“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น - บอล เชิญยิ้ม - ผู้ใหญ่บ้าน ฟินแลนด์” เข้าพบตำรวจกองปราบ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ หลัง “แม่ตั๊ก” เคยจ้างไลฟ์ขายสินค้า เผยเสียใจเอาชื่อเสียงตัวเอง มาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีผู้เสียหายเกิดขึ้น โอดเข็ดแล้วจากนี้การรับงานจะให้ทนายตรวจสอบก่อน ยินดีคืนเงินค่าตัว ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เรียกว่างานเข้ากันถ้วนหน้า สำหรับคนดังที่เคยไลฟ์สดและร่วมงานกับ “แม่ตั๊ก” กรกนก สุวรรณบุตร ล่าสุดถึงคิวของ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” รัชนก สุวรรณเกตุ, “บอล เชิญยิ้ม” และ “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้าน ฟินแลนด์” ธิติวุฒิ วารุณ ที่ก็โดนหางเลขไปเต็มๆ เพราะเคยรับงานไลฟ์สดกับแม่ตั๊ก โดยวันนี้ (2 ต.ค.2567) เมื่อเวลา 10.00 น. ทั้ง 3 คนได้เดินทางมาที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พร้อมด้วย ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์และ ทนายพัฒน์ อนุสรณ์ อะสุระพงษ์ เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พร้อมกับนำทรัพย์สินมีค่าที่เคยได้รับจาก แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ มาส่งมอบให้ตำรวจตรวจสอบที่มา และเส้นทางการเงินว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ หากเป็นเงินผิดกฎหมาย ยินดีที่จะคืนเงิน และทรัพย์สินเหล่านี้ทั้งหมด
เจนนี่ : “ทางทีมทนายก็ทำงานอย่างเร็วมาก เพื่อให้เรามาแสดงความบริสุทธิ์ใจในวันนี้ค่ะ หลังจากนี้จะได้ไปทำมาหากินกันต่อ จะได้สบายใจไม่ต้องตกเป็นเชลยของสังคม เพราะตอนนี้ในโซเชียลค่อนข้างหนัก เวลาขายของจะมีคอมเมนต์ต่างๆ นานา ทำให้เราเฟลไม่มีกำลังใจ วันนี้ก็อยากเคลียร์ทุกอย่างให้จบเร็วที่สุดค่ะ ของเจนนี่มีสัญญาในส่วนของโปรตีน และในส่วนของเหมาไลฟ์ กับคำถามที่ว่าถ้าเจนนี่รู้สึกไม่สบายใจ ทำไมเพิ่งออกมา อันนี้ก็ขอบอกตรงๆ ว่าเราติดสัญญาพรีเซ็นเตอร์ ถ้าเราเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญา เราอาจจะผิดกฎหมายได้ หรืออาจจะโดนฟ้องได้”
“ซึ่งพอมันมีเหตุการณ์หนึ่งที่เจนนี่แจ้งให้ฟัง ว่ามันเกิดความไม่สบายใจ แล้วเราสามารถที่จะออกมาจากจุดนั้นได้ เราก็เลยออกมา ถามว่ารู้จักกันมานานแค่ไหน ไม่แปลกกับความรวยของเขาเหรอ จริงๆ เรารู้จักกันมานานพอสมควร แล้วพี่เขามักจะเล่าให้ฟังเสมอถึงภูมิหลังของเขา ไม่ว่าจะขายของในตลาดนัดมาก่อน หรือเป็นเด็กใต้เหมือนกัน การสู้ชีวิต ซึ่งเราก็เห็นภาพ เราก็เชื่อว่าทุกอย่างเป็น ตอนนั้นหนูไม่รู้ว่ามีผู้เสียหายเกิดขึ้น พอวันนี้ที่มีผู้เสียหาย แต่ยังไม่ได้มีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากไลฟ์หนู แต่หนูก็อยากมาแสดงความบริสุทธิ์ใจค่ะ”
