้า คนสนใจเรื่องสินค้าว่าคืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง ใช้ยังไง ใครควรใช้ ใครไม่ควรใช้ ข้อควรระวังคืออะไร นั่นเป็นคลาสของเรา
ในแต่ละที่บริษัทก็จะมีหลายห้อง อันนี้ห้องเรียนติ๊กต๊อก ห้องเรียนเฟซบุ๊ก ห้องเรียนส่งเสริมการขายอะไรก็แล้วแต่ แต่ของเราเป็นห้องสินค้า ลักษณะการพูดคือสินค้าคืออะไร ใครควรใช้หรือใครไม่ควรใช้ แต่ทั้งหมดทั้งปวงจะพูดอยู่เสมอว่า ผมให้ข้อมูลนะ ส่วนการตัดสินใจดำเนินธุรกิจต่อไป เป็นเรื่องส่วนบุคคล เรามีหน้าที่ให้ข้อมูลเท่านั้น ทั้งปวงที่ทำงานร่วมกับดิไอคอนเป็นแบบนั้น
ส่วนแต่ละเดือนมีงานไออี เป็นงานที่มอบรางวัลให้ผู้ที่ได้รับรางวัลในเดือนนั้น ว่าใครเป็นผู้ที่เหมือนบริษัททั่วไปที่เราเห็น ใครเป็นผู้ขายดีของเดือนนี้ บรรยากาศที่เราเห็นอุดมไปด้วยคนที่มีความหวัง มีความสุข และคนที่ประสบความสำเร็จก็ภูมิใจในสิ่งที่เป็น เราก็รู้สึกตัวใหญ่ไปด้วยนะ เพราะเขาเข้ามาขอบคุณว่าเราให้โอกาสกับเขา จากคนที่มีชีวิตที่ลำบากกว่านี้ เราสามารถทำให้เขาเติบโตขึ้นได้ เราก็รู้สึกภูมิใจ
เพิ่งมาเห็นข่าว 2-3 วัน เราก็คิดว่ามีมุมอีกมุมด้วยเหรอ เราเห็นแต่คนประสบความสำเร็จ และภูมิใจกับความสำเร็จนั้นๆ เราก็อดยินดีกับเขาไม่ได้ บางครั้งเขามาพูดเรื่องราวเขาให้เราฟังบนเวที เรารู้สึกอิ่มเอม ยังคุยกับเพื่อนที่อยู่ด้วยกันว่าเราไม่เคยมีความรู้สึกนี้ เราไม่เคยย่ำแย่จนมามีชีวิตใหม่แบบนี้ เราไม่ค่อยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน พอเห็นก็อิ่มเอมว่าคนเราได้รับโอกาสดีๆ เหล่านั้น เขาเรียกเราว่าผู้ให้โอกาส”
ช็อกเห็นข้อมูลอีกด้าน ไม่เคยรู้มาก่อน
“พอเรามาเห็นข่าว เราก็ช็อก เพราะข้อมูลมุมนี้เราไม่เคยเห็น และเราไม่รู้จะเคยเห็นจากไหน เพราะสิ่งที่เราเข้าไปในบริษัท เราเห็นแต่เรื่องดีๆ แล้วเราก็ไม่มีโอกาสรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นเราจะรู้จากตรงไหน แต่พอเห็น ในฐานะที่เราเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ มันเป็นความรู้สึกของคนไทย ใครจะน้ำท่วม ไฟไหม้ แค่นั้นคนไทยก็เป็นห่วงกันแล้ว นี่มันถึงขนาดคนซื้อของจำนวนมาก ขายไม่ได้หมดเลย บางคนถึงขนาดล้มละลาย บางคนถึงขนาดต้องฆ่าตัวตายเลยเหรอ ตอนแรกก็กลับมาคิดว่าเฮ้ย มันเรื่องจริงเหรอ มันเป็นเรื่องคนละด้านที่เรารับรู้ได้
