“ณเดชน์” เผยต้องแลกลิ้นกับผีใน “ธี่หยด 2” แค่มุกเท่านั้น ไม่กดดันอาถรรพ์ภาค 2 คนรอดูเยอะ รับกลัวผีสุดๆ ภาคแรกพกพระเข้ากองเพียบ แต่โชคดีไม่เคยเจอ เผยบ้านที่ขอนแก่นไม่ได้โดนน้ำท่วมมาก เพราะทำบ้านสูง อวดกล้ามแน่นขึ้น BTS เพราะอากาศร้อน กับญาญ่า ได้แต่งไหม ให้ลุ้นปลายปีหน้า
ประสบความสำเร็จอย่างมากในภาคแรกสำหรับภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด ล่าสุดวันนี้ได้มีการบวงสรวง ธี่หยด 2 เป็นที่เรียบร้อย ณ อาคารมาลีนนท์ ถ.พระราม 4 ซึ่งพระเอกของเรื่องอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ก็เผยว่าไม่กดดันและไม่หวั่นเรื่องอาถรรพ์ภาค 2 เพราะได้รับฟีดแบ็กเรียกร้องจากคนดูมาเยอะ และมั่นใจว่าภาคนี้คนดูเต็มอิ่มแน่นอน
“ไม่กดดันครับ ในเรื่องรายได้ผมมองว่าอาจจะเป็นสิ่งพิเศษที่เกิดขึ้นในภาคแรก แต่ผมรู้สึกว่าความรู้สึกของคนดูที่รอคอยจะได้ดูภาค 2 มันมีคุณค่ากับจิตใจผมมากกว่ารายได้ ไม่ว่าผมจะไปไหนมีแต่คนพูดถึงธี่หยดเยอะมาก ถามหาธี่หยดภาค 2 ว่าเป็นยังไง จะมันส์ขนาดไหน ชอบมากเลยภาคแรก อยากรอดูว่าไอ้ผีชุดดำมันจะตายยังไง มีคนอยากที่จะดูมาก และสิ่งเหล่านี้มีคุณค่ามาก เรารู้สึกว่ายังไงคนดูก็สนุกแน่นอนครับ ผมว่าภาคนี้คนดูชอบและจะรู้สึกว่าอิ่ม
ส่วนเรื่องอาถรรพ์ภาค 2 เข้าใจได้ครับว่าภาค 2 ในแง่ของภาพยนตร์มันอาจจะมีเปรียบเทียบ แต่ส่วนตัวแล้วภาค 2 มันเป็นเรื่องที่เราก็แต่งเติมขึ้นมาจากภาคแรก ใครหลายคนอาจจะอ่านหนังสือมาว่ามันอาจจะเป็นส่วนนึงของหนังสือ บางทีอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดครับ เรายกเอาไอเดียบางอย่างจากหนังสือมาเพิ่มเติมแต่งให้มันมีอรรถรสมากขึ้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นเรื่องราวการเดินทางล้างแค้นผีชุดดำต่อหลังจากที่แย้มได้เสียชีวิตไป”
ไม่ตอบจะมีภาคต่อไหม แต่ทุกอย่างมีความเป็นไปได้
“ผมรู้สึกว่าตอนจบของภาค 1 ผมในตัวละครและคนดูเก็บเอาความรู้สึกว่าความคาใจ ความรู้สึกที่ยังไม่จบ เหมือนความเคียดแค้นยังไม่จบ แต่ภาคนี้จะมีทุกอย่าง จะมีตั้งแต่ผีชุดดำเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้ ใครเป็นคนที่คอยช่วยเหลือมัน และภาคนี้เราเสริมเหตุการณ์ว่าน้องมีนหรือบดินทร์จะมาแต่งงานกับหยาด เพราะฉะนั้นมันมีพัฒนาการของตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ทุกคนก็ยังรู้สึกว่ายังเดินทางใช้ชีวิตไปกับความสูญเสียนั้นอยู่ แต่ว่ายักษ์เป็นคนนึงที่ชัดเจนในความรู้สึก คือเข้าใจว่าน้องจะมีงานแต่ง แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างมันจะไม่จบถ้าผีชุดดำไม่ตาย และจะจบลงหรือเปล่าก็ต้องมาดูอีกที มันไปได้อีก แต่ผมรับรองว่าอิ่ม จบครับ
