“ใบเตย” ยันไม่มีเอี่ยวกับคดี “แม่ตั๊ก” แค่รับจ้างไลฟ์ 2 ครั้ง และไม่ได้ไลฟ์ขายทอง ขอโทษประชาชนหากเรื่องส่งผลกระทบกับใคร จากนี้ไปงดรับงานไลฟ์สดขายสินค้า
“ใบเตยอาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน” เป็นหนึ่งในดาราที่ไปร่วมไลฟ์สดขายของกับ “แม่ตั๊ก” กรกนกสุ วรรณบุตร รีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันพร้อมกับน้องชายและทนายเฟิร์น ชลวิภา แสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแม่ตั๊กฉ้อโกงประชาชน
”วันนี้มาลงบันทึกประจำวันกับเคสที่เกิดขึ้นล่าสุดนะคะ ต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่เป็นห่วงในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาในเรื่องของเจ๊ตั๊กนะคะ วันนี้ใบเตยก็ได้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับประชาชนและหลายๆ ท่าน เพื่อไขข้อสงสัยที่ผ่านมา ที่มีภาพเราได้ร่วมไลฟ์สดกับเจ๊ตั๊ก วันนี้เราก็ได้ทราบเรื่องแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องนี้ และต้องขอโทษหลายๆ อย่างที่ทำให้หลายๆ ฝ่ายต้องคลางแคลงใจกับเรื่องนี้ ใบเตยก็อยากแก้ไขข้อผิดพลาดหลายๆ อย่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทั้งหมด พอทราบเรื่องก็ได้ปรึกษากับทนาย และคิดว่าสิ่งที่เราควรทำอันดับแรกเลยก็คือต้องออกมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ในเบื้องต้นกับเคสนี้ค่ะ”
“ใบเตยค่อนข้างซีเรียสค่ะ เพราะเราก็กลัวว่าจะมีการเกี่ยวโยงอะไรไป ที่กระทบหลักๆ คือชื่อเสียง เพราะกับเคสที่ผ่านๆ มาเราก็มีในเรื่องส่วนนี้มาอยู่แล้ว และพอวันนี้มามีเรื่องนี้อีก ซี่งสุดท้ายเราบริสุทธิ์ใจมากๆ คือเราเป็นผู้ได้รับการว่าจ้าง เราก็เลยรีบมาเคลียร์และแสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับผู้ที่ได้เห็นในสื่อต่างๆ ค่ะ”
เผย “แม่ตั๊ก” จ้างไปไลฟ์ขายของ 2 ครั้ง ขายโปรตีนกับครีมกันแดด ไม่เคยไลฟ์ขายทอง
“ใบเตยแค่ไปร่วมงานในการรับงานจ้าง ต้องบอกว่ามีแค่ 2 ครั้งที่ไปไลฟ์กับเขาค่ะ และไม่เกี่ยวกับห้างร้านใดๆ ของเจ๊ตั๊ก คือเป็นการจ้างไลฟ์ในส่วนของโปรดักในเครือของเขาค่ะ ครั้งแรกเมื่อปี 2021 กับครั้งที่ 2 ตอนที่ใบเตยเพิ่งออกมาค่ะ เมื่อปีที่แล้วเดือนพฤศจิกายน ถามว่าที่ไปไลฟ์เพราะความน่าเชื่อถือของเขาไหม ก็ส่วนนึงค่ะ แต่เรามีอาชีพนักร้องศิลปินดารา สุดท้ายก็เหมือนอาชีพทั่วไปที่หลักๆ คือการรับจ้าง ฉะนั้นเมื่อมีผู้ว่าจ้างมา เราก็ทำสัญญารับงาน ไปทำงานเสร็จ 1 ชม. เราก็ได้รับค่าจ้างตามปกติเหมือนการรับจ้างของทุกๆ คน”
“ตอนไปไลฟ์ก็ไม่ได้มีไดอาชะล็อกอะไรให้พูดนะคะ ก็ทั่วไปตามที่เห็นในไลฟ์เลย ในส่วนของใบเตยจะเป็นสินค้าเกี่ยวกับโปรตีนในครั้งแรกค่ะ ส่วนครั้งที่สองจะเป็นครีมกันแดด แต่ที่เห็นปรากฎภาพต่างๆ ไม่เกี่ยวกับเราเพราะทางทีมงานของเขาจะมีเอาพวกเครื่องรางเข้ามา”
ลุกส์ น้องชายใบเตย ซึ่งรับหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของใบเตย เผยจากนี้ไปจะไม่รับงานไลฟ์ขายสินค้าอีก
“คือลุกส์ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของพี่ใบเตยและเป็นคนรับงานให้นะคะ การรับงานทุกครั้งเราไม่เคยได้คุยกับตัวแม่ตั๊กโดยตรง แต่จะเป็นทีมงานของเขาติดต่อมา แต่ทั้ง 2 ครั้ง ไม่เคยมีการพูดคุยเกี่ยวกับการไลฟ์ขายทองเลย ครั้งแรกคือโปรตีน ครั้งที่สองคือครีมกันแดด เราก็จะเน้นย้ำถามสคริปต์ เขาก็บอกว่าไม่มี เราก็เลยมาดูหน้างานว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ก็จะไม่มีเรื่องของทองอะไรเลย แต่เหมือนครั้งที่สองเขาจะเอาเครื่องราง แผ่นมูเข้ามาโดยที่ไม่ได้บอกเราก่อน แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นปัญหา เพราะเราก็คิดว่าเขาน่าจะเล่นเป็นการร่วมสนุกทั่วไป”
