ไม่มีเรื่องไหนจะดุเดือดเลือดพล่านเท่ากับมหากาพย์ “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” ปิดฉากรักข้ามประเทศกับ “จี กามิน” ติ๊กต๊อกเกอร์ชาวเกาหลี แน็ก ชาลี ไลฟ์แฉราราธอน 9 ชม. ขยี้กามินให้แหลก ก่อนจบด้วยคำว่าผมรักคุณ เข้าตำรา สร้างได้ก็ทำลายได้
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของแน็ก ชาลี ทำโซเชียลเสียงแตกเป็นสองฝ่าย โดยไอจี ติ๊กต๊อก และเฟซบุ๊ก ส่วนใหญ่จะเข้าข้างแน็ก ชาลี ขณะที่ X (ทวิตเตอร์) กับเว็บไซต์พันทิป กลับเข้าข้างกามิน สองฝ่ายด่าทอ วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ให้ข้อมูลที่ไม่รู้อันไหนจริง อันไหนเท็จ กลายเป็นความสับสนอลหม่าน ดีเทลเยอะมากๆ ชนิดที่ว่า ใครที่เสพเรื่องนี้อยู่ จริงๆ แล้ว ต้อง “ฟังหูไว้หู” และการเอาตัวไปลงในโลกออนไลน์เต็มๆ ตัว ก็ทำให้แน็ก ชาลี เสียฐานแฟนคลับเดิมไปจำนวนไม่น้อย ซึ่งชีวิตแน็ก ชาลี กว่ามาถึงจุดนี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
เข้าวงการตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบ
แน็ก เป็นพระเอกคนหนึ่งที่มีชีวิตน่าสนใจ โลดแล่นอยู่ในวงการเป็นนักแสดงตั้งแต่อายุยังไม่ถึงขวบ เล่นภาพยนตร์เรื่องแรก “กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้” ในปีพ.ศ. 2537 ต่อมาในวัย 8 ขวบ แน็กมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน ที่ทำรายได้สูงสุด 140 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2546 ตามติดด้วยภาพยนตร์เรื่อง เด็กหอ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้แน็กได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในปี พ.ศ. 2549
แน็กมีผลงานตามมาอีกมากมาย มีทั้งภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ และเรื่องที่แป้กไม่เป็นท่า ผันตัวไปเป็นนักร้อง แต่ก็ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร แต่ชื่อก็ยังรันวงการบันเทิงอยู่เรื่อยๆ เพราะความมีฝีมือในการแสดง อีกทั้งบุคลิกเป็นหนุ่มติสต์ รักสัตว์ มีอารมณ์ขันในตัวเอง เคยแต่งตัวในสภาพคล้ายขอทาน เสื้อขาด รองเท้าแตะไปเดินในห้างดังใจกลางเมือง สร้างศาลพระภูมิติดแอร์ให้ผีเจ้าที่ ที่มีขนาดเท่ากับบ้านคนจริงๆ สิ่งนี้เรียกเสียงฮาและความเอ็นดูให้แฟนๆ อยู่ไม่น้อย
ถึงเรียนไม่จบ แต่จิตใจสะอาด ไร้พิษภัย
ในเรื่องการศึกษา แน็กจบระดับมัธยมจาก โรงเรียนแม่พระฟาติมา แต่เรียนระดับมหาวิทยาลัยไม่จบ เหตุถึงวันสอบที่มหาวิทยาลัยรังสิต แน็กเลือกเดินออกจากห้องสอบไปตกปลา ต่อมาฮึดเรียนต่อคณะรัฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่สุดท้ายก็ไม่ไปเรียนอีก เพราะรู้ตัวเองว่าเรียนไม่เก่ง อีกทั้งมีงานที่ติดต่อกัน ทำให้ไม่พร้อมเรียน แม้เรียนไม่จบ แต่ด้านอื่นๆ ก็มีดี แน็กเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีพิษภัยกับใคร จะออกมาทำงานหาเงิน ก็ต่อเมื่ออาหารสัตว์หมด เงินหมด ด้วยภาพลักษณ์ที่จริงใจ เป็นตัวของตัวเอง ทำให้หลายคนหลงรักในเสน่ห์ตรงนี้
เห็นบ้าๆ บอๆ แต่รวยหลายร้อยล้าน!
