“ชาย ชาตโยดม” ขายเบเกอรี่ หลังงานละครหดหาย

“ชาย ชาตโยดม” มั่นใจวิกฤตละครไทยต้องมีทางออก แค่ตอนนี้ทุกคนยังงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลั่นเป็นอาชีพที่ทำมา 30 ปี ไม่คิดเลิก แต่ตอนนี้ก็มีแผน 2 ให้ชีวิต ผันตัวเปิดร้านเบเกอรี่ออนไลน์ระหว่างที่ว่างจากงานแสดง ลั่นอนาคตไม่รู้เกิดอะไรขึ้นแต่ทุกคนต้องเตรียมตัว

เรียกว่าตอนนี้วงการบันเทิงเดินทางมาถึงยุควิกฤตละครไทย คนดูน้อยลง ช่องใหญ่ลดกำลังผลิต ลดต้นทุน ลดทุกอย่างที่ดูเหมือนว่ายังมองไม่เห็นทางออก ต้องแก้ไขสถานการณ์หยุดพักการถ่ายละคร เพราะสปอนเซอร์ไม่เข้า และเลือกละครรีรันกลับมาออกอากาศแทนละครใหม่ เมื่อถามเรื่องนี้กับ “ชาย ชาตโยดม” นักแสดงที่มีงานละครมากที่สุดคนหนึ่ง เจ้าตัวก็ยอมรับว่างงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองก็ว่างงานจนต้องหาเวย์ใหม่คิดผันตัวเองเปิดร้านเบเกอรี่ออนไลน์ทำระหว่างรองานละคร

“ชายว่ามันต้องมีการเปลี่ยนแปลงเนอะ พอถึงเวลาเราก็ต้องปรับตัวแล้วก็หาว่าทางเดินต่อไปจะไปอยู่ตรงไหน อาจจะลากยาวนะ อาจจะไม่ได้จบ คือทุกคนก็อยากให้มันไปต่อได้ เพราะฉะนั้นทุกคนก็พยายามที่จะไปด้วยสุดความสามารถของทุกคนอยู่แล้ว แต่เราแค่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางมันอยู่ตรงไหน คือถ้าเรารู้และจับได้แล้วว่าเป้าหมายอยู่ตรงไหนก็จะไปในทิศทางนั้นได้ง่ายขึ้น แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าทิศทางเป้าหมายเราอยู่ตรงไหนเท่านั้นเอง“

ใจหายละครไทยเคยเฟื่องฟูแล้วมาเกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องเหนือการควบคุมจริงๆ
“ใจหายด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนสัมผัสมาได้สักพักใหญ่แล้ว ของชายไม่ใช่แค่ช่วงปีที่ผ่านมา คือปีที่แล้ว คือช่วงที่ละครเยอะๆ หลายๆ เรื่อง แล้วก็ค่อยๆ เงียบไป เงียบแบบแปลกๆ แล้วก็ทิ้งช่วงมาถึงตอนนี้ ก็แบบ อ๋อ..โอเค เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างตอนที่เยอะๆ เลยปีนั้นประมาณ 8 เรื่อง ก่อนหน้านั้นก็ 3-4-5 เรื่อง คืออย่างน้อยก็มีงานที่ต่อเนื่องอยู่ตลอด แต่พอมันขาดช่วงปั๊บก็ เอ๊ะ..มันเกิดอะไรขึ้น มันดูเงียบๆ ไป แล้วมันก็เงียบยาว"

"มันอยู่เหนือการควบคุมจริงๆ นะ อย่างนักแสดงตัวเล็กๆ ก็ยังทำอะไรไม่ได้ องค์กรใหญ่ๆ เองก็เจอผลกระทบหนักก็อาจจะต้องช่วยกันในทุกๆ ด้าน ต้องหาทางออก ต้องหาวิธีที่จะไปต่อได้อย่างมั่นคง เหมือนตอนนี้ทุกคนไม่รู้เป้าหมายมันเลยสั่นคลอนทั้งทางด้านจิตใจและอะไรต่างๆ คือไม่เคยคิดเหมือนกันว่าเราต้องเปลี่ยนอาชีพหรอ (หัวเราะ) เราทำมา 20-30 ปี เราก็รู้สึกว่านี่คือทางชีวิตของเรา อาจจะมีสะดุดสำหรับหลายๆ คน คนทั้งวงการก็อาจจะต้องช่วยกันหาทางออก ช่วยกันผลักดันให้เกิดอะไรขึ้นสักอย่างที่ทำให้เรากลับมาทำในสิ่งที่เรารักได้เหมือนเดิม“

ทุกวันนี้ตนก็ผันตัวมีอาชีพรอง ทำขนมขายออนไลน์เหมือนกัน
”ทำขนมขายแล้วไงทุกวันนี้ (หัวเราะ) ตอนนี้มันอาจจะเป็นน้ำจิ้มเป็นจุดเริ่มต้นหรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไม่รู้อนาคตว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็ต้องเตรียมตัว ทุกคนต้องปรับตัวให้ได้ ถ้ามันไม่มีจริงๆ แล้วจะทำยังไง เราก็ต้องไปต่อดำเนินชีวิตต่อไปด้วยวิธีที่เราถนัดหรือว่าหาวิธีที่เราทำได้"

เริ่มทำคอนเทนต์ลงโซเชียล
"คือกี้เขาชอบทำ ชายก็จะเขินๆ อยู่ตลอดแต่ว่าบางทีกี้เขาชวนเราก็ อ่ะๆ ทำบ้างก็ได้ (แต่ว่าจัดเต็มมาก?) ทำแล้วก็ต้องเต็มที่สิ เราจะไม่ทำเล่นๆ นะ เราจะทำจริงจังเสมอ“

ไม่เคยคิดว่าจะต้องเปลี่ยนอาชีพ มั่นใจละครไทยยังมีหนทาง ช่วยกันหาวิธีรอดกันต่อไป
“เอาจริงๆ ไม่เคยคิดที่จะหยุดไม่เคยคิดว่าจะต้องเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่น คือรู้ว่ามันต้องไปต่อให้ได้ เราก็เชื่ออย่างนั้นเราก็แค่ช่วยกันหาวิธีที่จะไปต่อให้ได้ การทำขนมมันคือแพชชั่นอีกอย่างนึงของชาย คือความสนุกความสุข เป็นรายได้ที่มาช่วยที่บ้านได้มันก็ดี แต่ไม่เคยคิดว่าต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วต้องไปแล้ว ไม่ไป ยังไงชายก็ไม่ไป"

"ชายงงมากกว่า งงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้เครียด คิดว่ายังไงมันก็ขาดไปจากโลกนี้ไม่ได้หรอก ยังไงก็ต้องมีศิลปะแขนงนีัมีความบันเทิงแบบนี้ อาจจะเป็นแพลตฟอร์มอื่น รูปแบบอื่น หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ยังต้องมีและชายก็ยังยึดมั่นที่จะทำอาชีพนี้ยังเป็นนักแสดงต่อไป ชายมั่นใจว่าจะมีหนทาง มีครับต้องมีแน่นอนครับ ยังไงก็ต้องมีเราแค่ต้องช่วยกัน เราต้องหาวิธีให้เจอ“