โหนกระแสเทปสุดสะเทือนใจ เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ร่ำไห้ เลิกทั้งที่ยังรัก พ่อเจ้าบ่าวผิดสัจจะเรื่องสินสอด บอกไม่มีเงินก่อนงานแต่งแค่ 1 วัน ทำแม่เจ้าสาวช็อก ต้องยืมเงิน - ขายรถมอเตอร์ไซค์ จำนำทอง เครียดหนี้ท่วมเอาหัวโขกฝา อยากฆ่าตัวตาย กรรชัย ฟาดแรง พ่อฝ่ายชายไม่โต สงสารเด็กทั้งสองคน ซูอกหัวใจแม่เจ้าสาว ยืมเงินหมื่นช่วยเจ้าบ่าวเรื่องการศึกษา น้ำตาท่วม
เป็นอีกเทปที่ทำคนไทยถึงขั้นหลั่งน้ำตา กรณีบ่าวสาวคู่หนึ่ง รักกันตั้งแต่สมัยเรียน ตอนแรกตกลงเรื่องหมั้น เหตุฝ่ายหญิงถูกชาวบ้านนินทา มีการตกลุงคุยกับพ่อเจ้าบ่าว แต่พ่อฝ่ายเจ้าบ่าว เสนอให้จัดงานแต่งเลย ตกลงจะให้เงินค่าสินสอด 2 แสน ทอง 2 บาท แต่ก่อนถึงงานแต่งแค่ 1 วัน พ่อเจ้าบ่าวกลับบอกแม่เจ้าสาวว่าไม่มีเงิน พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวสุดช็อก เพราะทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้ว จำใจต้องใช้เงินตัวเอง รวมทั้งไปหยิบยืมญาติมาจ่ายค่างานแต่ง พ่อเจ้าบ่าวสัญญาจะให้เงินคืน แต่สุดท้ายก็เงียบ ในที่สุด เรื่องราวบานปลาย ทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องหย่าขาดจากกันทั้งที่ยังรักกันอยู่
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 11 ก.ย. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ น้องแมงปอ เจ้าสาว มาพร้อม คุณแม่เพย และคุณพ่อ และ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ อีกมุม น้องพู่ เจ้าบ่าว มาพร้อม พ่อบอย พ่อเจ้าบ่าว รวมทั้ง ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล
น้องรีเควสไพศาลเหรอ?
แมงปอ : ทนายไพศาลเป็นทนายที่หนูติดตามหลายๆ คดีแล้วค่ะ หนูชอบค่ะ คิดว่าเขาน่าจะช่วยได้ค่ะ
พ่อเครียดอยู่มั้ย?
พ่อบอย : ยังเครียดอยู่ ขนาดนั่งอยู่ ยังคิดถึงเรื่องงาน
ไม่มองหน้ากันเลยเหรอ?
พู่ : มองครับ
แมงปอ : ไม่มองค่ะ
ทำใจไม่ได้เหรอ กลัวกลับไปใช่มั้ย?
แมงปอ : หนูไม่อยากมองหน้าคนไม่เห็นคุณค่าของหนูค่ะ
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น รู้จักพู่ได้ไง?
แมงปอ : เข้ามหาวิทยาลัย เป็นกิจกรรมมหาวิทยาลัย ตอนนั้นก็เจอกัน ฝ่ายชายทักมาคุยกับหนูได้สองเดือน เขาก็ขอคบหาดูใจ จากนั้น 3 เดือนเขาพาหนูไปบ้านแม่เลี้ยงเขา เขาอยู่ในหมู่บ้านนึงในจังหวัดนครสวรรค์ หนูไปอยู่ที่นั่น แต่ไม่ถาวร หนูยังเป็นนักศึกษา อยู่หอใน
ทำไมไม่ปิดหน้าทั้งที่ให้ปิด?
แมงปอ : หนูคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิด เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้วค่ะ
รู้จักกันแล้วยังไง?
แมงปอ : เขาชวนหนูขายของ ทำมาหากิน ชวนขายข้าวเหนียวหมูทอด น้ำพริก จนต่อมาทางพ่อฝ่ายชายได้เลิกรากับแม่เลี้ยง ทำให้พู่ต้องย้ายออกมาหาหออยู่ในเมืองในอีกหมู่บ้าน เขาชวนหนูว่ามาอยู่ด้วยกันมั้ย เราช่วยกันหาหอ ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกัน เดือนนั้นเป็นการย้ายหอฉุกเฉิน ทำให้กยศ. ที่เราต่างคนต่างกู้ ออกไม่ทัน ก็โทรหาแม่ ให้โอนเงินมาให้เพื่อสำรองจ่ายให้
มีประเด็นมาก่อนหน้านั้นแล้ว?
แมงปอ : ใช่ค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ได้เป็นประเด็น เพราะเรารักค่ะ ช่วยเหลือกันได้ อยู่หัวไปสักพัก ค่าหอค่อนข้างสูง เลยย้ายหอ พอย้ายหอ ค่าหอลดลง แต่มีค่าใช้จ่าย การเรียน ค่าชุด ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่างาน ค่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวัน ที่กยศ.ไม่พอจ่าย หนูก็ขอทางแม่หนู
ตอนเขาเดือดร้อนเราก็ช่วยตลอด เขาเคยเอาเงินมาคืนมั้ย?
แมงปอ : ตอนนั้นฟรีค่ะ เรารักเขาค่ะ จากนั้นวันหยุดตัดสินใจพาเขาไปบ้าน แนะนำให้พ่อแม่เห็น เขาก็นอนค้างบ้านหนู ครั้งแรกสองสามวัน เป็นอย่างนั้นมาเรื่อยๆ จนเป็นที่ครหานินทาในหมู่บ้าน ทางแม่ก็เรียกพู่มาคุยก่อน คุยกันว่าเขาพูดกันอย่างนี้นะ เล่าให้ฟังว่าชาวบ้านพูดยังไงบ้าง บอกให้ตั้งใจเรียน เรียนให้จบ เก็บเงินแล้วค่อยแต่งงานกัน อยู่บ้านหนูประมาณปีกว่าๆ ฝ่ายชายเขาไม่ได้ไปไหน เขากลับมาอยู่บ้านหนูอย่างเดียว ไม่ว่าจะปิดเทอม วันหยุด
กินใช้อยู่ที่บ้านหมด เขาช่วยมั้ย?
แม่เพย : ช่วยทำไร่ ดายหญ้า ปลูกมัน ค่ากินค่าข้าวก็ไม่มี เราเลี้ยงเขาเหมือนลูกคนนึง รักเหมือนลูก ซื้ออะไรให้ลูกก็ซื้อให้เขา แม้แต่เสื้อเรียน ปากกา ดินสอ ก็ซื้อให้หมด
จากนั้นยังไง?
แมงปอ : มีคนพูดกันหนาหู จนผู้ใหญ่แนะนำว่าเอาแบบนี้มั้ย คนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร เขาอยากเห็นหน้าพ่อ ให้ลองคุยกบพ่อเขาได้มั้ย ว่าหมั้นกันก่อนได้มั้ย ทองสักเฟืองครึ่งเฟืองก็ยังดี แม่หนูก็ตัดสินใจโทรไปหาเขา
แม่เพย : โทรไปหา จริงๆ แม่คุยกับพู่กันก่อน ว่าอยากให้ทั้งแม่และพ่อของเรารับรู้ว่าเราคบหาดูใจ ไปมาหาสู่กันนะลูก เพราะทางผู้หญิงดูไม่ดีแล้ว ให้มารู้จักกัน หน้าตาเป็นยังไง บ้านช่องเป็นยังไง พู่กันก็โทรหาพ่อ พ่อก็ตอบว่าอะไร
พู่ : ตกลงกันว่า ทีแรกจะเป็นหมั้น แต่เหมือนในงานจะมีอะไรเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นงานแต่ง
แม่เพย : ผิดค่ะ พ่อเขาบอกกับพู่ว่า ผมโอเค ผมพร้อมทุกอย่าง ผมให้ 2 บาท 2 แสน
พู่ : แม่เป็นคนบอกว่าแม่ไม่กำหนดวงเงิน ขึ้นอยู่กับพ่อสะดวกเลย
แม่เพย : แม่ก็ไม่ได้บังคับให้แต่งกัน
นี่หมั้นใช่มั้ย?
