โบรกเกอร์จ๋อย! สารภาพเบี้ยวค่าตัวทัวร์คอนเสิร์ต “อี๊ด วงฟลาย-แคท-ปีเตอร์” ยกพานขอขมาหน้าโรงพัก

งานนี้จะไม่ทน! “อี๊ด วงฟลาย” สำราญ ช่วยจำแนก พร้อมด้วย ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, แคทรียา อิงลิช,นายมนตรี มาลัยวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด และทนายความ โร่ขึ้น สน.ทองหล่อ เพื่อไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี คือ นายโชตินรินทร์ จอง หรือ หนุ่ย โบรกเกอร์ และเป็นซาวด์เอ็นจีเนียร์ วงแบ็กอัปของศิลปินหลายคน และเพื่อทำบันทึกข้อตกลงให้โบรกเกอร์คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหาย ที่โกงค่าจ้างการทัวร์คอนเสิร์ตใน 5 ประเทศ (นอร์เวย์-สวีเดน-สวิตเซอร์แลนด์-เบลเยี่ยม-เยอรมัน) ตั้งแต่วันที่ 12 -18 ส.ค. 2567 รวม 5 รอบการแสดงในราคา 1.2 ล้านบาท แต่ได้รับเงินจริงแค่เพียง 3 แสน ยังคงค้างจ่ายอยู่ 9 แสนบาท ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวเป็นจำนวนเงินที่ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งมียอดเงินที่สูงกว่านั้น ซ้ำยังปล่อยข่าวลือให้ศิลปินเสียหาย ด้านโบรกเกอร์หนุ่ยยอมรับผิดทุกอย่าง รับปากจะหาเงินมาคืนให้ได้

โดยวันนี้เป็นการลงบันทึกประจำวันในข้อหาหมิ่นประมาทฯ ด้วยการโฆษณา โดยมี พ.ต.ท.ธรรมทัช ธัมมัญญู รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ เป็นผู้รับเรื่อง

ปีเตอร์ : “จริงๆ แล้วทุกอย่างมันเริ่มจากการที่เราไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ยุโรป ซึ่งเราก็ทุ่มเทกันเต็มที่ เพียงแต่ว่าพอเรากลับมา เราเริ่มได้ยินข่าวลือหลายอย่าง เช่นเราเบี้ยวงาน พี่อี๊ดโกงเงิน 2.1 ล้าน ผมขอไปเที่ยว ขอขึ้นไปแจมเวทีแล้วลงมาเรียกร้องว่าต้องมีค่าตัว ซึ่งความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วมันก็มีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ยังค้างจ่ายอยู่ ก็เลยต้องมาเจรจาตกลงกัน ซึ่งตอนนี้ทางคุณหนุ่ย เราก็ได้ตกลงกันแล้วในตัวเลขที่จะต้องคืน ว่าจะคืนอะไรยังไง แล้วก็ในเรื่องของข่าวลือทุกอย่างที่เราได้ยินมา เมื่อกี้เรามีการบันทึกถ่ายคลิปแล้ว ทางคุณหนุ่ยก็ยินยอมที่จะให้เราโพสต์คลิป และส่งให้สื่อมวลชนทุกท่าน เพราะฉะนั้นก็ถือว่าวันนี้เราก็เคลียร์กันจบแล้ว”

เงินทั้งหมดที่ยังไม่ได้รับ ตีเป็นเลขกลมๆ คือ 9 แสนบาท
ปีเตอร์ : “จริงๆ รายละเอียดมันเยอะยิบย่อยมาก แต่เราก็มาตกลงกันเป็นตัวเลขกลมๆ 9 แสนบาทที่ยังค้างอยู่ ที่ได้มาแล้วคือ 1.8 ล้านกว่า”

อี๊ด : “แต่ก็ยังไม่รวมในส่วนของค่าใช้จ่าย ค่ากิน ค่าอะไรยังไม่ได้คิดนะครับ ก็หลายแสนอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร (หมายความว่าค่าใช้จ่ายในส่วนที่ออกกันเอง ยังไม่ได้คืน?) ใช่ๆ ก็ที่ช่วยออก และออกให้ด้วย ทั้งทีมเลย”