“ตอนไลฟ์เขาก็จะมีสคริปต์ให้ ในส่วนของโปรโมชั่นค่ะ แต่ในเรื่องของการโฆษณาต่างๆ ก็มีบ้าง แต่เราก็คัดกรองและไตร่ตรองอีกที ว่าสามารถพูดได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องกำไลที่เขาให้มา ต้องชี้แจงว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเราไม่โอเค แล้วเอามาคืนเพราะเสียความรู้สึก เพราะไม่อย่างนั้นเราคืนไปนานแล้ว แต่วันนี้มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของคดีความ วันนี้เราก็เลยนำกำไลที่เขาให้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ให้ตำรวจได้พิสูจน์ว่าเงินที่ซื้อให้เรามาจากตรงไหน ปลอดภัยหรือเปล่า แต่เรื่องของนาฬิกาที่พูดในโหนกระแส อันนั้นไม่เกี่ยวค่ะ เพราะซื้อเอง”
“ก็ยอมรับว่าเสียใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เราไปไลฟ์ มันก็มีผู้ชมดูมากขึ้น แล้วทุกคนก็ชื่นชม และเข้าไปติดตามเขามากขึ้น แต่พวกเราเองก็ไม่ทราบจริงๆ ว่ามันจะเกิดกรณีที่มีผู้เสียหายแบบนี้ อยากให้ใช้วิจารณญาณ ว่าถ้าวันนี้มีผู้เสียหายแล้ว พวกเรายังไปรับงาน ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำในภายภาคหน้า อันนี้สังคมลงโทษเราได้เลย แต่อันนี้มันก็เป็นครั้งแรกของพวกเราเหมือนกัน เราทำหน้าที่รับจ้างงาน”
“ต่อไปนี้จะมีทางทีมของทนายไพศาล ดูแลเกี่ยวกับฝ่ายกฎหมายของการรับงานทุกอย่าง ไม่โปร่งใส ไม่ปลอดภัย แจกไม่ชัดเจน หรือผู้จ้างอยู่ในคดีความ ก็จะให้ทีมทนายดูแล อยากขอโทษแฟนคลับเจนนี่ ที่ไปติดตามแม่ตั๊กแล้วได้รับความเสียหาย รู้สึกเสียใจมากจริงๆ ตรงไหนที่ช่วยได้ หรือเป็นกระบอกเสียงในการแก้ปัญหาได้ ก็จะยินดีรับฟังทุกคนค่ะ”
“เรื่องที่ก่อนหน้านี้ หนูพูดคอนเฟิร์มให้แม่ตั๊ก ว่าถ้าแจกไม่จริงขอให้เจ๊ง คือพอดีว่าเขาถามในไลฟ์ ว่าของขวัญที่แม่ตั๊กให้เจนนี่วันนั้น 3 แสน แม่ตั๊กเอากลับไหม ตอนนั้นเราก็มั่นใจว่าเขาไม่เอากลับ แต่เรามารู้ตอนหลังว่ามันเป็นเงินค่าตัว ซึ่งมันคนละกรณีกัน แต่หนูก็ตอบตามภาพที่เห็น ว่าถ้าเขาเอากลับให้เขาเจ๊งไปเลย (ด้วยชะตาชีวิตเขาที่พลิกผันตอนนี้ เรียกว่าสมพรปากหรือเปล่า?) หนูว่ามันเป็นผลของการกระทำค่ะ หลังจากนี้ถามว่าเข็ดไหม ก็จะระมัดระวังตัวมากขึ้น ในเรื่องของการคบคน เรื่องของการรับงาน ต่อให้สนิทแค่ไหน ก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ก็จะเซฟตัวเองให้มากขึ้น”
บิ๊ก : “เช่นเดียวกันครับ วันนี้ก็บินมาจากขอนแก่น เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็ให้ความร่วมมือครับ ถามว่าตอนไปมีความรู้สึกชอบมาพากลอะไรไหม ก็ไม่ได้รู้สึกครับ เพราะผมไม่ได้สนิทกับเขา เจอกันแค่ 2 ครั้ง จบไลฟ์ผมก็รีบไปคอนเสิร์ตต่อเลย ไลฟ์แรกเป็นอาหารเสริมครับ ไลฟ์ล่าสุดเป็นร้านทองตามภาพเลย เราก็ไปตามสคริปต์ แต่เราก็ตรวจสอบอยู่ว่าร้านทองเขามีอยู่จริง ลูกค้าเขามีอยู่จริง เพราะเราเห็นอินฟลูฯ ท่านอื่นก็ไป เราก็ไป จบงานเราก็กลับ ซึ่งของผมเป็นชั่วโมงละ 150,000 บาททั้ง 2 ไลฟ์ครับ”