แม่เพย : ทางเราบอกว่าหมั้น แต่ทางเขาบอกว่าแต่งเลย
ใช่มั้ยพ่อบอย?
พ่อบอย : ใช่ครับ ตอนแรกได้ข้อมูลจากลูกว่าทางฝ่ายโน้นเริ่มถูกมองไม่ดี เราเป็นพ่อก็อยากจะทำอะไรให้กับลูก ณ ตอนนั้นศักยภาพของผมในเรื่องการเงินคิดว่าน่าจะมีเพียงพอ ผมทำรับเหมาก่อสร้าง น่าจะพอทำได้อยู่
พ่อบอยคิดว่ามีศักยภาพ เงินกำลังจะมา ลูกคนเดียวไม่ต้องห่วง ตอนนั้นพู่อยู่ไหน?
พู่ : อยู่โรงเรียนกับโค้ชครับ
พ่อเลยคิดว่าให้เด็กแต่งงานไปเลยดีกว่า จ่าย 2 แสน ทอง 2 บาท แม่ตกลงมั้ย?
แม่เพย : ตกลงค่ะ ไม่เป็นอุปสรรคใดๆ เรารักลูก ลูกรักสิ่งใด เรารักสิ่งนั้นตามค่ะ
จากนั้นยังไงต่อ?
แม่เพย : พ่อก็บอกว่าให้ทอง 2 บาท เงิน 2 แสน ผมขอเป็นคนกำหนดวันเอง เขากำหนดเป็นวันที่ 21 เม.ย.67 ตรงกับวันคล้ายวันเกิดพ่อบอยค่ะ
เด็กสองคนคบกันมานานแค่ไหน?
แมงปอ : คบตั้งแต่ปีหนึ่ง เดือนก.ย. ปี 65
สองปีที่คบมา รักมั้ย?
แมงปอ : ถ้าไม่รักคงไม่ลำบากมากับเขาหรอกค่ะ
รักมั้ย?
พู่ : รักครับ
ทุกวันนี้รักมั้ย?
พู่ : รักครับ
จะร้องมั้ย?
พู่ : ไม่ครับ (ปาดน้ำตา)
น้ำตาเขาไหลนะ?
แมงปอ : หนูเห็นบ่อยแล้วค่ะ ปรึกษาอะไรก็ร้องไห้ๆ ไม่ให้คำปรึกษาอะไรเลย เขาเป็นแบบนี้แหละค่ะ ชอบร้องไห้
ชอบร้องไห้เหรอ?
พู่ : ไม่ใช่ครับ มันอึดอัดครับ
แม่ก็ตกลงแต่ง?
แม่เพย : ยังไงก็ได้ ในเมื่อลูกเรารักเขาซะหมดหัวใจ
ยังไงต่อ?
แมงปอ : ก่อนจัดงานวันที่ 21 ทางเจ้าบ่าวมาเที่ยวบ้านหนู มีพู่ พ่อ และแฟนพ่อ มากัน 3 วันแล้วกลับไป บอกว่ากลับไปเคลียร์งาน เคลียร์เงิน วันที่ 10 เม.ย. จะมาช่วยจัดงานที่บ้านหนู หลังเขาตกลงจะให้แม่หนู 2 แสน 2 บาท แม่หนูได้ถามตลอดว่าเขาพร้อมมั้ย มีหลักฐานหมดค่ะ เขาบอกว่าพร้อม เขาเตรียมไว้หมดแล้ว รอแค่กำหนดการ วันที่ 10 เขาเดินทางมาที่บ้านหนู 10 คน มาอยู่มากินที่บ้านหนู
เขาไปอยู่โรงแรม?
แมงปอ : โรงแรมอะไรคะ เขามานอนที่บ้านหนูค่ะ เขาก็พาหนูไปเช่าชุด เตรียมของไว้จัดงาน เตรียมทุกอย่าง แล้วเขาก็จ่ายค่ามัดจำไป จนมาวันที่ 20 เขาก็มาดึงแม่หนูไปคนเดียว
ที่เขามานอนบ้านเรา 10 คน เขาขอมาอยู่หรือแม่บอกให้อยู่?
แม่เพย : ถ้าอยากมาก็มา แม่ยินดีต้อนรับ
พูดง่ายๆ เขาเป็นแขก ก็บอกว่ามาอยู่ที่นี่ก็ได้ แม่ก็จิตใจดีแหละ?
พ่อบอย : ตอนนั้นเราคุยกันว่าเราจะช่วยจัดเตรียมงาน ที่เข้าไปก็ต้องมีการเตรียมงาน ผมมีแพลนว่าผมจะทำโรงทาน ที่วัดใกล้ๆ เขาจัดสรงน้ำพระกัน ผมอยากทำโรงทาน วันที่ 17 ก็อยู่เตรียมงานตรงนี้ไป
วันที่ 20 ก่อนวันแต่ง 1 วัน พ่อบอยมาหาแม่ แล้วเป็นยังไง?
แม่เพย : พ่อบอยเขากุมมือแม่บอกว่าไปกับผมแป๊บนึง เขากราบที่เท้า และมีน้ำตา บอกว่าแม่ ผมขอโทษ ผมไม่สามารถหาสินสอดมาได้เลย ผมไม่มีสักบาทนึงเลย แม่ก็ตกใจ ช็อก เหวอเลยค่ะ ชีวิตนี้จะทำยังไงแล้ว มืดแล้ว ค่ำแล้ว เราขี่รถไปปรึกษากันว่ามาถึงจุดนี้จะทำยังไงกันดีล่ะพ่อมึง ที่จริง แม่ไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่เลย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน มันกะทันหัน ฉุกละหุกหมดเลย ขนมจีนน้ำยา กับข้าว อาหาร สั่งหมดแล้ว โต๊ะจีน จัดงานทุกอย่างมีหมดแล้ว
ถ้าบอกก่อนสักอาทิตย์ยังหาทางออกได้ แต่นี่จะแต่งวันรุ่งขึ้น ของสั่งหมดแล้ว พอวันที่ 20 มาบอกว่ากราบขอโทษนะ ไม่มีเงินสักบาท?
แม่เพย : แล้วขออนุญาตถาม อยู่ด้วยกันตั้ง 10 กว่าวัน ทำไมไม่บอก ถ้าบอกงานแต่งจะไม่มีเลย จะให้หอกระจายข่าวบอกเลยว่าเรางดนะ ทำไมคุณไม่พูด เพราะอะไร มีอะไรอยู่ในใจของคุณ
พ่อบอย : เริ่มต้นเลยก่อนทำงาน ผมก็แพลนงานไว้หมดแล้ว ผมมีเงินติดตัว 7 หมื่น เพื่อทำโน่นนี่นั่น และทำโรงทานด้วย ส่วนเงินสินสอด ผมเตรียมไว้กับข้างในงานผม แต่ข้างในงานผมมีปัญหา ลูกน้องไม่เข้าไปทำที่หน้างาน ทำให้ผู้ว่าจ้างไม่ไว้ใจผม ตัดงานใหม่ ตัดงานเก่า ไม่ให้ผมทำแล้ว จากเงินที่ต้องได้จากตรงนี้ ราวๆ เกือบ 2 แสน
จะบอกว่ารับงานไว้ เดี๋ยวจะมีเงินเข้ามา 2 แสนบาท
พ่อบอย : ผมคุยกับเจ้าของบ้านไว้ ผมบอกว่าถึงกำหนด ผมจะให้ลูกน้องไปทำที่หน้างาน แล้วเอาเงินตรงนี้ออกมาก่อน จะเอาเงินไปจ่ายให้ลูก
แต่ช่างเราไม่เข้าไซส์งาน?