ปีเตอร์ : “เราคุยกันว่าอยากให้จบ ไม่ได้อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อหรือว่าไปกันไกล เราก็ตัดพวกประเด็นยิบย่อย คือจริงๆ แล้วพวกผมแค่ไปเนี่ย ก็มีการช่วยออกค่าใช้จ่ายให้กับทางพี่อี๊ด พี่เอด้วย ที่จริงๆ แล้วพี่เขาเป็นคนรูดบัตรเป็นหลัก แต่ไอ้พวกยิบย่อยเราก็ตัดเป็นตัวเลขกลมที่ 9 แสนบาทครับ”

วันนี้มาลงบันทึกประจำวัน พร้อมแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท และปลอมแปลงเอกสาร
ปีเตอร์ : “มันมีเรื่องของการที่จะต้องลงบันทึกประจำวัน แล้วก็อาจจะต้องมีการแจ้งไว้ก่อน เพราะมันมีเรื่องของอายุความ แต่ว่าตอนนี้เราได้ตกลงกันแล้ว ทางหนุ่ยก็จะทยอยจ่าย ซึ่งทางจ่ายคืนเราก็คงไม่ดำเนินคดีอะไรต่อ วันนี้ที่ต้องแจ้งคือเรื่องของการหมิ่นประมาท เพราะมันมีอายุความต้องแจ้งไว้ก่อน จริงๆ แล้วใน 9 แสนบาทที่ต้องทยอยจ่ายคืนเนี่ย มันไม่มีทางเป็นไปได้ใน 3 เดือน เราจำเป็นต้องแจ้งไว้ก่อน”

ทนาย : “แล้วก็อาจจะมีเรื่องของการปลอมเอกสาร ซึ่งอันนี้ยังไงเดี๋ยวของคุยกับพนักงานสอบสวนอีกที ว่าจะเข้าองค์ประกอบของความผิดไหม (ทางคุณหนุ่ยปลอมเอกสารของทุกคน?) เป็นเอกสารที่เกี่ยวกับเรื่องการโอนเงิน พูดแค่นี้แล้วกันครับ รายละเอียดอยู่ที่พนักงานสอบสวน”

ปีเตอร์ : “คือจริงๆ แล้วต้องบอกว่าหนุ่ยเนี่ย เอาจริงๆ ก็เป็นน้อง เป็น Sound Engineer ของพี่อี๊ด ฟลาย, พี่กบ แท็กซี่, พี่โป่ง หิน เหล็ก ไฟ และอีกหลายๆ คน ซึ่งตอนที่เราตกลงที่จะไปทัวร์คอนเสิร์ตกัน เราก็คุยกันด้วยวาจา ตกลงค่าตัวแบบนั้นแบบนี้ เสร็จแล้วตอนจะเดินทางไปเนี่ย ทางคุณหนุ่ยก็แจ้งมาว่าทางเจ้าภาพยังไม่ได้โอนตังค์ ขอให้ทางพี่เอช่วยออกก่อนค่าตั๋วเครื่องบิน แล้วยาวไปก็คือพี่เอเป็นคนออกค่าใช้จ่ายไปเรื่อยๆ โดยที่ตอนแรกหนุ่ยก็ยังไม่ได้โอนเงินมา พี่เอคือภรรยาของพี่อี๊ด ฟลาย เป็นผู้จัดการของเรา 3 คน”

อี๊ด : “คือเงินทั้งหมดที่รวบรวมจากเจ้าภาพทุกที่ที่เราจะไปเนี่ย มันไม่พออยู่แล้วกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะเราจะเอาวงไปด้วย ก็มาคุยกับหนุ่ยแล้วตอนแรก ว่าโอเคไม่เป็นไร อยากพาน้องไปเที่ยว แล้วส่วนที่มันจะเกินเท่าไหร่เนี่ย พี่วางเงินของพี่ไว้ ค่าตัวครั้งนี้ 5 แสนบาท ค่าโชว์เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้เลย”

ปีเตอร์ : “จริงๆ แล้วตอนที่เราเดินทาง มันมีปัญหาในการบริหารจัดการ ซึ่งเข้าใจว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นความตั้งใจอะไรก็ว่ากันไป แล้วตอนที่เราจบทัวร์ จริงๆ แล้วเราก็ตัดใจหลายๆ อย่างแล้ว ว่ามันจะต้องจบแค่นี้เพียงพอ แต่ว่าตอนนี้พอมันมีเรื่องพวกข่าวลือโน่นนี่ ที่ทำให้เราเสียหาย ก็เลยจำเป็นต้องทำทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรครับ”

