xs
xsm
sm
md
lg

“อ้อม พิยดา” ปรับตัวสู้วิกฤตละคร รับผู้จัดหลายคนถอดใจ เทรนด์โลก-เทรนด์ไทยเปลี่ยนไปแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ้อม พิยดา” พร้อมปรับตัวสู้วิกฤตละครไทย ยอมรับและเข้าใจการเปลี่ยนแปลง เพื่อผลิตคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ เชื่อละครจะไม่หายไปจากหน้าจอ แต่จะเป็นเฉพาะกลุ่มมากขึ้น รับมีคุยพี่น้องผู้จัด หลายคนถอดใจไปแล้ว โอด “น้องนาวา” โตเป็นสาวแล้ว เตรียมรับมือวัยว้าวุ่น ส่วนตัวไม่ห่วงแต่หวง แต่คุณพ่อหวงแน่นอน

ทำเอาผู้จัดถอดใจไปตามๆ กัน กับสถานการณ์วิกฤตของละครไทย เพราะส่งผลให้การเสนอละครเรื่องใหม่ยากขึ้นกว่าเดิม แถมบางค่ายยังถูกระงับการถ่ายทำ และบางค่ายถึงกับต้องปิดบริษัท ล่าสุดวันนี้ (13 ก.ย. 67) ได้เจออีกหนึ่งผู้จัดละครอย่าง “อ้อม พิยดา อัครเศรณี” ในงานแถลงข่าว Flex 104.5 | PMCU | DV8 SIAM HALLOWEEN presented by มาม่า เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ ว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว คนดูมีทางเลือกมากขึ้น ต้องปรับตัว เปิดใจ และตามให้ทัน มันถึงทำงานได้

“คือพอจบละครเรื่องสืบลับหมอระบาด อ้อมก็มาลุย ทำ Flex 104.5 เพราะการทำอีเวนต์มันใช้เวลาเยอะมาก เราก็เลยยังไม่ได้เสนอละคร เราได้แต่มีการพบเจอพูดคุยกัน ก็เห็นจากข่าวอย่างที่ทุกคนเห็น เราก็ต้องปรับตัวมากกว่า ทุกอย่างมันเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว พอดีธุรกิจที่เราทำอยู่ ทั้งฝั่งผู้จัดละครหรือฝั่งวิทยุ มันต้องอยู่กับวัยรุ่นไปเรื่อยๆ เราก็เลยต้องมีการปรับตัวของเรา เลยพอที่จะทราบว่าสมัยนี้เขาดูอะไรกัน ชอบอะไรกัน เสพสื่อกันยังไง ยูริมา วายมา เรื่องที่เรากำลังทำก็มีพล็อตอยู่ ก็พยายามตอบโจทย์ของฝั่งเซลล์ด้วย เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด คนดูอยากดูไหม สปอนเซอร์เข้าไหม เราก็จะคิดให้ครอบคลุม แต่เราก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงแหละ ตรงนี้ทราบอยู่แล้ว”

รู้สถานการณ์ตอนนี้วิกฤต ต้องปรับตัวตามยุคให้ทัน แล้วจะอยู่ได้
“ก็ได้ข่าวจากสื่อต่างๆ มันเรียกว่าอ้อมต้องปรับตัว ถ้าเราปรับตัวและรู้ว่าเด็กชื่นชอบอะไร แล้วเราจะรู้ว่าความต้องการของเขาคืออันนั้น ตอนนี้เทรนด์โลกหรือเทรนด์ไทยแลนด์เปลี่ยนไปแล้ว เราก็พยายามปรับจูนให้เข้ากับยุค ต้องตามให้ทัน เราก็น่าจะยังทำงานอยู่ได้”

