“มีน พีรวิชญ์” แจงดรามายืนชิด "หลิงหลิง" ตอนสัมภาษณ์ หลังแฟนคลับบางส่วนโวยไม่เหมาะสม ด้านหลิงหลิงการันตีอีกฝ่ายเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ
เรียกว่ากลายเป็นเพื่อนนักแสดง ที่สนิทสนมกันมากขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว สำหรับหนุ่ม “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” กับสาว “หลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง” หลังได้มาประกบคู่กันในละครพีเรียดโรแมนติก “หนึ่งในร้อย” โดยล่าสุดวันนี้ (2 ต.ค. 67) มีน และ หลิงหลิง ก็ได้มาเปิดใจพูดคุยถึงการทำงานร่วมกัน และการเจอกันครั้งแรก พร้อมเคลียร์ดรามาที่ความสนิทเป็นเหตุ เลยทำให้แฟนคลับบางส่วนไม่พอใจ หลังยืนชิดกันและเล่นกันในวันโปรโมทละคร โดยมองว่าเหมือนมีนพยายามอยากให้มีกระแสจิ้น
หลิงหลิง : “ในพาร์ตของหลิงกับบทนี้ก็แตกต่างจากบทอื่น แต่ก็ยังมีบางส่วนที่คล้ายหลิง เรื่องความสตรองความขยันทำงาน ส่วนการร่วมงานกับมีน คือขอโทษนะจริงๆ ไม่ได้เป็นคนที่คิดว่าคนนี้ต้องเป็นอย่างนี้ แต่ครั้งแรกที่เห็นมีน หลิงคิดว่ามีนต้องเป็นคนขี้เก๊กมากแน่ๆ เลย แต่พอเจอกันตอนเข้าซีนครั้งแรก พอได้ทำงานจริงๆ มีนเป็นคนที่ดูแลคนรอบข้างได้ดี เป็นสุภาพบุรุษมากๆ เวลามีอะไรไม่เข้าใจ คือคำศัพท์ของเรื่องนี้ค่อนข้างยาก เลยต้องอาศัยมีน เขาก็น่ารักมาก เป็นอีกคนหนึ่งที่หลิงสนิทใจ (ทำไมตอนแรกคิดว่าเขาขี้เก๊ก?) แค่หน้าตาเขา อย่างอื่นไม่มี เขาดูเพอร์เฟกต์ตลอดเวลา”
มีน : “ตอนแรกไม่รู้ เพิ่งมารู้หลังๆ เขาบอก แต่จริงๆ วันแรกที่เราเจอกัน จูนกันไม่ถูกจริงๆ คุยกันน้อยมาก”
หลิงหลิง : “เพราะหลิงเป็นอินโทรเวิร์ตที่เข้าหายาก ไม่เกี่ยวกับมีนนะ มีนเป็นผู้ชายที่น่ารัก”
มีน : “วันแรกเหมือนเรายังไม่รู้จะคุยอะไรกันไงในวันฟิตติ้ง เราไม่เคยเจอกันมาก่อนด้วย แล้วต้องมาถ่ายโปสเตอร์ด้วยกัน คาแร็กเตอร์ก็ต้องหา เลยทำงานงงๆ กันหน่อย ก็ใช้เวลาประมาณหนึ่ง”
หลิงหลิง : “คือไม่กล้าเข้าหาเขาด้วยซ้ำ มีอยู่คนเดียวที่กล้าเข้ามาใกล้ ก็คือพี่ต่อ ธนภพ”
มีน : “คือผมชวนคุยอยู่นิดหนึ่ง แล้วเขาก็อินโทรเวิร์ตใส่ผม ผมเลยโอเคๆ นิดหน่อยๆ แต่หลังจากนั้นก็จูนกันแล้ว เริ่มคุยเรื่องเดียวกันมากขึ้น”
หลิงหลิง : “ใช่ คือไม่ว่าจะเป็นในละคร หรือว่าชีวิตส่วนตัว ถ้ามีอะไรหลิงก็ปรึกษา”
มีน : “เขาปรึกษาเป็นพิธีแหละ เพราะเขาโหดอยู่แล้ว เขามาปรึกษาเรื่องใจซ่อนรัก ผมก็แบบอธิบายเต็มที่ พอมาเห็นเขาเล่น โอ้โห เหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำ เขาโหดเลย”
หลิงหลิง : “ไม่ๆ ไม่ขนาดนั้น หลิงใช้วิธีที่มีนสอน ก็ไปถามซีนที่เลิกกัน เพราะมันยากที่สุดสำหรับหลิง ก็เลยปรึกษาเขาว่าเวลาซีนอารมณ์ มีนทำยังไง เพราะตอนนั้นเราก็สนิทกันระดับหนึ่งแล้ว แล้วหลิงก็รู้สึกว่ามีนเป็นนักแสดงที่ทำการบ้านเยอะมาก เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มีของ หลิงเลยกล้าที่จะไปปรึกษาเขา”