ไปเล่นคอนเสิร์ตตั้งแต่วันที่ 12-18 ส.ค. ค่าจ้างที่ตกลงกันไว้คือ 1,250,000 บาท
ปีเตอร์ : “เราไปกันตั้งแต่วันที่ 12 - 18 สิงหาคม ราคาว่าจ้างรวมแล้วทั้งหมดประมาณ 1,250,000 บาทครับ (แล้ว 1.8 ล้านที่ได้มาแล้ว คือค่าอะไร?) จริงๆ ต้องบอกว่าค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันรวมหมดเลย เพราะพี่เอคือคนที่รูดบัตรจ่ายทั้งค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทางของทุกคน ค่าตั๋วเครื่องบินของวงแบ๊กอัพด้วย รวมถึงตั๋วเครื่องบินของพี่ปูและแจนจังด้วย พี่เอก็เป็นคนรูดบัตร”

เรื่องปัญหาค่าใช้จ่ายตอนนี้ เจรจายอมความกันได้แล้ว แต่จำเป็นต้องมาลงบันทึกประจำวันไว้
อี๊ด : “ใช่ครับ แล้วต้องชดใช้กัน”

ปีเตอร์ : “ต้องลงบันทึกประจำวันแล้วต้องแจ้งความด้วย เรื่องของหมิ่นประมาท”

ด้าน “หนุ่ย” คู่กรณี ยอมรับการเจรจาทั้งหมด และไหว้ขอโทษศิลปินทุกคน
หนุ่ย : “ยอมรับครับ และขอโทษพี่ๆ ศิลปินทุกคนครับ (ยกมือไหว้) ขอโทษแม่เอที่ช่วยซัปพอร์ตผมทุกอย่าง ข่าวลือที่ทำให้พี่ๆ เสียหาย ผมขอยอมรับไว้เองทั้งหมด สิ่งที่ผิดพลาดทั้งหมด เพราะว่าสารตั้งต้นเริ่มมาจากผม พี่ๆ มีแต่ช่วยเหลือ แล้วข่าวที่พี่อี๊ดไปเบี้ยวคอนเสิร์ตไม่เป็นความจริงครับ พี่อี๊ด พี่แคท พี่เตอร์ก็ขึ้นทุกคอนเสิร์ต แล้วข่าวที่บอกว่าพี่เตอร์ไปแจมไม่เป็นความจริงครับ คือพี่เตอร์ก็อยู่ในทีมงานทั้งหมด แล้วมีแต่พวกพี่ๆ ช่วยเหลือทั้งหมด แล้วพี่กบ พี่ต้อม ก็มาช่วย และจ่ายเงินควักตังค์กันไปเองทั้งหมดเพื่อไปช่วยน้องให้งานมันไปได้ด้วยดี ผมกราบขอโทษพี่ๆ (ยกมือไหว้)”

น้อมรับความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมขอโทษเจ้าภาพทั้ง 5 ประเทศ
หนุ่ย : “ผมขอน้อมรับไว้เองทั้งหมดดีกว่าครับ ทุกอย่างที่มันผิดพลาดมันเกิดจากที่ตัวผมครับ ถามว่าเงิน 9 แสน สัญญาว่าจะจ่ายเมื่อไหร่ คุยกับพี่เขาแล้วครับ ขอไปดูก่อนครับ”

ปีเตอร์ : “พี่ว่าไหนๆ แล้วหนุ่ยขอโทษทางเจ้าภาพที่เมืองนอกด้วย”

หนุ่ย : “สำหรับเจ้าภาพทั้ง 5 ประเทศ ที่เกิดความวุ่นวาย การสื่อสารในสิ่งต่างๆ มีปัญหาทำให้พวกพี่ๆ ทุกข์ใจ ผมขอกราบน้อมรับไว้คนเดียวครับ”