พ่อบอย : ใช่ แล้วทำให้ผู้ว่าจ้างไม่ไว้ใจเรา ผู้ว่าจ้างเขาอยากเข้าบ้านเขา เขาเลยตัดงานเรา อย่างพี่หนุ่มจะทำบ้าน ก็อยากเข้าไปอยู่ในบ้านเร็วๆ
จะบอกว่าคุณกำลังจะได้รับเงิน แต่ผู้ว่าจ้างไม่ไว้ใจเพราะช่างไม่เข้า เลยตัดเงินตรงนี้ ถามคำเดียว มีสัญญามาโชว์มั้ย?
พ่อบอย : ไม่ได้ทำสัญญาครับ
คุณทำงานไม่ทำสัญญาเหรอ?
พ่อบอย : ทำเป็นบางเจ้า แต่เจ้านี้ไม่ได้ทำครับ ด้วยความไว้ใจกัน
มันก็ต้องไปพิสูจน์กัน?
ไพศาล : เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ
แม่เพย : หลังจากนั้น แม่พ่อแมงปอบอกว่าเราถอยไม่ได้แล้วนะลูก อาหารมาหมดแล้ว ถ้าเราจะคืน เราก็ต้องเสียเงินจ่ายอยู่ดี ต้องจ่ายในราคาเท่านี้ เขาไม่ได้ลดให้เราแม้แต่บาทเดียว จะทำยังไงกันดี เอางี้ แม่เอาเงินเก็บ ยืมเงินป้าๆ น้าๆ และของยาย รวมทั้งทองที่แม่มีอยู่ ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปนะลูกนะ เอาไปเรียงๆ วางเป็นสินสอด ให้ชาวบ้านเห็นว่าพ่อผู้ชายเอาสินสอดมาแล้วนะ ทอง 3 บาทวันนั้นแม่ใส่อยู่ ก็ถอดเอาไปให้พู่คล้องให้ลูกสาวเอง หลังจากนั้นแม่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายโน่นนี่นั่น งานแต่งมีซองจริง แต่มีค่าใช้จ่ายเยอะ พู่กัน ปอ แม่ ช่วยกันฉีกซอง เพราะแม่ดูแล้วเงินไม่พอ ฉีกซองคือต้องรีบเอาไปเคลียร์
แมงปอ : 6 หมื่น
แม่เพย : ให้เขาสองคนช่วยเอาไปเคลียร์ แล้วทองของแม่ไปไว้ร้านจำนำ
ค่าใช้จ่ายวันนั้นเท่าไหร่?
แมงปอ : 1.7 แสนค่ะ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง มีจิปาถะ
แม่เพย : บางอย่างแม่ไม่ได้จดก็มี
รายบัญชี ค่าแต่งหน้า 6 พัน ค่าใช้จ่าย 4.5 พัน ค่าโต๊ะจีน 5.4 หมื่น เครื่องไฟอีก 3.5 พัน ค่ากับข้าว 2 หมื่น ค่าแห่ขันหมากอีก 4 พัน ค่าเช่าชุด 6,881 บาท ค่าเจ๊เล็ก ร้านค้าอีก 23,900 ยายจุกอีก 3,800 ค่าจัดฉาก 4 พัน นางรำ 1,600 ค่าพิมพ์การ์ดอีก รวมเบ็ดเสร็จตรงนี้เท่าไหร่?
แมงปอ : 1.4 แสน กลมๆ แล้วมีค่าจิปาถะแม่จ้างคนมากางเต็นท์ เลี้ยงคนงาน
เบ็ดเสร็จ 1.7 แสน แต่เงินเป็นซองเข้ามา ค่าซองได้ 6 หมื่นบาท ขาดอีกแสนกว่าบาท สิ่งที่คุณทำได้คือแม่เอาทองสามบาท ไปจำนำ?
แม่เพย : จำนำได้ 8 หมื่น แม่ไปตัดต้นมา 5 พัน เอาออกมาแค่ 7.5 หมื่น เอาไปจ่ายค่าของให้ครบ
แม่เอาทองไปจำนำ หมดตัวเลย?
แม่เพย : หมดตัวเลยค่ะ รถมอเตอร์ไซค์ยังต้องเอาไปไว้ไฟแนนซ์หลังเลิกงานนี้เลยค่ะ 2 คัน
เงินจ่ายไปหมดแล้ว แล้วยังไงต่อ?
แม่เพย : แม่เริ่มต้นหนึ่งใหม่ด้วยการไปทำงาน ใช้ชีวิตปกติ ตอนแรกคุยกันด้วยสัจจะวาจา ทางโน้นบอกว่าภายใน 15 วันจะนำเงินทุกบาททุกสตางค์ ทุกสลึง เงิน 2 แสน ทอง 2 บาท จะนำมาให้แม่ครบจำนวนเลย พอ 15 วันเป็นไงคะ
พ่อบอย : ผมได้บอกสาเหตุไปแล้ว ผมมีปัญหาเรื่องงาน หลังจากเสร็จงาน ผมได้กลับไปที่งานนั้น
พ่อได้บอกจริงว่า 10 วัน?
พ่อบอย : ใช่ครับ จากนั้นมา ความหวังผมมีอยู่ความหวังเดียว ผมกลับมาที่งาน ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ คือหนึ่งเจ้าของบ้านตัดงาน สองเจ้าของบ้านไม่ให้งาน ทุกอย่างโดนตัดหมดเลย ผมเหมือนคนล้มละลาย แทบไม่มีเงินเลย ตอนผมมา ผมก็ยืมเงินลูกเติมน้ำมันอยู่เลย
สิ่งที่คุณพูดเหมือนทนายไพศาลบอกว่ากล่าวอ้างลอยๆ เพราะถามว่าคุณมีหลักฐานแสดงให้เขาดูมั้ย แต่คุณบอกว่าไม่มีสัญญา มันมีด้วยเหรอ?
พ่อบอย : มีครับ แล้วแต่ตกลงกัน หลังจากนั้น 15 วัน เราได้เคลียร์กัน และทำสัญญา 1 ฉบับ 15 วันนั้นก็จบไป แล้วมาสัญญาฉบับแรก
15 วันหาเงินมาคืนแม่แมงปอไม่ได้ ตอนนั้นพู่อยู่กับเขามั้ย?
พู่ : หลังจาก 15 วัน วันที่ 14 ผมก็อยากรู้ว่าได้มั้ยพ่อ ถ้าไม่ได้ให้ผมไปช่วยมั้ย อาจดีขึ้นมาบ้าง ก็คุยกัน ผมคิดทีแรกว่ามันจะได้เงินตรงนั้นมา สรุปมารู้ทีหลังว่าไม่ได้ ผมมารู้โค้งสุดท้าย ก็แปลกใจ ก็นั่งรถมาช่วยพ่อทำงาน เพื่อหาเงินไปให้แม่ของเมีย
ช่วง 15 วันคุณอยู่ต่อ?
พู่ : ใช่ครับ
พอ 14 วัน พ่อไม่ได้เงินอีก คุณเลยตามพ่อมาทำงานเพื่อเอาเงินไปให้เขา แล้วได้มั้ย?
พ่อบอย : มีส่งตามครับ
พู่ : ได้น้อยครับ ไม่ครบตามจำนวนที่พูดไว้
เท่าไหร่?
พู่ : ประมาณ 3 พัน ผมก็ให้เขาครับ
เรายังคบหากันอยู่ ระหว่างพู่กับแมงปอ เคยคุยและแก้ปัญหากันมั้ย?
พู่ : เคยคุยให้ผมคุยกับทางพ่อว่าทำไมไม่ได้ ประมาณนี้ครับ
แมงปอ : เคยคุยให้เขากระตุ้นทางพ่อเขาให้หน่อย ถ้ามีคนมาทวงแม่หนู เขาก็ต้องจ่ายเลย ไม่สามารถผัดอะไรได้เลย แต่เขาสามารถผัดแม่หนูได้ แม่หนูเลยเครียด กินข้าวไม่ได้ เอาหัวโขกฝาบ้าน
แม่เพย : ไม่ได้อยากอยู่เลย มันลำบากจริงๆ (เสียงเครือ) พ่อก็ผ่าตัด ทำงานไม่ได้ แม่ต้องเป็นหลักทำงานส่งลูกเท่ากับสองคนนะคะ แม่อายุปูนนี้แล้ว สังขารร่างกายไม่ได้ดูเลย ดูแลเอาใจใส่แต่อนาคตการเรียนลูกสองคนนี้ นี่คือความจริงค่ะ
แม่เอาหัวโขก?