มีน : “ก็แชร์กันใน 4 คนเรา พี่ต่อ พี่ญาญ่า แล้วมีพี่จันจิด้วย เราแชร์เรื่องการทำงานกันค่อนข้างเยอะมาก ตอนนั้นเราก็พูดถึงวิธีการทำอารมณ์ก่อนและหลังเข้าซีน แล้วพอได้ไปดูฉากนั้นที่เขาเล่น หลังจากนั้นไม่กล้าสอนใครเลย เขาเก่งเกิน เหมือนสอนดร.อ่านหนังสือ”
แจงดรามายืนชิดกันเกินไปในวันโปรโมทละคร บอกจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบที่บางคนคิด แต่ก็เข้าใจทุกฝ่าย
มีน : “ตอนแรกที่เราเห็น ก็ยังขำอยู่ แต่สักพักก็เอ๊ะ เริ่มดูไม่ดีแล้ว กลัวคนเข้าใจผิดด้วย แล้วมีหลายๆ คอนเมนต์เข้ามา เราก็เริ่มดูจริงจัง และรู้สึกว่าควรที่จะต้องอธิบายอะไรนิดหน่อย หนึ่งคือยอมรับในความผิดพลาด สองคือเพื่ออธิบายว่า มันไม่ได้เป็นแบบที่บางคนคิด มันเหมือนเป็นช็อตยำรวมมา เข้าใจว่าบางคนอาจจะเห็นแค่จุดนั้น แล้วคิดไป”
หลิงหลิง : “จริงๆ ไม่ได้มีความคิดหรือความตั้งใจอย่างนั้น วันนั้นมีสื่อเยอะมาก แล้วนักแสดงก็เยอะ มาเกือบฟูลทีมเลย มันก็เลยกลัวคนใดคนหนึ่งตกเฟรม ซึ่งจริงๆ มันไม่มีอะไรเลย หลิงก็ยังบอกว่าทุกวันนี้ก็ยังเป็นหลิงคนเดิม เราอยู่ในฐานะนักแสดง เราต้องทำงานกับนักแสดงด้วยกัน ก็เลยคิดว่ามันไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น มีนเป็นคนที่ให้เกียรติผู้ร่วมงานทุกคนตลอด เธอเป็นคนดีค่ะ”
มีน : “แต่อย่างที่บอกก็เข้าใจมากๆ ภาพนั้นออกมาอาจจะด้วยจังหวะหรืออะไรก็แล้วแต่ เข้าใจทุกฝ่ายมากๆ จริงๆ เข้าใจถึงสิ่งที่เขาเป็นห่วง แต่ในฐานะนักแสดง เราก็ต้องขอทำหน้าที่นักแสดงของเราต่อไป”
หลิงหลิง : “เข้าใจว่าแฟนๆ เป็นห่วงค่ะ แต่ในฐานะนักแสดง คือหลิงไม่อยากให้คนที่ร่วมงานไม่สบายใจด้วย รวมถึงแฟนๆ ที่เป็นห่วงเรา ก็ไม่อยากให้แฟนๆ ไม่สบายใจ”
ไม่ได้ปรึกษากันก่อนโพสต์ขอโทษ แต่ “หลิงหลิง” มีทักมาถามว่าโอเคไหม
มีน : “ไม่ได้ปรึกษา แต่มาคุยกันทีหลังแล้ว”
หลิงหลิง : “ใช่ คือหลิงเพิ่งเห็น มีคนบอกว่ามีดรามานะ แต่หลิงก็ไม่รู้ดรามาอะไร คือหลิงไม่ได้รู้สึกว่าถูกทำอะไร ไม่คิดว่ามันเป็นดรามา หลังจากนั้นพี่ส่งข้อความมาว่ามีนโดนดรามานะ เขาก็แคปมาให้ดู ก็เลยทักไปหามีน ว่ามีนโอเคไหม เพราะในฐานะที่เขาให้เกียรติเทคแคร์เรา เราก็อยากให้สิ่งนี้กลับเหมือนกัน ก็คุยกัน เขาก็โอเค”
มีน : “ผมว่าเรื่องนี้จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ปัญหาของความสัมพันธ์ของพวกเรา แต่มันอาจจะเป็นเรื่องของจังหวะเวลา แล้วก็วัฒนธรรม ความเป็นห่วง เลยตัดสินใจที่จะขอโทษทุกคน”
หลิงหลิง : “อยากให้ทุกคนทำงานด้วยความสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงด้วยกัน ทีมงาน หรือกับแฟนๆ ที่มาดูเรา ก็อยากให้สบายใจ”
เผยเวลาเล่นมุก จะรีเช็กเพื่อนตลอดว่าเข้าใจไหม แต่ตอนนี้เก่งกว่าวันแรกเยอะมากๆ
มีน : “เวลาพวกผมเล่นมุกกัน ก็จะหันมารีเช็กกันตลอดว่า เข้าใจไหม เก็ตไหม ซึ่งเขาก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอะไรที่คุยกันไม่เข้าใจหรอก ก็เข้าใจทันกันหมดแหละ”
หลิงหลิง : “ก็แสดงว่าหลิงเก่งแล้วนะ”
มีน : “เก่งกว่าวันแรกเยอะเลย เก่งกว่าวันแรกเยอะมากๆ”
หลิงหลิง : “แต่ก็ยังโดนแกล้งอยู่ อาจจะไม่รู้ตัว”