xs
xsm
sm
md
lg

ถูกด่าแรงเนรคุณ “พู่กัน-แมงปอ“ คู่รักโหนกระแส เครียดจนตัวสั่น ยันไม่เคยลืมบุญคุณใคร โทร.ปรึกษา “กรรชัย” เชื่อเป็นธรรมที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พู่กัน-แมงปอ” คู่รักโหนกระแส เครียดกับดรามาจนตัวสั่น แถลงแจงผู้มีบุญคุณตีกัน ยันไม่เคยลืมบุญคุณใคร รับโทร.ปรึกษา “หนุ่ม กรรชัย” เพราะเชื่อว่าเป็นกลางและเป็นธรรมที่สุด คิวงานยาวถึงสิ้นเดือน ต.ค. ฝ่ายชายเริ่มจีบใหม่ ลั่นห่วง “แม่ตั๊ก” เจอดรามาขายทองปลอม ให้กำลังใจสู้ๆ

หลังจากออกรายการโหนกระแส แล้วกลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน ล่าสุด “พู่กัน วรภัทร พูลเขตวิทย์” และ “แมงปอ ศิริเพ็ญ ทองอ้น” ก็ได้แถลงข่าวพร้อมผู้มีบุญคุณที่ให้งาน จนทำให้ตัวเองมีวันนี้ หลังจากที่มีกระแสดรามาเนรคุณ รวมทั้งแม่ค้าออนไลน์ซึ่งให้งานตีกันเอง โดยแมงปอ และพู่กัน ได้แถลงพร้อม เฟิร์น วรรณภา พวงสน, ซ้อฝัน จุฑามาศ สีดาว, ฝ้าย ธัญดา สันติสุขสม ยืนยันไม่เคยลืมบุญคุณใคร
 
พู่กัน : “ที่ผ่านมาก็มีผู้ใหญ่ให้โอกาสครับ มีงานให้มา ผมไม่เคยลืมผู้มีพระคุณทุกคนของผมเลยครับ ผู้ใหญ่ทุกคนล้วนแล้วแต่เมตตา เอ็นดูและหวังดีที่อยากจะให้งานผมครับ”

แมงปอ : “หนูก็ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆ คนค่ะที่ให้โอกาสและเมตตาหนูทั้งสองคน หนูสองคนไม่เคยลืมใครสักคนเลยที่มอบโอกาส ทำให้หนูมีวันนี้ ขอบคุณค่ะ”

พู่กัน : “ถามว่ารับมือกับโอกาสยังไงที่มีกระแสด้านลบและบวก ตอนหลังบ้านเราก็ต้องรับมือกับสภาพจิตใจของตัวเอง ก็อาจจะไม่ได้ดูมาก มันรับไม่ไหวครับ เครียดมากเลยอย่างเวลาเราจะไปทำงาน ก็ต้องแยกแยะ งานก็คืองาน อารมณ์ส่วนตัวก็คืออารมณ์ส่วนตัว”
 
เฟิร์น : “คือเมื่อวานเฟิร์นได้เจอน้อง เราก็ดูข่าวว่าอะไรยังไง แต่เราก็ไม่ได้ไปตัดสินน้อง เพราะเราก็คือนักธุรกิจคนนึง เฟิร์นทำการตลาด เฟิร์นก็ต้องการกระแสสื่ออยู่แล้ว พอน้องเจอเรา เขาก็ยกมือไหว้เลย แล้วน้องเขาตัวสั่นเลย เหมือนน้องกำลังเครียดกับดรามาอยู่ ก็เอ็นดูน้อง และสัมผัสได้ว่าน้องไม่ได้ผิดอะไรเลย น้องเคารพทุกคนที่มีพระคุณ

แต่ด้วยความที่น้องยังใหม่ อาจจะพูดไม่หมด หรือไม่ครบอะไรก็ตาม เฟิร์นมองว่าเราจ้างงานน้อง น้องก็มาทำงานให้เรามันก็จบ ก็ให้กำลังใจน้อง บอกว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวนะ น้องก็ต้องรับมือให้ทัน เจอใครก็ไหว้ให้หมด สิ่งสำคัญคืออย่าลืมตัว เฟิร์นจะบอกน้องเลยว่าคนที่เคยอยู่จุดสูงสุดก็ลงมาได้ แต่ความน่ารักที่เรามีอยู่ ยังไงมันก็ไม่หาย คนจ้างงานก็อยากจ้างต่อ ถึงไม่มีงานก็อยากสนับสนุน”