ถามว่าจะเป็นจักรวาลธี่หยดไหม ส่วนตัวเท่าที่คุยกับพี่ผู้กำกับ เขาอยากให้คนดูรู้สึกว่าอิ่มทั้งพาร์ตของความรู้สึก ทั้งแอ็กชั่น ทั้งความน่ากลัวที่เราเพิ่มทวีคูณมามาก ด้วยอิทธิฤทธิ์ของผีชุดดำมันจะแข็งแกร่งขึ้น และพาร์ตของแย้มที่จะเข้ามาอยู่ในเรื่อง แต่ถามว่าจะมีภาค 3 ไหม ไม่ได้ๆ พูดไม่ได้ ไม่รู้”
บอกซิกแพ็กมาแน่ ส่วนที่ว่าเลิฟซีนกับผีแค่มุกคุยกันขำๆ
“คือต่อให้ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตัวยักษ์ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองที่จะสร้างเกราะป้องกัน ทั้งเล่นเวท ทั้งหาของอุปกรณ์ที่จะมาต่อกรกับผีชุดดำให้ได้ แต่ไม่ใช่แค่ยักษ์คนเดียวครับ ทุกคนก็มีพัฒนาการในการโตขึ้นด้วย และเรามีแก๊งนักแสดงมาแจมในการไปตามหาผีชุดดำมาร่วมแจมกัน
ผีในภาคนี้ถามว่าจะน่ากลัวแค่ไหน มันจะมีพาร์ตในป่าและพาร์ตในโรงแรมด้วย ความอึดอัดของสถานที่กับสิ่งที่ผีชุดดำมันเล่นกับตัวละคร มันจะมีอะไรที่พิเศษมากขึ้น ด้วยเทคนิคการถ่ายทำก็เพิ่มขึ้นด้วย ผมรู้สึกว่ามันจะอึดอัด มันจะน่ากลัว และจะตะลึง ภาคนี้เหนื่อยกว่าภาคแรกเยอะครับ นักแสดงทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหนื่อย ทั้งวิ่ง ทั้งโดนผีกระทำ ทั้งเรื่องซีจี เอฟเฟกต์อะไรต่างๆ มันเยอะมากๆ ครับ
ส่วนเลิฟซีนกับผี เป็นกิมมิกเฉยๆ ครับ (หัวเราะ) ที่เห็นภาคแรกยายช่วยแกจะแลบลิ้นใช่ไหม ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นวิธีการสื่อสารของผี พอภาค 2 มันก็มีที่ผีจะแลบลิ้นใส่ ก็จะมีซีนที่ใกล้กัน ในมูทแอนด์โทนมันไม่ใช่เลิฟซีนหรอก แต่เราก็พูดเป็นเรื่องตลก เรื่องทะลึ่งกันว่าแลกลิ้นกับผี คือนัยยะในเรื่อง ลิ้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าดูจะรู้ว่าทำไมต้องเป็นลิ้น”
ยอมรับกลัวผีมาก ภาคแรกขนพระไปกองด้วย
“เรื่องแปลกๆ ผมไม่เจอนะครับ ส่วนใหญ่เราก็เคารพ เพราะมันก็เป็นเรื่องจริงที่ถูกเล่ากันมา เราก็ยกมือไหว้ ขอโทษ ขออภัยหลังจากเลิกกอง แต่พวกจูเนียร์กับเซนก็ทะลึ่ง บางทีก็มองหาอะไรมืดๆ ดำๆ แถวๆ ฉาก แต่ก็ไม่ถึงกับโหวกเหวกโวยวายส่งเสียงท้า แต่ที่โรงแรมที่ไปถ่ายคนในกองมีเจอครับ เหมือนมีคนเดินมา ทั้งที่จริงแล้วไม่มีใครตรงนั้น เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างเก่าพอสมควร ผมเป็นคนกลัวผีด้วย แต่ตอนเล่นไม่กลัวนะ เพราะเรารู้ว่ากำลังทำงานอยู่ พยายามจะไม่กลัวผี คือด้วยตัวละครมันไม่กลัวด้วย เพราะมันต้องการจะจบเรื่องนี้สักที
