xs
xsm
sm
md
lg

“ภณ ณวัสน์” เผยแม่ห่วงเรื่องความรัก “คุกกี้ ญาดา” ขอค่อยเป็นค่อยไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ภณ ณวัสน์” ฟิตร่างเตรียมวิ่งมาราธอนที่กรุงเบอร์ลินกับ “คุกกี้ ญาดา” ตั้งใจเก็บให้ครบ 6 เหรียญใน 6 รายการทั่วโลก บอกมีความชอบเรื่องการออกกำลังกายเหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคือการกิน โอดรู้สึกผิดหากกินหมูกระทะ ยังไม่ได้พาไปหาแม่ ค่อยเป็นค่อยไป

ฉายาคู่รักนักวิ่งไม่เกินไปจริงๆ สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่ม “ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์” กับนางเอกสาว “คุกกี้ ญาดา สุวรรณปัฏนะ” ที่ล่าสุดหนุ่มภณเผยว่าวางแพลนเตรียมไปวิ่งแข่งมาราธอนที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันด้วยกัน และตั้งจะเก็บให้ครบ 6 เหรียญใน 6 รายการทั่วโลก

“จริงๆ ผมชอบวิ่งอยู่แล้วก็เลยอยากจะเก็บเหรียญทุกสนาม มันมี 6 รายการทั่วโลก อันนี้เป็นสนามที่ 2 ก็ลงวิ่ง 42 กิโลทั้งคู่ครับ ก็ต้องมีแผนการซ้อม พอเริ่มเดือนท้ายๆ ยิ่งเหนื่อยมาก แต่ก็เริ่มผ่อนแล้วครับ เพราะต้องเก็บแรงที่จะแข่งจริงวันอาทิตย์นี้ เป้าหมายตอนนี้ก็อยากจะเก็บให้ครบ 6 ดวงครับ มีที่โตเกียวไปแล้ว ที่สองคือเบอร์ลิน แล้วเดี๋ยวก็จะมีลอนดอน อีก 3 ที่ก็จะมีชิคาโก้ บอสตัน นิวยอร์กครับ

เขาเองก็อยากเก็บด้วยครับ ถ้ามีโอกาสก็คงไปด้วยกัน ฉายาคู่รักนักวิ่ง (หัวเราะ) ครับ ก็เราวิ่งเนอะ เล่นไตรกีฬาด้วย ก็ได้ฟังจากที่เขาให้สัมภาษณ์อยู่ครับ คือที่ต้องตื่นไปวิ่งกันตั้งแต่ตี 4 เพราะมันต้องซ้อมครับ ก็เจอกันเป็นเรื่องปกติ แต่ต่างคนต่างไปเจอกันที่โน่นครับ จริงๆ มันไม่เกี่ยวกับผมหรอก เขาชอบส่วนตัวอยู่แล้ว เขาเข้าก่อนผมอีก เขามีความตั้งใจอยู่แล้วว่าอยากจะเก็บ 6 สตาร์ให้ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

บอกมีความชอบเรื่องออกกำลังกายเหมือนกัน แต่ที่ต่างคือเรื่องการกิน
“นอกจากวิ่งแล้วมีอย่างอื่นที่เหมือนกันอีกไหม ก็มีหลายๆ อย่างที่คล้าย และมีความต่างก็มีนะ ต่างก็สนุกดี เป็นสีสัน เขาให้มาถามผมเหรอ (หัวเราะ) ที่ชอบเหมือนกันก็คือเรื่องการออกกำลังกายนี่แหละครับ ชอบการโฟกัสเวลาอยู่กับตัวเอง ความต่างก็เรื่องการกิน อย่างเช่นผมกินผักผลไม้ได้ทุกอย่าง แต่เขาชอบบางอย่าง แล้วก็ชอบอยู่แค่นั้น ที่เหลือก็จะไม่กิน

เขาบอกว่าผมชอบดุเขา จะเป็นในเรื่องของกินมากกว่าครับ คือเราค่อนข้างจะมีความเป๊ะ อาจจะเป็นข้อเสียก็ได้นะ แต่เราต้องมีความเป๊ะในเรื่องตารางซ้อม เพราะเราต้องการผลที่มันเอฟเฟกต์ทีฟ มันก็ต้องมีการวางแผน แต่เรื่องอุปกรณ์เขามากกว่าผมอีก ผมจะเป็นสายเพอร์ฟอร์แมนซ์มากกว่า แต่เรื่องการวิ่งไม่มีใครห้ามใคร ต่างก็สนับสนุนซึ่งกันและกัน ส่วนปัญหาว่าถ้าวิ่งมากๆ อาจจะเกิดเรื่องไขข้อเนี่ย จริงๆ เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีที่มากกว่านั้น เรื่องรองเท้าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็ดีมากๆ และเราไม่ได้วิ่งอย่างเดียว เรามีการเวทกล้ามเนื้อเพื่อให้มีความแข็งแรงมากขึ้นในการช่วยพยุงน้ำหนักที่กระแทกลงไป มันมีวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยด้วย”