ถึงแม้แน็ก ชาลี จะเรียนไม่จบ แต่สร้างคุณค่าให้ตัวเองอย่างน่าทึ่ง แน็ก รู้จักเก็บออมเงินในรูปแบบของอสังหาฯ ซื้อที่ดินในซอยสถานทูตจีนตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ กว้านซื้อที่สะสม จนสร้างอาณาจักรคู้บอนที่ยิ่งใหญ่ มีบ้านทั้งหมด 27 หลัง อีกแค่ไม่กี่หลังคู้บอนก็จะเป็นบ้านของแน็ก ชาลีทั้งซอย ซึ่งปัจจุบันที่ดินตรงนี้มีมูลค่าเพิ่มไปหลายร้อยเท่าตัว แน็กมีของสะสมหลายชิ้นที่หาได้ยาก เก่าแก่ และมีมูลค่าสูงในตลาด ความรวยของแน็ก ชาลี ยังประจักษ์ หลังจากมีข่าวเจ้าตัวซุ่มซื้อเครื่องบินส่วนตัว
โดดเข้าสู่โลกโซเชียล
แน็กกลับมาเป็นหนุ่มฮอตปรอทแตก ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก หลังจากปรากฏตัวไม่กี่วินาทีในรายการ 10 Fight 10 เป็นตำนานที่หาได้ยาก เพราะแค่ “นั่งดูเฉยๆ” ก็กลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์ได้ จากนั้นแน็กเริ่มมีแฟนๆ ติดตามเป็นจำนวนมาก มีงานรีวิวติดต่อมากมาย เฟซบุ๊กมีฐานแฟนคลับที่ใหญ่ขึ้น รีวิวคือความแปลกใหม่ เพราะทำงานตามใจและความรู้สึก ยอมหล่อก็ต่อเมื่อร้อนเงิน ไม่เกินจริง
รันวงการติ๊กต๊อก
เพราะเป็นคนที่นอนไม่หลับ แน็ก จึงไถติ๊กต๊อกไปเรื่อยๆ ส่องชีวิตผู้คน จนได้รู้จักกับ “จี กามิน” ติ๊กต๊อกเกอร์ชาวเกาหลี พากองทัพแฟนคลับบุกเข้าไลฟ์สดกามิน จนก่อให้เกิดด้อม “ชามิน” คนไทยรู้สึกรัก และลุ้นให้กามินลงเอยเป็นแฟนชาลี ส่วนแน็ก ชาลี ก็เข้าไปสิงอยู่ในโลก PK (ย่อมาจาก Player Kill เป็นฟีเจอร์ไลฟ์สดบนติ๊กต๊อกที่ผู้ใช้สองคนสามารถแข่งขันกันเพื่อรับของรางวัลหรือเพื่อความสนุกสนาน โดยผู้ชมจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครคือผู้ชนะ) ซึ่งแน็ก เคยออกมาบอกทุกคนเองว่าอย่าอินเกินไปจนลืมความจริง เพราะ PK คือการแสดง เป็นงานชนิดนึงที่คนจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน โดยแน็กเผยว่าตนเองไม่ได้อะไรเลย นอกจากมิตรภาพในการช่วยเป็นแรงผลักดันคนเหล่านี้
มีแฟนแล้วพัง อีกร่างที่คนไม่รัก
เป็นคนที่รักใครพร้อมทุ่มให้สุดหัวใจ ดูแลและเซอร์วิสหวานใจเป็นอย่างดี ตอนที่คบกับ “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” เสิร์ฟโมเมนต์หวานๆ แต่ก็ทำแฟนคลับพากันว้าวุ่นไม่น้อย เพราะต้องตามหาตัวกันในโซเชียล แต่แค่เพียง 2 เดือน รักทั้งคู่ก็ปิดฉาก แน็กออกมาเผยถึงความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่า “ผมไม่ใช่คนทิ้งเขา