ฝ้าย : ”เพิ่งจะทราบว่าคุณพ่อของน้องอายุมากกว่าฝ้ายแค่ปีเดียวเอง ฉะนั้นน้องๆ สองคนก็คือเป็นลูกเราได้เลย ระยะเวลา 4-5 วันที่ผ่านมาก็จะโทร.หาน้องๆ ตลอด ไม่ว่าจะไปทำงานให้แบรนด์ใครก็จะคอยถามว่าขึ้นรถหรือยัง ผู้ใหญ่คนนี้ๆ เขาส่งน้องถึงหรือยัง เพราะทุกวันต้องใช้เวลาเดินทาง 4 ชม. จากมหาวิทยาลัยของน้อง

จริงๆ น้องอยากรับงานให้ทุกแบรนด์นะ แต่ด้วยความที่เขาเรียนหนังสือด้วย ปีนี้ก็ปี 3 แล้ว และผู้ใหญ่ทุกคนที่จ้างงานน้องก็ต้องขับรถไปรับไปส่งน้อง ไปกลับนครสวรรค์ก็ 7-8 ชม. และ 4-5 วันที่ผ่านมาน้องได้นอนตี 5 แทบทุกวัน และช่วงนี้น้องกำลังทำงานกลุ่มด้วย ก็เลยอาจจะมีการขาดเรียนไปบ้าง ฝ้ายก็พยายามให้กำลังใจน้องเพราะเราก็อยู่ในวงการนี้มานาน หนูก็จะสอนว่าเวลาเจอผู้ใหญ่ก็ให้มีสัมมาคารวะ และน้องๆ เขาก็เป็นเด็กที่สัมมาคารวะ เป็นเด็กที่นอบน้อมอยู่แล้ว

ฝ้ายก็เคยคุยกับเขาเล่นๆ ว่าจะเอารถไหม เอามอเตอร์ไซค์หรือจักรยานก็คุยกันเล่นๆ แล้วพู่กันเขาก็บอกว่าผมไม่ได้อยากได้ แต่อยากให้ไปช่วยดูพ่อผมหน่อยได้ไหม พ่อกำลังลำบากมาก จะไปทำงานก็ต้องคลุมผ้าเป็นไอ้โม่งปิดหัว ได้เงินแค่วันละ 300 บาท เพราะหลังจากจบข่าววันนั้นไปก็โดนกระแสรุนแรงเหมือนกัน

ทีนี้ฝ้ายก็เลยคุยกับแฟน แล้วพอดีฝ้ายกำลังทำบ้านอยู่ ก็เลยจะให้พ่อของน้องมาทำก่อสร้างให้ที่บ้าน ก็ตกลงกันว่าเงินสินสอดก้อนสุดท้ายของน้อง ฝ้ายจะเป็นคนรับผิดชอบให้ เพราะน้องเขาก็น่าเอ็นดู ทีนี้พ่อเขาไม่รับเงินก้อน ขอรับเป็นเงินที่ซื้อของเป็นอย่างๆ ไป ก็จะเป็นเงินค่าน้ำพักน้ำแรงของพ่อเขา ส่วนเงินสินสอดก้อนสุดท้ายหนูจะรับผิดชอบให้”

พู่กัน : “จริงๆ ผมกับพ่อก็ไม่ได้ผิดใจอะไรกับครับ แค่พูดคุยกันยากหน่อยครับ แต่ตอนนี้ก็คุยกันสบายใจขึ้นครับ ตอนนี้พ่อก็มีความหวัง มีกำลังใจมากขึ้น เพราะว่ามีงานเข้ามา เขาก็อยากจะทำให้มันเต็มที่ครับ”

ซ้อฝัน : “หนูโดนดรามาเรื่องค่าตัวน้องค่ะ คือตั้งแต่จบรายการโหนกระแส หนูก็ได้มีการโพสต์ตามหาน้อง ซึ่งเราก็คิดว่าพาน้องมาทำงาน หนูไม่รู้จริงๆ ว่าต้องให้ค่าตัวเท่าไหร่ เพราะเราไม่รู้ว่ากระแสเขาจะมากน้อยแค่ไหน แม่ยกเขาจะมีมากน้อยแค่ไหน แต่งานของแบรนด์หนูเอง หนูให้ได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามันไม่ปังล่ะเราจะทำยังไงให้เด็กมีงานเพราะเราชวนเขามาแล้ว หนูก็เลยติดต่อไปหาแม่เฟิร์นกับแม่ฝ้ายแล้วก็แม่ตั๊ก (กรกนก) ว่าของานให้น้องหน่อยได้ไหม แล้วหนูก็จะโดนหนักที่สุดคือเรื่องค่าตัว