ตอนแรกก็ตกใจและแปลกใจ คนขายดีก็มีการส่งเสริมกัน คนที่ขายไม่ได้ ขายไม่ได้หมดเลยเหรอ เราเข้าใจอยู่แล้วว่าคนซื้อของเป็นร้อยคนเอาไปขาย จะขายดีหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ เหมือนเราเรียนอยู่ในห้องเรียนก็มีเพื่อนคนที่เก่งได้ที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม หรือบางคนก็เฉยๆ แต่มีความสุขในการเรียน แล้วก็มีคนเรียนสอบตก ถามว่าถ้าเราอยู่ห้องเดียวกัน เรารักเพื่อนเรา เราจะพยายามช่วยเพื่อนเราให้เขาไม่ซ้ำชั้นไหม สมัยนี้มีซ้ำชั้นไหม ขอโทษทีพูดแบบคนโบราณ (หัวเราะ) สมัยก่อนมีตกซ้ำชั้น เราจะช่วยยังไง
สมัยก่อนเราก็เคยช่วย ขนาดไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดนะ จะเอาการบ้านไปลอกก่อนก็ได้ เอาแนวข้อสอบไหม เราก็อยากทำยังไงให้เขาขึ้นชั้นให้ได้ อย่าไปประณามว่าเพื่อนคนนี้มันโง่แล้วทิ้งเขาให้เขาสอบตกไป มันก็ไม่น่ารัก แต่เวลาเดียวกัน ถ้าวันนึงมีคนสอบตกเยอะขึ้นเรื่อยๆ โรงเรียนหรือครูบาอาจารย์ก็ต้องมาคิดเหมือนกันว่าเฮ้ย มันมีอะไรผิดปกติเหรอ ทำไมเขาตกเยอะขึ้น การเรียนการสอนไม่ได้ผลเหรอ หรือเราสอนไม่ดี หรือมีปัญหาอะไร
ตรงนี้ก็เช่นกัน บริษัทดิไอคอนก็ต้องเอากลับไปศึกษาว่ามันมีคนขายดี เราจะมัวแต่ชื่นชมคนขายดี ได้รับรางวัล แล้วคนที่เขาขายไม่ได้ เขามีปัญหาอะไร ก็มีการพูดคุยนะ แล้วเป็นเรื่องดีกับทั้งสองฝ่าย คนขายไม่ได้จะได้หาหนทางในการช่วย เวลาเดียวกันบริษัทเองจะได้เรียนรู้ว่าคนเขาทำไม่ได้เพราะอะไร ขายไม่ได้เพราะอะไร สินค้าไม่ดีพอเหรอ หรือราคาไม่เป็นธรรมเหรอ ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต้องศึกษา และหาหนทางช่วยด้วย เพราะคนที่เขาขายได้ ก็มีจำนวนที่มากทีเดียว แต่แน่นอน คนขายไม่ได้ก็คงต้องมี แต่ขายไม่ได้ทั้งหมด แล้วซื้อไปตุนเยอะๆ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาต้องซื้อเยอะๆ ขนาดนั้น แสดงว่าเขาต้องมั่นใจว่าเขาขายได้หรือเปล่า เขาถึงซื้อเยอะ หรือมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เขาซื้อเยอะ ตรงนี้ดีเทลเราไม่รู้จริงๆ
เราก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทั้งหมดทั้งปวง การพูดกันไปมา หรือมีดรามาใส่กัน ไม่เกิดความช่วยเหลืออะไรซึ่งกันและกันเลย วันนี้แน่นอนว่าดรามาบางคนอาจมาจากความไม่ชอบใจกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง อาจเคยทำธุรกิจด้วยกัน มีปัญหากันในทีม ออกไปอยู่ที่อื่นบ้าง หรือไม่เอาแล้ว อาจมีความโกรธ ซึ่งเราก็เคารพความรู้สึกของเขา บางคนอาจเข้ามาอยู่บริษัทนี้ จากการถูกดึงมาจากบริษัทอื่น อาจทำให้เกิดความไม่ชอบใจ อ้าว เวลาดึงมา อาจไม่ได้ดึงบางคน อาจดึงมาทั้งทีมเลย อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกัน ดังนั้นก็เกิดความรู้สึกร้ายๆ และโจมตี เพราะรู้สึกไม่ดี”