“คือที่ไปตอนนั้นผมแทบไม่ได้พูด ผมไปยืนไปเป็นวุ้น เป็นตัวประกอบให้เขา แล้วก็มีหยิบจับกระเป๋า เหมือนไปรับชมความมั่งคั่งของเขาน่ะครับ แต่โปรโมชั่นผมแทบไม่ได้พูดเลย ถามว่ามีกังวลใจไหม ก็ไม่กังวล เพราะเราบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว วันนี้เราได้มาพูดผ่านสื่อ ว่าเรามาเจอเจ้าหน้าที่แล้ว ถ้าเกิดท่านอยากได้ข้อมูลอะไร หรือหลักฐานการดีลงาน รวมสลิปการรับเงิน ถ้าเงินที่เรารับมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วว่ามันไม่โอเค หรือมันต้องเอากลับคืนไป ผมก็ยินดีที่จะมอบให้กลับทางเจ้าหน้าที่ครับ ถ้าค่าตัวตรงนี้มันไม่โปร่งใสหรือยังไง ผมก็ยินดีคืนให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบได้เลยครับ”
“ถามว่าเข็ดไหม เราก็ยังดำรงชีพและทำงานต่อไป แต่อย่างที่พี่เจนนี่บอก ก็ระมัดระวังมากขึ้น รับผิดชอบสังคมโดยการตรวจสอบให้มากขึ้น เท่าที่เราจะทำได้ เราเป็นศิลปินเจอคนมากมาย ไม่รู้ว่าวันไหนเราจะซวยอีก เราก็พยายามจะเซฟให้มากที่สุด เพื่อแฟนคลับและคนรอบข้างครับ”
บอล : “ผมไม่มีในรายชื่อ แต่รู้สึกว่าครั้งนึกเราเคยไลฟ์กับแม่ตั๊ก แล้วเห็นว่าให้เหล่าคนดังอินฟลูฯ มาออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผมรู้สึกว่าผมไม่นิ่งนอนใจ เลยปรึกษาทางทีมทนายไพศาล ว่าครั้งหนึ่งเคยมาไลฟ์อาหารเสริม แล้วก็ไปคอนเสิร์ตงานเปิดตัว เลยอยากมาให้รู้ว่าผมบริสุทธิ์ใจนะ ไม่ได้อะไรแอบแฝง ไม่เคยสนิทสนม ตอนติดต่องานทีมงานเขาเป็นคนติดต่อ แล้วก็ได้รับเป็นเงินค่าตัว 1 แสนบาท ไม่ได้รับเป็นของอย่างอื่น”
“ถามว่าได้รีเช็กเบื้องลึกเบื้องหลังของเขาก่อนรับงานไหม คือเราก็เห็นมีคนไปไลฟ์นั่นแหละครับ ผมไลฟ์เสร็จก็กลับ เพราะตอนนั้นที่ผมมีประเด็นที่โหนกระแส ก็มีงานมาตลอด ไม่เคยไปกินข้าว หรือไปเที่ยวต่ออะไรกับเขาเลย คือก็ไม่ได้แปลกใจอะไรกับความร่ำรวยของเขา เพราะตอนนั้นผมก็มีปัญหา ก็ยุ่งแต่งานของผม แต่ถ้าตรวจสอบแล้วว่าเงินไม่บริสุทธิ์ ผมก็บอกกับนายไพศาลแล้ว ว่า 2 ครั้ง 2 แสนบาท ผมยินดีคืน แล้วไปชดใช้ให้กลับคนที่เขาเสียหาย ผมยอมคืนแน่นอนครับ ไม่มีหักผมให้หมดเลย 2 แสนบาท”
ทนายไพศาล : “บุคคลใดที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามายืนยันความบริสุทธิ์ อย่าหลบ ทนายหลายท่านเตือนแล้ว ในประเด็นของทั้ง 3 ท่าน ตัวความของผมคือเจนนี่ กับพี่บอล ส่วนผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ เป็นลูกความของทนายพัฒน์ ทรัพย์สินใดๆ ที่ลูกความได้พูดไปเมื่อกี้ ไม่ใช่การคืนนะครับ เขาได้มาโดยสุจริตตรวจสอบได้ แต่จะมีการส่งให้ตรวจสอบ เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เราจะทำเรื่องขอคืนทั้งหมด เคยพูดไปแล้วว่าความปลอมจะปรากฎ เมื่อความจริงถูกพิสูจน์ เงินที่ได้มาจากการว่าจ้างไลฟ์ขายสินค้า หรือแสดงคอนเสิร์ต หรือใดๆ ศิลปินดารารับมาโดยสุจริต ไม่ทราบข้อเท็จจริง ขาดเจตนาทั้งหมดเพราะไม่รู้เรื่อง ยืนยันว่าทุกคนไม่รู้ เพราะรู้ก็คงไม่ทำ”