จริงๆ หนูก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เพราะเราไม่เคยพาเด็กมาทำอย่างนี้ ตอนแรกก็คิดว่าค่าตัวคนละ 20,000 น่าจะโอเค และแม่ๆ ที่หนูพาไปหางานให้เขาก็น่าจะโอเคกับค่าตัวของเด็กที่ไม่ได้แรงมาก และหนูรู้ว่าแม่ๆ 3 คนเขาเปย์หนักอยู่แล้ว เขาก็ยิ่งเอ็นดูว่าน้องๆ ที่ไม่ค่อยมีเงินเรียน แต่งานอื่นที่เข้ามาหาน้อง น้องเป็นคนดีลงานเอง รับงานเอง และเรียกเงินค่าตัวเอง ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับหนู ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าหนูเป็นแค่คนคอยแนะนำน้อง หนูไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของน้อง และหนูก็ไม่เคยตั้งเรตราคาว่าจะต้อง 20,000 ตลอดอย่างที่เขาดรามากันว่าควรได้เป็นแสน ซึ่งงานที่หนูหาให้ก็มีแค่ของแม่ฝ้าย แม่ตั๊ก แม่เฟิร์น และที่เหลือคนที่ดีลงานมาหาน้อง น้องก็สามารถเรียกค่าตัวได้เลย แล้วแต่ความเหมาะสมของน้อง”

เคลียร์กับญาติเข้าใจกันแล้ว ยืนยันไม่ได้เซ็นสัญญากับใคร
แมงปอ : “ที่มีคนมาบอกว่าเป็นผู้จัดการพวกหนู คือตอนที่มีเรื่องหนูก็ไปดูว่ามันเกิดเพราะอะไร เหมือนพี่เขาไปไลฟ์สดในติ๊กต๊อก แล้วเขาอาจจะพูดเล่นหรือพูดจริง ด้วยความที่เขาเป็นคนพูดเล่นอยู่แล้ว แต่ประชาชนที่เล่นโซเชียลเขาไม่ได้อยู่กับพี่คนนี้ตั้งแต่เด็ก ก็เลยจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีบุคลิกยังไง พอคนเห็นก็เอาไปตัดคลิปลงแล้วก็กลายเป็นดรามากันไป

แต่หนูก็อยากให้ทุกคนเห็นใจพี่เขา เพราะหนูกับพี่คุยกันเรียบร้อยแล้ว เราเข้าใจกันดีค่ะ เป็นญาติกันค่ะ แต่ยืนยันว่าพวกหนูไม่มีผู้จัดการส่วนตัวค่ะ ไม่เคยเซ็นสัญญากับใครค่ะ แต่ที่มีบอกว่ามีทักไลน์มาแต่หนูไม่ตอบ คือหนูพยายามตอบแล้วค่ะ แต่หนูต้องมีเรียนด้วยค่ะ”

ฝ้าย : “อันนี้ต้องแก้ข่าวให้น้องเลยจริงๆ ที่ว่าดังแล้วไม่ตอบไลน์ คือขนาดฝ้ายขับรถไปรับน้องที่โรงเรียนยังหาพิกัดไม่ได้เลย เพราะน้องไม่ได้ส่งพิกัดมาให้ เพราะน้องติดเรียนอยู่ ขนาดเรารู้จักกันนะ ก็คือน้องไม่ได้ตอบไลน์แม้กระทั่งคนที่ไปรับ แล้วน้องก็ส่งรูปมาว่าผมกำลังเรียนอยู่นะครับก็อยากให้เข้าใจน้องด้วย เราก็รอจนกว่าน้องจะเลิกเรียน ซึ่งเวลาน้องจะมาทำงานที่กรุงเทพฯ ทุกแบรนด์จะต้องไปรับน้องค่ะ ไปรับไปส่งเลย”