บอกจะปัดความรับผิดชอบทั้งหมดคงไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตัวเองก็อยู่ในแผนกสินค้าเขาจริง ผิดถูกอีกเรื่อง แต่ต้องมนุษยธรรม
“แต่คนที่เดือดร้อนจริงๆ มาให้ถูกจุด ถ้าเราลงไปกระหน่ำกันแบบนั้น หนทางแก้ไขมันอาจไม่เกิด ขณะเดียวกันเราจะปัดความรับผิดชอบว่าเราไม่เกี่ยว ก็ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราเข้าไปอยู่ในแผนกสินค้าเขาจริง คนอาจซื้อไปใช้เองเพราะเชื่อพี่ หรืออาจซื้อไปขายเพราะมั่นใจว่าสินค้ามันดีเพราะเชื่อเรา ก็อาจมีส่วน
เหมือนดาราไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ไหนก็แล้วแต่ มันก็มีส่วนทำให้สินค้ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้นเราจะปัดความรับผิดชอบขนาดนั้นไม่ได้ แต่ความรับผิดชอบของเรามันไปถึงไหนล่ะ ก็ต้องมาช่วยกันดู ณ ตอนนี้เรื่องผิดถูกไว้อีกเรื่องนึง แต่คนที่เดือดร้อนจนเขาไม่มีจะกิน จนเขามีปัญหามากมาย ตรงนี้ต้องเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาและเยียวยา
ผิดถูกอีกเรื่องนึง เรื่องมนุษยธรรม การช่วยเหลือ โดยเฉพาะคนที่เคยทำธุรกิจร่วมกันมากับบริษัทดิไอคอน เราก็ตอบแทนบริษัทไม่ได้ แต่ก็โยนสิ่งเหล่านี้ไปเหมือนกัน เขาก็ตอบรับในทางที่ดีว่า เขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมด มีคนฆ่าตัวตายด้วยเหรอ เป็นเรื่องใหม่ที่เราก็เพิ่งรู้เหมือนกัน เรามาอยู่ที่นี่ยังไม่ครบปี ถ้าคนเคยไปงานเปิดตัวก็น่าจะปลายปีที่แล้ว และต้นปี ประมาณนั้น ก็รับรู้ในส่วนของเรา แต่เรื่องบริษัทก็รู้ประมาณนึง
ถ้ามองว่าหลอกลวง อยากรู้หลอกลวงอย่างไร เพราะไม่เคยคุยกับผู้เสียหายโดยตรงเลย ลั่นไม่อยากพลาดตอนแก่ ไล่ดูหมดแล้วไม่ใช่แชร์ลูกโซ่
“อยากรู้ว่าหลอกลวงยังไง ไม่เคยคุยกับผู้เสียหายโดยตรง และไม่เคยมีใครสะท้อนมาที่เรา เอาเป็นว่าก่อนไปอยู่บริษัทไหนหรือทำอะไร จริงๆ น้องทุกคนรู้จักพี่ดี เราระวังตัวมากอยู่แล้วทุกเรื่อง การรับเป็นพรีเซ็นเตอร์อะไรสักชิ้น เราคิดแล้วคิดอีกว่าเราเหมาะกับสินค้านั้นหรือเปล่า ได้ใช้จริงไหม ได้ลองหรือยัง สินค้าผ่านอย.หรือเปล่า ถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า เรากลั่นกรองแล้วกลั่นกรองอีก
