“วันเดอร์เฟรม” แจงติดต่อ “แน็ก ชาลี” เป็นพระเอก MV ตั้งแต่ 7 เดือนที่แล้ว มองแค่พาร์ตทำงาน ไม่ได้อยู่ฝั่งไหน เผยมีนอยด์และน้อยใจ กลัวโดนแอนตี้ รู้กระแสตีกลับแรงจนมีแฮชแท็ก #แบนwonderframe
ทำเอา “วันเดอร์เฟรม” (WONDERFRAME) หรือ “เฟรม ศุภัคชญา สุขใบเย็น” นอยด์เลยทีเดียว หลังดึงหนุ่ม “เเน็ก ชาลี ไตรรัตน์” มาเล่นเป็นพระเอก MV เพลงภาวะสิ้นยินดี ซึ่งกระแสใน X ทวิตเตอร์ ถึงขั้น แฮชแท็ก #แบนwonderframe พร้อมกับตั้งคำถามว่า จำคำพูดของตัวเองได้ไหม ที่เคยเป็นกระบอกเสียงในการปกป้องสิทธิความเป็นผู้หญิง ไม่ให้โดนดูถูก ทำร้าย แล้วทำไมตอนนี้กลับเลือกคนที่มีประเด็นข่าว เกี่ยวกับการใช้คำพูดย่ำยี่จิตใจผู้หญิง มาเล่นเป็นพระเอก MV ของตัวเองซะงั้น แต่ถึงจะมีดราม่าแต่ปล่อยเพลงแค่วันเดียวยอดวิวก็ทะลุล้าน ล่าสุดวันนี้ (29 ก.ย. 67) ได้เจอสาวเฟรม ในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 32 เจ้าตัวก็เลยขอเปิดใจถึงเรื่องนี้ ว่ายอมรับและเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ถามเป็นยังไงบ้าง ก็คือรู้สึก มีอ่านบ้างค่ะ แต่ในสิ่งที่หนูรู้สึก หนูว่าเขามีสิทธ์ออกความคิดเห็น แล้วก็ยอมรับทุกความคิดเห็น จริงๆ หนูไม่ได้เล่น X (ทวิตเตอร์) แต่ว่าก็แรงจนรับรู้ และได้เข้าไปอ่านในหลายๆ อัน ก็รู้สึกว่าก็โอเค หนูรับได้นะ เหมือนยิ่งโตขึ้น หนูก็ยิ่งอ่านแล้วรับความจริงได้ ทุกคนต่างมีความคิดเห็นของตัวเอง ซึ่งหนูโอเคในจุดนั้น แต่ถามว่านอยด์ไหม ถ้าจะตอบว่าไม่นอยด์ก็โกหก ก็มีบ้างรู้สึก ก็ดิ่งดาวน์อยู่”
เผยติดต่อ “แน็ก” มาเล่น MV ตั้งแต่ 7 เดือนที่แล้ว
“ถ้าให้หนูเล่าคือ หนูติดต่อเขาไปตั้งแต่ 7 เดือนก่อนหน้านี้ค่ะ แต่ด้วยความที่จังหวะไม่ลงตัวกันสักที มันก็เลยไม่ได้มาเจอกันแล้วทำงานด้วยกันสักที ซึ่งหนูก็ได้มีการปล่อยเพลง ภาวะสิ้นยินดี ออกมาประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดียว แล้วหนูก็ไปอ่านคอมเมนต์ แล้วมีแฟนคลับของคุณแน็กเข้ามาคอมเมนต์เยอะมาก ว่าอยากให้แน็กมาเล่น MV หนูก็เลยไม่ได้คิดอะไรก็เลยติดต่อเขาไป แค่นั้นเอง”
ไม่ได้คิดว่ากระแสข่าวของอีกฝ่าย จะมากระทบงานในตอนนี้
“ใช่ คือในส่วนตัวหนูหนูมองในพาร์ตของงาน คือเราติดตามผลงานของเขามาตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็รู้สึกว่าเราอยากทำงานด้วย เหมือนใช้ช่างแต่งหน้าคนเดียวกัน แล้วได้ยินเรื่องดีๆ ของเขามา ก็เลยรู้สึกว่าเป็นคนหนึ่งที่เป็นคนเก่ง แค่นั้นเอง”
เผื่อใจไว้แล้ว อาจจะมีดรามา ยันไม่ได้ทีมใคร ไม่เกี่ยวด้วยเลย
