xs
xsm
sm
md
lg

รดน้ำศพ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” สุดเศร้า ลูกๆ สุดกลั้นน้ำตา ชาติหน้าขอเกิดเป็นลูกของพ่ออีกครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลูกๆ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” หลั่งน้ำตาสุดอาลัย ขอบคุณที่ได้เกิดเป็นลูก ชาติหน้าขอเกิดเป็นลูกของพ่ออีกครั้ง ลั่นทุกเช้าต้องทักไลน์ ทำให้มีกำลังใจในการทำงาน คำสอนของพ่อจะดังกังวานอยู่ในหัวใจตลอดไป พร้อมเผยคำสั่งเสียสุดท้าย เก็บร่าง 100 วัน รอพิธีพระราชทานเพลิงศพ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพิธีรดน้ำศพ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ศิลปินแห่งชาติ และผู้กำกับที่อายุมากที่สุดในโลก ซึ่งจากไปด้วยโรคชรา มีอาการปอดติดเชื้อแทรกซ้อน ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ศาลา 10 ท่ามกลางคนบันเทิงมาร่วมแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ ตู่ นพพล, ตุ๊กตา จิตรลดา กัลย์จาฤก, สรวงสุดา ชลลัมพี, นีโน่ เมทินี, เอก รังสิโรจน์, โน้ต วัชรบูล, กรุง ศรีวิไล, ฤทธ์ ลือชา โอลิเวอร์ บีเวอร์, แอน มรกต มณีฉาย, มดดำ คชาภา ฯลฯ

ในเวลา 17.30 น. “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมเครื่องเกียรติยศประกอบศพ แด่ผู้วายชนม์ โดยมีผู้แทนพระองค์ได้เชิญพวงมาลาหลวงจาก “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” พวงมาลาหลวง “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”พวงมาลาหลวง “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” และพวงมาลาหลวง “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” นับเป็นเครื่องประดับเกียรติของศิลปินแห่งชาติ และครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้ 

ต่อมาลูกๆ ทั้งสามคนของ อาหลอง ได้แก่ กัญจน์ ภักดีวิจิตร, แก้ว บุญจิรา ภักดีวิจิตร และ เฉิด ภักดีวิจิตร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยอาการน้ำตานองหน้า ขอชาติหน้าได้กลับมาเกิดเป็นลูกของพ่ออีกครั้ง

เฉิด : “จริงๆ พวกเราก็ดูแลคุณพ่อมาอย่างดีนะครับ ตั้งแต่คุณพ่อป่วยหนักเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว จนเข้าสู่สภาพที่คุณพ่ออาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็รับไม่ไหวและจากไป ก็รู้สึกเสียใจครับ ลูกๆ ทั้งสามคนและญาติพี่น้องทุกคนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณพ่อเป็นทั้งคุณพ่อ เป็นที่พึ่ง เป็นอาจารย์ เป็นพระในบ้าน เป็นทุกอย่างให้กับลูกๆ ทุกๆ คน และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกๆ มาตลอดเวลา ถึงตอนที่คุณพ่อป่วยท่านก็ยังอารมณ์ดี ยังขี้เล่นเหมือนเดิม จนอาการทรุดลง เลยทำให้เกิดวันนี้ และตอนนี้ทุกคนก็เสียใจมากครับ

ขั้นตอนการรักษาก็ทำถูกขั้นต้องมาตลอดนะครับ ในส่วนของการรักษาก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ จริงๆ ดีขึ้นมาแล้วช่วงหนึ่ง จนคุณพ่อได้รับเชื้ออีกรอบนึง ติดเชื้อที่ปอด และรอบสุดท้ายคือพ่อเป็นเยอะมาก ทำให้ทุกอย่างแย่ขึ้นเรื่อยๆ จากห้องธรรมดาก็ย้ายไปห้องไอซียู แล้วก็เพิ่มเครื่องมือในการแพทย์มากขึ้น จนสุดท้ายคุณพ่อทนไม่ไหวแล้วก็จากไปครับ พี่แก้วเป็นดูแลใกล้ชิดมากครับ” 
 
กัญจน์ : “น้องสาวดูแลคุณพ่อมาตั้งแต่แรกครับ ตั้งแต่เริ่มเป็นเลย พอกลับมาที่บ้านก็ไปเยี่ยมคุณพ่อทุกวัน ผมก็รู้สึกดีใจมากนะครับที่คุณพ่อมีคนรักทั่วประเทศตั้งแต่รุ่นเด็กจนรุ่นคนมีอายุ และหลายคนก็ยกให้คุณพ่อเป็นผู้กำกับในดวงใจ รวมถึงพวกเราทั้งสามคนด้วย คุณพ่อจะมีวิธีการสอนที่อาจจะไม่เหมือนคนอื่น แต่ท่านก็ให้ใจเราเต็มร้อย เขาอาจจะดุหน่อย แต่จริงๆ แล้วเป็นคนใจดีมาก

คำพูดสุดท้ายที่คุณพ่อพูดไว้กับเราก็คือ ขอให้ลูกๆ ทุกคนมีความสุข ความเจริญ ทำสิ่งใดขอให้ประสบความสำเร็จ คุณพ่ออวยพรอย่างนี้ทุกวันครับ ทุกครั้งที่ขึ้นไปหาคุณพ่อ ท่านก็อวยพร ตอนก่อนจะกลับออกจากห้องคุณพ่อก็อวยพรอีก คุณพ่อจะอวยพรลูกตลอดเวลา ล่าสุดที่คุณพ่อเข้าไอซียู ผมก็เอารูปตอนที่ผมบวชไปให้คุณพ่อนึกถึงบุญวันนั้น ผมก็บอกคุณพ่อว่าบุญที่ลูกได้บวชให้ ลูกให้พ่อหมดเลย ลูกไม่เอาไว้เลย แล้วก็มีภาพที่คุณพ่อเอาน้ำรดศีรษะผม คุณพ่อเห็นก็ยิ้ม ท่านรับทราบครับ

