“ท็อป ดารณีนุช” รับเพื่อนเชียร์วิวาห์ “ไมโล” ฝ่ายชายก็อยากแต่ง แต่แก่แล้ว เคยผ่านการมีครอบครัวกันมาแล้ว รอชีวิตเบาๆ ค่อยคุยกัน ลั่นปรับมายด์เซ็ตตัวเอง เข้าใจโลก และปล่อยวาง เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
ตอนแรกตั้งธงว่าอาจต้องใช้ชีวิตคนเดียวในบั้นปลาย ไม่มีคู่อีกแล้ว แต่หลังจากเปิดใจให้ “ไมโล” หวานใจที่แอบรักตัวเองมานานถึง 40 ปี ชีวิตตอนนี้ของ “ท็อป ดารณีนุช ปสุตนาวิน” ก็มีความสุขสุดๆ ล่าสุดในงาน “ลิ้นติดโปรแฟร์’67 อิ่มหนำสำราญ” ณ เซ็นเตอร์คอร์ท ชั้น 1 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ก็เผยแพลนงานแต่ง ที่เพื่อนๆ อยากร่วมจัดงานวิวาห์ให้เอง บอกขำๆ เพื่อนๆ สาระแน แต่ยอมรับรักครั้งนี้มีความสุข ปรับมายด์เซ็ตตัวเอง
“เพื่อนก็เชียร์ไปเรื่อย เพื่อนไม่ได้มีผัวเอง ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง ถามว่าแว่วๆ อยากจัดงานแต่ง แว่วๆว่าอยากจะจัดงานแต่ง ช่วงนี้ยุ่ง แต่ถามว่ามีโครงการในใจไหม มันก็ยังไม่ได้สุมหัวคุยกันเป็นจริงเป็นจัง ก็ไม่รู้สินะ ผู้ชายบอกไม่เคยคิดจะแต่งงานจนมาเจอเรา (หัวเราะ) เพราะเราสวยไง ไม่ใช่ๆ อาจจะเพราะว่าเราเข้าขากันดี เข้าใจกัน วัยเดียวกันแล้วเป็นเพื่อนกันมาก่อน อยู่ด้วยกันแล้วมันสนุก ชอบเจ๊าะมุกกัน แกรับคนประเภทเราได้ เราก็เลยสนุก อยู่กับเขาแล้วมีความสุข อยู่กับเขาถ้าไม่รวมนอนหลับ 1 วันมี 24 ชั่วโมง ก็หัวเราะไปมากกว่าครึ่งแล้ว มันเหมือนเราอยู่กับเพื่อนสนุกสนานคุยกัน มันเลยมีความสุข”
แรกๆ เขิน แต่ตอนนี้ “ไมโล” เริ่มกล้าขึ้นแล้ว
“ตอนแรกๆ เขาก็เขิน ไม่ค่อยกล้า พอหลังๆ เขาก็เริ่มกล้าแล้ว ตอนนี้หน้าร้าน Top’s homemade (เนื้อ-หมูแดดเดียว) ของเรา เราก็ติดแต่รูปเรา ตอนนี้ก็เป็นรูปคู่เพราะทำมาด้วยกัน ก็เป็นสูตรที่บ้านเขา เขาไม่เคยเจอ เขาเป็นคนธรรมดา ไม่เคยออกสื่อ ก็ตื่นเต้น”
ฝ่ายชายก็อยากแต่ง แต่แก่กันแล้ว เคยผ่านการมีครอบครัวกันมาแล้ว รอชีวิตเบาค่อยคุยกัน
“ก็คงอยากนะ แต่เราก็แก่กันแล้ว และเราก็เคยมีครอบครัวกันมาแล้ว ตอนนี้เราก็มัวแต่ยุ่งกับธุรกิจของเราก็เลยไม่ได้มานั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว รอให้ชีวิตมันเบาลงก่อนแล้วค่อยว่ากัน เขาก็รู้แหละว่าหลายๆ คนเชียร์ ก็รอให้เขายืนยันมั่นเหมาะก่อนว่าแต่งหรือไม่แต่ง ตัวเราเองไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมาพูดว่าแต่งนะ มันไม่มีความรู้สึกแบบนั้น มันเป็นเรื่องคุยกันได้ เราคุยรู้เรื่องอยู่แล้ว ก็บอกเขานะว่าไม่จำเป็นต้องดูกันนานๆ ปัจจุบันอยู่แล้วดี มีความสุข อนาคตมันก็ดี เรามีปัญหาอะไรก็คุยกันเลย จะไม่เก็บค้าง อย่าคิดไปเอง รู้สึกไปเอง แล้วเอามาคิดไม่ดีต่อกัน มันไม่ดี ก็จะคุยกันเลย”
