“แก๋มบุ๋ม” ยอมรับดาราสั่งลบคลิปในข่าวอาจเป็นตน แต่ขอให้ลบเพราะติด “พี่พีท” ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่เคยไลฟ์ขายทอง “แม่ตั๊ก” เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ และได้มาแค่ค่าตัว เล่าอยากตบแต่ต้องทน เจอคนด่าแม่ในไลฟ์ว่าสะตอ “แม่ลี” ลั่นเลิกเป็นอินฟลูฯ ขออยู่เลี้ยงหลาน ด้าน “แน็ก ชาลี” ย้ำก่อนรับงานรีวิวลองใช้เองก่อนทุกครั้ง ส่วนที่ไลฟ์ขายคู่ “กามิน” เจ้าตัวพร้อมบินให้ความร่วมมือ
วันนี้วันเดียว (7 ต.ค. 67) ศิลปินดารา และคนดังที่เคยรับงานไลฟ์สดกับ “แม่ตั๊ก” น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร ได้เดินทางมาให้ปากคำชี้แจงความบริสุทธิ์ใจ ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) รวมทั้งหมด 5 คน เริ่มที่ “จ๊ะ นงผณี มหาดไทย” ตามมาด้วย “นารา เครปกะเทย” จากนั้นเวลา 13.30 น. เป็นคิวของ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์, แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย และ แม่ลี ดร.ศริญญา สิทธาไชย แม่ของแก้มบุ๋ม ก็ได้เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก. ปคบ. เช่นเดียวกัน โดยในส่วนของ “จี กามิน” ติ๊กต๊อกเกอร์ชาวเกาหลี อดีตหวานใจของ แน็ก ชาลี ที่ก็เคยไปร่วมไลฟ์สดกับแม่ตั๊กด้วย ได้แจ้งผ่านมาทาง “ปู” ผู้จัดการส่วนตัวของ แน็ก ว่าหากตำรวจต้องการให้กามินมาชี้แจงเรื่องนี้ ตนยินดีบินมาจากเกาหลีเพื่อให้ข้อมูลด้วยตนเอง
แก้มบุ๋ม : “ไปไลฟ์แค่ตัวโกโก้กับกาแฟเท่านั้นค่ะ ไม่เคยไปไลฟ์ร้านทอง ของหนูกับแม่เหมือนกัน คือเป็นพรีเซ็นเตอร์ สัญญาไลฟ์ 12 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง แล้วก็มีโชว์ตัว 1 ครั้ง ซึ่งก็ครบจบสัญญาไปแล้ว ไม่มีอะไรนอกเหนือจากสัญญา เงินก็ได้เป็นก้อนค่ะ ส่วนเรื่องแจกซองแดง แหวนทอง เขามีแจกปกติอยู่แล้วทุกไลฟ์ ให้คนที่โอนเร็ว แต่ในเรื่องไลฟ์ขายทองเราไม่มีค่ะ ถ้าเขาไลฟ์สินค้าอื่น หนูเดินออกอยู่แล้ว เรารับแค่ 2 เราก็ทำแค่ 2 เพราะเราลองใช้แค่ 2 อย่าง”
แม่ลี : “ของแม่ก็คือเหมือนกัน ไลฟ์คู่กับแก้มบุ๋ม ส่วนเรื่องที่คนมองว่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัว มีความสนิทสนมกัน ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว ว่าแม่ลีเป็นคนสนุก และอยากเป็นกันเองกับทุกคน การทำงานจะได้ง่าย แต่ถ้าไม่มีเรื่องงาน ก็ไม่ได้ไปด้วยค่ะ เพราะเรารู้ว่ายังไง เราทำแค่ที่เขาจ้าง แล้วที่เห็นวันเกิดหรืออะไร คือเขาเชิญเราไป แต่ตอนนี้ก็ต้องระวังตัวแล้วค่ะ”
แน็ก : “ผมไลฟ์ไป 2 ครั้งครับ เป็นไฟเบอร์ อีกครั้งเป็นสบู่กับครีมกันแดด แต่ไม่เคยขายทอง ไปบ้านเขาครั้งหนึ่ง สตูดิโอผมครั้งหนึ่ง ถามว่าเขาเอาอะไรเข้ามาแถมระหว่างไลฟ์ไหม ผมแทบจำไม่ได้ แต่ถ้าอะไรที่มันนอกเหนือสิ่งที่เราขาย เราจะไม่ค่อยยุ่งอยู่แล้ว วันนี้จริงๆ เขาไม่ได้เรียกผมมานะ แต่คือรู้สึกว่าเห็นคนอื่นมา เราก็มาบ้าง ดีกว่ามาตอนหลังมันยุ่งยาก เขาก็ขอเอกสารทุกอย่าง การติดต่องาน การรับเงิน เราก็ชี้แจงชัดเจน