มีการอัดคลิปสารภาพในแต่ละประเด็นไว้เรียบร้อยแล้ว
ปีเตอร์ : “มันจะมีในแต่ละประเด็นที่เป็นข่าวลือมา ที่ทางพวกเราศิลปินมีความรู้สึกว่าต้องแก้เพราะมันเสียชื่อเสียง ก็เลยขออนุญาตทางคุณหนุ่ยว่า เราต้องอัดคลิปเพื่อแก้ข่าวเพื่อส่งให้เจ้าภาพดูด้วย มีการขอโทษเจ้าภาพ และมีการอธิบายรายละเอียดในเรื่องที่มันเกิดขึ้น พวกเราศิลปินขออนุญาตแล้วคุณหนุ่ยก็อนุญาต นำไปโพสต์เพื่อความชัดเจนและเพื่อแก้ข่าวที่มันเกิดขึ้น”

แคท : “พวกเราศิลปินทั้งหมดที่ขึ้นเวที และพี่ๆ ที่ร่วมเดินทางไปกับเราด้วย มันก็เป็นความรู้สึกเสียใจ เพราะว่าทุกคนรักกันมากๆ ก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน เอาเป็นว่าเรื่องราวมันก็น่าจะจบลงแล้ว เราก็เดินหน้ากันต่อไป”

มั่นใจจะหาเงิน 9 แสนบาทมาชดใช้ได้แน่นอน
หนุ่ย : “มีแล้ว มั่นใจว่าหาได้แน่นอนครับ ยังไงก็ต้องหาให้ได้ครับ ถ้าลูกผู้ชายก็ต้องหาให้ได้”

เผยไม่เคยแบบนี้ทำกับคนอื่น เป็นความผิดพลาดในการจัดการ
หนุ่ย : “ไม่เคยครับ อันนี้ผมไม่ได้ตั้งใจทำครับ มันคือความผิดพลาดในการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วตังค์ผมอาจจะเผลอไปพูดในสิ่งที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็มีคนไปต่อยอด แต่สารตั้งต้นมันมาจากผม ก็ต้องยอมรับแค่คนเดียว ความผิดพลาดในการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการคำนวณ ซึ่งพี่ๆ เขามีประสบการณ์เขารู้อยู่แล้ว พี่อี๊ดเขาเลยบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวมาช่วยกัน เดี๋ยวพี่ช่วย แล้วพี่อี๊ดก็ยอมเสียสละค่าตัวตัวเองมาให้น้องๆ เพื่อได้ไปทั้งวง ผมไม่เคยทำแบบไปทั้งวง”

ปีเตอร์ : “เราพยายามแนะนำและช่วยตลอด เช่น เรื่องการเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน เรารู้ล่วงหน้าเป็นเดือนว่าต้องเดินทาง ถ้าจองตอนนั้นมันจะอีกราคา แต่ถ้าจองก่อนไปสองวันราคามันจะขึ้นสองเท่าสามเท่า ค่าใช้จ่ายมันบานปลาย รวมถึงที่พักด้วย เราก็พยายามแนะนำแต่แรกแล้ว ก็เชื่อหนุ่ยว่ามันเป็นความผิดพลาดของการจัดการที่ทำให้บานปลาย เพียงแต่ว่าวิธีการที่จะสื่อสารกับเราหน้างานมันไม่ทั่วถึง ไม่ครบถ้วน เรื่องการสื่อสารกับเจ้าภาพ มันมีการทำให้เข้าใจกันผิดระหว่างทางศิลปินและเจ้าภาพด้วย ก็เลยมีหลายเรื่องต้องเคลียร์”

ถือเป็นบทเรียน จากนี้ต้องรอบคอบในการรับงานมากขึ้น
ปีเตอร์ : “ก็ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับทุกๆ คน จากนี้ไปก็คงต้องทำงานให้รอบคอบขึ้น การสนิทสนมกันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าในเรื่องของทางการมันก็ต้องเรียบร้อย”

การไปเล่นคอนเสิร์ตต่างประเทศ ปกติเจ้าภาพจะจ่ายค่าตัวและค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนบิน
แคท : “หลักๆ ก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ พวกเราจะต้องได้รับค่าตัว ได้รับค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนที่จะเดินทางไปด้วยซ้ำ”

ปีเตอร์ : “ปกติเจ้าภาพเขาจะจ่ายให้ครบถ้วนก่อนเดินทางด้วยซ้ำ คือเจ้าภาพเขาก็ติดต่อทางทีมศิลปินกันมา บอกว่าโอนทุกอย่างก่อนเดินทางแล้วนะ ส่วนหนุ่ยก็บอกว่ายังไม่ครบถ้วนสำหรับค่าจ้าง ก็แล้วแต่ เพราะตอนนี้เราก็ได้ตกลงและจบกันแล้ว”