แม่เพย : เอาหัวโขกผนังปูนบ้าน เมื่อไหร่เราจะตายสักที (ร้องไห้) เมื่อไหร่เราจะหลุดพ้นจากความลำบาก เราทำเวรทำกรรมอะไรไว้นะ เราทำดีมาทั้งชีวิต
แมงปอ : (ร้องไห้)
แม่เพย : เราย้อนไปตั้งแต่เด็กจนโต ทำไมเราก็ไม่เคยทำผิดทำชั่ว ไม่เคยลักเล็กขโมยใคร ทำไมเราต้องเจอแบบนี้ด้วย (ร้องไห้)
พู่กับแมงปอ เลิกกัน หย่ากัน กี่วันถึงได้หย่า?
แมงปอ : 3 เดือนค่ะ
หย่ากันเพราะฝ่ายหญิงทนเห็นแม่จะฆ่าตัวตายไม่ไหว พู่ก็ยอมรับในกติกา เพราะสาเหตุอยู่ทางนี้?
พ่อบอย : ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ผม เรื่องที่เกิดอยู่ที่ผม แต่ก็มีกฎเกณฑ์ มีอะไรอีกนิดนึง
แต่กลายทำให้เด็กสองคน?
พ่อบอย : ตรงนี้ผมก็ยอมรับผิด ผมขอโทษพ่อกับแม่และขอโทษลูกด้วย
ไพศาล : ดีที่ยอมรับ แต่ต้องว่ากันตามกระบวนการกฎหมายอีก
ถ้าถามว่าทำไมแม่ถึงจัดงานขนาดนี้ ต้องบอกว่าทางพ่อเขาเสนอมา?
แม่เพย : แล้วจะให้ถ่ายรูปอีก
แมงปอ : ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง แต่หนูไม่ไป มันสิ้นเปลืองเกิน
จริงมั้ย?
พ่อบอย : จริงครับ เป็นคนพาไปเอง ครั้งเดียวในชีวิตของเด็ก 2 คน ตอนนั้นไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ผมคิดว่าก็ทำให้เด็กมัน คิดแค่นั้นจริงๆ
ทนายแก้ว : กรณีเราบอกว่าจะมีเงิน 3 แสนจากงาน เราไม่ได้ทำสัญญา มีหลักฐานอะไรอีกมั้ย
พ่อบอย : มีล่าสุดก่อนหน้าจะแต่งงาน ลูกชายไปช่วยอยู่พักนึง ก่อนลงไปคุยกัน
พู่ : ผมเห็นหน้างานจริง ไม่คิดว่าจะมีปัญหา
ทุกวันนี้งานเป็นยังไงกับเจ้านั้น?
พ่อบอย : ยกเลิกไปแล้ว เขาตัดให้ช่างคนอื่นไปทำ เหมือนงานผมค้างอยู่ เอาไปให้เจ้าใหม่ทำต่อ
ทนายแก้ว : ทำไมไม่ส่งให้แม่เขาดู
พ่อบอย : ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
แม่เพย : ถ้าคุณรักษาคำพูด มันก็จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้
แมงปอ : ตรงที่ทางพ่อเล่ามา หนูก็อยากถามว่าแล้วที่เขาสองคนคุยกันว่า เตรียมของหนูไว้หมดแล้ว แยกบัญชีเรียบร้อย ไม่อยากแตะบัญชีนั้น รอแค่กำหนดการอย่างเดียว ก่อนหน้าที่จะทำงานนี้อีก คืออะไรคะ
พ่อบอย : เป็นแค่คำพูดของผม ที่ผมคุยกับลูก ว่าพ่อเตรียมไว้ให้แล้วนะ
แม่เพย : เตรียมแล้วทำไมไม่มีล่ะคะ จะให้แม่เข้าใจว่ามันคืออะไรคะ
พ่อพูดกับพู่ว่าเตรียมไว้แล้ว รอกำหนดการอย่างเดียว พ่อบอกว่าเฮียเร่งให้พ่อเข้าโรงงาน ทัน เงินตามนี้เลย พ่อต้องอยู่อย่างประหยัดสดๆ ลูกชายคุณถามเรื่องต้องมีแหวนมั้ย?
พ่อบอย : ผมคิดว่าจะไปเซอร์ไพรส์ลูก เรื่องแหวน ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่างานต้องออกมาดี
ตามสัญญาต้องเอาเงินมาให้ เป็นยังไง?
แม่เพย : 15 วันก็ไม่มี แม่ก็คิดว่าจะต้องทำยังไง ถึงได้เงินมาใช้หนี้ญาติพี่น้อง ก็เลยคิดว่าต้องเรียกมาทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ปากเปล่าไม่รักษาสัจจะ ไม่ยึดถือคำพูดใดๆ ไม่ได้แล้ว เราต้องทำลงลายลักษณ์อักษร จึงเรียกเขามาทำสัญญาเงินกู้ นายตร.เขียนให้ค่ะ
พ่อบอย : ใช่ ไปเขียนที่บ้านเลย
ก่อนจะพิมพ์ว่าฝ่ายหญิงจัดงานแต่งเกินตัว ต้องดูด้วยว่าประเด็นเริ่มจากพ่อฝ่ายชายไปเสนอเขา พูดเพื่อความเป็นธรรมให้ผู้หญิงนะ ที่สำคัญงานแต่งบางทีการแต่งลูกสาว มันเป็นความภูมิใจของพ่อแม่ เขาเป็นคนต่างจังหวัด เขามีคนอยู่ในพื้นที่ พ่อฝ่ายชายเสนอมาว่าให้สองแสน แม่ฝ่ายหญิงก็ต้องตามนั้น เพราะอะไร เพราะมันเป็นหน้าตาของลูกเขา เป็นเรื่องธรรมดา คุณจะให้เขาแต่งงาน 5 พัน หรือ 5 หมื่นเหรอ ผมเป็นกลางนะ แต่ก็เข้าใจฝ่ายชาย น้องเอาตรงๆ วันสุดท้าย 3 เดือนผ่านไปก็ต้องเลิกผู้หญิง จะพิมพ์อะไรมาไม่ว่า แต่ถ้าพิมพ์อะไรมา ไม่อยากให้ไปเบลมเขา เรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับตัวคุณ คุณไม่เข้าใจ บางคนบอกฝ่ายหญิงปากเก่ง ดูเก่ง ดูกล้า สงสารฝ่ายชาย แต่รู้เปล่า คนขายขี้หน้าไม่ใช่ฝ่ายชายนะ แต่คือฝ่ายหญิง จริงๆ เขาไม่ต้องแต่งก็ได้ แต่พ่อฝ่ายชายไปบอกว่าแต่งเหอะ เดี๋ยวจ่ายให้ แต่เขาไม่จ่าย เรื่องมีอยู่ตรงนี้?
ไพศาล : เสียตัว เสียเงิน เสียหน้า เสียหาย
แม่เพย : เสียใจ (เอามือทุบอก)
พ่อบอย : ตอนแรกที่คุยกับทีมงาน ผมคิดว่าผมจะปิดหน้า เพราะผมกลัวว่าจะกระทบเรื่องงาน ถ้ากระทบเรื่องงาน ผมไม่มีเงินใช่หนี้เขาแน่นอน แต่ผมคิดไปคิดมา ผมเป็นคนผิด ผมจะปิดทำไม เราเอาเรื่องจริงมาคุยกัน ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมไม่เคยปัดเลยว่าผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ผิด แต่ผมขอความกรุณาจากเขา ในสัญญาใบที่สอง ซึ่งผมต้องจ่ายงวดแรกวันที่ 20 ส.ค.