มีคุยปรึกษากันในแวดวงผู้จัด หลายคนถอดใจไปแล้ว
“คุยค่ะ ก็มีคุยบ้าง มีปรึกษา อย่างพี่นกชาย (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พี่นกหญิง (สินจัย เปล่งพานิช) ก็ได้มีคุยกันตอนที่เล่นบางกอกคณิกา รวมถึงอีกหลายๆ ท่านด้วย ก็คุยกัน เจอกัน หลายๆ คนเขาถอดใจด้วยค่ะ จริงๆ ไม่ใช่แค่วงการบันเทิงนะคะ มันทั้งโลกแหละ หนึ่งเศรษฐกิจ สองเจนเนอเรชั่นที่เปลี่ยนแปลงไป สื่อโซเชียลต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป โลกมันหมุนไปเราก็ต้องหมุนตามให้ทันเท่านั้นเอง”

เชื่อว่าละครไทยมันจะไม่หายไปจากทีวี แต่จะเป็นเฉพาะกลุ่มมากขึ้น
“คิดว่ามันจะแคบขึ้น เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม เพราะมีหลายช่องทางให้เลือกดู ถ้ามองด้านดี ก็จะดีกับคนดู เรามีทางเลือกเยอะมากขึ้น แต่อีกทางหนึ่ง คนทำงานก็ต้องทำคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับกลุ่มนั้น ก็คิดว่าละครซีรีส์ก็ยังอยู่นะ แต่อาจจะเจาะกลุ่ม รวมทั้งศิลปินด้วย ถามว่าใจหายไหม ก็ไม่ได้ใจหาย แต่เรียกว่ายอมรับและเข้าใจมันมากกว่า แต่ก็รู้สึกว่าเราเห็นมันทุกอย่าง แล้วก็คิดว่าทุกอย่างมันเป็นภาพความทรงจำที่ดี แล้ววันนี้มันก็จะเป็นอีกหนึ่งภาพความทรงจำในอนาคต เราก็สนุกกับมันดีกว่า แล้วก็เปิดใจยอมรับ ว่ามันต้องปรับเปลี่ยน แล้วเราจะโอเค”

มีซีรีส์วายและยูริติดต่อเข้ามา อยากทำมากแต่ติดงานวิทยุอยู่
“มีติดต่อเข้ามาค่ะ อยากทำมากเลย แต่ว่ามันยังติดงานวิทยุอยู่ แต่ตอนนี้ก็อยากทำซีรีส์ที่เป็นละคร ซึ่งกำลังทำอยู่ แต่ไม่ได้เล่นเอง พยายามจะเล่นหลายทีแล้วแต่มันไม่รอดสักครั้ง เพราะพอเป็นผู้จัด เราก็จะเอาใจไปในส่วนของบท ของโปรดักชั่น คิดว่าทำได้ไม่ดี ถ้าเกิดเราจะแบ่งใจมาแสดงด้วย ก็เลยว่าถ้าเราเป็นผู้จัดก็จะไม่ได้เล่น แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำ ก็อยากเล่นละคร อยากกลับไปจัด อยากไปสนุก ปีหน้าก็มีโปรเจกต์อยู่ค่ะ เป็นโปรเจกต์นักแสดง”

เผย “น้องนาวา” เริ่มโตแล้ว ตอนนี้ย้ายไปอยู่โรงเรียนอินเตอร์
“โตแล้ว ไม่อยากให้โตเลย อยากสตาฟไว้ อายุ 12 ปีนี้คือโตคาตา ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร เพราะอยู่ด้วยกันทุกวันยังแบบอุ้ย ลูก แต่ยังตัวติดกันเหมือนเดิม เราไม่แน่ใจว่าลูกติดไหม แต่ว่าเราติดค่ะ 

