“ลิลลี่ เหงียน” ลั่นถึงเป็นต่างด้าว แต่มีเงิน 100 ล้านให้คนไทยยืม สวนกลับ “ปู มัณฑนา” หากไม่ยืมเงิน ครอบครัวจะพังไหม? ลั่นโทษตัวเองบ้าง งงพูดใส่ร้ายคนอื่น โตมาได้ไง บัวใต้ตม แต่หากวางความแค้นความโกรธ ลดอีโก้ พร้อมจับมือไปบวชด้วยกัน
ถูกคู่กรณีอย่าง “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ”โพสต์ฟาดรัวๆ ถึง “น้องต่างด้าวการละคร” จวกลากไปลงนรก เหยียบหน้าเละ แต่จะมาลูบหลัง อัดคลิปขอความเห็นใจ มันง่ายไปไหม ด่ายันตระกูลสามี ขอให้มีความสุขกับการทำลายชีวิตคนอื่น ล่าสุดงานแถลงข่าวเปิดตัว #กำไลนาคาเหนือดวง ณ ร้านอาหาร ระเบียงแซ่บ เหม่งจ๋าย “ลิลลี่ เหงียน” ก็ได้เผยถึงประเด็นนี้ ลั่นทุกอย่างคู่กรณีทำตัวเอง หากไม่ยืมเงินครอบครัวจะพังไหม
“ถามว่าแรงไหม ก็แรงจริงๆ หนูไม่ได้ใช้ชื่อเสียงของเขามาทำมาหากิน แต่ชื่อเสียงของเขาที่ทำทุกวันนี้ก็คือการกระทำของตัวคุณเอง ลี่อ้อนวอนก็แล้ว พูดดีก็แล้ว โมโหร้ายก็แล้ว เสียน้ำตาด้วยความรู้สึกที่เสียใจก็แล้ว แต่คนแบบนี้มันเหมือนบัวที่อยู่ใต้ตม ไม่ว่าเราจะปลุกเขาให้ตื่นขนาดไหน เขาก็ยังยอมหลับตา ตาบอดอยู่อย่างนั้น มันเหมือนคนที่ไม่รู้บุญคุณคน ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิด และไม่เคยคิดที่จะแก้ไขคนแบบนี้พระพุทธเจ้าบอกว่าคนพาล ชอบพาลแต่คนอื่น เพราะฉะนั้นไม่ควรยุ่งกับคนแบบนี้”
ไม่ถนัดตอแหล ฝากบอกอีกฝ่ายหัดโทษตัวเองบ้าง บอกถึงเป็นต่างด้าว แต่ก็มีเงินร้อยล้านให้คนไทยยืม
“ที่เขาบอกตบหัวแล้วลูบหลัง ทำไมถึงร้องไห้แบบนั้น เพราะฉันมีแต่ความจริงใจให้คุณ คุณเอาแต่โทษฉันอยู่นั่นแหละว่าฉันทำให้ชีวิตครอบครัวคุณพัง ถ้าคุณไม่ยืมเงินฉัน ครอบครัวคุณจะพังไหม แล้วถ้าคุณไม่โกหกฉัน ตอนนี้ชีวิตคุณจะพังแบบนี้ไหม แล้วถ้าวาจาคุณศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตคุณก็คงจะสวยงามกว่านี้ แต่มันมีแต่น้ำลายไง
ลี่ไม่ใช่คนโกหก ตอแหลหรอกนะ ไม่เป็น ไม่ถนัด ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ฉันมีแต่ให้คุณ แต่คุณทำผิดพลาดกับฉัน ก่อนที่ฉันจะออกสื่อ ฉันก็บอกคุณแล้ว หลักฐานฉันมี แล้วว่าคุณก็ไปโพสต์ เราก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวาย แต่คุณมาพูดว่าลี่ไปไหนก็แซะ ลี่ไม่ทำ มันเสียเวลา ฉันเชื่อฟังคำสอนของลูกชาย เคารพคำสอนของเอฟซีทุกคนที่รักและเมตตาฉัน ฉันไม่เสียเวลาไปแซะคุณหรอก เหมือนที่คุณแซะฉันอยู่ตอนนี้