พรของคุณพ่อทำให้เราฮึกเหิมนะครับ ไม่ว่าเราจะเหนื่อยกับอะไรมา แต่คำพูดของคุณพ่อมันทำให้มีกำลังใจในการทำงาน คำและข้อความของคนสมัยโบราณที่พูดมันมีความขลังมาก มันมีพลังบางอย่างที่บอกไม่ถูก มันจะมีแรงขึ้นมาเลย พอวันนี้จะไม่ได้ยินแล้วก็ใจหายมากๆ เพราะในช่วงที่คุณพ่อยังปกติก่อนหน้านี้ก็ได้คุยกันทุกวัน คุยไลน์ส่งทุกเช้า เป็นไลน์ที่พิมพ์จากมือไม่ใช่ไลน์ที่ก็อปปี้ใครมา เพราะเป็นภาษาของเขาเองเลยครับ ยาวมาก เป็นคำอวยพรที่เป็นภาษาของคุณพ่อโดยเฉพาะ คุณพ่อจะทักมาทุกเช้าครับ ถ้าวันไหนเขาไม่ทักมา ผมก็จะทักไปหาน้องๆ ว่าทำไมคุณพ่อไม่ทักมา ทุกเช้าพอเห็นข้อความคุณพ่อ เราก็จะมีกำลังใจในการทำงาน มันมีความสุข ก็อยากบอกคุณพ่อว่ารักพ่อครับ (น้ำตาไหล)
 
บุญจิรา : “ขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ (ร้องไห้) ถ้าชาติหน้ามีจริง ก็อยากจะไปเกิดเป็นลูกพ่อกับแม่อีก ลูกภูมิใจมากตั้งแต่เด็กจนโตมา ได้เป็นลูกผู้กำกับภาพยนตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านรักประชาชน รักงานมากกว่าตัวเอง พวกเราก็จะทำให้ดีที่สุดเหมือนที่พ่อทำค่ะ”
 
เฉิด : “ถึงวันนี้เราจะไม่มีคุณพ่อแล้ว แต่ในความรู้สึกของลูกๆ ทุกคน เสียงคุณพ่อยังก้องกังวานอยู่ในหูพวกเราเสมอ คำสอนของพ่อ คำอวยพรของพ่อ ทุกอย่างที่พ่อเคยสั่งสอนมาจะอยู่ในใจเราตลอดไป เราจะเก็บสิ่งที่ดีๆ เอาไว้ทุกอย่าง ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกคุณพ่อ และที่มีอาชีพทำทุกวันนี้ได้ก็เพราะคุณพ่อบุญฉลองคนนี้จริงๆ เพราะผมก็ค่อนข้างเกเรตอนเรียน แล้วพอได้มาทำงานกับคุณพ่อ คุณพ่อก็สอนอะไรมาเรื่อยจนได้เป็นทุกวันนี้ครับที่มีได้ทุกวันนี้ก็เป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่เลยครับ ผมใกล้ชิดกับคุณพ่อค่อนข้างมาก เพราะฝึกงานกับคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก วิ่งเล่นอยู่ที่กองภาพยนตร์ตั้งแต่เด็ก จนสุดท้ายเราชอบ และสิ่งที่ได้มาคือปัญญาความรู้จากคุณพ่อ ความสามารถที่คุณพ่อสอน พ่อแก้บท พ่อแก้งานอะไรเราเห็นทุกขั้นตอน วิชาที่ได้มาก็คือจากครูคนนี้เลยครับ”

บุญจิรา : “คุณพ่อจะเป็นห่วงเรื่องงานค่ะ แล้วก็ห่วงลูกๆ เราก็ไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจ ก็บอกว่าลูกเข้มแข็ง ลูกสามารถที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว พ่อเขาจะได้ไม่ห่วง โปรเจกต์คุณพ่อที่ยังคั่งค้างไม่มีแล้วค่ะด้วยเราสามคนก็ยังมีงานกับทางช่อง 3 แล้วก็คิดโปรเจกต์อื่นๆ ไว้ด้วย ละครเรื่องสุดท้ายของคุณพ่อที่ทำไว้ก็คือเรื่องแคนสองแผ่นดินค่ะ”

เฉิด : “จริงๆ ตอนทำเรื่องแคน คุณพ่อก็ไม่ไหวแล้วครับ เดินอยู่ในกองถ่ายก็โยกเยกๆ ท่านเหนื่อยมาก คนอายุ 92 เดินอยู่กลางป่า ทำอะไรเองทุกอย่างเหมือนในวัยหนุ่มๆ ที่เขาทำ สุดท้ายแล้วพอร่างกายไม่ไหวก็ต้องพัก ตอนนี้ท่านก็ได้พักแล้ว เพียงแต่เราไม่ได้ตั้งตัวว่าท่านจะอยู่กับเราในระยะเวลาอันสั้นแค่นี้ ถามว่าจะมีการรีเมกผลงานของคุณพ่อไหม อันนี้คงต้องถามทางผู้ใหญ่อีกทีครับ”

เก็บร่างไว้ 100 วัน รอพระราชทานเพลิงศพ
บุญจิรา : “กำหนดการหลังจากนี้เราจะเก็บไว้ 100 วันค่ะ รอพระราชทานเพลิงศพในอีก 3 เดือนข้างหน้าค่ะ”































































กำลังโหลดความคิดเห็น