ไพศาล : ใบแตกตกลงกันยังไง ต้องเอาเรื่องนี้มาคุยก่อน ในสัญญาเงินกู้ ทำที่ไหน
แม่เพย : บ้าน นายตร.เขียนให้ค่ะ
ไพศาล : แล้วก็ไม่ได้มีการชำระตามนี้
พ่อบอย : ชำระ 2.8 หมื่น หลังจากสัญญาใบแรกออกมา น่าจะขาดอยู่ เพราะสัญญาตัวนี้ที่ทำ ต้องจ่ายเดือนละ 2 หมื่นบาท พอเดือนที่สองน่าจะให้ไปราวๆ 8 พัน ผมไม่ได้ขาดการติดต่อ แต่ขาดการ่ง ผมผิดนัด ผมรับเหมาก่อสร้าง จะเอาเงินสัก 5 พัน บางทีก็ไม่ได้ตามนั้น แต่ผมมีคำพูดบอกเขาว่าเป็นอย่างนี้นะ ประมาณนี้จะโอนให้ สลิปการโอนของผม ใบแรกจะอยู่ในเครื่องที่ระเบิด
ทนายแก้ว : หมายถึงการทำสัญญาเงินกู้ ถึงดีลแรกคุณจ่าย พอถึงดีลที่สองคุณผิดนัด
พ่อบอย : เดือนที่สองขาดครับ ผมก็แจ้งคุณแม่ เขาก็ให้ความกรุณาผม ผมขอผัดๆ ผมก็เข้าใจเขานะ พูดเรื่องการเป็นเจ้าหนี้กับลูกหนี้ เราเป็นเจ้าหนี้ก็อยากได้ตังค์ แต่ลูกหนี้ผัดไปๆ แต่การผัดของผม ไม่ได้ขาดหาย มีการคุยกัน แต่มีการขอ พอมีผมก็ให้เลย
ทนายแก้ว : พอแจ้งคุณแม่ก็โอเคตามที่คุณขอขยาย แล้วมาเกิดสัญญาฉบับที่สองได้ไง
พ่อบอย : น่าจะตรงที่ผมรอเงินลูกค้า แม่บอกเดี๋ยวแม่จะหาทางออกที่ดีที่สุด ตอนแรกแม่บอกให้ส่ง 2 หมื่น ก็ขอบคุณแม่ด้วย เขาลดมาให้เหลือ 1 หมื่น
พ่อเอาเงิน 7 หมื่นติดตัวไปด้วยตอนแรก แล้วเงินไปไหน?
พ่อบอย : เอาไปจ่ายค่าเช่าชุดครึ่งนึง ค่าอะไรของงานครึ่งนึง และเป็นการใช้จ่าย ในระยะเวลา 10 วัน ตรงนั้นหมดเลย 7 หมื่น
แม่เพย : เขาเลี้ยงโรงทานด้วย ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรา
เงิน 7 หมื่น จ่ายเกี่ยวกับงานแต่งเท่าไหร่?
พ่อบอย : ครึ่งนึง ผมไม่แน่ใจ
พู่ : 3,000-4,000 บาท
พ่อบอย : มีพวกชุด ชุดขันหมาก มีเช่าชุดเด็กๆ
คุณจ่ายเงินเฉพาะค่าแต่งเท่าไหร่?
แมงปอ : จ่ายแค่ค่ามัดจำ
พ่อบอย : บิลมี 3 ใบ ทุกใบจ่ายครึ่งนึง
แมงปอ : ไม่ครึ่งค่ะ จ่ายแค่ค่ามัดจำ
เท่าไหร่?
แมงปอ : หนูก็จำไม่ได้ค่ะ ไม่ได้เอามา
พู่ : ประมาณ 3-4 พัน
6 หมื่นกว่าไปไหน?
พ่อบอย : ทำเกี่ยวกับโรงทาน
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเขา?
พ่อบอย : ใช่ครับ
แล้วคุณทำจริงมั้ย?
พ่อบอย : ทำจริงครับ
5-6 หมื่นทำหมดเลย?
พ่อบอย : ไม่ครับ ทำโรงทานอยู่ราวๆ สัก 3 หมื่น ที่เหลือก็เอาไปใช้จ่ายระหว่างอยู่ 10 วัน จ่ายเกี่ยวกับงานแค่ 3-4 พัน
ถามแม่จากใจ วันนั้นที่เขาเสนอเงิน 2 แสน ทอง 2 บาท ถ้าวันนั้นเขาบอกว่าขอจ่าย 6 หมื่น กับทองสลึงเดียว?
แม่เพย : แม่ได้อยู่แล้วค่ะ ได้ทุกอย่าง หรือจะเลื่อนออกไปก็ได้ แค่บอกว่าไม่มีตอนนี้ ให้เรียนกันก่อน จบมาให้เขาทำงาน อย่างที่แม่พูดกับพู่จำได้มั้ย ตั้งใจเรียนให้จบนะ จบมาก็ทำงาน แต่งงานกันก็จะไม่เอาสักบาท ให้เอาไปลงทุนกัน แต่พ่อเป็นคนเสนอ
พ่อบอย : ใช่ครับ หลังจากสัญญาแรก ก็มีสัญญาฉบับที่สองเพื่อลดหย่อนเงินลงมา
ทนายแก้ว : ที่มีฉบับที่สอง เพราะคุณไปเหลวไหล จนแม่เขาไม่เชื่อถือหรือเปล่า
พ่อบอย : ผมว่าเดือนละ 2 หมื่นตึงไปสำหรับผม
ไพศาล ; ภาษากฎหมายก็คือผิดนัดนั่นแหละ ถึงมีอันนี้
พ่อบอย : ที่ผมคุยกับแม่เขาว่าสองหมื่นตึงไป งั้นมาทำสัญญาฉบับใหม่
ทนายแก้ว : เป็นสัญญาประนีประนอมตามกฎหมายไกล่เกลี่ย กฎหมายจริงๆ สามารถทำประนีประนอมก่อนฟ้องได้ ตามพรบ.ปี 53 ตรงนี้เมื่อคุณแม่เป็นเจ้าหนี้ เขาเป็นลูกหนี้ มีผลผูกพันตามกฎหมาย ถ้าฝ่ายนี้ผิดนัด แม่สามารถบังคับคดีได้ทันที ไม่ต้องไปฟ้องใหม่แล้ว
ไพศาล : เหมือนหนังสือรับสภาพหนี้แล้ว จริงๆ สัญญาฉบับแรกทำไม่ได้
ทนายแก้ว : เจตนาไม่ใช่กู้ยืม
ไพศาล : การกู้ยืมเงินตามกฎหมาย ต้องมีการส่งมอบ มีลายมือผู้กู้ แต่นี่ไม่มีการส่งมอบ เงินไม่มีอยู่จริง ทำยอมหมายถึงรับสภาพหนี้ จริงๆ ยังต้องฟ้องอยู่นะ พ่อรักลูกแหละ ทำทุกอย่างเพื่อลูก หวังดีกับลูก แต่วิธีการผิด น้องยังเด็ก เพิ่ง 21 ยังเรียนอยู่ คำว่าบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย สภาพความเป็นจริง หมายถึงทำมาหากินเลี้ยงชีพเองได้ เราไปให้เขาแต่งกัน ทางแม่เขาอาย เพราะลูกสาวเขาถูกชาวบ้านนินทา เขาขอแค่หมั้น แต่คุณหวังน้ำบ่อหน้า อ้างลอยๆ หมดเลย ให้ความหวังเขาแล้วทำไม่ได้ เด็กผู้ชายน้ำตาไหล มันรักกัน สุดท้ายความรักของพ่อที่ทำให้ลูก ทำลายลูก ทำให้เลิกกันเลย จริงๆ เด็กร้องไห้เพราะเขารักกัน แต่บรรลุนิติภาวะหรือยังล่ะ เอ็งหน้าใหญ่ หวังน้ำบ่อหน้า หลักฐานก็อ้างลอยๆ
ทนายแก้ว : เขามีหลักฐานนะ
ไพศาล : ให้โทรหานายจ้างเลยมั้ย นี่ทำก่อสร้างนะ เอ็งมีแบบมาโชว์หรือเปล่า
พ่อบอย : ไม่มี เพราะต่อเติม