ถามว่าเขาอยากมีพื้นที่ส่วนตัวหรือยัง ก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่มีอยู่วันหนึ่ง คือด้วยความที่เขาไม่ค่อยเล่นคอมพิวเตอร์ ไม่ค่อยรู้สื่อออนไลน์เท่าไหร่ เพราะทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ซะส่วนใหญ่ แต่พอเขาย้ายโรงเรียนไปอินเตอร์ ก็จะค่อนข้างติดต่อทางอีเมล และใช้คอมพิวเตอร์เยอะ เราก็เลยบอกลูกไปทำความรู้จักกับคอมพิวเตอร์เลย แต่เขาบอกว่าแม่อย่าทิ้งนาวาไปเลยแม่ นาวาเป็นเอ็กโทรเวิร์ต (หัวเราะ) นาวาต้องการคนอยู่ด้วย เราก็บอกไม่ได้ ลูกต้องไปอยู่กับคอมพิวเตอร์ก่อน เพื่อที่จะทำความรู้จัก ก็ตลกดีเหมือนกันค่ะ”

ยังไม่ติดเพื่อน โตแต่ตัว อ้อนแม่เหมือนเดิม
“ยังไม่ติดเพื่อนเลยค่ะ คือเขาโตแต่ตัว ตัวเป็นสาวไปแล้ว แต่ยังติ๊งต๊องอยู่ ยังอ้อนแม่อยู่เหมือนเดิม ถึงจะอายุ 12 แต่ล่าสุดก็คือขอที่ปาลูกดอก ขอของเล่น แล้วก็อยากขอปามีด”

ส่วนตัวไม่ห่วงแต่หวง แต่คุณพ่อหวงแน่นอน
“เป็นห่วงมากกว่า แต่คุณพ่อคือช็อก อย่างที่บอกพ่อก็จะแบบ แม่ลูกโต ทำไมโตอย่างนี้ ฮือ ลูก พ่อเขาก็น่าจะหวงแหละ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็คงจะแบบ ทุกอย่างมันคือการเรียนรู้ เป็นประสบการณ์ของพ่อแม่มือใหม่ทุกวัน ก็มีความสุขกับทุกวันมากกว่า (มีโมเมนต์ไหนที่คุณพ่อหวงออกนอกหน้าเลยไหม?) ยังไม่มี เพราะว่ายังไม่ได้เกิด แล้วก็อย่างที่บอกว่าเขายังโตแต่ตัวค่ะ ยังเล่นตีลังกา ปามีด ติดแม่เหมือนเดิม”

เตรียมเข้าใจในวันที่ลูกเป็นวัยว้าวุ่น
“เราก็จะต้องจับมือกัน ร้องไห้กันสองคน (หัวเราะ) ไม่หรอกๆ เราก็อยากให้เขาโตตามวัย ตามธรรมชาติของเด็กๆ ก็ต้องมีแหละ เรายังโอ้โห มันต้องมีช่วงติดเพื่อน วัยว้าวุ่น กำลังจะเข้าแล้วแม่ก็ตื่นเต้นนิดหนึ่ง เตรียมทำใจ เตรียมเข้าใจ ว่าวันนั้นเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ก็พยายามเข้าใจเขา ให้คำปรึกษาเขา ถ้าเขามีอะไรมาปรึกษา ก็โอเพ่นแบบที่เราเคยเป็นวัยว้าวุ่น แล้วเราอยากได้จากคุณพ่อคุณแม่ เราก็จะพยายามคิดกันแบบนั้น แล้วก็เปิดใจยอมรับในสิ่งที่เขามาปรึกษา หรือว่าจะอะไรก็ตาม คุยได้ทุกเรื่องแต่ก็ดุค่ะ”

ยังไม่มีเรื่องหนุ่มๆ ให้กังวลใจ
“ยังไม่มีค่ะ แต่ก็เพิ่งย้ายไปโรงเรียนอินเตอร์ อาทิตย์นี้อาทิตย์ที่ 3 ก็ยังไม่มี (มีไปดูเพื่อนๆ ที่โรงเรียนใหม่หรือยัง?) ดิฉันต้องไปดูแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ไปนั่งเฝ้าแล้วอาทิตย์แรก ก็โอเค เพื่อนผู้หญิงเยอะ ก็เป็นโรงเรียนที่ไปดูกันมาแล้วลูกก็เลือก จากหญิงล้วนก็ต้องให้เจอโลกความจริงหน่อย”











กำลังโหลดความคิดเห็น