เช่นเดียวกับมาอยู่ดิไอคอน ก็เอกซเรย์ดูนะว่าบริษัทนี้คือบริษัทอะไร ทำงานประเภทไหน จดทะเบียนถูกต้องหรือเปล่า ใครจดทะเบียนบ้าง มีใครเป็นผู้ถือหุ้นบ้าง ทุนจดทะเบียน เราว่าเราดูละเอียดมากเลยนะ ด้วยอายุเยอะแล้ว ไม่อยากพลาดตอนแก่ (หัวเราะ) ทำธุรกิจประเภทไหน เป็นแชร์ลูกโซ่หรือเปล่า เราไล่ดูหมดเลยนะ ถ้าแชร์ลูกโซ่จะไม่มีการซื้อสินค้าหรือบริการอะไรเลย มันลอยๆ แต่อันนี้เราก็ซื้อสินค้ากันไป ถ้าพูดเหมือนสมัยก่อน จะพูดถึงออนไลน์เราโง่มาก ทุกวันนี้ยังสั่งอาหารทางแกร็บไม่เป็นเลย (หัวเราะ) เราเป็นคนโลเทค ส่วนหนึ่งที่เข้ามาอยู่ที่นี่ เราอยากเรียนรู้ด้วยว่าออนไลน์คืออะไร ตอนนี้เริ่มสั่งของช้อปปี้ ลาซาด้าเป็นแล้ว แต่ก็เริ่มมีมิจฉาชีพตามมา (หัวเราะ) เพราะว่าเริ่มมีข้อมูลเราในนี้แล้ว ก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ ได้เรียนรู้กับบริษัทนี้เหมือนกัน
ถ้าสมมตินะ ข้อกล่าวหาที่เขาพูดกล่าวหาว่ามันหลอกลวง ก็ต้องหาให้เจอ ว่าใครเป็นคนไปหลอกลวงเขา หลอกลวงยังไง หลอกลวงอีท่าไหน จนคนต้องมาซื้อเป็นแสนๆ จนสิ้นเนื้อประดาตัว ก็ต้องหาให้เจอ เพราะไม่งั้นก็เป็นข้อกล่าวหาที่เอาผิดใครไม่ได้ ซึ่งถ้าเจอว่าใครผิด เราก็ไม่เข้าข้างคนผิดนะครับ
ก็พูดกับบริษัทเหมือนกัน ก็ถามเขาเมื่อวาน ได้คุยกับพอล ตอนแรกเขาบอกจะเป็นคนแถลงข่าว เราก็ดีใจ เพราะคิดว่ามันควรต้องแถลงข่าว เพราะคำถามมันจะถามแทนประชาชนทั่วไป การที่เราพูดฝ่ายเดียวมันอาจอยู่ในเซฟของเรานะ แต่จริงๆ ถ้าเราสามารถตอบได้ เราก็เคารพการตัดสินใจนะ เรามีหน้าที่แสดงความคิดเห็นของเราไป ว่าถ้าเป็นเรา เราจะทำแบบนี้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวันนี้เราถึงต้องพูด ทั้งที่เราพูดแทนอะไรไม่ได้ แต่เราบริสุทธิ์ใจในการพูดดีกว่า ถ้าสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์กับอะไรได้ โดยเฉพาะวันนี้ถ้ามีการพูดคุยกันจริงๆ จะมีประโยชน์กับอีกหลายๆ ฝ่าย โดยเฉพาะบริษัทที่ทำธุรกิจประเภทนี้ ไม่ได้มีดิไอคอนบริษัทเดียว”
“บอสพอล” ยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำงานบนพื้นฐานรับผิดชอบต่อสังคม
“เขาก็ไม่ได้ชี้แจง เพราะเราไม่ได้ประสงค์ให้เขาชี้แจงอะไรกับเรา เราทำงานด้วยกันอยู่แล้ว แค่ถามว่าเอาจริงๆ ทำอะไรผิดโดยเราไม่รู้หรือเปล่า เขายืนยันว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดแน่นอน เขาทำงานอยู่บนพื้นฐานการทำงานคือหนึ่งสินค้าต้องดี สองราคาต้องเป็นธรรม การตลาดต้องดี และรับผิดชอบกับสังคม