ไพศาล : 2 หรือ 3 แสน ช็อตฟีลตรงไหนรู้มั้ย เอ็งบอกว่าจัดเลย จัดงานวันเกิด เอาเงินไป 7 หมื่น สรุปสืบกันจริงๆ จ่ายเกี่ยวกับงานแค่ 3-4 พัน ช็อตฟีลตรงที่วันที่ 20 เอ็งมากราบเท้าแม่บอกว่าไม่มีเงิน น้องทำแบบนี้ คนจะตกหน้าเหวไง เอ็งหวังดีกับลูก พ่อรักลูก แต่สุดท้ายเอ็งทำลายเขา เขาเลิกกัน แล้วมาบอกเขาวันที่ 20 แต่เขาจัดใหญ่โตวันที่ 21 ซึ่งเป็นวันเกิดใคร วันเกิดคุณ จัดงานแต่งวันเกิดตัวคุณเองนะ ทางนี้เขาเตรียมไว้หมดแล้ว จะถอยได้เหรอ
ทนายแก้ว : อยากบอกคุณแม่นิดเดียว ฝั่งบอยผิดแน่นอน แต่สิ่งที่เขามีความรับผิดชอบ ติดกฎหมายไว้นิดนึง ของหมั้นกับสินสอด ต้องแยกกัน ของหมั้นตกลงให้ฝ่ายหญิง แต่จริงๆ ของหมั้นทำสัญญากันไม่ได้ สินสอดทำสัญญากู้รับสภาพหนี้ได้ ผมชื่นชมบอยบ้าง ตรงบอยเอาสองอย่างมารวมกัน แล้วมารับสภาพหนี้แม่ เขาก็พร้อมชดใช้ให้แม่ โดยทำสัญญาประนีประนอม ตามพรบ.ไกล่เกลี่ย เรื่องแบบนี้แม่ต้องใช้สิทธิ์ทางศาล ไปฟ้องร้อง แต่สิ่งที่อยากบอกคือบอยก็มีส่วนดีบ้าง แต่แน่นอนว่าเขาติดกระดุมเม็ดแรกผิด เลยเกิดปัญหา ถ้าบอยเคี่ยวในส่วนของหมั้นเขาจะไม่เอามารวมกับสัญญากู้ก็ได้ เพราะของหมั้นทอง 2 บาท ไม่สามารถเอามาทำบันทึกกันได้ แต่เขาก็ยอมที่จะทำ
ไพศาล : สัญญาใบแรก ไม่สมบูรณ์ แล้วมาทำสัญญารับสภาพหนี้ ของหมั้นเขาให้ผู้หญิง สินสอดเขาให้แม่ ของหมั้นไม่มีการส่งมอบ มันไม่สมบูรณ์ สินสอดไม่ต้องต่อเลย แต่สินสอดแปลงสภาพหนี้ได้ การแปลงสภาพหนี้ต้องมีมูลหนี้ ทางนี้เหมือนเสียเปรียบ ฟ้องอะไรก็ไม่ได้ ถามคำเดียว เขาห่างหายจากการติดต่อนานมั้ย
แม่เพย : เงียบไปครึ่งเดือนเลยค่ะ
ไพศาล : ที่มาวันนี้ คำถามคือไม่ออกสื่อ เอ็งมามั้ย
พ่อบอย : มาครับ
ไพศาล : สงสารเด็กว่ะ ทั้งชายทั้งหญิง มันก็เสียใจ
พ่อบอย : ผมพร้อมเปิดหน้าเพราะผมสงสารลูก
เอาตรงๆ นะ ผมฟังสองมุมนานแล้ว คุณบอยเอาโทรศัพท์ไปจำนำนะ ใครไถ่มาให้?
พ่อบอย : พี่หนุ่มครับ
ผมไปไถ่โทรศัพท์มาให้นะ เขาไม่มีเงิน เลยเอาโทรศัพท์ไปจำนำ พี่เป็นคนไปไถ่ออกมาเพราะต้องการติดต่อเขา ว่าจะเอายังไง ตอนแรกติดต่อไม่ได้ เพราะเขาเอาโทรศัพท์ไปจำนำ ตอนนี้งานมีทำมั้ย?
พ่อบอย : งานมีครับ เหลือเก็บงาน ก่อนมีนักข่าวโทรมาหา ผมก็ทำงานอยู่ตลอด เพื่อรีบเร่งหาเงินให้เขา กำหนดต้องจ่าย 20 ส.ค. ผมเลทมา
ผมต้องการติดต่อเขาให้ได้ ว่าจะเอาเงินมาชำระยังไง ถ้ามีโทรศัพท์จะได้รับงานต่อไป คุณมีเครื่องมือหากิน จะเอาเงินมาใช้ยังไงตอนนี้?
พ่อบอย : ผมขอสิ้นเดือนก.ย. จะจ่ายตามระบบ
ไม่เล่นพนันออนไลน์ใช่มั้ย?
พ่อบอย : ไม่เล่นครับ กินเหล้าอย่างเดียว
เมียใหม่ล่ะ?
พ่อบอย : ผมดูแลเงินเอง โทรศัพท์เครื่องนี้จำนำวันที่ 30 ที่แม่เขาติดต่อผมไม่ได้ ผมไปดูในข้อความ มันเด้งวันที่ 3
คุณจะใช้คืนเขามั้ย?
พ่อบอย : สิ้นเดือนนี้ครับ 2 งวด 2.2 หมื่นบาท คราวนี้จะทำสัญญาอีกหนึ่งฉบับ พี่หนุ่ม ทนาย ถ้าสิ้นเดือนนี้ผมไม่จ่าย 2 งวด ผมจะเดินเข้าคุกเอง
บอยอย่าพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ?
พ่อบอย : ผมตัดสินใจแล้ว ผมถึงเปิดหน้า หลังจากนี้ถ้าผมไม่มีจ่าย ผมยอมรับสภาพ เท่ากับผมพูดจาล่องลอย ไม่มีสัจจะ แต่ตอนแรกที่เขาบอกผมไม่มีสัจจะ ผมไม่ยอมรับตรงนั้น
ทนายแก้ว : คุณก็ต้องเข้าใจช่วงที่เขาติดต่อไม่ได้ เขาก็มีสิทธิ์คิด ถูกมั้ย
พ่อบอย : ผมไม่เคยโทษเขาเลยครับ อยู่ที่ตัวผมเอง
ทนายแก้ว : สัญญาเป็นตามกฎหมายไปแล้ว จะทำใหม่ก็ไม่มีประโยชน์ อยู่ที่ลูกผู้ชายอย่างบอยจะตรงตามเวลาหรือเปล่า ถ้าไม่จ่ายก็บังคับคดีตามที่พูด
ไพศาล : ไม่มีสัญญาฉบับใหม่ ทำไมเขาถึงไม่เชื่อ แม่เขามีสิทธิ์คิดเพราะโดนจู่โจมมาก่อนแล้ว เขากลัว เขาไม่เชื่อใจแล้วไง
ทั้งหมดต้องจ่ายเงินเท่าไหร่?
พ่อบอย : 2.6 แสน
ไพศาล : 262,000 บาท
แม่มีเงินอยู่เท่าไหร่?
แม่เพย : ไม่มีค่ะ เมื่อวานออกรายการเขาให้มาคนละพันค่ะ ตอนนี้ไม่มีเลยค่ะ
แมงปอ : (เช็ดน้ำตา)
ทนายแก้ว : เมื่อฝั่งนี้หมอบ อยากให้คุณแม่ให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง เขาศิโรราบแล้วเขาขอโอกาส แม่จะให้โอกาสหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของแม่ แม่จะรู้สึกว่ามึงขายฝัน พูดจาเลื่อนลอยก็เข้าใจ ยอมรับว่าบางอย่างเขาอาจพูดเร็ว อยากให้ดูดี แต่ดูหลักเนื้อแท้แล้ว อยากให้แม่เข้าใจว่าตามกฎหมายเมื่อเขารับสภาพหนี้เกินกว่าบางสิ่งบางอย่าง มันก็เป็นผลดีนึง ทำให้การสืบพยานง่ายขึ้น ส่วนเรื่องอื่นคงแนะนำคุณแม่ไม่ได้ แค่อยากฝากบอกว่ากรณีหนี้ที่มีการทำตามพรบ. มีผลบังคับใช้แล้วครับ
คุณใช้หนี้เขาซะ คุณรับปากผ่านรายการแล้ว หรือแก้วกับไพศาล จะรวมเงินให้แม่ไปก่อน แล้วให้ทางนี้จ่ายกับคุณก็ได้?