ขำๆ เพื่อนจะจัดงานวิวาห์ให้ บอกสาระแน ชอบยุ่ง เปลี่ยนความคิดอยากมีชีวิตอยู่คนเดียว
“เพื่อนก็ยุ่งมาก แล้วเพื่อนก็ชอบยุ่ง ชอบสาระแนกันด้วย มีแต่เพื่อนที่ชอบพูด ชอบคิด ชอบจัดการกันทั้งนั้น (จากแอนตี้ตอนนี้เชียร์?) คือเขาก็ไม่คิดว่าอย่างเราจะมีใครมาชอบ พอตอนหลังเพื่อนได้เห็นนิสัย แล้วเราหายหัวไปจากเพื่อนเลย เขาก็คิดว่าเราคงมีความสุข เขาเลยเริ่มเปิดใจ เริ่มรู้ว่าคนนี้เป็นยังไง นี่เราคบกันมาประมาณจะ 2 ปีแล้ว ก.พ. ปีหน้าก็ 2 ปีที่เริ่มคุยกัน แต่ถ้าจะเริ่มนับว่าตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วก็ต้องเม.ย. ถามว่าใช้เวลาพิสูจน์กันนานไหม จริงๆ เราเองปรับตัวกันเยอะมากเลยนะ ปรับตัวชนิดที่ว่า… เราตั้งใจมาตลอดว่าเราจะมีชีวิตเดี่ยว ทุกอย่างซื้อและเตรียมไว้สำหรับคนเดียวหมด การจะต้องมาแชร์มาอะไรเราก็ต้องมาปรับตัวใหม่ ก็ปรับตัวเยอะ แต่สิ่งที่เขาดีมากคือเขาอดทน เขาจะบอกเราตลอดว่าไม่เป็นไรนะ ทำไป เขาจะไม่บงการเรา เวลาเรานอนไม่หลับ เขาจะเข้าใจ มันเลยยิ่งทำให้เราเห็นอกเห็นใจ”
ประทับใจเพราะมีความเป็นแม่สูง
“สิ่งเขาเห็นมันไม่มีใครเคยเห็นจากตัวเรา เขาบอกดีแล้วไม่ต้องให้ใครมาเห็น เขาบอกเราไม่เหมือนอย่างที่คนอื่นนึกไว้ เราจะดูแล เอาใจใส่ เราจะมีความเป็นแม่สูง เขาก็เลยประทับใจ ก่อนที่เขาจะมารู้จักตัวตนของเราจริงๆ เขาก็มองว่าเราเป็นคนห้าวๆ เขาก็ชอบมาตั้งแต่เราเด็กๆ เขาบอกตัวแบบนี้เขาไม่เคยเห็น เขาก็ชอบไง แต่เขาไม่กล้าจีบ จนเราแต่งงาน เลยยิ่งรู้สึกว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ จนได้มาเจอกันอีก”
ปรับมายด์เซ็ต เข้าใจโลก
“ถามว่ามีโปรไหม ตอนแรกๆ ก็มองๆ นะ แล้วสุดท้ายเราก็ยอมเปิดเต็มที่ แต่ยังไงเราก็เผื่อใจไว้อยู่แล้ว ถ้าวันนึงจะมีเหตุให้เลิกกันหรืออะไรก็ตาม เราก็จะยอมรับตามความเป็นจริง สิ่งหนึ่งนะ ถ้าวันนึงมันเกิดปัญหาอะไรในชีวิตให้เรารีบม้วนตัวกลับมา แล้วสร้างปกติให้กับชีวิตเราให้เร็วที่สุด ของใจเรา ของความเป็นอยู่ เพราะเวลาในโลกเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว มันไม่ใช่ว่าเราจะตักตวงแต่ความสุข แต่เราต้องรู้จักปรับมายด์เซ็ตเราให้มันเข้าใจโลก ปล่อยวาง ยอมรับไม่ว่ามันจะดีหรือไม่ดี”