“มีเผื่อใจ แต่ในฝั่งหนูอ่ะเรามองแค่พาร์ตงานจริงๆ หนูไม่ได้เข้าข้างใครหรืออยู่ฝ่ายไหนเลย เพราะหนูก็พูดตามความจริงว่าแบบเป็นเรื่องของเขาสองคน หนูไม่เกี่ยวด้วยเลย”
บอกไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครเป็นคนดี
“คือความคิดของหนูนะ คือถ้าจะไปบอกว่าใครทะเลาะกับใคร คือหนูไม่ได้ทราบเรื่องเลย ว่าในความจริงแล้วมันเป็นยังไง หนูไม่สามารถไปตัดสินได้จริงๆ ว่าใครเป็นคนดี หรือเป็นคนไม่ดีในฝั่งของหนูเอง”
ไม่ค่อยได้คุย “แน็ก” แต่อีกฝ่ายมีถามว่าโอเคไหม
“ไม่ค่อยได้คุยเลยค่ะ เพราะต่างคนต่างยุ่งมากๆ (แล้วหลังจากที่มีประเด็นขึ้นมาได้คุยบ้างไหม?) มีคุยบ้าง แต่ด้วยความที่ตัวหนูยุ่งมากด้วย คือหนูทำเบื้องหลังด้วย เบื้องหน้าด้วย แล้วตัวเขาก็น่าจะยุ่งก็เลยมีคุยบ้าง แต่ไม่ได้คุยเยอะ เขาก็มีถามว่าโอเคไหม หนูว่าเขาทราบ แต่ตัวเราเองก็ต้องคุยกับตัวเองเหมือนสิ่งไหนที่ตำหนิมา แล้วเรารู้สึกว่าเราไปพัฒนาได้ หนูโอเคที่จะรับมัน”
ยอมรับกลัวคนแอนตี้ผลงาน
“กลัวไหมเหรอ อืม…ก็มีคิดบ้าง ด้วยความที่เราปล่อยผลงานออกมาเยอะมาก”
จากนี้ต้องคิดเยอะกว่าเดิม ก่อนจะเอาใครมาร่วมงานด้วย
“ก็มีคิดนะ แต่ส่วนตัวหนูมองว่าแบบ ก็คิดมากขึ้น จริงๆ เป็นคนคิดเยอะอยู่แล้ว ก็ต้องคิดเยอะกว่าเดิมอีก”
ไม่มีอะไรจะอธิบาย เพราะต่างคนต่างมุมมอง
“ไม่มีอะไรจะอธิบายค่ะ เพราะต่างคนต่างมีมุมมองเป็นของตัวเอง ซึ่งหนูไม่ได้มองว่ามุมไหนผิด แต่ว่าตัวหนูเองต้องมองหลายๆ มุม พยายามทำความเข้าใจในทุกมุม พอเราพยายามทำความเข้าใจในทุกมุม ความรู้สึกเราก็ดีขึ้นด้วย แล้วเราก็ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นด้วย 30 แล้ว”
มีน้อยใจบ้าง แต่ก็เข้าใจได้
“มันก็มีน้อยใจบ้าง แต่ก็เข้าใจได้อย่างที่บอกว่าต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง”
ไม่ถ่าย MV ใหม่ เพราะงบไม่พอแล้ว
“ไม่ๆ งบไม่พอ (หัวเราะ) เพราะออกเองหมดเลย หนูว่าจริงๆ เพลงนี้มันมีกระแสตั้งแต่เริ่มแล้ว ตัวหนูก็รู้สึกว่ามันก็เป็นเพลงที่ดีเพลงหนึ่ง หนูรักมันตั้งแต่วันที่แต่งมันเสร็จ”
กระแสดรามาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเพลง
“ไม่ได้ส่งผลนะ สำหรับส่วนตัว แต่ก็มีมอนิเตอร์อยู่ตลอด”
จะพยายามเรียนรู้และเติบโต เห็นเงียบๆ แต่อ่านหมด
“ยอมรับทุกความคิดเห็นค่ะ แล้วไม่ว่าความคิดเห็นใดๆ เฟรมอ่านหมดนะ ที่เห็นเงียบๆ อ่านหมดค่ะ แล้วก็เข้าใจในทุกมุมมองของทุกคน จะพยายามเรียนรู้ แล้วก็เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ”