เราก็ยังชื่นใจโดยเฉพาะคำสุดท้าย ที่บอกว่าการรับผิดชอบต่อสังคม ผิดถูกว่ากัน แต่การเยียวยาคนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ ต้องจัดการตรงนั้นก่อน ส่วนเรื่องหลังจากนั้น เขาอยากทำธุรกิจกันต่อหรือเปล่า ก็คงต้องมาช่วยกันสนับสนุนให้เขาเกิดการค้าขายได้ดีได้ยังไง เอาคนขายเก่งมาช่วยไหม หรือเอาคนอย่างพวกเรามาช่วยกันไลฟ์ขายได้ไหม ไปเปิดตลาดนัดได้ไหม นี่แค่เสนอไอเดียนะ เพราะเป็นคนเคาะไม่ได้อยู่ดี แต่คิดว่ามันมีทางออกร่วมกัน แล้วทางออกเหล่านี้จะกลับไปตอบกับอีกหลายๆ บริษัท หรือผู้คนอีกมากมายที่ทำเกี่ยวกับระบบตัวแทน จะได้รู้ว่าระบบนี้ถ้ามีคนขายมากกว่าคนซื้อมันจะอยู่ยังไง
ตอนนี้ที่เห็นมีคนขายเยอะจริงๆ ในขณะที่กำลังซื้อของคน มันน้อยลงอยู่แล้ว เพราะคนซื้อก็มาเป็นคนขายเยอะขึ้น ด้วยเศรษฐกิจของโลกที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่ประเทศเรา แล้วยังเจอภัยธรรมชาติอีก การซื้อมันถดถอยอยู่แล้ว แล้วคนตุนสินค้าเป็นปี เขาก็เดือดร้อน แต่มาตรการในการรองรับคืออะไร ช่วยขายกันไปแล้วขายไม่ได้อีก บางคนถอดใจว่าไม่ขายแล้วจะทำยังไง ถ้าคิดแทนประชาชนทั่วไป ก็จะบอกว่าคืนได้ไหม ถามว่าอยากให้คืนไหม เราก็อยากให้คืน แต่เราพูดแทนบริษัทไม่ได้ เพราะการคืนมันมีปัจจัยอื่นๆ มากมาย แต่อยากให้จบด้วยดีด้วยการพูดคุย แล้วอยู่ๆ เรากลายเป็นจำเลยของสังคมว่า เปิดขุมทรัพย์ยุรนันท์ ร่ำรวยผิดปกติ อ้าว (หัวเราะ)
ส่วนที่มีข่าวว่าอย.เคยเตือน เราเข้ามาตั้งแต่ปลายปีหรือต้นปีนี่เอง อันแรกที่เห็นคือเอ็กซ์โซครีม สารสกัดมาจากประเทศนี้ ได้รางวัลจากที่นี่มา ก็ยืนยันว่าต้องผ่านอย.อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่งั้นก็ไม่กล้าออกมาพูดเช่นกัน ส่วนก่อนหน้านี้ เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผ่านมาขนาดนี้ต้องทำทุกอย่างถูกต้องหมดแล้ว แต่จะไม่พูดถึงสิ่งที่แล้วมา เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่อยู่ตรงนี้ ก็มั่นใจว่าสินค้าทุกตัวที่เห็น ก็ถูกต้องตามกฎหมายทุกข้อ ผลของการมีปัญหาวันนี้ ไม่ได้พูดเรื่องสินค้าไม่มีคุณภาพ เราพูดแค่ว่ามันขายของไม่ได้”
ให้ความเห็นแต่เขาจะเลือกทำไหม ไม่สามารถตอบได้
“เราเสนอที่บริษัทไปนะ แต่ถามว่ามาพูดคุยกับเรา เราก็ได้รับฟังเฉยๆ ไม่สามารถทำหนึ่ง สอง สาม สี่ แต่ในฐานะที่เราเกิดมาก็อยู่กับประชาชนมาตลอด ไม่ว่าจะร้องเพลง เล่นหนัง เล่นละคร จนวันนึงมาเป็นผู้แทนราษฎร ทั้งหมดก็มาจากประชาชนทั้งหมด เราอยู่ได้ทุกวันก็ตรงนี้ ฉะนั้นถ้าเขาเดือดร้อน ก็เป็นความรู้สึกสำนึกของเราอยู่แล้ว ว่าเดือดร้อนยังไง ช่วยได้ส่วนตัวเรื่องอะไรว่ามาเลย ไม่มีปัญหา แต่เรื่องพูดกับบริษัทต่อ เราให้ความเห็นอย่างนี้ได้ แต่เขาจะเลือกทำอะไร เราก็ไม่สามารถตอบได้ ต่อให้ใครมาร้องเรียนกับเรา เรารับฟังได้นะ แต่เอาไปถ่ายทอดต่อแล้วจะได้รับผลลัพธ์ยังไง เรารับปากไม่ได้”