มีใครเคยเห็นลี่แซะเขาบ้างไหม ลี่ไม่แซะ ถ้ากูด่ากูก็ด่าเลย ลี่เอาเวลาที่คุณคิดว่าแซะ ไปทำมาหากินเปลี่ยนแปลงตัวเอง รู้ผิดชอบชั่วดี แก้ไขและทำให้เอฟซีมีความสุขดีกว่า มันคุ้มค่ากว่าเยอะ คุ้มค่ามากกับเงิน 8 แสนที่เสียไป มันเจ๋งกว่าที่จะไปแซะคุณ แล้วคุณมาโพสต์ว่าฝากหน่วยงานตรวจสอบน้องต่างด้าว ใช่ต่างด้าว จะว่าคนลาว คนกัมพูชา คนพม่าเป็นต่างด้าวก็ได้ ก็ยอมรับ แต่ต่างด้าวคนนี้อยู่เมืองไทยถูกต้องตามกฎหมาย ครอบครัวพ่อแม่ลูกอยู่ถูกต้องตามกฎหมาย มี work permit (ใบอนุญาตทำงานที่ประเทศไทย) มีวีซ่าทำงาน อดีตสามีเปิดบริษัท หนูไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย และไม่เคยมีคดีอะไรเลย
จนได้มารู้จักคำว่าโกหก ตอแหล ทำให้ชีวิตฉันแปดเปื้อนพังพินาศ แต่ไม่เป็นไร ยอมรับ เราเข้าใจ ไม่แก้ตัว เราพลาดเอง แต่ก็ขอบคุณที่มันเป็นบทเรียน เราไม่โทษใคร เราโทษตัวเอง หัดโทษตัวเองบ้าง ตื่นได้แล้ว อย่ามัวอยู่แต่ใต้ตม ผุดหัวขึ้นมาจากตมบ้าง จะได้มีตาเห็นธรรมกับเขาบ้าง ตรวจสอบอะไร ต่างด้าวคนนี้มีแต่ให้ ไม่เคยดูถูกคนไทย ไม่เคยเอาเปรียบคนไทย มีแต่ช่วยคนไทย มีแต่สร้างสิ่งดีๆ ให้แผ่นดินนี้ ลี่มีบุญได้มาอาศัยในแผ่นดินไทย ถ้าลี่ไม่มีบุญก็คงไม่ได้อยู่อย่างมีความสุข ต่างด้าวคนนี้คงไม่มีเงินเป็น 100 ล้านให้คนไทยยืมหรอกค่ะ”
ขอพูดครั้งสุดท้ายแล้ว
“หนูขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม หนูทำมาหมดทุกอย่างแล้วจริงๆ แม้แต่กราบเท้าขอโทษ ถ้าคนไม่บริสุทธิ์ใจ ถ้าคนมันไม่จริงใจ กับแค่ว่าโกหกตอแหล ยอมก้มกราบเท้าด้วยจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ แต่บอกว่าเป็นการละคร ถ้าคิดแบบนั้นลี่ก็เคารพการตัดสินใจของคุณ ก็ไปสู้กันที่ศาล มันมีเหตุและผลของมัน ลี่ไม่ใช่คนที่อยู่ๆ จะมาด่าปาวๆ ไม่ใช่นิสัยและไม่ใช่สันดาน”
งงมีหน้าพูดใส่ร้ายคนอื่น โตมาได้ยังไง
“เชื่อเรื่องกฎแห่งการกระทำไหม บางทีอยู่ใต้ตมมากมันอาจจะไม่รู้เรื่องบุญและบาป เคยเห็นการกระทำของตัวเองไหม บอกว่าคุยกันหลังบ้านก็ได้นี่ คุยมา 2 ปีแล้วค่ะ เคยฟังไหมล่ะ เราทั้งร้องไห้ ทั้งอ้อนวอน ทั้งขอร้อง ขอแค่ 5 หมื่นก่อนได้ไหม 1 หมื่นบาทก่อนได้ไหม แล้วเคยได้ไหม ถ้าการกระทำของคุณไม่เป็นแบบนี้ ชีวิตคุณจะพังไหม ชื่อเสียงของสามีคุณมันจะเป็นแบบนี้ไหม หัดโทษตัวเองสิ เงินที่คุณเอาไปเป็นเงินที่ฉันลำบาก ถ้าฉันไม่โดนใครโกง ฉันจะไปขอเงินคุณเหรอ เงินของฉัน ฉันต้องก้มกราบเท้าขอร้องด้วยซ้ำไป ยังจะมีหน้ามาพูดใส่ร้ายคนอื่น บางทีก็งงมาก โตมาได้ยังไง