ซ้อฝัน : “คือน้องพู่กันเรียนพละ ส่วนน้องแมงปอเรียนครูปฐมวัย ก็จะขาดเรียนไม่ได้เลย เพราะจะจบแล้ว ถ้ามีงานติดต่อมา น้องก็ต้องขอให้ไปรับที่นครสวรรค์ พอไลฟ์สดเสร็จก็ต้องไปส่งที่นครสวรรค์ แต่คิวงานของหนูหรือของแม่เฟิร์น แม่ฝ้ายก็จะเลือกทำงานแค่เสาร์-อาทิตย์ เพื่อไม่ให้กระทบการเรียนเขา แต่ถ้าวันอื่นๆ ถ้าเขาอยากจะรับก็ให้เขาเคลียร์เวลาของเขาเอง”

แมงปอรับเริ่มปรับตัวได้แล้ว คิวงานยาวไปถึงสิ้นเดือนต.ค.
แมงปอ : “ตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวได้แล้วค่ะ เพราะหนูก็มือใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ก็จำเป็นต้องพัฒนาตัวเองและขอคำปรึกษาจากพี่ๆ แม่ๆ อยู่ค่ะ ตอนนี้คิวงานก็เยอะไปยันสิ้นเดือนตุลาคมเลยค่ะวิธีเลือกรับงานหนูก็จะดูว่างานเร่งไหม เพราะหนูยังต้องเน้นเรียนเป็นหลัก ถ้าพี่เขาเร่งมาก หนูก็คงจะรับไม่ได้ เพราะว่ามันตรงกับเรียน ก็ปรึกษาแม่ๆ ตลอดค่ะ”

ป้องดรามา “แม่ตั๊ก” ขายทองปลอม เป็นเรื่องละเอียดอ่อน พูดแทนไม่ได้
เฟิร์น : “ในมุมของเรามองว่าเรื่องของแม่ตั๊กมันแรงและละเอียดอ่อนมากๆ เฟิร์นอยากให้ทางแต่ละฝ่ายเขาตอบกันเองดีกว่า เพราะมันเริ่มจะเข้าด้านกฎหมายแล้ว เราพูดอะไรคงไม่ได้ โดยเฉพาะน้องด้วยเฟิร์นว่าก็ให้เขาเคลียร์หรือออกมาพูดกันเองดีกว่า ส่วนเราก็เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย เพราะเฟิร์นก็เคยผ่านเรื่องดรามามาเยอะ เฟิร์นขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายดีกว่า เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไงตั้งแต่เริ่มต้น เฟิร์นว่าน้องก็เป็นห่วง เพราะเขาก็เคยจ้างงานน้อง เอ็นดูน้อง มีอะไรให้น้องเยอะแยะ”

พู่กัน : “ก็เป็นห่วงครับ เพราะแม่เขาก็เคยให้โอกาส ให้อะไรหลายๆ อย่าง ก็สู้ๆ นะครับแม่ ผมอยู่ข้างแม่เสมอครับ เป็นกำลังใจให้แม่”

แมงปอ : “หนูก็เป็นห่วงเหมือนกันค่ะ เพราะแม่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณกับหนูเหมือนกัน ก็อยากจะให้กำลังใจแม่ค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หนูก็ยังรักและเคารพแม่เหมือนเดิมค่ะ”

รับ “แม่ตั๊ก” สร้างบ้านให้ โอนโฉนดเป็นชื่อของทั้งสองคน บอกเรียกว่าเป็นเรือนหอก็ได้
แมงปอ : “แม่ตั้กไปสร้างบ้านให้ค่ะ ส่วนโฉนดก็ทำการโอนให้เป็นชื่อของพวกหนูทั้งสองคน เป็นสิทธิร่วมกันค่ะ แล้วแม่ตั๊กก็ดำเนินการให้ทุกอย่างเลยค่ะระหว่างการสร้างบ้าน ตอนนี้กำลังดำเนินการค่ะ”

พู่กัน : “เรียกว่าเป็นเรือนหอก็ได้ครับ (ยิ้ม)”

โทร.ปรึกษา “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เพราะเครียด เชื่อเป็นกลางและเป็นธรรมที่สุด
พู่กัน : “ผมเครียดครับ คือผมไปอ่านฟีดแบ็กจากในโซเชียลก็รู้สึกกดดัน และเป็นห่วงแมงปอด้วย ห่วงสภาพจิตใจของเขา ก็เลยไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไง ก็เลยอยากจะปรึกษาพี่หนุ่ม เพราะผมคิดว่าพี่หนุ่มน่าจะเป็นกลางและเป็นธรรมที่สุด ก็ได้คำตอบรับกลับมา ผมก็สบายใจ ผมเข้าใจที่พี่หนุ่มบอกครับ