ในเรื่องความสนิท ก็ไม่ได้สนิทอะไรส่วนตัว ไม่ทราบอะไรเลย ก็ไม่รู้จะเอ๊ะทำไม เพราะเห็นหลายคนก็ไปไลฟ์ เพราะเขาดังในโซเชียล ก็เคยทักทายสวัสดีแบบผู้ใหญ่ การร่วมงานกับเขา เวลาเขาให้ขายอะไร ผมก็ทำให้ดีที่สุด ที่รับงานไฟเบอร์ คือตอนนั้นอยากกินอยู่แล้ว ก็ได้มาทดลองกิน พอมันได้ผลเราก็เลยรับ เวลาจะรีวิวอะไร ผมจะให้เขาส่งสินค้ามาลองก่อนทั้งหมด ต้องบอกว่างานติดต่อมาเยอะมาก สินค้าที่คล้ายกันก็เยอะ เราไม่ได้นั่งดูว่าเจ้าของสินค้าเป็นใคร เราแครู้สึกว่าใช้ได้จริง มีอย. ปลอดภัย ลองใช้แล้วโอเค
ซึ่งกับเรื่องนี้ก็ไม่ได้กังวลใดๆ ทั้งสิ้นครับ เพราะไม่เคยรับอะไรนอกเหนือจากค่าตัวเลย ส่วนเรื่องการไลฟ์ครั้งที่ 2 ที่มีกามินด้วย ก็เป็นการรับงานผ่านบริษัทผม แต่ต้องบอกว่าเรายังไม่ได้โดนเรียก เราด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตอนเห็นชื่อตัวเองผมก็ไม่ได้ตกใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าผมขายของที่ผมรีวิว ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น เลยไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว แต่ถามว่าต้องมีการตามตัวกามินมาไหม อันนี้ต้องรอดูว่าทางเจ้าหน้าที่เขาว่ายังไง แต่เราสามารถดูที่งานได้ ว่าเราไม่ได้มีทองมาเกี่ยวข้อง จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น คนที่น่าเป็นห่วงคือผู้เสียหายมากกว่า”
ปู ผู้จัดการแน็ก : “ทางกามินได้มีการส่งข้อความมา ว่าได้รับทราบเหตุการณ์นี้ ถ้าสมมติมีอะไรที่ต้องการความร่วมมือ หรือจะเรียกกลับมา ก็ยินดีที่จะกลับมาให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้มีการเรียกตัวค่ะ”
ทนาย : “หลังจากนี้ก็คงไม่มีอะไร เพราะเราให้การกับตำรวจไปพร้อมหลักฐานแล้ว ทุกคนได้ทำสัญญาถูกต้อง เสียภาษีถูกต้องหมด ก็เลยไม่ได้กังวลอะไร เพราะเราไม่ไปเกี่ยวกับทอง และสินค้าก็มีอย.ถูกต้อง มีการทดลองใช้ วันนี้ก็มาให้การณ์ในฐานะพยานเท่านั้นครับ”
แก้มบุ๋มยอมรับข่าวดารามีอิทธิพลสั่งลบคลิป อาจจะหมายถึงตน เพราะมีการไปขอให้ลบคลิปที่ติด “พี่พีท”
แก้มบุ๋ม : “เรื่องที่บอกว่าดารามีอิทธิพลให้ลบคลิป ก็อาจจะเป็นหนูก็ได้ เพราะคลิปที่บอกว่ารบกวนลบให้หน่อย คือทางพี่ปูเป็นคนพิมพ์ไปบอก ว่ารบกวนลบให้หน่อยได้ไหม เพราะมันมีพี่พีท (กันตพร หาญพาณิชย์) ซึ่งพี่พีทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้รับเงิน เลยอยากขอให้ลบหน่อย แต่ไม่รู้ว่าข่าวมันบิดเบือนไปในทางไหน กลายเป็นเราข่มขู่สื่อให้ลบ ซึ่งหนูไม่มีอำนาจอะไรจะไปบอกให้ใครลบได้ ถ้าในคลิปนั้นมันเป็นหนู แต่ในส่วนของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง แค่รบกวนขอให้ลบให้หน่อยแค่นั้นเอง