ทนายแก้ว : เดี๋ยว (หัวเราะ)
ไพศาล : อยากให้คิดสักนิดนึง วันนี้เหมือนเป็นพ่อแม่รังแกฉัน แม่เขาลำบากยังไง ฟังคำพูดน้องที่บอกว่าพ่อจะใช้ พ่อผัดได้ แต่ทางน้องเขาเลื่อนไม่ได้เลย น้องเขาเสียตัว เสียเงิน เสียหน้า เสียหาย
พ่อบอย : ที่ผมมาวันนี้ ก็พร้อมมารับสภาพนี้
รักเขาอยู่มั้ย?
พู่ : (พยักหน้า) ที่ตัดสินใจเลิก ก็เข้าใจเขาครับ (ร้องไห้) อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ก็มีเรื่องพวกนี้ มันกดดันทางครอบครัวเขา ผมก็ต้องยอมรับทางนี้ครับ ทั้งที่เขาเป็นหนี้อยู่ แต่ก็ยังส่งเงินให้ผมกิน
แม่เป็นหนี้ แต่แม่ยังเอาข้าวให้เรากินอีก?
พู่ : ใช่ครับ
แม่เพย : แม้แต่ค่าใช้จ่ายไปประกอบอาชีพล่าสุดที่ลำปาง สองคนหมื่นกว่าบาท แม่ไปหาเขามานะคะ ถ้าไม่มีใบนี้ ก็ไม่สามารถเป็นครูได้ แม่บากหน้าขอยืมเขา เอามาให้ลูก (เสียงสั่นเครือ)
ล่าสุดแม่เป็นหนี้เท่าไหร่?
แม่เพย : ล่าสุดเป็นหนี้ 1.2 หมื่นค่ะ เพื่ออนาคตของเขา (ร้องไห้) แม่เป็นผู้ให้จริงๆ นะคะ ไม่ใช่เห็นแก่ตัวนะคะ ถึงเขาไม่ได้อยู่ในท้องแม่ แม่ไม่ได้เลี้ยงมา แม่ต้องให้เขา แต่คุณไม่มีเลย ทั้งที่คุณเป็นพ่อ
ทำไมตัดสินใจเลิกกัน?
แมงปอ : พู่จำได้มั้ย ที่พู่เคยคุยกับพ่อ พู่พูดว่าขอโทษนะพ่อ ที่พาพ่อมาเจอเรื่องแบบนี้
พู่ : มันตั้งนานแล้ว
แมงปอ : มันก็คือคำพูด ซึ่งเขาก็ต้องเอามาคิด คำพูดนี้เอ็งควรพูดกับเขามั้ย เอ็งรู้มั้ย เพศสภาพเอ็งเป็นผู้ชาย เขาเป็นผู้หญิง เขาต้องเจออะไรบ้าง เอ็งรู้มั้ย (ร้องไห้) เอ็งไม่เคยนึก ว่าแม่พ่อดีกับเอ็งขนาดไหน ทำไมเอ็งไม่ขอโทษพ่อแม่ แต่เอ็งไปขอโทษพ่อเอ็ง อยากรู้ว่าพ่อแม่เราทำอะไรผิด เอ็งถึงไปขอโทษพ่อที่พามาเจอเรื่องแบบนี้ ที่พ่อบอกว่าเป็นเวรกรรม พ่อเองก็มีลูกผู้หญิง พ่อเคยพูด มันเป็นเวรกรรมของพ่ออย่างไร ที่ทำให้ครอบครัวหนูเป็นแบบนี้ เป็นเวรกรรมพ่อแบบไหน (ร้องไห้)
แม่เพย : (ร้องไห้) พอแล้วลูก
แมงปอ : หนูยิ่งเจ็บ หนูยิ่งร้อง แม่เจ็บมากกว่าหนูแค่ไหน (ร้องไห้)
แม่เพย : (ร้องไห้) พอแล้วลูก พอแล้ว
วันที่แมงปอตัดสินใจบอกเลิกพู่ ทำไมตัดสินใจ?
แมงปอ : หนูสงสารแม่ค่ะ (ร้องไห้) ตอนนั้นรักพู่ เขาผิดนัดผิดคำพูด หนูรู้ว่าเขาไม่มีส่วน แต่เขาไม่นึกถึงทางหนูให้มากกว่านี้ค่ะ (ร้องไห้)
เตรียมไว้แล้วนะ(อาหารหมา) กินโชว์ได้นะ วันนี้จะกลับไปมั้ย?
แมงปอ : ไม่ค่ะ หนูคิดว่าหนูไม่สามารถฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ได้แล้วค่ะ
อยากกลับไปมั้ย?
พู่ : ถ้าถามใจก็อยากครับ (ร้องไห้) แต่มีเรื่องพวกนี้ขึ้นมา จะหลับหูหลับตาอยู่ด้วยกันก็คงไม่ได้ แค่นี้ผมก็ทำให้ชีวิตเขาแย่ขนาดนี้แล้ว
มีอะไรทำให้กลับมาคุยกันได้มั้ย?
แมงปอ : ถ้าเจอก็คุยได้ ในสถานะที่เป็นเพื่อนกัน
ถ้าเขาเอาเงินมาใช้หนี้?
แมงปอ : ก็ไม่กลับค่ะ
ไม่รักเขาแล้วเหรอ?
แมงปอ : ไม่ค่ะ
คิดดีๆ นะ?
แมงปอ : ค่ะ รักก็รักค่ะ แต่ว่า..
พู่ไม่เกี่ยวเลย แต่แค่อย่างเดียวที่ติดค้างในใจ คือพู่ขอโทษพ่อ ที่ทำให้พ่อต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทั้งที่พ่อควรขอโทษพ่อแม่เรา ถูกมั้ย?
แมงปอ : ค่ะ
คำพูดนี้ทำให้เราขาดเลย?
แมงปอ : ค่ะ
เข้าใจในมุมน้อง เขารักพ่อแม่มาก เขารู้สึกแค่ว่าทำไมล่ะ ผัวที่เขารัก แม่ยังกู้หนี้ยืมสินส่งไปเรียนครู แต่กลับไปมาขอโทษทางนี้ แต่กลับไปขอโทษพ่อเขาว่าพาพ่อมาเจอเรื่องแบบนี้ มันละเอียดอ่อนจริงๆ?
ทนายแก้ว : สิ่งที่คุณฟัง คุณเฟลอาจไม่ผิด แต่เจตนาบางอย่าง เราไม่รู้ลึกๆ เขาประสงค์อะไร บางอย่างควรให้อภัยกันได้ หนี้ก็ว่ากันไป รักไม่รักเป็นเรื่องของคุณสองคน
พู่เป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม นี่คือข้อดีของเขา เหมือนอยู่คนเดียว พ่อก็ไม่ได้อยู่ด้วย พ่อมีเมียอีกคน พู่ใช้ชีวิตอยู่โรงเรียน เลี้ยงน้องอีกคน ไม่มีเงินหรอก ยากจน มาเจอผู้หญิงคนนี้ เชื่อว่าถ้ามีเงินเขาก็ให้คุณหมด เพราะมันซื่อ ไม่ต้องกลับไปคบกันวันนี้หรอก รู้ว่าเป็นแผลในใจ แต่ไม่อยากให้ตัดโอกาส เชื่อมั้ยทั้งชีวิตจะมีคนดีๆ เดินมาอยู่ในชีวิตไม่กี่คนหรอก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นับได้เลย พี่พนันเลย วันนี้ พรุ่งนี้ ปีสองปี ห้าปี แต่หนูจะไม่เจอคนที่ซื่อแบบนี้ จะเจอคนที่รวย รับผิดชอบ ดูแล แต่จะไม่เจอคนที่ซื่อแบบนี้ ในชีวิตเราเจอคนดีๆ ไม่กี่คนหรอก หนูแค่บอกว่าให้เขาพิสูจน์ตัวเองแล้วกัน ว่าพร้อมจะกลับไปหาเขามั้ย ไม่ให้โอกาสวันนี้ ให้โอกาสวันหน้าก็ได้ ไม่ได้บอกให้กลับไปนะ ถ้าจะเลิกก็สิทธิ์ของหนู แต่ถ้าถามพี่ พี่ว่ามันซื่อจริงๆ เขาพูดกับแม่ตลอดว่าเขาผิดเอง แม่ดูแลเขาดีที่สุด?
