xs
xsm
sm
md
lg

“แอน ทองประสม” เคลียร์ดรามา คนดูสาปหนัก “โลกหมุนรอบเธอ” เผยตั้งใจให้ตัวละครเป็นสีเทา แต่บทอาจจะเรียลไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แอน ทองประสม” แจงดรามาละคร “โลกหมุนรอบเธอ” หลังถูกวิจารณ์หนักบทบ้ง เผยความตั้งใจแรก คือการนำเสนอตัวละครที่เป็นสีเทา เข้าใจบทอาจจะเรียลไป สำหรับคนที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจ รู้แล้วคนดูชอบแบบไหน จะปรับตัวและไปเวย์ที่เซฟกว่า ยอมรับกดดันในฐานะผู้จัดที่เป็นนักแสดง มีท้อบ้างแต่ถือเป็นการเรียนรู้ ทำละครทุกเรื่อง แค่อยากให้คนดูมีความสุข แฮปปี้ละคร “หนึ่งในร้อย” ออนแอร์แล้ว เป็นเคมีใหม่ๆ ที่ลงตัว และภาพออกมาสวยเกินคาค

เรียกว่าโดนวิจารณ์ยับเลยทีเดียว สำหรับละคร “โลกหมุนรอบเธอ” ของผู้จัด “แอน ทองประสม” หลังมีฉากให้พระนางของเรื่อง อย่าง “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” และ “โบว์ เมลดา สุศรี” เป็นชู้กัน เหตุเพราะเพิ่งรู้ใจตัวเอง จนเกิดตั้งท้อง โดยโซเชียลต่างลงความเห็น ว่าแบบนี้มันได้เหรอ ใช้ตรรกะอะไร บ้งมาก ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ย.) ในงานแถลงข่าวละคร “หนึ่งในร้อย” ที่แอนเป็นผู้จัดอีกหนึ่งเรื่อง เจ้าตัวก็ได้เปิดใจเคลียร์ถึงดรามาที่เกิดขึ้น พร้อมเผยความตั้งใจในการทำละครแต่ละเรื่อง ว่ามันมีความกดดันและท้อขนาดไหน

“หนึ่งในร้อย ออนแอร์แล้ว สิ่งแรกที่อยากเห็น คืออยากเห็นต่อ (ธนภพ ลีรัตนขจร) กับญ่า (ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์) มาเจอกัน มันเป็นเคมีใหม่ๆ ที่เรารู้สึกว่าอย่างน้อยก็เป็นกำไรคนดู พอเขามาเจอกันมันเกิดเคมีอย่างนั้นจริงๆ แอนเลยอยากให้ทุกคนดู หนึ่งในร้อย ไปทุกๆ ตอน จะเห็นการขยับความรู้สึกของทั้งสองคน แล้วเรื่องนี้มันต้องการนักแสดงที่มีคาริสม่า มีเคมีส่วนตัวที่ต้องสร้างสรรค์เอง โดยที่ตัวหนังสือในบทไม่ได้บอก แล้วนักแสดงทุกคนได้นำพาสิ่งเหล่านั้นส่งเสริมเรื่องให้แอนด้วย มันเลยกลายเป็นเรื่องที่น่ามองไปหมด เลยอยากให้ทุกคนดูค่ะ”

ภาพที่ออกมาสวยงามเกินคาด
“พูดตรงๆ ว่ามันเกินค่ะ มันสวยงามเกินจากที่แอนคาดคิด แอนไม่เคยทำละครพีเรียดแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าจะแตะได้ถึงเลเวลไหน แต่พอออกมามันดีมาก ทีมงานทุกคนพร้อมปล่อยของ มีความป๊อปขึ้นมา แล้วเราก็บอกเจตนากับคนดูไปเลย ว่าเฉดที่เราอยากจะพาไปมันคือเฉดนี้ เขาจะได้ไม่ตกใจ หรือคาดหวังว่าทุกอย่างต้องสโลว์ พูดช้า เดินช้า เราอยากให้มันเป็นปัจจุบัน”