ยันเห็นกับตา “บอสพอล” sad มาก
“เขายังไม่เล่าถึงวิธีการเยียวยา แต่เมื่อวานนี้ที่เราเห็นกับตา เขารู้สึก sad รู้สึกข้างในมาก เขาไม่คิดว่าเรื่องจะไปถึงเบอร์นี้ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาคืออะไร แต่วันนี้ให้เขาทำอะไร ก็ว่ามา แต่หลังจากนั้นขั้นตอนก็น่าจะวิเคราะห์เป็นแผนว่าสเต็ปที่หนึ่งทำอะไร สองทำอะไร สามทำอะไร ในมุมเขานะ ทำธุรกิจเพื่อให้โอกาสคน แต่ถ้าคนไหนไปไม่ถึงแล้วล้มเหลว ก็น่าจะมาพูดคุย หาทางออกที่ดีกัน วันนี้ถ้าเป็นตัวแทนผู้เสียหาย จัดหมวดหมู่มาว่าเสียหายเรื่องอะไร แล้วมาพูดคุยกัน นั่นคือเรื่องช่วยเยียวยาผู้เสียหาย ส่วนเรื่องบอกว่าบริษัทมีการโกง เป็นข้อกล่าวหาที่ว่ากันต่อไป เป็นเรื่องกฎหมาย อันนี้เป็นเรื่องจริยธรรมที่ช่วยเหลือกัน ก็มองว่าเรื่องผิดถูกเอาไว้ทีหลัง คนเดือดร้อนที่สุดต้องได้รับการช่วยเหลือก่อน
เรื่องฆ่าตัวตายนี่ยืนยันว่าไม่มีใครรู้ และตกใจกับเรื่องนี้ แต่เรื่องขายของไม่ได้ เชื่อว่าระบบธุรกิจนี้ มันต้องมีทุกที่ว่าคนขายเก่งและคนขายไม่ได้ มันต้องมีอยู่แล้ว แต่ถึงขนาดขายไม่ได้หมดเลยจนบ้านถูกยึด อันนี้เป็นแมสเสจใหม่ที่เราโห ขนาดนั้นเลยเหรอ มันมีตัวตนจริงๆ ใช่ไหม มันอยู่ในโลกออนไลน์ เราไม่เจอคนนั้น เราก็ไล่อ่านนะ 2-3 วันนี้เรารู้สึกว่าเป็นทุกข์กับเรื่องชาวบ้าน (หัวเราะ) มันเกิดอะไรขึ้น บางคนบอกว่าเรากลัว แต่เราไม่ได้กลัว เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ไปหลอกใคร ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในการปิดยอดคนนี้ได้เท่านี้ แล้วเราได้เท่านี้ ตรงนั้นไม่มี เราทำหน้าที่ของเรา แล้วเราได้ผลตอบแทนในส่วนของเราเท่านั้น”
ลั่นไม่ใช่ทั้งพรีเซ็นเตอร์และหุ้นส่วนบริษัท ไม่มีสิทธิ์กำหนดทิศทางบริษัท ได้เปอร์เซ็นต์จากยอดขายสินค้าตัวที่ดูแล ไม่เกี่ยวยอดปิดดีลเลอร์ รับตกใจบริษัทใหญ่โต มีกรรมการแค่คนเดียว
“ไม่ได้เป็นทั้งสองอย่าง พรีเซ็นเตอร์ก็อาจเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้า โดยตำแหน่งคือผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ เรามีหน้าที่ในการดูแลและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไม่มีสิทธิ์กำหนดทิศทางบริษัทเลย ต่อให้เราบอกว่าสินค้าตัวนี้ดีแล้วนะ สารสกัดมันดี เราแค่นำเสนอ เพราะสุดท้ายก็มีคนเคาะว่าตัวนี้ดีกว่า เราแค่เป็นคนนำเสนอ
