“เทศน์ ไมรอน” ดีใจและเป็นเกียรติที่ “แอน ทองประสม” เลือกให้มารับบท แพท ในละครโลกหมุนรอบเธอ บอกเป็นบทที่ท้าทายความสามารถ ยอมรับตอนแรกแอบตกใจกับบทถูกล่วงละเมิดจากพ่อ แต่ได้ “แจ๊บ” และผู้กำกับ คอยช่วยตลอดจนผ่านมาได้ ภูมิใจที่ได้เล่นบทนี้
แม้กระแสละครโลกหมุนรอบเธอจะเป็นไปในทางลบซะส่วนใหญ่ แต่ฟากของพระเอกหนุ่ม “เทศน์ ไมรอน” กลับได้ฟีดแบ็กที่ดีเกินคาด กับบท แพท ลูกชายที่โดนพ่อแท้ๆ ที่รับบทโดยนักแสดงมากความสามารถอย่าง “แจ๊บ เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล” ล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกาย ซึ่งเสียงส่วนใหญ่บอกว่าแม้เทศน์จะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ก็แสดงออกมาได้ดีเอามากๆ โดยเจ้าตัวเองก็ดีใจและภูมิใจอยู่ไม่น้อย
“ฟีดแบ็กโลกหมุนรอบเธอก็ดีครับ ได้กลับมาในร่างของผีด้วย ถ้าใครคิดถึงแพทก็ตอนสุดท้ายกลับมาเลยครับ มาน้อยแต่มาแรงมากๆ เลย ตอนที่ได้อ่านบทคือมันเป็นตัวละครที่ท้าทายสำหรับผมมากๆ และเป็นตัวละครที่น่าสงสารมากๆ เลยครับ และในฐานะที่ผมเป็นนักแสดงก็อยากจะเล่นตัวละครที่แตกต่าง และอยากจะเล่นตัวละครที่สามารถโชว์ฝีมือของผมได้ และให้ผมได้มีโอกาสลองอะไรใหม่ๆ ได้ ก็เลยตัดสินใจเล่นบทนี้ครับ
ตัวละครตัวนี้น่าสงสารตรงชีวิตของเขาครับ พอผมได้ทำความรู้จักกับเขา และจากคอมเมนต์ที่อ่านมา ทุกคนก็สงสารเขาไปด้วย ซึ่งผมก็ภูมิใจในตัวเองที่สามารถสื่อตัวละครตัวนี้ให้คนดูรู้สึกแบบนี้เหมือนกันครับ ฉากความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างรุนแรงกับคุณพ่อ มันเป็นเรื่องของบทและตัวละครครับ ผมก็พยายามคิดว่าทุกๆ ตัวละครเขาเป็นคนจริงๆ และคนเรามันผ่านมาก็เป็นประสบการณ์ของคนๆ นั้นจริงๆ ก็ไม่ต้องไปดูถูกเขาในฐานะของนักแสดง และผมก็พยายามสื่อออกมาให้ชัดเจน”
ยอมรับตกใจ เพราะน่าจะเป็นเรื่องแรกๆ ที่มีแบบนี้ในละครไทย
“ถามว่าตอนอ่านบทตกใจไหม ผมรู้สึกว่าจากการที่ผมอาจจะชอบดูพวก netflix เยอะ พวกหนังเมืองนอกเยอะ ก็เลยอาจจะไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นสำหรับผม แต่ก็ตกใจ เพราะมันก็เป็นครั้งแรกๆ ที่มีอะไรแบบนี้ในละครไทย แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดีและโชคดีมากๆ ที่ได้มารับบทท้าทายแบบนี้ครับ ก็ได้คุยกับพี่แอนครับ แต่ฉากพวกนี้ถ้าคิดมากไปก็จะไม่ได้ในอีกแบบนึง เราไปกะเกณฑ์ไม่ได้ เพราะอารมณ์มันขึ้นๆ ลงๆ เราต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ และผมก็อยากจะขอบคุณพี่แอนและทุกคนในกอง โดยเฉพาะพี่แอ้ว (อำไพพร จิตต์ไม่งง) ผู้กำกับ ให้ผมกล้าที่จะแสดงอารมณ์ยากๆ แบบนี้ให้ทุกคนได้ดูกัน