จริงๆ พี่พีทไม่ได้เครียดกับเรื่องนี้ แต่เขาเป็นห่วงเรามากกว่า แต่เราก็ห่างมากในเรื่องนี้ เพราะมันเป็นในส่วนของร้านทอง หนู แม่ และแน็ก ก็เป็นเหมือนพ่อค้าแม่ออนไลน์ สิ่งที่ตรวจสอบได้ก็คือ อย. โรงงาน มีตัวตนจริงไหม แต่นอกเหนือจากนี้เราเองก็ไม่รู้ว่าต้องตรวจสอบแบบไหน แต่สิ่งที่ระวังได้อาจจะเป็นเรื่องโปรโมชั่น ที่ต้องสกรีนให้หนักมากขึ้น”
แน็ก : “เราจะหยุดทำงานมันคงเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือตรวจดูอย. โรงงาน ว่าไม่ผิดกฎหมาย และปลอดภัยต่อคนใช้”
แม่ลี : “จริงๆ แม่จะไม่รับแล้ว ขอเป็นคุณย่าคุณยาย ถ้าต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เลือกได้ก็จะไม่มาเป็นอินฟลูฯ แล้ว แต่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ แต่แม่ลีไม่เคยได้อะไรจากเขาเลย แล้วก็ไม่ได้มีธุรกิจร่วมกัน จริงๆ แม่ก็รู้สึกไม่สบายใจ แล้วแม่เป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้ก็ไม่เอาแล้ว ไม่ทำแล้ว ถามว่าความไม่สบายใจของเรา เริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหน ก็ไม่พูดดีกว่า ก็ถอยออกมา วินาทีขอเป็นแม่ลี ไม่มีคำว่าอินฟลูฯ ไม่อะไรแล้วกับโลกโซเชียล เตรียมตัวเป็นคุณย่าคุณยายดูแลหลาน วันที่ 21 นี้ที่รับไว้คืองานสุดท้าย จากนั้นจะขายของตัวเองเท่าที่มี แล้วก็ไม่รับแล้ว ไม่อยากได้เงินใครแล้ว โลกโซเชียลมันต้องระวังตัวเยอะ วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันสอนเราทุกอย่าง แต่เราจะไม่ว่าใคร เราต้องโทษตัวเอง ที่ผ่านมาตกใจกับเรื่องนี้มาก ก็จะไม่เชื่ออะไรใครแล้ว”
แก้มบุ๋ม : “ต้องบอกว่าก่อนจะขายอะไร เราจะทดลองใช้ก่อน แต่เราตอบไม่ได้จริงๆ ว่าที่มาของเงินของคนที่เขามาจ้างเรา เขาเอามาจากไหน เราก็คือพ่อค้าแม่ค้า แต่ถามว่าอาจจะมีภาษีขึ้นมา ว่าเราเป็นคนมีชื่อเสียงทำให้คนเชื่อถือ แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกัน เราต้องแบกรับหลายอย่าง หนูเองก็ต้องจิตแข็งในการมองข้ามคอมเมนต์แย่ๆ มาว่าแม่เราว่าสะตอ เราก็อยากจะออกไปตบเขา แต่เราทำไม่ได้ หลายอย่างที่เราต้องแลกมา และหลายอย่างที่ได้รับจากสังคม วันนี้เรา 3 คนมา คือมากแสดงความบริสุทธิ์ มาชี้แจงเพื่อเป็นข้อมูล แล้วหนูก็เกือบเป็นคนหนึ่งที่ซื้อทองเหมือนกัน มันไม่ใครรู้หรอกว่าของมันจะเป็นยังไง แต่เรื่องเสียเครดิต ยังไงมันเสียอยู่แล้ว แต่ก่อนขายเราทดลองทุกอย่างแล้วจริงๆ”
แน็ก : “ถามว่าได้บทเรียนอะไรจากเคสนี้ ผมไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ว่าสิ่งที่เราทำได้ คือเราต้องคุยกับคนที่ติดต่อเรามา ว่าของมันมี อย.ไหม แล้วก็ลองใช้ ว่ามันได้มาตรฐานไหม กินแล้วไม่เจ็บป่วย เราถึงรีวิวได้ ถ้าให้มานั่งคัดมานั่งดูว่าจริงๆ ใครเป็นเจ้าของธุรกิจ เบื้องหลังเป็นอะไร มันเช็กไม่ได้หรอก แต่ส่วนตัวผมก็ยังไม่ผลกระทบกับเรื่องนี้ครับ”