”ตอนนี้กล้าพูดตรงนี้เลยว่าต่อไปจะไม่รับงานอย่างนี้แล้ว เพราะเราไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วผู้ว่าจ้างเป็นใครเคยทำอะไรมาบ้าง ก็คุยกับพี่เตยว่าต่อไปนี้ก็คงรับแค่งานคอนเสิร์ตร้องเพลง บันเทิงอย่างเดียวแล้ว ลุกส์ว่าต่อไปนี้คงต้องมีการดูคนกันให้มากขึ้น เพราะปัญหามันมีจริงๆ เราต้องทำงานหาเงินจริง แต่เราก็ต้องฉลาดด้วย ก็อยากจะฝากไปถึงผู้ว่าจ้างด้วย เพราะเราก็อยากทำงานด้วยความถูกต้อง”
ใบเตยเผย ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ หากไปกระทบกับใครก็ต้องขอโทษด้วย
”ก็คุยกันแล้วค่ะว่าต่อไปนี้จะไม่ไปไลฟ์ขายของอะไรแบบนี้แล้ว จะมีแต่จากช่องทางเรา รับแต่คอนเสิร์ต งานจ้างศิลปินนักแสดงเท่านั้นค่ะ ถามว่าจะมีดำเนินคดีกับแม่ตั๊กในเรื่องที่ทำให้เราเสียหายมั้ย คือตอนนี้ก็คงเอาแค่ตรงนี้ก่อนค่ะ และถ้าหลังจากนี้ก็ค่อยคุยกันอีกทีว่าจะเป็นในขั้นตอนไหนต่อไป ซึ่งถามว่ามีไปไลฟ์กับเจ้าอื่นอีกมั้ย ก็ตั้งแต่ปีนี้มาก็มีเจ้านี้เจ้าเดียวค่ะ”
“ก็อยากจะฝากว่าทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างก็ต้องทำงานด้วยความสุจริตจริงๆ ค่ะ เราเป็นอาชีพนักร้อง เราสุจริตมากๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าการทำงานของเราไปเชื่อมโยงหรือไปกระทบกับอะไร ก็ต้องขอโทษประชาชนมากๆ ที่รับงานแบบไม่ 100% เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีต่างๆ มันเข้ามาเยอะมาก ถึงวันนี้จะมีค่ายมีสังกัด มันก็ยังยากมากๆ ที่จะไปรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของผู้ว่าจ้างเราทั้งหมด ก็ต้องขออภัย ณ ตรงนี้มาที่นี่ด้วย ก็ขอบคุณทุกกำลังใจ วันนี้ก็ได้แก้ไขทุกอย่างให้มันโปร่งใสที่สุดค่ะ“
”ฝั่งใบเตยจริงๆ เราก็เป็นผู้เสียหายในการที่เหมือนโดนหลอกมาเหมือนกันค่ะ ถามว่าหลังจากจบงานเขามีให้อะไรอย่างอื่นมั้ย ก็ไม่มีค่ะ นอกจากค่าจ้างก็ไม่มีอย่างอื่นค่ะ ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรไปกว่าในช่วงที่ไลฟ์ 1 ชม. นั้นค่ะ ถามว่าทำไมเขาถึงเปย์ให้เยอะ จริงๆ สำหรับใบเตยไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเรทราคาของเราคือเรามีสังกัด ก็ตามที่เรทของสังกัดเลยค่ะ จริงๆ ต้องบอกว่ากรณีใบเตยไม่ได้มีการเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือจ้างไปไลฟ์ต่อเนื่อง มีแค่ 2 ครั้งที่ผ่านมาแค่นั้น”
“ก็ต้องเคลียร์ตัวเองตรงนี้เลยค่ะว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทุกธุรกิจของแม่ตั๊กใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ คือใบเตยก็ยังไม่ได้คุยกับดาราศิลปินท่านอื่นๆ ที่มีรายชื่อนะคะ เพราะคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ต่างกัน เคสต่างกัน ทุกอย่างมันไม่เหมือนกัน“
ทนาย
“จริงๆ ความเสียหายที่ทางเราได้รับคือเกิดจากการคอมเมนต์มากกว่าค่ะ เพราะเป็นการคอมเมนต์ที่เอาไปเกี่ยวโยงกับอีกคดีนึง ซึ่งตรงนี้ไม่ได้เป็นความจริง เพราะอันนี้เราเป็นผู้เสียหาย ก็เลยแนะนำว่ามาลงบันทึกประจำวันไว้ดีกว่า และถ้าทางสอบสวนกลางจะเรียกให้ไปให้การเป็นพยาน ก็จะนำหลักฐานวันนี้ไปให้ด้วยค่ะ”
“หลังจากนี้เราก็จะมาช่วยกันดูงานทุกอย่างค่ะ เพราะเราก็จะไม่ประมาทอีกแล้ว จะไม่รับงานที่มันจะมีอะไรสุ่มเสี่ยงในอนาคต เราจะไม่รับแล้วค่ะ และจะดูว่าผู้ที่มาว่าจ้างเราเคยทำอะไรมาบ้าง ถ้าพูดถึงทางอินฟลูฯ หรือดาราถ้าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็น่าจะเป็นข้อหาที่ว่าอาศัยความมีชื่อเสียงในการไปร่วมสนับสนุนในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเขา ก็ต้องดูเป็นเคสๆ ไปว่าแต่ละคนร่วมงานกับเขามากน้อยแค่ไหน คือทำหน้าที่แค่ไลฟ์ขายสินค้า หรือทำหน้าที่ไปช่วยหรือเป็นหุ้นส่วน ต้องดูดีเทลตรงนั้น แต่ของเราคือมีการจ้าง จ่ายเงินกันตรง ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรที่มันมากกว่านั้น“