ถามว่าเคยกราบเท้าเขาจริงๆ ไหม ร้องไห้ให้เขาเห็นเลย เพื่อจะขอเงินคืน ก่อนที่ลี่จะทำกิริยามารยาทไม่ดี คือมันดีมาแล้วหลายครั้ง เราจะใช้ไม้อ่อนเสมอ พี่จ๋า แม่หนูไม่สบาย ลูกป่วยอยู่โรงพยาบาล เราพูดดีไปแล้ว แต่มันไม่ได้ผล มีคนบางกลุมไม่พอใจในกิริยาท่าทางอุปนิสัยจริตเยอะของลี่ บอกว่ามันก้าวร้าว มันไม่ดี แต่มันมีเหตุและผล ถามหน่อย ชีวิตของมนุษย์ทุกคนจะขาวสะอาดอย่างเดียวหรือไง มันมีขาวกับดำมันก็ต้องมีไอ้ดำมาแทรกบ้าง ไอ้ดำนี่ถ้าไม่มีอะไรมาทำร้ายมัน มันไม่ออกมาหรอก เพราะว่าลี่โดนกระทำไง ลี่รู้ว่าเป็นคนพูดตรง พูดแรง แต่ลี่ไม่เคยทำร้ายใครนะ และลี่ก็ไม่เกลียดคุณด้วย แม้แต่คนที่ว่าลี่อยู่ตอนนี้ เอาเงินลี่ไป ทุกคนเลย ลี่ก็ไม่เกลียด ไม่โกรธ ไม่สาป ไม่แช่ง เพราะเชื่อว่าผลของการกระทำ ทำกรรมกับใครไว้ต้องได้รับกรรมแน่นอน”
จวกป่วยจิต แนะวางความแค้นความโกรธที่แบกบ้าง ลั่นอยากให้ตื่นพร้อมจับมือไปบวช
“แค่รู้สึกว่าเราช่วยเหลือเขาตลอด ยกหูโทรศัพท์ทีไรก็พูดแต่เรื่องเงินตลอด และลี่บอกแล้วว่าไม่ได้มองข้อเสีย ลี่มองแต่พลังบวก เหมือนที่ความจริงใจของลี่ที่ทุกคนมองว่าโง่ไง เออ ลี่โง่ก็ได้ แต่มันมีแต่ความบริสุทธิ์ใจ ถ้าลี่ไม่บริสุทธิ์ใจ ทุกครั้งที่คนโกงลี่ ลี่ไม่กลับมายืนสง่างามแบบนี้หรอก
ลี่แค่อยากให้เขาวางบ้าง เป็นห่วงจริงๆ นะ ความโกรธ ความแค้นที่พี่ถือ พี่แบกเอาไว้ หนูไม่ป่วยจิตนะ แต่พี่จะป่วยจิต ถ้าพี่ไม่รังเกียจ หนูยังพูดคำเดิม เพราะไม่กี่เดือนที่ผ่านมาพี่ยังบอกว่าพี่อยากไปบวชเหมือนน้องลี่ อยากรู้ว่าทำไมน้องลี่ถึงมีความสุขได้ทั้งๆ ที่ไม่เหลืออะไรเลย ถ้าพี่ไม่รังเกียจ ลดอัตตา ลดอีโก้ ลดคำว่าครอบครัวของพี่ลงไป ชื่อเสียงอะไรของพี่ลดมันไป เอาให้มันเหลือแค่หัวใจจิต จับมือลี่ไปบวชด้วยกันไหม ลี่พูดจริงๆ อยากให้พี่ตื่นแค่นั้น หนูไม่โกรธ ไม่เกลียด ถ้าเขาขอโทษ หนูก็ยอมให้อภัย และหนูขอโทษไปแล้ว เขาก็ไม่ยอมรับคำขอโทษ ที่โมโหออกมาเพราะอยากให้เขาตื่นแค่นั้นแหละ เพราะหนูตื่นแล้ว ซึ่งหลังๆ ไม่ได้คุยเลย ไม่เคยได้คุยเลยค่ะ”
ไม่เอ่ยชื่อใคร แต่ถ้าอยากรับก็รับไป ลั่นฟ้องก็สู้ เพราะถูกแขวะก่อน
“แล้วหนูไปหมิ่นประมาทอะไรเขาอีก หนูพูดด้วยความหวังดี หนูพูดชื่อเขาหรือยัง ถ้าพูดเอ่ยชื่อก็มาฟ้อง ตอนนี้ฉันฉลาดแล้วนะ อย่า ไม่หลงกลเธอหรอก แต่ถ้าเกิดเขาอยากรับก็เรื่องของเขา สมองเขา ปัญญาเขา เขาอยากรับก็รับไปค่ะ ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณไม่รับก็แล้วแต่ ถ้าเขาฟ้องก็สู้ค่ะ เราพูดความจริง คุณมาแขวะลี่ก่อน ลี่ไม่ได้ไปแขวะคุณเลย แต่อยู่ๆ คุณมาแขวะลี่เพื่ออะไร ถ้าเขาบอกว่าเขาไม่ได้เอ่ยชื่อ ลี่ก็เหมือนกันค่ะ ลี่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อเขานะ”