ไม่ถึงกับขนหิ้งพระที่บ้านไห แต่ภาคแรกมีนิดหน่อย มีถุงพระ ถุงสร้อย ถุงตะกรุด ตอนที่ไปถ่ายต่างจังหวัดภาคแรก แต่ภาคนี้จะน้อย ก็ไม่มีอะไรตามมานะ เพราะผมลาเขาก่อน (หัวเราะ) ก็บอกว่าถ้ามีอะไรที่ล่วงเกิน กายวาจาใจอะไรที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี อโหสิกรรมด้วยนะ ขอบคุณมากๆ ที่ให้มาถ่ายทำวันนี้ ผมมีเซ้นส์ก่อนที่จะมีเซ้นส์จริงๆ ครับ คือไม่เอา วางแผนชีวิตเพื่อที่จะไม่ให้เจอผี ถ้าผีอยากเจอผม เขาคงเจอคงเห็นแหละ แต่ว่าช่องทางการสื่อสารเราอาจจะไม่ตรงกัน ผมปิดชาแนลไปแล้ว ไม่เอา ผมไปบวชวันแรกผมยังหิ้วจีวรกับบาตรไปนอนกับเพื่อนเลย ผมกลัวผี”
เผยบ้านที่ขอนแก่นน้ำท่วมตลอด แต่ไม่ได้หนักมาก
“คือตอนนั้นขอนแก่นฝนตกหนัก เมื่อก่อนทุ่งนารอบๆ หมู่บ้านจะค่อนข้างเยอะ น้ำระบายออกได้หลายช่องทาง พอเวลาผ่านไปข้างๆ หมู่บ้านมีคนมาถมที่สร้างบ้าน เป็นอาคารพาณิชย์ เป็นหมู่บ้าน ทีนี้ที่ดินแถวที่เป็นนาเคยระบายน้ำให้หมู่บ้านแต่ก่อนมันก็เลยน้อยลงไปเรื่อยๆ การระบายน้ำมันเลยช้า ด้วยลักษณะท่อ หมู่บ้านมัน 50 ปีแล้วก็ยังเป็นแบบเก่าอยู่มีวิธีการระบายน้ำที่ค่อนข้างช้ามากๆ แล้วหมู่บ้านตอนนี้มันต่ำกว่าถนน ก็เป็นเหตุปัจจัยว่าทำไมถึงได้น้ำท่วม มันท่วมมาจากฝนตกมากกว่า แล้วพอสักบ่ายๆ ก็แห้งแล้ว
มันอาจจะไม่ได้เข้ามาอยู่ในข้างในบ้านเลย อยู่แค่ลานจอดรถ จริงๆ มันก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง จะเป็นช่วงเวลาที่พายุเข้า ฝนตกประมาณสัก 3-4 วันต่อปี ก็ไม่เท่าไหร่ เพราะบ้านยกสูงอยู่แล้ว แต่ที่แม่แก้วแคปชั่นบอกว่า ณเดชน์มาช่วยขนของหน่อย อันนี้แม่แซวผ่านไอจีเฉยๆ ครับ (หัวเราะ) ผมว่าที่บ้านผมมันไม่น่ากลัวเท่ากับที่ผู้ประสบภัยทางภาคเหนือเจอที่เป็นอุทกภัยจริงๆ ส่วนตัวไม่ค่อยกังวล ตัวบ้านกับพื้นลานจอดรถค่อนข้างสูงอยู่แล้ว แล้วก็มีหลายชั้น ปลอดภัย”
บอกตอนนี้อาการบาดเจ็บไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว แค่อย่ากระแทกรุนแรง
“สุขภาพดีขึ้นแล้วครับ ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาซ้อมแบบเต็มสตรีมแล้ว ก็เพิ่งได้มีโอกาสเจอพี่ชาย (ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ) ซึ่งจะมาเล่นแทนพี่กบ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ประมาณ 3 วัน ก็ถือว่าเป็นการกลับมาที่ค่อนข้างพร้อมและเต็มที่ครับ ความรู้สึกเหมือนเราโหยหาและคิดถึงอยากจะกลับมาเพอร์ฟอร์มในเวทีรัชดาลัยอีกครั้งหนึ่ง การเล่นละครเวทีฟ้าจรดทรายทำให้เรามีแรงผลักดันมากขึ้น ก็ตื่นเต้นครับ เต็มร้อยครับ แอบเกินร้อยแหละ เพราะมันมีความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เราก็รู้สึกกลับมาครั้งนี้เราอยากจะทำทุกอย่างให้มันดีมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเรื่องของการร้อง เรื่องของใจ เรื่องการดูแลตัวเอง ให้มันพร้อมเต็มที่มากขึ้น