ส่วนรายได้ ได้จากสินค้าตัวไหนที่เราช่วยดูแล เราก็จะได้ประโยชน์จากยอดขายสินค้านั้นๆ ได้เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ไม่ใช่ยอดปิดดีลเลอร์ ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับเรา ความแฟร์บริษัทนี้คือเขาจะโชว์ให้เราเห็นว่าเดือนนี้ สินค้าตัวไหนขายได้กี่ชิ้น ผลประโยชน์ที่ควรได้รับ เขาก็บอกมาเลย ไม่ได้เยอะขนาดที่คนจะบอกว่าโอ้โห ร่ำรวยจากตรงนั้น จะบอกว่าก่อนมาอยู่กับดิไอคอน รายได้เราเยอะกว่านี้อีก (หัวเราะ)
เราไม่มีหุ้นในบริษัทเลยแม้แต่หุ้นเดียว ไม่ได้ส่วนแบ่งอะไร มีเฉพาะเท่าที่เล่า บริษัทนี้มีกรรมการคนเดียว บริษัทนี้ไม่มีหุ้นส่วนเลยตั้งแต่แรก แรกๆ ก็ตกใจ บริษัทมีคนเดียวเลยเหรอ แล้วจะทำงานกันยังไง ข้อดีคือการตัดสินใจคือคนๆ เดียว มีอะไรคือคนๆ เดียว ตอนแรกเรามองว่าเป็นข้อเสียนะ แต่ตอนนี้มันเป็นข้อดี (หัวเราะ) เราแทบไม่มีส่วนในการตัดสินใจอะไรเลย”
อุบตอบตัวเลขรายได้ แต่ละเดือนได้ไม่เท่ากัน
ไม่คุยเรื่องตัวเลขดีกว่า เพราะแต่ละเดือนมันไม่เท่ากัน แต่บอกให้ฟังเลยว่ามันไม่ใช่ตัวเลขที่คนคาดคะเน มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น เพราะว่าปีที่เรามาอยู่ สินค้ามันไม่ได้ขายดีขนาดนั้นหรอก ที่ผ่านมาๆ ไม่แน่ ที่เขาขายกันได้ปีละหลายล้าน เราไม่ได้อยู่ในโมเมนต์นั้นเลยครับ (ถึง 10 ล้าน?) ไม่ถึงครับ ถ้าตามสัญญาเราเป็นผู้อำนวยการ จะบอกมาเลยว่าหน้าที่เราทำอะไร เป็นผู้อำนวยการ แต่ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของบริษัท ถึงได้พยายามบอกว่าโครงสร้างของบริษัท มีคนๆ เดียวที่ตัดสินใจ มันผ่านกระบวนการตัดสินใจจากคนๆ เดียว ฉะนั้นมันเป็นตำแหน่งที่เอาเราเข้ามาอยู่แล้วจะให้คนเคารพยังไง ถ้าบอกเป็นโครงสร้างของบริษัทแล้วมีการเซย์เยสเซย์โนกับอะไรได้ เราไม่มีสิทธิ์ ซึ่งเราได้ส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์ที่เขาให้เราช่วยดูแล
ส่วนที่คนเข้าใจผิดเรียกเราว่าบอสหมด บอสก็บอส แต่ยังไงดี เอาเป็นว่า เราผ่านบริษัทมาหลายบริษัท ทั้งนอกตลาดหลักทรัพย์และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เราเคยเป็นประธานทั้งในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์ เราก็เห็นโครงสร้างบริษัท ว่ามันมีประชุมผู้ถือหุ้น หรือประชุมการทำงาน มีวาระการประชุม มีการลงมติกันยังไงบ้าง เราไม่มีแบบนั้น”
รับ “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ตกใจ ถูกด่ายันตระกูล ส่วนตัวเองเตรียมถอยก่อนมีดรามาอยู่แล้ว เพราะเฟลหลายครั้ง