“ฝากไปยังศิลปินดาราทุกคน ให้เชื่อทนาย ให้ออกมาก่อน อย่าให้หมายเรียกร่อนไป ถ้าร่อนไป 2 ครั้งไม่ถึง จะเป็นหมายจับนะครับ คุณจะเครียดตั้งแต่สรรพากรยันสคบ. แล้วฝากถึงคอนเทนต์ช่วยคนทำบุญ ทำได้อะมันดี แต่ทำให้จริง อย่าทำเพื่อสร้างตัวเอง แล้วไปได้ธุรกิจทางอ้อม มันปลอม แล้วฝากศิลปินดาราอีกเรื่อง เวลารับเงินใครอย่ารับเงินสด เดี๋ยวเกม เพราะมันไม่มีที่มาที่ไปของเงิน”
“ยังยืนยันว่าในเคสร้านทอง ตามรัฐธรรมนูญแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลสูงจะตัดสินใจถึงที่สุด วันนี้การพูดใดๆ ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามมาตรา 329 และเป็นประโยชน์สาธารณะตาม (3)”
ทนายพัฒน์ : “ขอความร่วมมือให้ศิลปินดารา ออกมาให้การกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะชน ในส่วนของคุณบิ๊ก ก็ต้องไปไล่ดูเรื่องเงิน ว่าได้ค่าจ้างตามปกติไหม อีกอย่างที่ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ศิลปินที่มาไลฟ์ เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับทางคุณตั๊ก ก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย การไปไลฟ์กับเขา เราไม่สามารถไปตรวจสอบที่ไปที่มาบริษัท หรือเส้นทางการเงิน หรือฐานะของเขาได้ ทุกคนอาจจะดูแค่งานที่อยู่ต่อหน้า”
บอล : “ถามว่าจากนี้จะทำงานลำบากขึ้นไหม มันก็ยาก เจ้าภาพติดต่อมา ผมก็ไม่กล้าจะถามว่าเงินคุณสะอาดไหม เราไม่รู้จะถามเขายังไง แต่โอเคต่อจากนี้เราก็ต้องดูให้มากขึ้น ตรวจสอบให้ดีไม่ว่าจะเป็นใคร นี่คือเราตัวอย่างของพวกเราครับ ผมก็กราบขอโทษจากใจจริงๆ เพราะเป็นคนหนึ่งที่เคยอยู่ในไลฟ์ อาจจะทำให้พี่น้องของผมเข้ามาแล้วรู้สึกเชื่อถือและติดตามเขา จากนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว”
ทนายไพศาล : “การตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าสะอาดหรือสกปรกไหม มันง่ายมาก สมมติเรามีเงินเดือน 3 หมื่น แต่เรามีทรัพย์สินหรือการใช้ชีวิตประจำวันเดือนละ 1 แสน มันหาที่มาที่ไปของเงินไม่ได้ ว่าอีก 7 หมื่นมาจากไหน แต่เวลาเราไปขอสเตทเม้นจากธนาคารมันยาก เพราะเขาเซฟลูกค้าเขา แต่พฤติกรรมของคดี เขาเรียกว่าเวลารวยให้รวยแบบเงียบๆ ถ้าจนให้จนดังๆ คนจะได้สงสาร ถ้ารวยแบบดังๆ เกมทุกราย ฉะนั้นถึงแม้เช็กสเตทเม้นไม่ได้ แต่เช็กวิถีชีวิตได้ ถ้าไม่มีหลักฐานมาอ้างประกอบก็เรียบร้อย”
“แต่ศิลปินดาราที่ไปไลฟ์ขายของ ทนายห่วงกฎหมายลูกโซ่ เพราะการไลฟ์ขายถือเป็นการขายตรง ระวังจะเป็นแชร์ลูกโซ่ Forrex - 3D เราเห็นมาแล้ว ฉะนั้นพวกไลฟ์สดขายของให้ไปจดทะเบียน แล้วเวลารับเงินค่าจ้างอย่ารับเงินสด ต้องมีสลิป”