ชี้ที่เรียกว่าโกงเพราะมีการก๊อปปี้เอกสาร และนำไปเผยแพร่แบบผิดๆ จนทำให้เกิดความเสียหาย
เอ ผู้จัดการส่วนตัว : “ที่พูดว่าโกงเพราะน้องไปก๊อปปี้เอกสาร แล้วส่งให้ลูกค้าดู อันนี้เลยเป็นคำว่าโกง 2.1 ล้าน ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ 2.1 ล้านจากที่น้องโอนมาให้ แต่น้องไปก๊อปปี้แล้วไปส่งทั่วเลย ทั้งลูกค้า นักดนตรี และโบรกเกอร์ในเมืองไทยต่างๆ ว่าพี่ๆ ศิลปินโกง อันนี้เราเสียหายมากด้วย ซึ่งพี่เขาช่วยทุกอย่างแต่ทำแบบนี้ ข่าวอีกหนึ่งข่าวคือพี่ไม่ขึ้นคอนเสิร์ตอีก ซึ่งในความเป็นจริงเขาต้องออกเงินเองทุกบาททุกสตางค์ เพื่อขึ้นคอนเสิร์ต 5 ประเทศ โดยที่น้องไม่จ่ายเลยสักสลึง มันเสียหาย 2 อย่าง ถ้ามันไม่มีเหตุตรงนี้ มันจะไม่มีข่าวเลย แค่นั้นเลยค่ะ”

บอก “หนุ่ย” ให้จำไว้เป็นบทเรียน ต่อไปทำอะไรต้องนึกถึงคนอื่น
อี๊ด : “ผมก็บอกกับน้องครับ ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันเป็นบทเรียนนะ ซึ่งมันกระทบเวลาทำอะไรไปแล้วไม่ตรงไปตรงมา สิ่งสำคัญที่สุดคือกระทบกับชื่อเสียงด้วย น่าจะเป็นบทเรียนที่ใหญ่โตที่สุดของน้อง ต่อไปจะทำอะไรก็ให้นึกถึงคนอื่นด้วย และผมยังยืนยันความตรงไปตรงมา ไม่ว่าใครที่มาคบกับผม เป็นครอบครัวของผมหมด ยืนยันเลยว่าเป็นพี่เป็นน้องกันขอความเที่ยงตรงเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าอันนี้เป็นบทเรียนที่ควรต้องปรับตัว เพราะเมื่อมันเกิดเรื่อง มันเป็นข่าว มันเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งพวกเราไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่”

ออกมาวันนี้หวังให้ทุกคนเข้าใจ จากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
อี๊ด : “แค่คิดว่าวันนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพที่ยังรอข่าวอยู่ ให้เจ้าภาพเข้าใจด้วยว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันเป็นแบบนี้ทั้งหมด ขอบคุณหลายๆ คนที่เป็นห่วง คอยติดตามข่าวและเป็นห่วงพวกเรา ขอบคุณมากๆ พี่น้องในเมืองไทยทุกคนและที่ต่างประเทศด้วย จากนี้ก็เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายด้วย และกระบวนการที่ต้องรับผิดชอบอะไรต่างๆ”

เตรียมบวชขอขมา และเริ่มต้นชีวิตใหม่
หนุ่ย : “เป็นการขอขมาด้วยครับ และบวชเพื่ออยากเริ่มชีวิตใหม่ อะไรที่ไม่ดีต้องขอกราบขออภัยทุกท่านด้วยครับ และที่สำคัญขอโทษพวกพี่ๆ เขา ที่ทำให้เสียชื่อเสียง ทุกเรื่อง อะไรแล้วแต่ ขอกราบขอโทษไว้ ณ ที่นี้ครับ เข็ดจนตายครับ (จะบวชหลังจากใช้หนี้หมด?) บวชก่อนเลยครับ บวชด้วยจัดการใช้หนี้ไปด้วยครับ”

ซึ่งภายหลังจากการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้าโรงพัก โบรกเกอร์หนุ่ย ได้นำพานธูปเทียนแพมาขออโหสิกรรม พร้อมผ้าไตรจีวรถือโอกาสลาบวชด้วย ซึ่งศิลปินทั้ง 3 และผู้บริหาร ได้อโหสิกรรมให้