เขาน่าจะเบื่อผม ต้องยกเลิกงานเป็นร้อย” และคบหากันนานถึง 3 ปี ขณะที่เก๋ไก๋ ได้ออกมาเปิดใจถึงรักที่ไปต่อกันไม่ได้ เพราะไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน โดยยืนยันว่าคบจริงๆ แค่ 2 เดือน ไม่ได้ยกเลิกงานเป็นร้อยอย่างที่ชาลีพูดออกไป แน็กก็ออกมาโต้ตอบประเด็นนี้พร้อมผายมือกว้างๆ บอกว่า “2 เดือนก็ 2 เดือน แล้วแต่” ซึ่งครั้งนี้ทำทัวร์ลงแน็ก ชาลี มองเป็นการโยนบาปให้ฝ่ายหญิง เป็นอีกร่างที่คนเริ่มเห็นตัวตน ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของแน็ก ชาลี
กระทั่งมาถึง กามิน ภายหลังปิดฉากซีรีส์รักข้ามประเทศ แน็กออกมาไลฟ์มาราธอน 9 ชม. สาวไส้กามินให้คนรู้ทั้งโลก เหมือนลากกามินมาตบกลางสี่แยก เลยคำว่าปกป้องตัวเองไปมาก เพราะกะไม่ให้มีที่ยืนอีกเลยในเมืองไทย!
แฟนคลับตั้งคำถาม “แน็ก ชาลี” ป่วยไหม?
หลังเหตุการณ์ไลฟ์มาราธอน แฟนคลับแน็ก ชาลี จำนวนไม่น้อย ต่างห่วงใยและตั้งคำถามว่า แน็ก ชาลี ป่วยไหม? เป็นโรคหลงตัวเอง ต้องพบแพทย์หรือไม่ ขณะที่แน็ก ชาลี เคยออกมายอมรับว่าตนเองเป็นคนคิดมาก เครียด ขี้เบื่อ ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว กลางคืนก็จะเป็นโรคนอนไม่หลับ ยิ่งโตยิ่งหลับยาก กว่าจะนอนหลับได้บางทีก็ถึงเช้า แต่ไม่ไปหาหมอ ไม่พบจิตแพทย์ เพราะมีวิธีที่ตัวเองค้นพบง่ายๆ คือไปทำงานก่อสร้าง ทำให้เหนื่อย เหงื่อออก พร้อมแนะว่าใครที่เป็นซึมเศร้า ใครที่กำลังเบื่อชีวิต ให้ลองทำแบบตน โดยเชื่อว่าเป็นวิธีที่รับมือได้
แน็ก - กามิน สอนอะไรคนไทย?
เรื่องราวของแน็ก ชาลี กับ กามิน ทำให้เห็นว่าโซเชียลเป็นโลกที่โหดร้ายและน่ากลัว คนจำนวนไม่น้อยยกโขยงไปด่ากามินทุกช่องทาง กดดันให้กลับไปอยู่จุดเดิม แต่อย่าลืมว่ากามินมาจากจุดที่ไม่มีอะไรในชีวิต แค่จับพลัดจับผลูได้เจอชาลี แสงของชาลี ทำให้กามินกลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน แต่หากวันนี้กามินจะกลับไปอยู่จุดเดิม แล้วเธอจะสะเทือนอะไร?
ดรามา กามิน - ชาลี สอนอะไรคนไทย? อย่าหมกมุ่นกับมันมากเกินไป มองเรื่องรักคนดังให้เป็นแค่เรื่องราวของความบันเทิงก็พอ เพราะเบื้องลึกเบื้องหลังใดๆ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนสองคน
ส่วนแน็ก ชาลีเอง ก็อย่าให้โซเชียลดูดกลืน จนสูญเสียความเป็นตัวตนที่คนเคยรัก เพราะจุดที่น่ากลัวที่สุดสำหรับชีวิตมนุษย์ คือใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง! ฝากเอาไว้สั้นๆ แค่นี้