มีอุปสรรคแค่ในเรื่องของสภาพแวดล้อม
“จริงๆ อุปสรรคจะเป็นในเรื่องของสภาพแวดล้อมมากกว่า สิ่งที่ไม่มีอุปสรรคเลยคือนักแสดง แอนโชคดีมาก แอนเชื่อในพรมลิขิต ว่าพอบางอย่างมันเจอคนที่เคมีเดียวกัน กลายเป็นว่าเขาอยู่กันได้และสร้างความสุขให้กับกอง เลยไม่ได้ปัญหาขัดแย้งหรือดรามาในกองเลย ทุกคนรักกันดี ไม่มีเรียกใครเข้าห้องดำเลย เพราะบทมันไม่ได้มีอะไรที่ต้องตีความซับซ้อน”

รับมีความกดดัน พอเป็น “แอน ทองประสม” ในฐานะผู้จัด
“ก็ด้วยแหละ พอความเป็นเราเนอะ แต่แอนในฐานะนักแสดง แอนก็ตั้งใจทำงาน เพราะฉะนั้นในความเป็นผู้จัด คนก็อาจจะคิดว่าแอนต้องเซ็ตสแตนดาร์ดไว้ในเลเวลใกล้กัน แต่แน่นอนแอนเป็นอย่างนั้น เราพยายามทำให้มันดีทั้งสองขา”

รู้คนยิ่งคาดหวัง พอได้มาทำร่วมกับ “แอ้ว อำไพพร จิตต์ไม่งง”
“ใช่ค่ะ คือแอนกับพี่แอ้วก็เป็นเหมือนนักผจญภัยที่เป็นพาร์ตเนอร์กัน ที่เราต้องเจอโจทย์ที่เปลี่ยนไปในทุกช่วงเวลา มันก็จะมีทั้งถูก ผิดพลาด ใช่ ไม่ใช่ เราก็เรียนรู้กันไป แต่ที่แน่ๆ สิ่งท่าเราสองคนทำ เรารักในงานเรา เราอยากทำให้มันดีที่สุด อยากทำให้คนดูมีความสุข เพราะฉะนั้นแอนกับพี่แอ้วก็จะมองกันรู้เรื่อง มันทันมือกันแล้ว ถ้าแอนหมดแรงปุ๊บ พี่แอ้วรับมือได้เลย หรือถ้าพี่แอ้วไม่ไหว ก็บอกแอนรับมือให้พี่ที คือมันไม่ต้องมานั่งตีความอะไรกันเยอะแยะค่ะ”

ความตั้งใจในการทำละคร แค่ที่อยากให้คนดูมีความสุข
“แอนอยากให้ทุกคนมีความสุข จริงๆ นะทำละครไม่มีอะไรเลย อยากให้คนดูและมีความสุขกับการดู ที่ผ่านมาแอนทำละครหลายเฉดมาก พอมาถึงเรื่องนี้อยากได้ละครฟีลกู๊ด ก็เลยหยิบเรื่องนี้มา แล้วคุณค่าของตัวละครคุณพระคือดีงามมาก หนึ่งในร้อยจริงๆ (ดีลต่อ ธนภพ เล่นเรื่องต่อไปเลยไหม?) ถ้ามีโอกาส ถ้าเขายังไม่เข็ดแอนนะ แอนรักเขา เวลาเจอนักแสดงที่ใช้หัวใจทำงานเราจะรู้สึกชื่นชม แต่จริงๆ ทุกคนที่ทำกับแอนดีหมดนะ แต่วันนี้เราพูดถึงคนนี้ ไม่อยากให้เอาไปเปรียบเทียบ