“มีน้องมิน ที่ตกใจ เพิ่งถึงกรุงเทพฯ วันนี้วันแรก เขาบอกว่าพี่แซม มันยังไง หนูโดนด่าไปถึงตระกูลหนู หนูทำธุรกิจมา 30 ปีแล้วนะ จริงๆ เราอยู่มาจนป่านนี้ เราระวังตัวเองมากอยู่แล้ว แต่วันนี้ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ เราไม่ได้อยากเป็นจำเลยกับใครนะ แต่กำลังจะบอกว่าไม่ได้ไปไหน ใครอยากได้ข้อมูลอะไรก็มาหา การที่เราเงียบไป คนจะมองว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า เราก็ออกมาพูด แต่พูดแทนดิไอคอนก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ได้รู้ทุกเรื่องจริงๆ นะ การที่เราเข้าไปอยู่ 3-4 เดือนแรกก็แอบงงๆ เหมือนกัน เพราะไม่ชิน
และยังพูดว่าถ้าหมดสัญญาแล้วอาจไม่ได้ไปต่อ เพราะไม่ใช่ว่าไม่ดีอะไรนะ หรือมีเหตุการณ์นี้แล้วถึงพูด แต่เราเคยเป็นเจ้านายตัวเองมาตลอด เรามีสิทธิ์ในการทำอะไรของเราเอง ถึงแม้จะเล็กจะน้อยก็รับผิดชอบการตัดสินใจของเราเองที่ผ่านมา เหมือนเราเป็นเจ้านายตัวเอง วันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเราเข้ามาไม่ได้เป็นเจ้านาย เราทำงานมีขั้นตอน ผ่านไปแล้ว เหมือนถ้าเขาไม่ชอบ เขาก็แค่ไม่เอา เราก็แอบเฟลหลายครั้ง เรื่องที่เราอยากทำ มันไม่ผ่านเหรอ ก็แอบนอยด์ๆ สองสามครั้งก็ไปบ่นกับภรรยาเหมือนกันว่า เฮ้อ เราเคยเยสเคยโน แต่วันนี้มันไม่ใช่เพราะเราแล้ว ข้อดีก็คือเราได้เซฟตัวเอง ข้อไม่ดีคือเหมือนขาดมุมในการครีเอตอะไรสักอย่าง คิดว่ามันอาจไม่ใช่ทางของเรา”
ยินดีให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับตำรวจ
“วันนี้เรายังไม่ได้เป็นจำเลยที่ตร.ต้องมาสอบปากคำอะไร ถ้าวันนี้ไปให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ยินดีนะครับ วันนี้ไม่ได้พูดในฐานะที่เป็นจำเลยอะไร มาพูดในฐานะประชาชนคนนึง มาอธิบายให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสมที่สุดให้สังคมได้อยู่ร่วมกันได้
ถามว่าเราเสียใจไหม เราไม่ได้เสียใจอะไร คนมีโอกาสพูดแบบนั้นได้เพราะเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอเขาไม่รู้ การจินตนาการไปต่างๆ ตอนนี้มีการลวงคนเยอะไปหมด ก็จะถูกไปเรื่องการลวงคนเข้าไปทำโน่นทำนี่ การที่เราออกมาพูด หนึ่งเราไม่ได้แก้ตัว สองกำลังจะบอกว่าให้ฟังก่อนว่าเรื่องมันเป็นยังไง หลังจากนั้นจะตัดสินยังไง หรือตัดสินด้วยกฎหมายยังไง ถ้ามองว่าผิดด้านไหน หรือเรียกไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ไม่มีปัญหา ไม่งั้นจะมีนักข่าวมาวันนี้เหรอ ก็เป็นเรื่องเดียวกัน คือเราให้ข้อมูล แล้วพูดกี่ครั้งข้อมูลก็จะเป็นแบบนี้ เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้”