อาการบาดเจ็บตอนนี้ไม่เป็นแล้วครับ ทุกอย่างคุณหมอคอนเฟิร์มแล้วว่าเต็มที่ได้ ใช้งานได้ปกติ แต่แค่อย่าไปให้มีอะไรกระแทกรุนแรงจนเกินไป อาจจะเสี่ยงได้ ตอนนี้ไม่มีอาการแปล๊บๆ แล้ว ได้ลองซ้อมแล้วปลอดภัยดีครับ สบายใจครับ ก็อยากให้คนดูสบายใจด้วยครับว่าเราพร้อมกลับไปเต็มที่ พร้อมครับ ก็เริ่มกลับมาร้องเพื่อให้เส้นเสียงมันได้คุ้นชินถี่ขึ้น จริงๆ อยู่บ้านเราก็วอร์มไปเรื่อยๆ แต่ว่าการได้มีโอกาสมาซ้อมร้องมันมีดีเทลหลายอย่างที่ทางคุณครูจะเพิ่มเติมให้เราได้เพื่อให้มันดีขึ้นกว่าเดิม มีการวางแผนการใช้เส้นเสียงให้ดีขึ้นกว่าเดิม”
เผยที่ใส่เสื้อกล้ามขึ้นบีทีเอสเพราะร้อน และช่วงนี้ฟิตร่างกายด้วย
“มันร้อนก็เลยใส่เสื้อกล้าม คนก็มองปกติครับ คนอยู่บีทีเอสเขาก็มอง ยิ้มให้ ก็ไม่ได้ถึงกับขนาดกรี๊ดกร๊าดกรูเข้ามา แต่ผมน่ะเขิน เหมือนเรารู้สึกมีคนมองเยอะๆ ก็จะอึดอัดหน่อย แต่เราก็ต้องมองกลับไป เพื่อให้รู้สึกว่าเราไม่ได้หยิ่งว่าเฮ้ยอย่ามามองเรานะ เราก็ทักทายกลับไป ก็มีคนมาทักบ้าง มีมาขอถ่ายรูปบ้าง บางคนก็มาถามมาคุยด้วย บอกว่าชอบละครเวที บางคนก็บอกรอดูธี่หยด2 อยู่นะครับ
มันก็รู้สึกดีนะที่เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคนที่เขาคอยติดตามผลงาน คอยชื่นชมเรา ก็เป็นการปฏิสัมพันธ์ที่เราเองก็รู้สึกว่าเราเองก็ดีใจที่คนรู้สึกว่าอยากคุยกับเรา คนชมว่ากล้ามแน่น ก็ใส่เสื้อกล้ามเนอะ ช่วงนี้กำลังฟิตหุ่นเพื่อเตรียมตัวกลับไปเล่นละครเวทีครับ แต่จะลีนลงกว่านี้ พยายามจะให้มันฟิตกว่านี้ ช่วงนี้กำลังปั้นอยู่ ช่วงครึ่งปีหลังก็เมากล้ามกันไป เอาเลยเต็มที่ แต่ก็ยอมไม่ได้เพราะว่าพี่ๆ นักแสดงที่อยู่ในฟ้าจรดทรายทุกคนรับรองว่าก็คงฟิตหุ่นมาโชว์บนเวทีแบบเต็มที่เหมือนกัน”
เผยจะได้แต่งปีหน้าไหมยังต้องลุ้น เพราะแพลนงานแน่นมาก
“บอกญ่า (ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันต์) แล้วว่าหลังตุลาคมเป็นต้นไป เราจะหนักมากๆ นะเรื่องงาน ก็บอกให้เขาเข้าใจ เขาก็บอกว่าพอจะเดาได้แหละว่าเธอต้องเป็นอย่างนี้ ว่ามันจะต้องหนักมากๆ เพราะว่าทุกอย่างมันถูกย่นมาที่ช่วงท้ายปีหมดเลย งานตอนนี้ก็ไปถึงก่อนคริสต์มาสแล้วครับ คืองานสุดท้ายที่จะรับยังโปรโมตธี่หยด 2 อยู่ครับ ปีหน้าเดี๋ยวรอดู จริงๆ มีละครทางช่อง3 แต่ยังไม่ได้ลงดีเทลอะไร ฟ้าจรดทรายจบธันวาคม โปรโมตธี่หยด และเดี๋ยวมีไปต่างประเทศอีกแค่นั้น ปีหน้าก็แน่นกลับมาถ่ายละครเหมือนเดิม งานแต่งก็ลุ้นกันปลายปีหน้าอีกที เดี๋ยวบอกครับ เดี๋ยวจะไปเรียนเชิญ”