กับซีนนี้ผมในฐานะนักแสดงมองว่าเขาเป็นมนุษย์ และสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันก็เป็นหน้าที่ของผมที่จะแสดงออกมาให้มันชัดเจน ก็เลยไม่มีความกังวลหรือความกลัวเลยครับ พอรู้ว่าได้เล่นกับพี่แจ๊บและมีพี่แอ้วกำกับ ผมก็ยิ่งมั่นใจ วันที่ถ่ายก็ยอมรับว่าตื่นเต้นแหละ แต่พี่แจ๊บช่วยผมมากเลยก็คือเขาไม่ทักเลย วันนั้นเขาพยายามสร้างกำแพงไว้ระหว่างตัวละครของเราสองคน เพื่อที่จะช่วยให้เราแสดงออกมาให้ดีในฉาก ซึ่งก็มีผลมากๆ”
บอกฟีดแบ็กคนจะชอบหรือไม่ก็แล้วแต่คน แต่สำหรับตนทำเต็มที่ในฐานะนักแสดงแล้ว
“สำหรับฟีดแบ็กที่จะตามมา ผมรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องของบทและตัวละคร ซึ่งในหน้าที่ของผมก็ทำได้เต็ม 100% ในมุมมองของผม และคนจะชอบหรือไม่ชอบก็เป็นมุมมองของเขา เราไม่มีทางที่จะทำอะไรที่ถูกใจทุกคนได้หรอกครับ ถามว่าภาพเหล่านี้กลัวจะมีผลกับภาพลักษณ์ไหม ก็ไม่นะครับ เพราะผมรู้สึกว่าการเป็นพระเอกหรือไม่ได้เป็นพระเอก สุดท้ายเขาก็เป็นตัวละคร และผมก็เป็นนักแสดง พอได้มาเจอบทที่ท้าทายแบบนี้ถือว่าโชคดีมากครับ และมันก็เป็นบทที่ทุกคนจำผมได้ด้วย ก็เป็นอะไรที่ดี
ในตอนนั้นการที่พี่แอนเขาจะเลือกเด็กใหม่มาเล่น เขาก็เชื่อใจในตัวผม และบทแพทถึงจะมาน้อย แต่เขาสำคัญมากๆ กับเนื้อเรื่องทั้งหมด และการที่เขาไว้ใจในตัวผม ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ และขอบคุณมากๆ ครับ พี่แอนก็ชมเหมือนกัน วันนั้นผมตกใจเลย ผมรีบรีโพสต์แชร์ลงสตอรี่เลยครับ รู้สึกดีมากๆ ครับ ตอนนั้นก็ใหม่มากๆ ยังพูดไทยไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการแสดงและละครมาก่อน ได้เจอกับทุกๆ คนไม่กี่คิวเองครับ ผมไปประมาณ 5-6 คิว ก็ดีใจที่เขาจำผมได้ครับ และดีใจที่เขาขอบคุณผมด้วย
ตอนนี้สำหรับตัวละครของแพท ผมทิ้งไปแล้วครับ ผมรู้สึกว่าการที่เราพาตัวละครกลับไปบ้านด้วยมันไม่ค่อยดี การที่จะเป็นนักแสดงมันต้องแยกให้ออก แต่ถ้าในฐานะผมที่เป็นนักแสดงก็หวังว่าทุกคนจะเห็นใจแพท และเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดกับเขาจริงๆ และถ้าคุณชอบหรือไม่ชอบก็เป็นมุมมองของคุณ และผมพยายามทำให้ได้ดีที่สุดที่ผมสามารถทำได้ครับ จริงๆ ก็ทำให้ผมรู้ตัวด้วยว่าผมก็สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย ตอนแรกก็ยังขาดความมั่นใจ เพราะไม่เคย และเป็นบทยากด้วย แต่พอทำออกมาแล้วทำได้ดี ผู้กำกับพอใจ ผมก็พอใจและภูมิใจกับตัวเองด้วยครับ”