ถามว่าการใช้ชีวิตยากขึ้นไหม มันก็ไม่ยากครับ เพราะเมื่อก่อนผมเป็นยังไง ตอนนี้ผมก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่มันก็ต้องมีเรื่องการบริหารเวลาให้ลงตัว ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้กระทบฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แต่คอมเมนต์ที่มาว่าจนรู้สึกรับไม่ได้ก็มีครับ อย่างเช่นเขาว่าเนรคุณ แต่จริงๆ ผมไม่เคยลืมใครสักคนเลยครับ เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีพระคุณ และคนที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือพี่หนุ่ม กรรชัย เพราะเป็นคนที่นำเสนอเรื่องราวของพวกผมออกไป จนทำให้พวกผมได้มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้อย่างทุกวันนี้ (ยกมือไหว้) แล้วก็ขอบคุณเอฟซีทุกคนที่ช่วยซัปพอร์ต ทุกคนเป็นพลังบวกให้ผมมากๆ เลยครับ”

รับงานเพลงติดต่อเข้ามาแล้ว
แมงปอ : “งานแสดงยังไม่มีค่ะ แต่มีงานเพลงติดต่อมาแล้วค่ะ”

พู่กัน : “แต่ผมก็ต้องคิดก่อนว่ามันจะกระทบกับเรื่องเรียนไหม เพราะเรื่องเรียนสำคัญที่สุดครับ ถ้าเรียนจบผมก็อยากเป็นครูพละที่มีคุณภาพครับ แล้วก็ถ้าได้ร้องเพลง ก็จะเป็นครูพละที่ร้องเพลงได้ครับ”

พูดชัด ไม่ได้เซ็นสัญญากับใคร
พู่กัน : “ไม่มีครับ แค่มีพูดกับพี่คนนึงไว้ว่าไม่รู้วันนึงกระแสมันจะขึ้นอย่างนี้อยู่หรือเปล่า หรือดาวน์ลง ก็มีคุยกันไว้ว่าถ้าเกิดวันนึงถ้าไม่มีงาน ก็ไปหาพี่เขาได้ ตอนนี้ผมก็ตั้งเป้าว่าอยากจะเก็บเงิน แล้วก็เรียนให้สูงที่สุดครับ ถ้ามีโอกาสเรียนก็อยากจะเรียนให้มากที่สุด ถ้ามีงานเข้ามาก็จะไม่ดร็อปเรียนครับ ผมเสียดายการเรียนมากเลย เพราะที่ผ่านมาผมก็ปูรากฐานเพื่อที่อยากจะเรียนทางนี้ครับ”

แพลนชีวิตคู่เริ่มจีบใหม่ ซ่อมแซมในจุดที่เคยทำผิดพลาด
พู่กัน : “เราก็ต้องปรับความเข้าใจและอนาคตจะเป็นยังไงก็ให้มันอยู่ในความเหมาะสมที่มากกว่านี้ครับ ซ่อมแซมในจุดที่เราเคยทำผิดพลาดไปด้วยครับ ตอนนี้เราก็เหมือนคบหาดูใจกันใหม่เลยครับ เหมือนเริ่มจีบใหม่ มาเจอกัน เริ่มคุยกันใหม่ถามว่าหวานไหม หวานไหมจ๊ะ (ถามแมงปอ)”

แมลงปอ : “(หัวเราะเขิน) หวานค่ะ”

พู่กัน : “ก็เหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดูแลกันเหมือนเดิม แต่ต้องมีขอบเขต สุดท้ายก็อยากจะขอบคุณแม่ๆ พ่อๆ และเอฟซีทั้งหลายที่เป็นกำลังใจให้ผมและแมลงปอ ก็อยากให้พ่อๆ แม่ๆ เอ็นดูและรักพวกผมสองคนอย่างนี้ไปตลอดครับ”

แมงปอ : “หนูก็ขอขอบคุณแม่ๆ พ่อๆ ทุกคนที่เอ็นดูพวกหนูด้วยนะคะ ถ้าไม่มีทุกคนหนูคงไม่มีวันนี้เหมือนกันค่ะ”









กำลังโหลดความคิดเห็น