บอกเตรียมลงแข่งไตรกีฬาเหมือนกัน เพราะฝ่ายหญิงเคยลงแข่งไปก่อนแล้ว
“ที่ผ่านมายังไม่เคยมีอุบัติเหตุนะครับ ก็ภาวนาว่าอย่ามีเลยครับ (หัวเราะ) คือเราก็พยายามรอบคอบที่สุดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง อย่างเช่นการวอร์ม ถ้าเราวิ่งระยะไกลแล้วเราไม่ได้วอร์ม หรือเติมสารอาหารไม่เพียงพอมันก็จะบาดเจ็บได้ เราก็ต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วย วิ่งมาราธอนมันคือการวางแผนระยะยาวครับ เรื่องของพาร์ตการซ้อมต้องยังไง พาร์ตแข่งยังไง ก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะครั้งนี้ 42 กิโล มันยาวมาก

แต่การวิ่งไตรกีฬา ต่างคนต่างชอบกันมาอยู่แล้ว ก็เลยได้มาเจอกัน แต่เขาจะไปไตรกีฬาด้วย ผมยังไม่เคยลงเลยนะ แต่ผมชื่นชอบอยู่แล้ว แต่ผมสมัครไว้แล้วช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ได้ลงแข่งไตรแรก แต่เขาไปไตรที่สองแล้ว เขาเคยลงมาก่อนหน้านี้แล้ว”

เผยยังไม่ได้พาไปเจอแม่ เพราะแม่ห่วง อยากให้โฟกัสเรื่องงานมากกว่า
“ก็ไม่งงนะที่เขาเปิดวาร์ปกันจนเจอ เพราะเราก็ไม่ได้ปิดอยู่แล้ว ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว ถ้าจะมีข่าวก็ไม่เป็นไร พอโดนถามเรื่องความรักตอนนี้ก็เริ่มชินแล้วนะ แฟนคลับเขาก็อยากเห็นโมเมนต์บ้าง ถามว่าแม่ว่ายังไง แม่ก็บอกว่าค่อยๆ ไป (หัวเราะ) เรื่องพาไปเจอแม่ ก็ค่อยๆ ไป ไม่รีบๆ คือแม่ก็ห่วงแหละ ไม่ได้หวงหรอก อยากให้ดูแลตัวเองดีๆ ผมก็ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กับแม่ ส่วนมากจะเป็นเรื่องงานมากกว่า รอให้มันเข้าที่เข้าทางก่อนค่อยว่ากัน”

บอกละครเรื่อง นับ 8 ต้องชกมวย เลยต้องทำตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ
“เรื่องนี้ต่อยมวยฉ่ำครับ แต่โชคดีที่เราวิ่งอยู่แล้ว ฉะนั้นเรื่องของร่างกายเราก็เตรียมความพร้อมตลอด ถามว่าต่อยมวยเหนื่อยกว่าวิ่งไหม มันก็เป็นกีฬาที่เหนื่อยมากๆ กีฬานึงเลย เราก็เตรียมความพร้อมไประดับนึงเพื่อพร้อมจะต่อยได้เป็นวันๆ เพราะเราไม่ใช่แค่ต่อย 3 ยก 5 นาทีอะไรแบบนั้น แต่เราต่อยกันทั้งวัน เพราะการถ่ายทำมันยาก

ซึ่งความยากของมวยไทยก็คือต้องใช้หมัด เท้า เข่า ศอกทุกอย่าง คือใช้ทั้งตัว เพราะฉะนั้นเราต้องวอร์มดีๆ ไหนจะต้องคุมอาหารอีก แต่ถ้าไม่กินก็ไม่มีแรงต่อยมวยอีก ก็ต้องมีอาหารที่จะมาเป็นพลังงานได้โดยที่เราไม่ได้อ้วนมาก ส่วนเรื่องบอดี้ก็เอาซิกแพ็กชัดไว้ก่อน ส่วนอื่นค่อยปั้นหน้างานได้ครับ เพราะซิกแพ็กทุกคนมีอยู่แล้ว แต่แค่ไขมันบังอยู่ ถ้าเอาไขมันออกไปก็จะเห็นซิกแพ็กชัด แต่ส่วนอื่นเราปั้มหน้าเซ็ตได้ พวกไหล่ อกมันปั๊มได้ ปั๊มแป๊บเดียวก็ขึ้นเลย

ช่วงที่ถ่ายเรื่องนี้ก็ต้องคุมอาหารครับ คุม 5 วัน แล้วก็ปกติสัก 2 วัน ก็กินกับข้าวบ้านทั่วๆ ไป ผัดผัก ไข่ต้ม แต่หมูกระทะผมไม่ค่อยกิน รู้สึกร่างกายเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยรับแล้ว ผมก็เลยไม่ค่อยชิน คือไม่ได้กินเพราะเริ่มมาดูแลตัวเองด้วย และพอไม่ได้กินนานๆ มันก็เลยไม่ชิน ก็เลยกินไม่ได้แล้ว แต่นานๆ กินที น่าจะปีละ 2 ครั้งมั้ง คือผมไม่ได้รู้สึกเอ็นจอยเท่าไหร่ มันแล้วแต่คนแหละ ผมกินแล้วรู้สึกผิดมากกว่า กินแล้วต้องไปวิ่งเลย”













กำลังโหลดความคิดเห็น