ถือเป็นการเรียนรู้ เวลาคนดูมีฟีดแบ็กว่าไม่เข้าใจ
“บางทีเราคาดการณ์ก่อนแล้ว ว่าเรามีความตั้งใจไปเวย์นี้ ถ้าไปอย่างนี้คนดูน่าจะรับได้ น่าจะเข้าใจนะ แต่พอทำออกมา มันจะมีก้อนที่รับได้มากๆ และบางจุดที่เขารับไม่ได้ ไม่เข้าใจ มันก็เป็นการเรียนรู้ของแอนไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเพราะอะไร ถ้าคุยกันด้วยเหตุผล แอนจะจับความคิดเขามาเรียนรู้ ต่อไปเวลาทำชิ้นงานอะไร เราจะได้ปรับ แต่ถ้าอันไหนที่ดีอยู่แล้ว แสดงว่าอันนี้การตัดสินใจของเราเฉียบคมแล้ว แอนก็ได้แต่เอามาประเมินตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่ได้ทำละครดูเองคนเดียว เราต้องฟังความคิดเห็นคนที่เขาดู แต่เป็นความคิดเห็นที่ต้องมาแบบมีเหตุผลกันนะ ว่ากันตามความรู้สึกที่อยู่บนเส้นของเหตุผล แอนก็จะเอามาใช้ประโยชน์ในการปรับตัวเองไปค่ะ

พร้อมรับฟังทุกคอมเมนต์ ที่อยู่บนเส้นของเหตุผล
“คือจะมีคอมเมนต์ที่เขาให้มุมมองว่าเขาชอบเพราะอะไร เราก็โอเคอันนี้เป็นคอมเมนต์บวก เราเก็บไว้ แต่ถ้าคอมเมนต์ว่าไม่ชอบเลย เพราะเหตุนี้ๆ เราก็เข้าใจแล้วว่าเขาสงสัยอะไร แต่ถ้าเป็นลักษณะของการโจมตี ความเกลียดชัง แอนก็จะถือว่าเราไม่ได้สามารถไปควบคุมตรงนั้นได้ เราต้องละไว้”

มีท้อบ้าง เวลาอยากทำสิ่งใหม่ๆ ที่หลายคนคาดหวัง แต่กลับเจอคำถามว่าทำไมๆ
“มันก็มีบ้าง เพราะคนทำงานเรา เราก็จะอ้าวเหรอ ไม่ได้เหรอ แต่ว่าคนเรามันมีออนมีอ๊อฟอยู่แล้ว เราโดนผลักมันก็ต้องมีเซ แต่เราก็ต้องกลับมายืนให้ได้ ชีวิตมันต้องไปต่อ เราจะไม่กดตัวเองให้รู้สึกแย่ แอนว่าเขาก็คงคาดหวังกับทุกคนนะ แต่ของแอนอาจจะโดนเล่นข่าวเยอะหน่อย โดนจับจ้องก็ไม่แปลก เพราะเราทำงาน แล้วแอนเป็นนักแสดงด้วย แอนเข้าใจบริบทตรงนี้มากๆ เขาใจสุดๆ ค่ะ”

เคลียร์ดรามาละคร “โลกหมุนรอบเธอ” หลังคนดูสาปหนักว่าบทบ้ง บอกโจทย์แรกคือการนำเสนอตัวละครที่เป็นสีเทา
“จริงๆ โดยความตั้งใจ โจทย์แรกของทางทีมเรา คือเราต้องการนำเสนอตัวละครที่เป็นสีเทา เป็นตัวละครที่มีการเติบโต มีการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัย ตอนเป็นเด็กเราคิดได้แค่นี้ พออีกช่วงวัยหนึ่งเราเติบโต เราเรียนรู้ไปอีกแบบหนึ่ง การคิดในวันนั้นมันไม่ใช่ มันส่งผลลัพธ์อะไรตอนเราโตขึ้น ตัวละครมันจะมีความหมุนเวียนเป็นมนุษย์ปกติ แต่พอออกมา บางทีการตัดสินใจของตัวละครบางจุด คนเขาอาจจะคิดว่าไม่อยากให้ตัดสินใจแบบนี้ ก็จะไม่ถูกใจเขา เราก็เข้าใจตรงนี้ได้ ถ้าเขาถาม เปิดโอกาสให้เราอธิบาย เราก็อธิบายไป ว่าเพราะอะไรเขาถึงทำแบบนี้”