ไพศาล : เขารู้บุญคุณแม่ฝ่ายหญิง
อยากให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง อย่าตัดคนๆ นึงเพราะคำพลั้งที่พูดออกไป แต่ก็เข้าใจน้อง เพราะแม่จะฆ่าตัวตาย?
ไพศาล : คนรักกันเวลาเกิดปัญหาจะช่วยกันสู้ แค่นี้ก็เห็นความดีพู่ เพราะเขารู้จักบุญคุณแม่น้อง เพียงแต่ศักยภาพเขาตอนนี้ เขาต้องดูแลน้อง ตัวคนเดียวด้วย ก็ให้เวลากันไป
พู่พลาดอยู่เรื่องเดียว คือมีพ่อที่ยังไม่โต?
พ่อบอย : ยินดีรับครับ
พูดจากใจ คนเราคำพูดสำคัญที่สุด พูดไปแล้วทำไม่ได้คุณอย่าพูด เพราะคุณสร้างความหวังให้เขา นี่ลูกเขา ครอบครัวเขา เขาอยากให้ได้เจอผู้ชายที่ดี?
พ่อบอย : ทุกอย่างเกิดที่ผมแค่คนเดียว
สิ่งที่จะพูดกับคุณคือคุณต้องพิสูจน์ความเป็นพ่อให้ชัดเจน ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเอง แต่เพื่อลูกคุณ ที่ผ่านมาคุณอาจไม่ได้ดูแลลูกชายและน้องเลย เพราะคุณมีภรรยาใหม่ไปแล้ว แต่อยากให้พิสูจน์ตัวเองเพื่อลูกของคุณ ที่เขาไม่พูดวันนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ติดใจคุณนะ?
พ่อบอย : ผมรู้ครับ เพราะปกติเขาไม่ใช่แบบนี้ ถามว่าผมเสียใจมั้ย ผมเสียใจตรงที่ว่าลูกผมไม่ใช่แบบนี้ เคยคุยเล่นกับ โทรหากัน แต่พอเกิดเรื่องนี้ผมก็ไม่โทษลูก ผมโทษตัวเอง ผมจะพิสูจน์ตัวเองในครั้งนี้ (เสียงสั่นเครือ) ผมอยากได้ลูกผมกลับมา แค่นั้นเอง ผมขอระยะเวลาแค่ไม่กี่วัน แล้วจะเข้าตามระบบไป ผมอยากได้ลูกผมคืนมา เรื่องนี้จบ ผมคิดว่าผมน่าจะได้ลูกผมคืนมา ถามว่าผมเสียใจมั้ย ผมซื้อข้าวให้เขา เขาก็ไม่กิน ผมเข้าใจเขาเลย เข้าใจมากๆ ผมรักเขา ลูกผมมี 4 คน ผมรักลูกทุกคน
แม่ต้องการให้เขาใช้เงินมา เขาตกลงจะใช้ให้สิ้นเดือนนี้ 2 หมื่นกว่า?
แม่เพย : แม่กลัววนไปแบบเดิม เดือนนี้เป็นแบบนี้ เดือนหน้าเป็นยังไง แม่ลำบากจริงๆ นะคะ วันที่ 19 แม่ต้องไปเสียดอกทอง ดอกเบี้ยทองคำ แม่ก็มีนิดๆ หน่อยๆ ต้องให้ลูกไปอีก ค่าน้ำค่าไฟที่บ้านอีก
แม่เป็นหนี้เท่าไหร่?
แม่เพย : ทั้งหมดเลย 1.6 แสน ที่ไปสอบใบประกอบอาชีพอีก 1.2 หมื่น
ทั้งที่มีปัญหาก็ช่วยเขาอีก?
แม่เพย : ใช่ค่ะ คุณพ่อคิดถึงหัวอกลูกมั้ยคะ คิดถึงอนาคตลูกที่ต้องไปอีกยาวไกลมั้ยคะ ทำไมไม่วางแผนอนาคตลูกคะ แม่เป็นผู้หญิงทำงานคนเดียว แม่ทำงานได้เต็มที่เลยนะคะ ชีวิต ดวงตา หัวใจ ควักให้หมดเลย
พ่อบอย : เขาก็รักแม่ด้วย เขาพูดอยู่ตลอด
แมงปอเอาไง?
แมงปอ : หนูก็ยังตอบเหมือนเดิมค่ะ
ถ้าเขาพิสูจน์ตัวเองล่ะ?
แมงปอ : ไม่ต้องพิสูจน์แล้วค่ะ ไม่เอาแล้วค่ะ
แยกมานานแค่ไหน?
พู่ : 2-3 เดือนครับ
ร้องไห้ทุกวันมั้ย?
พู่ : ไม่ครับ มีเรียน พอให้ทำให้ไม่ไปคิดถึงเรื่องนั้น
พอเจอหน้าเขา ใจสั่นมั้ย?
พู่ : เขาเสียใจมากกว่าผม
อยากบอกอะไรมั้ย?
พู่ : ขอโทษทั้งปอ พ่อ และแม่ (ร้องไห้)
แม่เพย : แม่ไม่โกรธเรา แม่โกรธพ่อเราคนเดียวที่ทำให้เป็นแบบนี้ แม่เกลียดด้วย ที่ไม่รักษาสัจจะวาจา แต่แม่เลี้ยงลูกมา ถือสัจจะวาจา สอนลูกให้เคารพสัจจะวาจามาก
พู่ : ปอ ขอโทษนะ พ่อกับแม่ผมขอโทษ (ร้องไห้พร้อมยกมือไหว้)
แม่เพย : ยังเป็นเพื่อนกันได้ลูก
พู่ : ผมไม่ได้ตั้งใจครับ (ร้องไห้)
ปออยากบอกอะไรมั้ย?
แมงปอ : อยากให้รักตัวเองมากๆ (ร้องไห้) เป็นห่วงเหมือนเดิมนั่นแหละ นึกถึงตัวเองให้มากๆ อย่าไปโทษตัวเอง อย่าคิดอะไรสั้นๆ แค่นั้นแหละ (ร้องไห้) เป็นเพื่อนกันได้ โทรคุยกันได้
จริงๆ คอนแท็กกับดัชมิลล์ ขอดึงเงินมาก่อนช่วยบ้านนี้หน่อย เอามาให้ทางนี้ 2 หมื่น ผมให้ส่วนตัวอีก 2 หมื่นเป็น 4 หมื่น ผมอยากให้แม่ไปจัดการเรื่องการเรียนลูกให้เรียบร้อย ผมถือว่า 1.2 หมื่นที่แม่จ่ายให้พู่เป็นครู ดัชมิลล์ก็จะได้ช่วยเอาเงินตรงนี้ไปช่วยคนนึงเรื่องการศึกษา แต่ก็ไม่เกี่ยวกับบอย บอยต้องหาเงินไปใช้หนี้เขาอีกต่างหาก พี่เห็นใจเขา เขาไม่มีเงิน ชีวิตแย่มาก บอยก็ใช้หนี้ของบอยไป อันนี้คือพี่อยากซัปพอร์ตเพราะแม่เป็นคนมีน้ำใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ให้เงินพู่ไปเรียนหนังสือแล้ว แต่แม่ยังคิดตรงนี้ แม่ต้องได้อะไรกลับคืนบ้าง?
แม่เพย : ตอนแรกปอมีโน้ตบุ๊ก แต่พู่ไม่มี แม่ก็ผ่อนไอแพดเพื่อให้พู่ได้ใช้โน้ตบุ๊ก ให้ปอได้ใช้ไอแพด