ดิดดี้ เป็นที่รู้จักมานานทั้งในฐานะเจ้าพ่อแร็ปที่แต่งตัวหรูหรา โดดเด่นทั้งในวงการเพลง ปาร์ตี้สุดหรู และประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่ในช่วงไม่กี่ปีนี้มาชื่อเสียงของเขาแทบจะล่มสลาย จากข้อกล่าวหาในหลายกระทง
ล่าสุดในวันอังคารที่ 17 ก.ย. ดิดดี้ หรือ ฌอน คอมบ์ส ถูกควบคุมตัวมาที่ชั้น 26 ของศาลรัฐบาลกลางในแมนฮัตตัน ในเสื้อยืดและกางเกงวอร์ม ดูเหนื่อยล้าขณะถูกปฏิเสธการประกันตัวในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศและสมรู้ร่วมคิด ซึ่งอาจทำให้เขาต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต
อัยการกล่าวว่า คอมบ์ส วัย 54 ปี เป็นหัวหน้าองค์กรอาชญากรรมที่บังคับผู้หญิงให้กระทำการทางเพศโดยข่มขู่ด้วยความรุนแรง เงิน และความเสี่ยงต่อชื่อเสียง
การพิจารณาคดีที่เป็นที่สนใจของสาธารณชนเริ่มต้นด้วยการที่คอมบ์สยืนกรานว่าตนเอง “ไม่ได้กระทำผิด” ตามข้อกล่าวหาโดยมีทนายความนั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่สมาชิกครอบครัว และทีมงานอีกหลายคนมานั่งฟังในห้องพิจารณาคดีที่แน่นขนัด
โดยศาลใช้เวลาพิจารณาคดีมากกว่า 1 ชั่วโมงว่าจะกักขังเขาเอาไว้ ระหว่างการดำเนินคดีหรือไม่
ทางอัยยการของรัฐบาลกล่าวหาว่าเขา “มีพฤติกรรมฝ่ายืน และผู้ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง” โดยอัยการ เอมิลี่ จอห์นสัน กล่าวว่า นักร้องและโปรดิวเซอร์รายนี้ “เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสังคม” และมี “ประวัติขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอย่างยาวนาน”
สุดท้ายศาลก็ตัดสินไปทางฝั่งอัยการ ด้วยการตัดสินให้เขาถูกควบคุมตัวในระหว่างการพิจารณาคดี
อัยการยังกล่าวถึงวิดีโอที่ถูกเผยแพร่เมื่อต้นปี ที่แสดงให้เห็นคอมบ์สทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาวของเขา แคสแซนดร้า เวนทูร่า
เธอกล่าวว่าในการพยายามปกปิดวิดีโอเหตุการณ์ในปี 2016 นี้ เขาได้พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงแรมที่เกิดเหตุ และติดต่อผู้บริหารของโรงแรมเพื่อเอาวิดีโอดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เวนทูร่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยตรงแล้ว หลังเธอกับ คอมบ์ส ได้ยอมความไปเมื่อปีที่แล้ว
จอห์นสัน กล่าวในศาลว่า คอมบ์ส ได้ติดต่อพยานหรือเหยื่อที่อาจเกิดขึ้นล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เธอยังบอกผู้พิพากษาว่าตำรวจพบ "สิ่งที่น่าจะเป็นยาเสพติด" ในห้องพักของโรงแรมที่เขาถูกจับกุมด้วย
คดีของเขาถูกเปรียบเทียบกับคดีอาชญากรรมทางเพศที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ เช่น เจฟฟรีย์ เอปสตีน, คีธ ราเนียร์ และนักดนตรี อาร์. เคลลี่ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกมากกว่า 30 ปีในข้อหาการค้ามนุษย์ทางเพศและอาชญากรรมทางเพศกับเด็ก
ตัวของ คอมบ์ส ยืนยันให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่
ขณะที่ฝ่ายทนายความของคอมบ์สพยายามต่อสู้ด้วยการอธิบายว่าเขาเป็นคนรักครอบครัว ที่ตกเป็นเป้าหมายเพราะความดังและความรวย โดยบอกว่าคดีความที่เข้ามาเป็นเพียงแค่ความพยายามของคนที่ต้องการหาประโยชน์จากเขา
“ทุกคนเข้าคิวเพื่อหวังเงินจากเขา” มาร์ก แอกนิฟิโล ทนายความของ คอมบ์ส กล่าวกับผู้พิพากษา
แอกนิฟิโลกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของคอมบ์สกับ "เหยื่อหมายเลข 1" หรือ เวนทูร่า ไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นความสัมพันธ์ที่รักกัน แม้จะมีข้อบกพร่อง ที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่ที่เต็มใจยินยอมซึ่งมี “ต่างเป็นพิษต่อกัน”
โดยช่วงที่ผ่านมมา คอมบ์ส ได้เก็บตัวอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในแมนฮัตตันมานานกว่าสัปดาห์ ซึ่งทีมทนายของเขากล่าวว่าเป็นการย้ายที่พักด้วยความหวังดี – โดยก่อนหน้านี้เขาอาศัยอยู่ในไมอามี – เพื่อให้ความร่วมมือในคดีนี้
ในช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ทนายความของเขายังกล่าวถึงความพยายามในการขายเครื่องบินส่วนตัวของคอมบ์ส ซึ่งกลายเป็นงานยาก “เราพยายามขายเครื่องบินลำนั้นมาสี่หรือห้าเดือนแล้ว”
ในช่วงหนึ่ง ทนายความยังถือพาสปอร์ตจำนวนมากที่เขากล่าวว่าเป็นของคอมบ์สและสมาชิกในครอบครัวหลายคน โดยกล่าวว่าพวกเขาส่งมอบเอกสารดังกล่าวให้กับฝ่ายกฎหมายโดยสมัครใจ เพื่อแสดงความตั้งใจที่จะอยู่ต่อ
“นี่ไม่ใช่การแสดง” ทนายยืนยันว่าเขาจะให้ความร่วมมือในการสืบสวนทุกประกาศ ขณะที่คอมบ์สมองเขาอย่างตั้งใจและพยักหน้าเป็นบางครั้ง “เราจริงจังกับการสืบสวนนี้อย่างมาก”
“นี่คือการสร้างความเชื่อใจ” แอกนิฟิโลกล่าว พร้อมชี้ไปที่ข้อเสนอการประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ซึ่งใช้ทรัพย์สินในไมอามีของคอมบ์สเป็นหลักประกัน
แต่ผู้พิพากษากลับไม่เห็นด้วย โดย ผู้พิพากษา โรบิน ทาร์นอฟสกี้ พูดถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาของเขา รวมถึงประวัติการใช้ยาเสพติดและปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเองไม่ได้
“ทนายของคุณขอให้เราเชื่อใจคุณ” เธอบอกกับแร็ปเปอร์คนดัง “ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเชื่อใจตัวเองได้หรือเปล่า”