มีคิดไว้ว่าสังคมต้องมีคำถาม แต่ไม่ได้คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้
“แอนคิดว่าเขาคงมีถาม แต่เราไม่ได้คิดถึงความรุนแรงว่ามันจะเบอร์ไหน เรารู้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องมีสงสัย อาจจะมีคำถามแน่นอน แต่อย่างที่บอกว่าบางคนอาจจะไม่อยากเห็นคนนี้ตัดสินใจแบบนี้ ไม่อยากเห็นนางเอกของฉันทำแบบนี้ ไม่เข้าใจสุดๆ เลย (คนมองว่าพระเอกนางเอกควรจะเป็นสีขาวถูกครรลอง?) ก็ถ้าเราจะทำละครในเรื่องต่อไป แอนก็ต้องหาละคนที่เป็นเฉดนี้ ก็จะชัดเจนไปเลย ไม่ต้องนำเสนอแบบเทา แค่น้้นเองค่ะ เพราะว่าอันนี้มันทำแล้ว มันไปแบบของมันแล้ว ก็ให้มันจบของมันไป

เข้าใจและเคารพทุกความคิดเห็น รู้แล้วว่าคนดูชอบทิศทางไหน เหลืออีก 2 ตอนจะมีคำตอบของทุกสิ่ง
“อย่างที่บอกว่าแอนเข้าใจและเคารพทุกความคิดเห็น ที่เขามีเจตนาที่ดีในการฟีกแบ็ก แอนก็จะได้เรียนรู้และจดจำ ว่าทิศทางแบบนี้เขาอาจจะไม่ค่อยปลื้ม เราในฐานะคนทำ เราก็ตามคนดูอยู่แล้ว เราก็จะปรับตัวเอง ว่าเลือกเวย์นี้อาจจะเซฟกว่า 

แต่ถ้าวันหนึ่งเราอยากทำละคร ที่เป็นมุมที่ไม่เซฟๆ อีก เราก็ต้องทำการบ้านในอีกรูปแบบหนึ่ง ณ เวลาตรงนั้นเดี๋ยวมันจะบอกเราเอง ว่าเราต้องเตรียมตัวยังไง แต่ว่าเราต้องให้พื้นที่กับคนที่เขาชอบด้วย อันนี้เราก็ขอบคุณที่หลายๆ คนยังเข้าใจทิศทาง 

แต่สำหรับคนที่มีคำถาม อันนี้แอนก็ได้แต่ค่อยๆ ย่อยสิ่งที่เขาฟีดแบ็กมา แล้วเราก็จดจำไว้ อันไหนเราปรับได้เราปรับ อันไหนรู้สึกว่าอันนี้เป็นกำลังใจไปต่อ…แอนไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันร้อยเปอร์เซ็นต์ นักแสดงทุกคนใช้หัวใจเล่นอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น เจมส์, โบว์, ไอซ์ พาริส และคนอื่นๆ ด้วย ก็ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมเดินทางกับแอน และนำเสนอสิ่งนี้ไปด้วยกัน

ตอนนี้เหลืออีก 2 ตอนสุดท้าย จะเป็นจุดที่ถ้าใครมีคำถามหรือมีความสงสัย บางอย่างมันก็จะถูกย่อยและตอบอยู่ในนั้นค่ะ ว่าอะไรคืออะไร บางทีทำไมมันติดลบ ทั้งๆ ที่เราตั้งใจ แต่บางคนออกแรงนิดเดียว ทำไมเขาได้คะแนนถึง 10 เพราะนี่คือชีวิต แต่โอเคมันอาจจะเรียลไปหน่อยในบางมุมของคนที่เขาต้องการน้ำหล่อเลี้ยงทางจิตใจ แอนเข้าใจได้ ก็เป็นหน้าที่ของเรา ว่าต่อไปเราทำละครก็ต้องจับทิศหน่อย แต่อันนี้แอนก็คือว่าเป็นความตั้งใจนะคะ แล้วแอนก็ยังภูมิใจในความตั้งใจของทีมงานทุกๆ คน แล้วก็ขอบคุณที่ยังมีกลุ่มคนที่เขาดูเรื่องของแอนอยู่ ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ”











กำลังโหลดความคิดเห็น